พักกลางวัน
“ข้างนอกร้อนฉิบ” เสียงทุ้มของ ซงมินโฮ หรือมินโฮ ร่างสูงลูกครึ่งไทย-เกาหลีที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่กับเพื่อนอีกสี่คนสบถออกมาด้วยความรู้สึกร้อนไปกับอากาศภายในโรงเรียนชื่อดังของตัวเอง ขณะที่เขาและกลุ่มเพื่อนกำลังแอบหลบสูบบุหรี่ในเขตต้องห้ามภายในโรงเรียน
“มึงก็บอกให้พ่อมึงติดแอร์ที่ดวงอาทิตย์ดิ มึงเป็นลูกเจ้าของบริษัทแอร์ไม่ใช่หรือไง” ไซอัล ลูกครึ่งไทย-สเปนอดไม่ได้ที่จะตอบกลับด้วยความติดกวนใส่เพื่อนสนิทของตัวเอง
“ไอ้เวรนี่!” ก่อนที่สองหนุ่มสองสัญชาติที่เหมือนจะเป็นคู่กัดกันอยู่ตลอดจะมองหน้ากันด้วยท่าทีเอาเรื่องเตรียมตัวทะเลาะ บอมเบย์ ที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ส่ายหัวไปมากับเพื่อนทั้งสอง พร้อมกับเสียงของ ยูโน่ ที่ดังขึ้น
“ได้ข่าวว่าห้องพวกมึง มีเด็กมาใหม่เหรอ” ชายหนุ่มมัธยมปลายหันถามพอร์ชกับบอมเบย์ที่ยืนอยู่ เนื่องจาก มินโฮ ไซอัล แล้วก็ยูโน่นั้นอยู่ เกรดสิบสองห้องสอง แต่พอร์ชกับบอมเบย์อยู่เกรดสิบสองห้องสี่
“อืม” พอร์ชที่ได้ยินคำถามจากเพื่อนพยักหน้าตอบพลางสูบบุหรี่เข้าปอดไปด้วยท่าทีปกติ
“ได้ข่าวว่าสวยมาก?” ไซอัลอดไม่ได้ที่จะถามด้วยอยากรู้ให้ความสนใจ บอมเบย์ที่ได้ยินจึงตอบกลับแทน
“เออสวย โคตรสวยเลยแหละ” ชายหนุ่มตอบอย่างยอมรับตามตรงในใบหน้าสวยไร้ที่ติของเพื่อนร่วมห้องคนใหม่ของตัวเอง
“ขนาดไหนกันเชียววะ กูเห็นผู้ชายห้องกูแม่งพูดถึงไม่หยุด” ไซอัลยังคงถามออกมาด้วยความอยากรู้มากขึ้น ขณะที่พอร์ชก็ยืนสูบบุหรี่ฟังเพื่อนทั้งสี่พูดคุยกันไปอยู่เงียบ ๆ
“ใช่คนที่นั่งกินข้าวคนเดียววันนี้ปะวะ” อยู่ ๆ ยูโน่ที่เหมือนนึกขึ้นได้เอ่ยขึ้น
“ตรงไหนวะ” ไซอัลถาม
“ตอนอยู่ในโรงอาหารไง ที่นั่งกินโต๊ะริมท้ายสุดคนเดียว”
“ไม่มีเพื่อนเหรอวะ”
“เหมือนจะไม่คบใคร ในห้องกูเดินไปทำความรู้จัก เขาเมินหมดเลย หยิบหูฟังขึ้นมากดฟังเพลง ทุกคนแม่งอึ้งกันหมด” บอมเบย์ที่เห็นเหตุการณ์นั้นพอดีหัวเราะเอ่ยออกมาด้วยความไม่เคยพบเจออะไรแบบนี้มาก่อน ซึ่งพอร์ชเองก็ยืนลอบหัวเราะไปกับภาพนั้นเช่นกัน เพราะเขาก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วย รวมถึงท่าทีของหญิงสาวที่นั่งด้านข้างตัวเอง
“ฮ่า ๆ น่าสนใจดีว่ะ เอาหน่อยไหม” มินโฮหัวเราะพลางมองหน้าพอร์ชที่ยืนอยู่ด้วยความรู้สึกอยากยุยงให้ลองเข้าหาเซลีน ทว่ายังไม่ทันที่ร่างสูงจะตอบ
