ตัดภาพมาภายในห้องเรียน
สองเท้าหนักของชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำบริเวณด้านหลังโรงเรียนสาวเท้าเดินตรงเข้าไปในห้องเรียนพร้อมกับนั่งลงยังที่นั่งของตัวเองที่มีร่างสวยหน้านิ่งนั่งนิ่งไม่สนใจอะไรอยู่ด้านข้าง ใบหน้าหล่อหันจ้องมองยังใบหน้าเรียวสวยได้รูปอยู่อย่างนั้น ก่อนจะตัดสินใจ
“จะไม่พูดเรื่องเมื่อกี้กับใครใช่ไหม” ริมฝีปากหนาขยับถามหญิงสาวหน้าสวยเสียงนิ่ง ทั้งที่ภายในใจของเขาจะรู้อยู่แล้วว่าอีกคนดูจะไม่พูดหรือสนใจอะไรกับเรื่องที่พบเจอของเขากับรุ่นน้องสาว แต่ทว่าทำไมไม่รู้ เขากลับรู้สึกอยากที่จะถามออกไป และแน่นอนว่า
“…” เซลีนที่นั่งอยู่ด้านข้างคนตัวสูงก็เงียบไม่ตอบ ไม่แสดงท่าทีสนใจต่อคำถามที่ได้ยินเลยด้วยซ้ำ
“ฉันพูดกับเธออยู่” พอร์ชกดเสียงพูดใส่คนด้านข้าง ซึ่งเซลีนก็ยังคงนิ่งไม่สนใจจะตอบ
“นี่!” ร่างสูงเริ่มเสียงดังขึ้นกับท่าทีเฉยเมยอย่างจงใจพวกนั้น โดยก็ได้ผล จากที่เมินเฉยไม่สนใจ เซลีนก็ค่อย ๆ หันหน้าไปจ้องมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่นั่งอยู่ด้านข้างตัวเองพลางตอบกลับเสียงเรียบ
“น่ารำคาญ เรื่องไร้สาระแบบนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของฉัน” พูดจบ ใบหน้าเรียวไร้ที่ติก็หันกลับไปมองยังบริเวณด้านหน้าห้องเหมือนเดิมด้วยสีหน้าที่ยังคงแสดงออกมาถึงความราบเรียบไม่สนใจอะไร และเป็นจังหวะที่ครูสาวที่จะต้องเข้ามาสอนในวิชาต่อไปเดินเข้ามาพอดี ทำให้ทั้งสองไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก แต่มีสายตาคมของพอร์ชที่ยังคงมองยังคนที่นั่งอยู่ด้านข้างตัวเองอย่างรู้สึกไม่เคยพบเจอกับคนแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง คนที่จงใจหมางเมินใส่เขา รวมถึงพูดจาไม่ได้ดูเรียกร้องให้สนใจ แต่เธอดูไม่อยากที่จะพูดคุยกับเขาหรือว่ากับใครเลยจริง ๆ ทว่าสุดท้ายแล้วนั้น เจ้าของใบหน้าหล่อก็เลือกที่จะเลิกสนใจทุกอย่าง หันกลับไปสนใจเนื้อหาการเรียนจากครูสาวที่อยู่ตรงหน้า กระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงช่วงเลิกเรียน
ออด~
แน่นอนว่าทันทีที่เสียงออดโรงเรียนนานาชาติชื่อดังดังขึ้นพร้อมกับครูสาวที่เดินออกไป ร่างสวยของเซลีนเองก็ไม่รอช้าที่จะลุกขึ้นสาวเท้าเดินออกจากห้องเรียนไปเช่นกันด้วยสีหน้าเรียบนิ่งตามปกติของเธอ โดยที่ก็มีสายตาคมของพอร์ชที่มองตามแผ่นหลังบางนั้นไปอย่างรู้สึกสนใจอีกคนอย่างไม่รู้ตัวกับความไม่เหมือนใครที่ได้พบเจอ
ด้านเซลีน
หลังจากที่เดินออกมาจากห้องเรียน สองเท้าบางก็ไม่รอช้าที่จะเดินตรงออกไปยังทางออกของประตูโรงเรียนดังในทันที ทว่าขณะที่หญิงสาวสวยกำลังสาวเท้าจะเดินออกไป
“เฮ้…” ก็มีกลุ่มชายประมาณสามคนยืนยกยิ้มทักทายร่างสวยอยู่ โดยหนึ่งในนั้นมีหน้าตาหล่อเหลาที่โดดเด่นลุคแบดบอยออกมาอย่างชัดเจน พร้อมกับสายตาที่จ้องมองมายังเซลีนด้วยแววตามีความสนใจ
“เธอเป็นเด็กใหม่ห้องสี่ใช่ไหม” ชายคนนั้นไม่รอช้าที่จะมองหน้าถามหญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวสวยได้รูป เซลีนที่ได้ยินก็จ้องมองคนที่ถามนิ่งพลางไม่ตอบ
