“แม่ขา วิกา ไปทำงานก่อนนะคะ มีอะไร ที่เร่งด่วน แม่โทรหาวิกาได้เลยนะคะ ทวีพี่ฝากแม่ด้วยนะ พี่ขอเวลาอีกแค่ 3 ปี แล้วเราจะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา”
“ไม่ต้องห่วงแม่นะวิกา อยู่ที่นี่ก็สบายดี ถ้าวิกาไม่อยู่ ก็ไม่มีคนมาวุ่นวายหรอกลูก ตั้งใจทำงานนะ หนักนิดเบาหน่อยก็อดทนนะลูก แม่เชื่อว่าวิกาทำได้อยู่แล้ว คนเก่งของแม่ ”
“แหม...แม่คะ ทำยังกับอวยพรให้กับงานแต่งของวิกาเลย "เทวิกายิ้มกับคำอวยพรของแม่
"ไม่ต้องห่วงนะครับพี่วิกา ผมจะดูแลแม่อย่างดีเลย เรื่องเงินก็ไม่ต้องห่วง ผมไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว พิ่วิกาก็รู้ จะตั้งใจเรียนครับ”
เทวิกาเข้าไปกราบนางทิวาพรผู้เป็นแม่ และหันมากอดน้องชาย
“วิกาไปก่อนนะคะแม่ คุณวิศาลมารออยู่ข้างล่างแล้ว”
หญิงสาวรีบลงมาด้านล่าง ทำไมเจ้านายเขาเซ็นเอกสารเร็วจัง ยังเช้าอยู่เลย เธอเข้าใจว่า น่าจะสายกว่านี้ แต่ไม่เป็นไรหรอก เธอก็อยากทำงานแล้ว เทวิกาขึ้นรถเรียบร้อย หญิงสาวหันไปที่ซอกตึกนั้น ผู้ชายสองคนที่เคยตามเธอ ที่หัวลำโพงนี่นา เทวิกาหันหลังกลับไปมอง และรีบหยิบโทรศัพท์โทรหาน้องชายทันที
“ทวี เมื่อกี้ข้างล่าง พี่เห็นคนที่ตามพี่ที่หัวลำโพงวันก่อน พี่จำหน้าได้แม่นยำ ทวีระมัดระวังตัวนะ ไม่จำเป็นอย่าไปไหนคนเดียว แม่ด้วย ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล โทรหาพี่ทันทีเลยนะ “ หน้าสวยของเทวิกาเครียดขึ้นมาทันที หลังวางสายจากน้องชาย
อาการนั้นไม่รอดพ้นสายตาของวิศาลไปได้ ทุกเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเทวิกา เขาไม่ลืมที่จะบันทึกและรวบรวมไว้ทุกอย่าง นี่แหละวิศาล เขาทำงานไม่เคยพลาด เก็บทุกเม็ด ทำงานคุ้มกับเงินเดือนมากที่สุด
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับคุณเทวิกา หน้าเครียดจริง”
“เรื่องเดิมค่ะคุณวิศาล ผู้ชายสองคนที่เคยสะกดรอยตามดิฉัน มาดักรอที่หน้าคอนโด เขาเห็นตอนที่ดิฉันขึ้นรถมา ไม่ห่วงตัวเองหรอกค่ะ ห่วงแม่กับน้อง คุณถาวรเป็นคนโรคจิต ดิฉันกลัวว่าเขาจะไป วุ่นวายกับแม่และน้องค่ะ”
“หรือบางทีดิฉันอาจจะ คิดมากเกินไป อาจเข้าข้างตัวเองมากเกินไป ว่าเขาจะส่งคนตาม จริงๆ อาจไม่มีอะไรก็ได้นะคะ ช่างมันเถอะค่ะ ถ้ามัวแต่คิดอยู่คงไม่ได้ทำอะไรกันพอดี ถ้ามีปัญหาอะไร แม่กับน้องคงโทรหาดิฉัน ไม่คิดแล้วค่ะ” และก็เป็นอย่างที่เธอพูดจริงๆ หลังจากนั้น เทวิกา ก็คุยเรื่องงานคร่าวๆ กับวิศาล จนกระทั่งแวะกินข้าวกลางวัน ออกเดินทางแล้วก็ยังคงคุยเรื่องงานกันต่อตลอดทาง กระทั่งถึงไร่
