บทที่ 2: เพียงสายตาที่มีเรื่องของฉัน 6

1882 Words
พ่อหน้าฝรั่งจ๋า ลูกก็หน้าฝรั่งปนไทย ทำท่าทางแบบฝรั่ง แต่พูดภาษาไทยชัดแจ๋วกันทั้งคู่ เป็นภาพที่ทั้งประหลาด ทั้งน่ารักในคราวเดียวกันเลยล่ะ และคงเพราะฉันหัวเราะมากไปล่ะมั้ง มอร์แกนจึงเบนความสนใจกลับมาที่ฉันแล้วก็ถาม “หัวเราะอะไรเหรอครับ” ฉันรีบหุบยิ้ม แต่ก็ทำได้ไม่นานหรอก ต้องยิ้มออกมาอีกเพราะภาพเขากับลูกที่สนทนากันเมื่อครู่มันน่ารักมากจริงๆ “ฉันแค่เอ็นดูไมเคิลน่ะค่ะ เห็นคุณคุยกับไมเคิล แล้วเขาทำท่าแบบนั้น ก็เลยเอ็นดูขึ้นมา” ฉันตอบ สาบานว่าไม่มีอคติเลยนะ มอร์แกนก็ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากใช้ช้อนคันเล็กคนแก้วกาแฟของตน “ตั้งแต่แม่เขาไม่อยู่ ผมก็สอนเขาตีมือ สอนทำอะไรตามสไตล์ผู้ชายๆ เยอะเลยล่ะ ตอนแม่เขาอยู่ ผมทำไม่ได้ แม่เขาไม่อยากให้ลูกทะโมนเป็นลิงเหมือนผมตอนเด็กๆ” ว่าไปก็หัวเราะน้อยๆ ในลำคอไป รู้อะไรไหม พอฉันได้ยินคำว่า ‘แม่ของไมเคิล’ ความรู้สึกดีๆ ก่อนหน้าก็กร่อยลงไปทันที เขามีลูกมีเมียแล้วจริงๆ ฉันควรจะตระหนักรู้ให้ได้ตลอดเวลา ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ฉันคงจะต้องรีบคุยแล้วรีบกลับ จะได้จบๆ สักที “ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ” จู่ๆ ฉันก็โพล่งออกมาเลย มอร์แกนเหลือบมองแล้วพยักหน้า “เอาสิ คุณอยากรู้อะไรล่ะ” “เรื่องคุณแม่ของไมเคิลค่ะ” ฉันว่าไปตามตรง มอร์แกนชะงักมือที่ยังคนกาแฟอยู่เล็กน้อย “เรื่องอะไรเหรอ” “ทำไมคุณแม่ของไมเคิลถึงไม่ได้อยู่กับไมเคิลคะ” เลี่ยงที่จะถามว่า ‘ทำไมถึงไม่ได้อยู่กับคุณ’ เพราะกลัวว่ามอร์แกนจะคิดว่าฉันมีใจให้เขา ถึงฉันจะมีใจให้จริงๆ ก็เถอะ แต่ก็ไม่บอกให้เขารู้หรอก เดี๋ยวจะปลีกตัวออกจากเขายากไปมากกว่านี้ มอร์แกนทำท่าคิดไปชั่วครู่ จากนั้นก็ชำเลืองไปยังไมเคิลที่กินไอศกรีมจนปากเลอะอีกรอบ “พ่อกับแม่ของไมเคิลกำลังจะหย่ากันน่ะ แม่เขาเลยไม่ได้มาอยู่ด้วย ตอนนี้เรื่องหย่ากำลังอยู่ในขั้นตอนตกลงเรื่องค่าเลี้ยงดูและอะไรต่างๆ” พูดมาอย่างนี้ ฉันก็ใจเต้นตึกขึ้นมา กำลังจะหย่ากัน ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า...ฉันไม่ได้เข้าไปเป็นมือที่สามน่ะสิ!? ความดีใจผุดพรายขึ้นมา แต่ก็ไม่แน่ใจนัก ทำให้ฉันต้องถามออกไปอีก “แยกกันอยู่ตั้งแต่เมื่อไรคะ” “ก็...