“หยิ่งสมคำร่ำลือจริงด้วย” นักเรียนชายหน้าตาดีคนเดิมแสยะยิ้มด้วยความยิ่งรู้สึกถูกใจกับลักษณะท่าทีของคนที่อยู่ตรงหน้า ขณะที่เซลีนนั้นแสดงสีหน้าราบเรียบออกมาเช่นเคยพร้อมเอ่ยออกมาเสียงนิ่ง
“หลบไป อย่ามายุ่งกับฉัน” ว่าแล้ว สองเท้าบางก็สาวเท้าเดินไปอีกทางที่ว่างอยู่ด้วยท่าทีไม่คิดเป็นมิตรหรือสนใจอะไร ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ ริวตะ หัวเราะยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกชอบใจหญิงสาวคนนี้จริง ๆ และหันมองตามแผ่นหลังบางไปด้วยความรู้สึกถูกใจเข้าอย่างจัง
อีกด้าน
“นั่นมันพวกไอ้ริวตะห้องพวกมึงปะวะ” เสียงบอมเบย์ที่ยืนมองเหตุการณ์บริเวณหน้าโรงเรียนอยู่หันถาม มินโฮ ไซอัล แล้วก็ยูโน่ที่ยืนอยู่ ทั้งสามที่ได้ยินจึงหันมองตามคนเป็นเพื่อน รวมถึงพอร์ชเองที่ยืนอยู่ด้วย
“เออใช่…มันไปตามเด็กใหม่ห้องมึงเหรอวะ” ยูโน่ตอบพลางถาม
“คนนี้สินะเด็กใหม่ห้องมึง” ไซอัลถามขึ้น
“อืม” บอมเบย์ตอบ
“ไอ้เหี้ย สวยจริงว่ะ”
“ไม่งั้นไอ้ริวตะคงไม่ไปตามแบบนั้น มันเคยเข้าหาใครก่อนขนาดนี้ที่ไหน” มินโฮพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังเพื่อนร่วมห้องของตัวเองที่พวกเขาไม่ค่อยจะสนิทกันสักเท่าไร เหมือนต่างคนต่างอยู่ เพราะก็ต่างมาจากบ้านที่มีอิทธิพลกันทั้งคู่ แต่ไม่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนกัน ด้วยนิสัยและอะไรหลาย ๆ อย่าง
“สวยขนาดนั้น ก็เข้าใจได้” ไซอัลที่เหมือนได้เห็นเซลีนชัด ๆ ครั้งแรกเอ่ยอย่างเข้าใจแล้วที่หลายคนบอกว่า เด็กที่มาใหม่ห้องเพื่อนสนิทของเขาสวย เพราะอีกคนดูสวยจริง ๆ แถมยังมาพร้อมกับรูปร่างที่ดูชวนมอง ซึ่งพอร์ชก็ยืนมองดูภาพเพื่อนร่วมโต๊ะของตัวเองเดินหนีจากพวกริวตะไปนิ่งอย่างไม่ได้คิดสนใจอะไรมากนัก
“ว่าแต่คืนนี้เอาไง ให้เฮียบีมเตรียมโต๊ะไหม” เสียงบอมเบย์ที่มีพี่ชายเปิดร้านเหล้าชื่อดังถามขึ้น แน่นอนว่าเด็กหนุ่มวัยกำลังคึกคะนองก็ไม่รอช้าที่จะรีบพยักหน้าตอบกลับกันในทันที เว้นก็แต่เพียงทายาทนักธุรกิจการนำเข้ารถหรูที่ส่ายหน้าตอบกลับ
“วันนี้กูไม่ได้ ไว้วันอื่นก็แล้วกัน” ริมฝีปากหนาบอกกับเพื่อนทั้งสี่ของตัวเอง ซึ่งทุกคนก็ต่างรับรู้เข้าใจในธุระของเพื่อน
“เออ เดี๋ยวกูล่าเผื่อ” หนุ่มลูกครึ่งเกาหลียักคิ้วบอกคนเป็นเพื่อนด้วยท่าทีติดกวน พอร์ชที่ได้ยินแบบนั้นจึงหัวเราะแสยะยิ้ม
“หึ อย่าให้ติดโรคก็แล้วกัน”
“ถ้าติดกูจะฟ้องบริษัทบ้านไอ้เหี้ยยูโน่ให้หมดตัวเลยไอ้สัส ถุงยางกากไม่ได้มาตรฐานแล้วเสือกเอามาขาย”
“เล็กอย่างมึงจะใส่ถุงไปทำไมให้เปลือง เหมือนค…หดตัวอยู่ตลอดเวลา” ไซอัลอดไม่ได้อีกครั้งที่จะพูดจากวนประสาทใส่เพื่อนตัวเอง มินโฮที่ได้ยินจึงรีบหันไปเอาเรื่องเพื่อนอีกคนของตัวเองทันที
“ไอ้เหี้ยไซอัล นี่มึงดูถูกลูกกูเหรอ มึง!! ไอ้เหี้ยฝรั่งดองเค็ม มึงอย่าอยู่เลย!” ว่าแล้ว หนุ่มมัธยมปลายปีสุดท้ายก็วิ่งวุ่นไล่ทำร้ายไม่จริงจังกันไปตามประสา พอร์ชก็หัวเราะออกมากับท่าทีของเพื่อนสนิทของตัวเองก่อนจะก้มลงมองดูยังนาฬิการาคาแพงที่ตัวเองสวมใส่อยู่ พร้อมกับปลีกตัวสาวเท้าเดินออกไปยังรถสปอร์ตคันหรูของตัวเอง