“เอาห่าอะไรล่ะ ขนาดมันนั่งข้างเขา กูยังไม่เห็นพูดคุยอะไรกันสักคำ” บอมเบย์พูดแทรกขึ้นด้วยท่าทีขบขัน ทำเอามินโฮ ไซอัล และยูโน่หันมองเพื่อนสนิทของตัวเอง
“มองอะไร” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ถามขึ้นเสียงนิ่ง
“มาวันแรกก็เป็นดาวเลยนะเว้ย เสือพอร์ชจะปล่อยเหรอ ยิ่งช่วงนี้…ทางมึงยิ่งสะดวก…”
“หึ ไม่ละ” ริมฝีปากหนาสวนกลับด้วยใบหน้าเรียบนิ่งไม่คิดสนใจหรือหวั่นไหวต่อคำยุยงของเพื่อน
“ทำไมวะ ไหนว่าสวยมาก” ยูโน่ถามอย่างรู้สึกแปลกใจ เพราะปกติ พอร์ชก็ค่อนข้างขึ้นชื่ออยู่พอตัวในเรื่องราวแบบนี้
“ก็สวยดี…” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาตอบกลับตามตรง กับใบหน้าที่ดูดีไร้ที่ตินั้น ทว่า…
“…แต่แข็งไป” ชายหนุ่มพูดถึงนิสัยของเพื่อนข้างโต๊ะคนใหม่ของตัวเองที่ดูไม่เอาใครอย่างสุดโต่งจนเกินไป แม้ว่าเขาจะรู้สึกสนใจในท่าทีบางครั้งของหญิงสาว แต่…
ครืดดด~
เสียงโทรศัพท์ของทายาทตระกูลนำเข้ารถหรูอันดับต้น ๆ ของเอเชียแทรกดังขึ้น ทำให้เจ้าของดวงตาคมเลิกสนใจในสิ่งที่พูดคุยกับเพื่อนสนิทพลางก้มลงไปจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนที่นัยน์ตาคมจะฉายถึงท่าทีบางอย่างออกมา
พรึบ!
เสียงมือแกร่งจัดการโยนก้นบุหรี่ลงพื้นด้วยท่าทีฉายออกมาถึงความอารมณ์ดี
“เดี๋ยวกูไปก่อน เจอกันตอนเย็น” พูดจบ สองเท้าหนักก็สาวเท้าเดินออกไปทันที โดยมีสายตาเพื่อนทั้งสี่ที่มองตามแผ่นหลังหนาไปอย่างรู้กัน
“เอาเหอะไอ้สัส แทบไม่ว่างเว้นแต่ละวัน” มินโฮหัวเราะเอ่ยออกมา ขณะที่ไซอัลก็อดไม่ได้อีกครั้ง
“ว่าแต่มัน สภาพมึงก็ไม่ต่าง ออกล่าทุกคืน”
“…” หนุ่มลูกครึ่งเกาหลีที่ได้ยินก็ยักไหล่ตอบกลับด้วยท่าทีติดกวนไม่สนใจ ขณะที่บอมเบย์นั้นพึมพำบอก
“ให้มันหน่อย เวลามีน้อยต้องรีบใช้สอยอย่างประหยัด” สิ้นเสียงบอมเบย์เอ่ย ทุกคนที่รู้ความหมายก็ต่างพยักหน้ารับรู้หัวเราะออกมา ก่อนจะมองตามทางที่พอร์ชเดินออกไป
ด้านเซลีน
Oh, it’ s so sad to think about the good times
You and I…
เสียงเพลงจากศิลปินคนโปรดของร่างสวยดังขึ้น ขณะที่หญิงสาวยังคงใส่หูฟังออกมาเดินเล่นเงียบ ๆ ในเวลาพักกลางวันที่เหลืออยู่ ดวงตาสวยเฉี่ยวกวาดตามองไปยังพื้นที่ภายในโรงเรียนสุดหรูของตัวเองด้วยความรู้สึกว่างเปล่า ไม่ได้ต้องการมาที่นี่ หรือว่าที่ไหนเลย แต่เธอทำอะไรไม่ได้ ทุกอย่างมันช่างน่าเบื่อหน่ายไปหมดสำหรับเซลีนในตอนนี้
“…” เจ้าของใบหน้าสวยได้รูปได้แต่เดินเงียบ ๆ ตรงไปตามทางด้วยความพยายามปล่อยวางกับสถานที่ใหม่แห่งนี้ ก่อนที่สายตาของร่างสวยจะเหลือบไปเห็นห้องน้ำที่อยู่บริเวณหลังตึกอาคารหรู โดยเป็นจังหวะที่เธอต้องการจะเข้าไปทำธุระก่อนกลับเข้าไปเรียนอยู่พอดี ทำให้สองเท้าบางค่อย ๆ สาวเท้าเดินตรงเข้าไปยังภายในด้วยท่าทีปกติ พร้อมกับเสียงเพลงที่ยังคงดังออกมาจากหูฟังคู่ใจของเธอ ซึ่งหลังจากที่ทำธุระของตัวเองเสร็จ ด้วยความที่ยังไม่อยากที่จะรีบออกไป เซลีนจึงเลือกที่จะนั่งต่ออยู่ภายในห้องน้ำที่ดูสะอาดนั้นอย่างเหม่อลอยคิดนั่นคิดนี่ไปตามประสาของตัวเอง กระทั่ง…เสียงเพลงของศิลปินคนโปรดของเธอได้จบลงเพื่อที่จะเปลี่ยนไปเล่นเพลงต่อไป
“อ๊ะ! ใหญ่มากค่ะ อ๊า…แตงจะเสร็จแล้ว…” เจ้าของใบหน้าสวยรูปไข่ที่ไม่ได้ซื่อจนไม่รู้ว่ามันคือเสียงอะไรที่ดังมาจากบริเวณห้องด้านข้าง ก็ชะงักไปเล็กน้อย โดยไม่ใช่เพียงแค่เสียงครางจากผู้หญิงเท่านั้น
ปึก! ปึก! ปึก!
เสียงอะไรกระแทกเข้าหากันยังคงชัดเจนตามมา จนร่างสวยที่นั่งอยู่ตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกจากห้องน้ำไปยังอ่างล้างมือด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเหตุการณ์ที่ได้ยินเลยแม้แต่น้อยกับเสียงมีอะไรกันอย่างดุเดือดที่ดังออกมา อีกทั้งเซลีนยังเลือกที่จะล้างมือตัวเองไปอย่างใจเย็นราวกับไม่ได้มีใครเข้ามาทำอะไรกัน กระทั่ง…
แอดด
เสียงประตูห้องริมสุดนั้นถูกเปิดออก พร้อมกับร่างสูงที่เดินนำออกมาด้วยสภาพชุดหลุดลุ่ยอยู่พอสมควร ตามด้วยร่างเล็กของหญิงสาวที่น่าจะเป็นเจ้าของเสียงครางแทบไม่เป็นภาษานั้น
“…” ชายที่เดินออกมาพบเจอกับหญิงสาวที่เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะคนใหม่ของตัวเองก็นิ่ง ผิดกับเซลีนที่ปรายตามองยังทั้งสองเพียงเล็กน้อย ก่อนจะจัดการสะบัดน้ำที่อยู่ติดมือตัวเองเล็กน้อยพร้อมกับสาวเท้าเดินออกจากห้องน้ำหรูที่ไร้ผู้คนนี้ออกไปอย่างไม่ได้ให้ความสนใจชายหญิงที่กำลังยืนมองหน้าตัวเองอยู่สักนิด
“พะ…พี่พอร์ชคะ จะเป็นอะไรไหม…” เสียงรุ่นน้องเกรดสิบเอ็ดเอ่ยพูดกับรุ่นพี่หนุ่มที่เธอจงใจเชิญชวนมามีอะไรกับเขาด้วยความชื่นชอบชายหนุ่มเป็นทุนเดิมอยู่แล้วขึ้นด้วยสีหน้ามีความเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย ซึ่งเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเจ้าของความสูงกว่าร้อยแปดสิบหกเซนติเมตรก็นิ่ง
“ไม่หรอก ไม่น่ามีอะไร” ริมฝีปากหนาตอบกลับพร้อมกับสายตาคมที่จ้องมองตามแผ่นหลังบางของเพื่อนร่วมโต๊ะคนใหม่ของตัวเองไปอยู่แบบนั้น…