ราวๆ ครึ่งปีได้แล้ว ก่อนหน้านี้พวกเราอยู่ที่อเมริกา พอดีผมมีธุระ ต้องมาช่วยดูแลบริษัทลงทุนที่เปิดร่วมกันกับเพื่อนคนไทย ผมก็เลยพาไมเคิลมาด้วย เพราะคิดว่าอยู่กับผมคงจะสะดวกสบาย แล้วก็ดีกว่า ผมไม่อยากให้ไมเคิลเสียสุขภาพจิตกับแม่ที่ยังควบคุมอารมณ์และจัดการเรื่องต่างๆ ของตัวเองให้ลงตัวไม่ได้ แม่เขาก็ฝากมาด้วย ผมเลยพามา” เขาว่าเสียงเรียบ ฉันคิดไม่ออกเลยว่าความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาเป็นอย่างไร แต่ดูแล้วไม่น่าจะราบรื่นสักเท่าไรนัก ถึงขนาดที่เขาเอาลูกมาเลี้ยงดูด้วยนี่...ฝั่งแม่ของไมเคิลคงจะเป็นคนอารมณ์ร้ายพอดู “แต่จะไปโทษแม่ของไมค์กี้ก็ไม่ได้หรอก เธอก็เจอเรื่องร้ายๆ มาเยอะเวลาที่อยู่กับสามี เธอกลายเป็นคนขี้ระแวง จับผิดตลอดเวลาแบบนี้ ยังไงซะคนต้นเหตุก็ต้องรับผิดชอบ” “ฉันขอถามได้ไหมคะ” “หืม?” “ที่คุณบอกว่าคนต้นเหตุต้องรับผิดชอบ เอ่อ...คือเกิดเรื่องอะไรขึ้นก่อนหน้าเหรอคะ แม่ของไมเคิลถึงเป็นแบบนั้น” “นอกใจ” เขาว่ามาสั้นๆ แล้วก็สบตาฉัน “แค่นอกใจ พาผู้หญิงมานอนด้วยในบ้าน เท่านั้นแหละ” ฉันถึงกับกำมือแน่น...ต่อให้ฉันไม่ได้ไปเป็นมือที่สามของพวกเขา แต่ก็มีคนอื่นล่ะสินะ ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้ไม่น่าคบหาเอาเสียเลย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ดันสบายใจที่ได้ยินว่าพวกเขากำลังจะหย่ากัน เพราะถ้าเกิดว่าจะต้องสานสัมพันธ์ต่อ ฉันก็จะได้ไม่ต้องกังวล...ไม่สิ ไม่ๆๆ ไหนว่าจะยุติแล้วอย่างไรล่ะ ฉันไม่ควรคิดย้อนแย้งแบบนี้บ่อยๆ ต้องพอสักที! “แล้วคุณมีเรื่องอะไรอยากจะคุยกับฉันเหรอคะ” เพื่อความไม่ฟุ้งซ่าน ฉันจึงเป็นฝ่ายถามออกไปบ้าง มอร์แกนกระดกถ้วยกาแฟขึ้นดื่มแล้วสบตาฉัน “ผมอยากรู้อยู่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละ” “เรื่อง?” “ผมไปทำอะไรให้คุณโกรธ ผมถึงดูเข้าหน้าคุณไม่ค่อยติดอย่างนี้” ฉันสูดหายใจเข้าเต็มปอด เอาล่ะ ในเมื่อเขาอยากจะรู้ ฉันก็จะบอกให้ก็ได้ “ก็มีนิดหน่อยค่ะ เรื่อง...” “เรื่อง?” “เรื่องที่คุณไม่ติดต่อกลับหาฉันหลังจากที่เราแยกทางกันวันนั้น ฉันก็เลยเคืองว่าคุณฟันฉันแล้วทิ้ง” “ผมเนี่ยนะฟันคุณแล้วทิ้ง?” เขาทำหน้าประหลาดใจ ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองทันควัน เฮอะ! ก็ใช่น่ะสิ คุณนั่นแหละ ฟันฉันแล้วทิ้ง ไอ้ฝรั่งขี้นก! ก่อนที่ฉันจะได้พูดไป