เทวิกาเพิ่งสังเกตว่า เหมือนกลับมาบ้านไร่ของเธอ ทางไปที่ทำงานใหม่ ผ่านหน้าบ้านของเธอด้วย หญิงสาวมองทางเข้าบ้าน แค่นั้น...แค่มอง ตอนนี้เธอเริ่มตื่นเต้นกับงานใหม่ จากที่ฟังคร่าวๆ จากวิศาล ฟังดูเป็นเรื่องง่าย ต้องได้ลองทำแล้วจะรู้ ทำให้เต็มที่ เซ็นสัญญาแล้วนี่ เงินเดือนก็ไม่ใช่น้อยๆ คนอย่างเทวิกา ไม่เคยกลัวเรื่องงาน หนักแค่ไหนเธอก็ทำมาแล้ว ไม่ได้นึกโทษใครเลย ที่ทำให้เธอต้องมาอยู่ในไร่ที่ห่างไกลแสงสี แบบนี้ กลัวอย่างเดียว กับมนุษย์เรานี่แหละ ยากจริงๆ แต่เริ่มต้นก็ดีแล้ว คุณวิศาล ถือว่าเป็นคนนิสัยดีคนหนึ่งเลยล่ะ หวังว่าจะทำงานด้วยกันราบรื่น
รถตู้คันใหญ่ใหม่เอี่ยม แล่นผ่านประตูไม้บานใหญ่ไปช้าๆ เหมือนเข้ามาในป่าดงดิบ สองข้างทาง มีต้นจามจุรีต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขา โอบเข้ามาหากัน เกือบ 5กิโลเมตร สวยงามมาก ด้านหลังของจามจุรีใหญ่นั่น คาดว่าน่าจะเป็นสวนผลไม้ ที่มีทั้งส้ม ทุเรียน ส้มโอ และน่าจะมีอีกมากมาย กว้างใหญ่ไพศาลจริงๆ เจ้าของที่นี่คงจะรวยมาก ฟังจากที่วิศาลเล่า ไหนจะธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ รวยเละ
รถตู้มาจอดที่หน้าบ้านไม้หลังใหญ่ รูปทรงคล้ายทางเหนือ แบบโบราณ สวยมาก รอบบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ต้นกระบก ประดู่ มะค่า อะราง ตะเคียน ไม้หวงห้ามเยอะมาก ระหว่างต้นไม้ใหญ่นั่น มีบ้านไม้หลังย่อมๆ ซ่อนตัวอยู่ข้างข้างใน ข้างๆบ้านหลังใหญ่ ฝั่งละสามหลังซ้าย ขวา ถ้าไม่สังเกตจะมองไม่เห็นเลย เพราะถูกปกปิดด้วยต้นไม้ใหญ่ เป็นบ้านไม้เลยทำให้กลมกลืนไปกับต้นไม้
“เชิญครับคุณเทวิกา ยินดีต้อนรับสู่ไร่ ธาราธรณี “
“ขอบคุณมากค่ะ คุณวิศาล ร่มรื่นดีจังเลย เหมือนหลงเข้ามาในป่าดงดิบ เงียบดีจังเลยค่ะ”
วิศาล รู้สึกดีใจไม่น้อยที่เทวิกา ชอบบ้านไร่แห่งนี้ เป็นพนักงานคนแรกที่บอกว่าชอบที่นี่ ไม่น่าเชื่อว่าคนที่อยู่ในสังคม กรุงเทพฯ จะชอบที่แบบนี้ เขาใจชื้นขึ้น อย่างน้อย ก็ไม่ได้ทำหน้าตาตื่นตกใจ ตั้งแต่เข้ารั้วไร่ ธาราธรณี เขาเห็นหญิงสาว มองสองข้างทาง ด้วยความสนใจ ท่าทางพอใจไม่น้อยกับสิ่งที่พบเห็น
หญิงร่างท้วม ท่าทางใจดีเดินออกมาจาก ประตูไม้บานใหญ่ ตามมาด้วยหญิงสาวรูปร่างสมส่วน เดินตามหลังหญิงร่างท้ามนั้นมาติดๆ ทั้งสองยิ้มให้วิศาล และเลยมายิ้มให้กับเทวิกา ด้วยท่าทางเป็นมิตร
"คุณเทวิกาครับ นี่คือป้าน้อย เป็นคนเก่าแก่ของที่นี่ ดูแลงานในบ้านทั้งหมดครับ และอีกคนคือ ระพี เป็นลูกสาวของป้าน้อย อ้อ นี่อีกคนครับ คนขับรถของเรา ทิม เป็นทุกอย่างของที่นี่ครับ ช่าง คนขับรถ คนสวน พ่อบ้าน ทิมทำได้ทุกอย่าง และเขาเป็นสามีของระพี"
"ทุกคนครับ นี่คือคุณเทวิกา พนักงานคนใหม่ของเราครับ"
"สวัสดีค่ะป้าน้อย ระพี ทิม ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน มีอะไรแนะนำได้เลยนะคะ ระหว่างที่อยู่ที่นี่" หญิงสาวยกมือไหว้ทุกคน จนระพีกับทิม แทบรับไหว้ไม่ทัน ทุกคนแปลกใจกับท่าทางของผู้หญิงสวยตรงหน้า ปกติพนักงานทุกคนมาด้วยชุดกระโปรงทันสมัย รองเท้าส้นสูง บางคนก็จะมาด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่ผู้หญิงตรงหน้าทุกคนตอนนี้ ใช้ยางรัดผมเส้นใหญ่รวบผมยาวสลวยนั่นไว้ข้างหลัง ใส่เสื้อเชิ้ตยีนต์ตัวโคร่ง กางเกงยีนต์พอดีตัว สวมรองเท้าผ้าใบ ท่าทางทะมัดทะแมง หน้าไม่แต่ง ขนาดไม่แต่งยังดูว่าสวยมาก ท่าทางอ่อนน้อมนั่น ไหว้แม้กระทั่งคนขับรถ และแม่บ้าน คนทำความสะอาด
“สวัสดีค่ะ คุณเทวิกา ยินดีต้อนรับนะคะ” ป้าน้อยยิ้มตอบเทวิกา นางรู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้อย่างประหลาด เหมือนเคยเจอที่ไหน แต่นึกไม่ออก
“คุณเทวิกาไม่ต้องไหว้ระพี กับพี่ทิมหรอกค่ะ ขี้กากจะขึ้นหัวพวกเรา” ระพีพูดไปยิ้มไป ผู้หญิงคนนี้สวยมาก เธอเห็นหน้าครั้งแรกก็ชอบแล้ว ท่าทางใจดี ไม่หยิ่งเหมือนทุกคนที่เคยมาทำงานที่นี่ คนนี้สวย ท่าทางจะนิสัยดี
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ เราเจอกันครั้งแรก ทักทายกันด้วยการไหว้ เป็นธรรมเนียมไทยของเรา ฉันไม่ถือหรอก คนเหมือนกัน เท่าเที่ยมกันหมด”
เทวิกาพูดนิ่มๆกับระพี นั่นยิ่งทำให้คนฟังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“เดี๋ยวคุณเทวิกาจะพักที่บ้านหลังเล็กนะครับ ไม่ต้องมีอะไรพิเศษ ผมจะบอกรายละเอียดของงานอีกที ตอนนี้ไปดูบ้านพักก่อนนะครับ “
“มีกระเป๋ามาแค่นี้เหรอคะ “ป้าน้อยหันมาถาม เมื่อเห็นว่าทิมเปิดท้ายรถ ถือกระเป๋าเป้ใบใหญ่ และใบเล็กอีก 1 ใบลง ตามมาด้วยกีตาร์ อีก 1 ตัว
“ใช่ค่ะ มีแค่นี้ ทิมส่งมาจ๊ะ เดี๋ยวฉันถือเอง ไม่หนักหรอก ฉันถือเองบ่อยๆ” เทวิการับทุกอย่างมาจากทิม และเดินตามหลัง วิศาลไปติดๆ
“แม่...” ระพีหันมาหาผู้เป็นแม่ เขย่าแขนอวบนั่นอย่างแรง
“อะไรกันระพี มีปัญหาอะไร” นางก็ถามไปอย่างนั้น แต่เชื่อว่าระพีคงอยากพูดถึงคุณเทวิกา เหมือนที่นางอยากพูด
“ก็คุณเทวิกาไงแม่ แปลกมาก แปลกกว่าคนอื่น ทั้งๆ ที่สวยกว่าคนอื่นตั้งเยอะ ทำเองทุกอย่างเลย แถมไหว้หนูกับพี่ทิมด้วย พูดก็ดี ฉันชอบจังเลยแม่”
“เออ...แม่รู้แล้ว ไม่ต้องพูดมาก รีบตามไป เผื่อคุณเขาต้องการอะไรเพิ่ม เดี๋ยวแม่จะเข้าครัวสักหน่อย ดูว่าเย็นนี้จะทำอะไรกินดี”
“บ้านหลังนี้เป็นที่พักสำหรับคุณ เมื่อทำงานอยู่ที่นี่ หวังว่าคงอยู่ได้นะครับ อาจจะเงียบนิดหน่อย แต่ผมรับรองว่า คุณอยู่ในรั้วของ ธาราธรณี จะไม่มีอันตรายอะไรทั้งนั้น ไม่มีใครเข้าทำร้ายคุณได้ มีปัญหาอะไร ก็โทรหาผมได้เลยนะครับ เดี๋ยวเก็บของแล้ว ผมขอคุยงานด้วยสักครู่นะครับ “
“ได้เลย เดี๋ยวฉันขอล้างหน้าล้างตาสักหน่อย เดี๋ยวตามออกไปนะคะ” เทวิกาเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า น้ำเย็นเฉียบ นี่ขนาดบ่าย น้ำยังเย็นขนาดนี้ กลางคืนจะเย็นขนาดไหนกันนะ เวลานอนคงไม่ต้องเปิดแอร์เลย
ระพี ยกน้ำมาให้วิศาลและเทวิกา ขณะที่นั่งคุยงานด้วยกัน และถอยออกไปยืนเงียบอยู่ที่ประตู รอว่าทั้งสองจะเรียกใช้อะไร
“ขอบใจนะจ๊ะระพี” เทวิกาหันมาขอบใจระพี
“ระพีไปทำงานอื่นเถอะ ทางนี้ไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวฉันคุยงานกับคุณเทวิกาเสร็จแล้วจะ ไปกินข้าวเย็นด้วย “
“ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจ คุณเมฆินทร์อารมณ์ไม่เหมือนใคร ผมเตือนไว้ก่อน อยากให้คุณตั้งใจทำงาน และอดทน ผมเชื่อว่าคุณทำได้ ค่อยๆเรียนรู้ไป มีอะไรก็ถามผมได้เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเข้ามาใหม่ คุณเมฆินทร์จะกลับพรุ่งนี้ ตอนนี้ไปกินเข้าวกันเถอะครับ จะได้แยกย้ายกันพักผ่อน “ วิศาลลุกขึ้นเดินนำหน้าเทวิกาไปที่บ้านหลังใหญ่ ตรงไปที่ห้องอาหาร
ข้างนอกว่าสวยแล้ว ข้างในสวยยิ่งกว่า เป็นไม้แทบทั้งหมด แต่ก็ทันสมัย คนออกแบบเก่งมากๆ คนสร้างยิ่งเก่ง หญิงสาวชอบเป็นการส่วนตัว เธอเคยฝันไว้ว่า อยากมีบ้านเรือนไทยหลังเล็กๆ สักหลัง ไว้อยู่กับแม่กับน้อง แต่ก็คงได้แค่ฝัน เพราะราคาแอบแรงเหลือเกิน สู้เธอเก็บเงินไว้ใช้ไว้กินในชีวิตประจำวันกับครอบครัวดีกว่า
“กินให้อร่อยนะคะ ป้าตั้งใจทำเต็มที่ทุกอย่างเลย”
“ขอบคุณมากนะคะป้าน้อย” เทวิกายกมือไหว้หญิงสูงอายุ
“ป้าทำให้ฉนคิดถึงแม่เลยค่ะ แม่ก็ทำกับข้าวเก่งเหมือนป้า”
ป้าน้อยยิ้ม แล้วถอยไปยืนที่มุมห้องเงียบๆ
“ผมขอตัวก่อน ไว้พรุ่งนี้พบกันนะครับ เราอาจได้พบคุณเมฆินทร์ตอนสายๆ เจ้านายจะคุณเรื่องงานกับคุณอีกรอบ ตามนี้นะครับ ”
เทวิกาเดินกลับไปที่บ้านพักของเธอ บ้านที่เธอพักเป็นหลังแรก ถัดไปอีกสองหลังไม่น่ามีคนอยู่ ดูเงียบ ประตูปิดสนิท รั้วบ้านเป็นไม้ดัด และปลูกรอบตัวบ้านบ้านแยกออกมาจากบ้านหลังใหญ่ เป็นสัดส่วน หลังกำลังน่ารัก มีสองห้องนอน สองห้องน้ำ ห้องครัว ห้องซักล้าง ห้องรับแขก ขนาดกำลังดี ทั้งบ้านเป็นไม้ทั้งหมด หน้าต่างรอบบ้านเลย ห้องรับแขกมีแอร์ แต่คงไม่ค่อยได้ใช้ เพราะดูอากาศที่นี่แล้วเย็นสบายดี แค่พัดลมก็อยู่ได้แล้ว ดูเหมือนว่า บ้านนี้จะมีมิเตอร์น้ำและไฟ แยกออกมาจากบ้านใหญ่
เทวิกาเลือกที่จะนอนห้องเล็ก เธอมีเสื้อผ้าไม่มากนัก เครื่องสำอางก็มีน้อยนิด เตียงไม้ยกสูงนั้น มีเสาทั้งสี่ด้าน มีมุ้งอยู่ด้านบน หน้าต่างมีเหล็กดัด ที่เป็นไม้ ต้องเรียกไม้ดัดหรือเปล่าไม่แน่ใจ ผ้าม่านสีขาวชายผ้าเย็บติดลูกไม้สีขาวเป็นระบาย สวยจัง ชุดเครื่องนอนเป็นสีขาว มุ้งก็ขาว ถูกใจเทวิกา ตู้ไม้บานเล็กระทัดรัด โต๊ะเครี่องแป้งเล็กกำลังดี โต๊ะทำงาน เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างเป็นไม้หมด เทวิกาพอใจมาก คืนนี้เธอคงนอนหลับอย่างมีความสุข ในห้องติดแอร์ตัวเล็กๆ กำลังดี
เสียงแมลงกลางคืนร้องแข่งกัน เสียงใบไม้ ต้นไม้ไหวลู่ตามลม ฟังเพลิน หญิงสาวรีบอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นชุดนอนผ้าแพร เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ที่ชอบ เธอขนมา 3 ชุด แบบเดียวกัน ใส่แล้วซักทีเดียว ผลัดเปลี่ยน บางชุดแทบจะซ่อมไม่ได้แล้วเพราะเธอใส่จนผ้าบางขาดก็ยังใส่ เพราะติดผ้าเก่า อายุ 28 แล้วยังติดชุดเน่าอีก แม่เคยบ่นเธอ เวลาที่เห็นเธอใส่ชุดนอนเก่าๆขาดๆ หญิงสาวเคยคิดจะทิ้งแล้ว ซักและใส่ถุงผูกปากเรียบร้อย แต่เวลานอนก็คิดถึง หยิบขึ้นมาใส่อีก สุดท้ายก็ไม่ได้ทิ้งสักที เก็บมาใส่เหมือนเดิม
“สวัสดีค่ะแม่ เป็นยังไงบ้างคะ วิกาสบายดีค่ะ กำลังจะสวดมนต์ เห็นว่ายังไม่ดึกมาก เลยโทรหาแม่ น้องทำอะไรอยู่คะ อ่อๆ งั้นแค่นี้นะคะแม่ วิกาจะนอนแล้ว ขอให้แม่สุขภาพดี วิการักแม่กับน้องมากค่ะ”
เทวิกาสวดมนต์ก่อนนอน ไม่นานก็หลับสนิท หลายวันมานี่เธอเหนื่อย ร่างกายค่อนข้างที่จะล้า ถึงตัวเองจะสบายแล้วปลอดภัยแล้ว ก็ยังมีความเป็นห่วงแม่กับน้อง กลัวว่านายถาวรนั่นจะไม่ยอมเลิกรา ยังดีที่แม่เธอใช้โทรศัพท์ใช้ไลน์เป็น เวลาน้องชายเธอไปเรียน แม่อยู่คนเดียว เธอยังสามารถโทรหาแม่ได้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเจ้านายคนใหม่ จะเป็นยังไงบ้าง เขาอาจจะใช้งานเธอเต็มกับเงินเดือนก็ได้ มาเถอะเรื่องงานเธอไม่กลัวหรอก ชีวิตเธอตลออเกือบ 28 ปี ทำมาหลายอย่างมาก กับการที่ไม่มีพ่อ ทำให้เธอต้องเป็นเสาหลักของบ้าน ดูแลแม่กับน้อง ถ้าทวีเรียนจบเธอคงเบาขึ้นมาก หญิงสาวรอวันนั้น อดทนเอานะเทวิกา เชื่อว่าความดี ความกตัญญู ของเธอ จะส่งผลให้แม่กับน้องเธออยู่สุขสบาย