เขาก็สวนกลับมาเสียก่อนแล้ว “ขอผมอธิบายหน่อย เรื่องนั้นผมอาจจะผิดจริงที่ไม่ได้ติดต่อคุณไปทันที แต่ผมไม่ได้คิดจะฟันคุณแล้วทิ้งนะ” “ไม่ได้คิดจะฟันแล้วทิ้ง แล้วมันหมายความว่าอะไรล่ะคะ” “ผมคิดจะสานสัมพันธ์ แต่ช่วงนั้นดันมีเรื่องของไมค์กี้กับแม่เขาเข้ามาพอดี ผมเลยต้องจัดการเรื่องนั้นก่อน” แต่ก็มีเรื่องลูกเมียเขาเข้ามาเกี่ยวอยู่ดีใช่ไหมล่ะ ฉันไม่พูดอะไรต่อก็แล้วกัน พอจะเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้วว่ามอร์แกนให้ความสำคัญกับใครมากกว่า จากตอนแรกที่คิดว่าเขาสนใจฉันจนไม่สนใจลูก ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเรื่องของลูกสำคัญมากพอที่จะเมินเฉยต่อคนแปลกหน้าอย่างฉันได้ ก็ดีแล้วล่ะ แต่...ไม่รู้ว่าทำไมก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายถึงได้ปวดแปลบขึ้นมา ฉันไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาเลย กระทั่งเขาเปล่งเสียง “เรื่องที่คุณโกรธผมมีแค่นี้เหรอ” ฉันพยักหน้า “โกรธที่คุณไม่ทำอะไรให้ชัดเจนตั้งแต่ทีแรกน่ะค่ะ” แล้วก็บอกสำทับไปอีกที หูได้ยินเสียงถอนหายใจของมอร์แกนดังมา ฉันพยายามทำเป็นไม่สนใจ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เมื่อเขาเอื้อมมือมาจับมือฉันเอาไว้ “งั้นหลังจากนี้ ผมจะทำทุกอย่างให้ชัดเจนนะ” ฉันไม่เข้าใจที่เขาพูด เลิกคิ้วสูงอย่างขอคำอธิบาย ซึ่งเขาก็พูดออกมาโดยที่ไม่ต้องให้ฉันเอ่ยปาก “ผมจะตั้งใจจีบคุณ แล้วเราจะสานสัมพันธ์กันในฐานะแฟน เท่านี้ก็ชัดเจนแล้วใช่ไหม” ชะ...ชัดเจนกับผีอะไรล่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้สักหน่อย! “แต่คุณมี...” “ถ้ายังไม่อยากเป็นแฟน ก็รอดูผมไปเรื่อยๆ ก่อนก็ได้ถ้าคุณไม่ได้มีใคร ให้โอกาสผมได้แก้ตัวสักครั้งนะ โรสแมรี่” ฉันได้แต่อ้าปากพะงาบๆ จะพยักพเยิดไปมองไมเคิลเป็นทำนองว่า ‘แล้วแม่ของไมเคิลล่ะ คุณยังไม่ได้หย่ากับทางนั้นอย่างเป็นทางการเลยนะ มาออกตัวขอจีบฉันแบบนี้ คุณบ้าไปแล้ว!’ แต่พอจะทำ มอร์แกนก็ทำให้ฉันใจเต้นด้วยการดึงมือของฉันไปจูบที่หลังมือ “ผมขอโอกาสแก้ตัวหน่อยนะ” “ทำไมคุณถึงจะต้องอยากสานสัมพันธ์อะไรกับฉันด้วย” “ก็เพราะผม...ชอบคุณ” รอบข้างเงียบกริบราวกับจงใจ ก้อนบางอย่างก็ไหลมาจุกอยู่ที่ลำคอทำให้ฉันพูดอะไรออกไปไม่ได้ ยิ่งสบสายตาเขาที่มองมายังฉันอย่างเว้าวอน ฉันก็เริ่มใจอ่อน ยอมให้เขาทำตามใจแต่โดยดี “คุณจะขอโอกาสก็ได้ แต่ฉันขอบอกไว้เรื่องนึง” “อะไรเหรอ” “ฉันจะไม่ยอมเป็นน้อยของใครนะคะ” ฉันบอกอ้อมๆ หวังว่าเขาจะเข้าใจ มอร์แกนพยักหน้ารับทันทีแล้วก็รับคำ “แน่นอน ผมไม่ทำให้คุณเป็นน้อยของผมหรอก คุณจะเป็นคนเดียวและหนึ่งเดียวเท่านั้น ในหัวของผมจะมีแต่เรื่องของคุณ ไม่ต้องกลัว” ให้บอกว่าไม่ต้องกลัวคงจะไม่ได้ แต่พอเห็นสายตาที่เขามองมายังฉันเพียงคนเดียว ฉันก็หลงเชื่อไปชั่ว ณ ขณะนั้นว่าเขาจะมีฉันแค่คนเดียวอย่างที่ปากพูด ฉันจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่อย่างนั้น พินิจว่าอะไรที่ทำให้ฉันตกหลุมรักเขาจนต้องเคลิบเคลิ้มไปกับคำพูดหวานๆ นั่นอีก คงจะเป็นเพราะสายตาที่เขามองมา...เป็นเพราะสายตาคู่นั้นแน่ๆ ฉันรู้จุดอ่อนของตัวเองดี และก่อนที่จะจมดิ่งไปกับสายตาเว้าวอนของเขา ไมเคิลก็ส่งเสียงเรียกคุณพ่อของตัวเองออกมา “แด๊ดดี้ เอาอีก” พลันใช้ช้อนตีไปที่แก้วไอศกรีมที่ว่างเปล่า มอร์แกนจึงปล่อยมือออกจากฉันแล้วหันไปเช็ดหน้าเด็กน้อยแทน “เอาอีกเหรอครับ” “อีกๆ” “อีกลูกเดียวนะ ถ้วยเล็ก กินมากไม่ดี เดี๋ยวปวดท้อง” “ฮับ” ไมเคิลไม่ดื้อไม่ซนเลยแม้แต่นิดจนกระทั่งตอนนี้ บอกอะไรไปก็เชื่อ และทำท่าดีใจเมื่อได้รับไอศกรีมถ้วยใหม่มากิน ฉันเห็นท่าทางไร้เดียงสาของเด็กชายตัวน้อยแล้วก็ได้แต่ทอดถอนหายใจ ถ้าฉันเป็นแม่เลี้ยงของเขา เขาจะดีใจหรือเปล่า? บะ...บ้า! ยัยรสมาลี! หล่อนคิดไปไกลมากเลยนะนั่น! ฉันรีบสะบัดหน้าแล้วดึงสติกลับมาทันที ขณะที่มอร์แกนเห็นฉันทำท่าประหลาดแล้วก็ออกปากถาม “เป็นอะไรหรือเปล่า” “เปล่าค่ะ” “แล้วส่ายหัวทำไม” “อะ...อ๋อ...รู้สึกเหมือนมีอะไรหล่นใส่น่ะค่ะ ไม่ต้องสนใจหรอก” ฉันโกหกออกไปคำโต ดีที่มอร์แกนไม่สนใจฉันต่อหลังจากนั้น เบนความสนใจไปให้ไมเคิลแทนเพราะไมเคิลทำถ้วยไอศกรีมหกใส่ตัวเองกะทันหัน ฉันเลยได้แต่นั่งมองเขากับลูกชายปลุกปล้ำใช้ทิชชูเช็ดเสื้อนักเรียนกัน แล้วก็ถอนหายใจยาวออกมาเมื่อคิดถึงสิ่งที่มอร์แกนพูดก่อนหน้า ขอโอกาสในการสานสัมพันธ์ต่อหรือ? ฉันให้เขาไปแล้ว มันจะเป็นเรื่องดีหรือเปล่านะ เอาเถอะ จะดีไม่ดีอย่างไร ก็ขออย่าให้ฉันถูกลากไปเป็นมือที่สามเลย ฉันขอแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวพอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD