รัศมีโชติวางแท็บเล็ตในมือลง ทำทีเป็นถามกับสามีว่า “ลูกชายคนเดียวของคุณจะหมั้นแล้วนี่คะคุณวัฒน์”
เจ้าของชื่อเล่น ‘วัฒน์’ วางกรรไกรตัดแต่งกิ่งลงบนโต๊ะใกล้ ๆ ก่อนจะหันมองหน้าคนถาม เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งกลับไป
“หมั้นกับใคร เมื่อไร”
“ตายแล้ว! นี่ ลูกชายคุณไม่ได้บอกอะไรคุณเลยหรือคะ”
วัฒน์ส่ายศีรษะเบา ๆ เป็นคำตอบ สีหน้าสลดวูบในทันทีที่ได้ยินคำถามของผู้เป็นภรรยา
“เดี๋ยวนะคะ เดือนจำชื่อไม่ได้”
รัศมีโชติรีบหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาเลื่อนดูชื่ออีกครั้ง
ตอนนั้นเองที่มีถาดบรรจุน้ำและอาหารว่างวางลงที่บนโต๊ะ พร้อมด้วยเสียงนุ่มนิ่มเอ่ยขึ้นว่า “น้ำผลไม้ปั่นรวมเพื่อสุขภาพค่ะน้าเดือน ของคุณน้าวัฒน์เป็นน้ำผักรวมแบบเดิม อาหารว่างเป็นปั้นสิบไส้ปลานะคะ”
รัศมีโชติยังคงก้มหน้ากับจอ เพื่อค้นหาข่าวที่อ่านเมื่อครู่ ไม่ได้สนใจคนที่เข้ามาใหม่ในวงสนทนาเท่าไรนัก ค่อยเงยหน้าขึ้น บอกชื่อให้สามีได้รู้
“ว่าที่คู่หมั้นชื่ออรนลินค่ะคุณ ทายาทจากตระกูลดัง ไอ้ตระกูลดัง นี่เดือนอยากรู้นักว่ามันดังแค่ไหนกันเชียว” คนพูดไม่ลืมเยาะใส่ในตอนท้ายของประโยค
“เออนี่ คุณดินรุ่นเดียวกันกับเราหรือเปล่ายัยปาน”
รัศมีโชติถามหลานสาวด้วยสายตาวาววับคล้ายคิดอะไรในสมองขึ้นมาได้ ปานทิพย์ยกของออกจากถาดจนหมดแล้ว ถามกลับ
“ดินไหนคะน้าเดือน”
“จะดินไหน ก็คุณณัฏฐ์ ลูกชายคนเดียวของคุณวัฒน์น่ะสิ”
ปานทิพย์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย สายตามองเลยไปยังกอไม้ที่น้าเขยตัดค้างไว้ พยักหน้ารับเบา ๆ “ใช่ค่ะ เรียนรุ่นเดียวกันกับปาน”
“แล้วเรารู้หรือเปล่าว่าเขากำลังจะหมั้น แล้วก็แพลนจะแต่งกันปลายปีน่ะ”
ปานทิพย์รู้สึกถึงจังหวะหัวใจที่เต้นแกว่งไกวแปลกไปชั่วขณะ ตอนที่ได้ยินข่าวนั้นจากปากของน้า “หรือคะ ดีจัง ปานไม่รู้เรื่องเลยค่ะ” จริง ๆ เธอก็ตามข่าวเขามาตลอด แต่ช่วงต้นปีมานี่เองที่มัวแต่ยุ่งกับงานที่รับมาเสียแยะ จนแทบปลีกตัวไปทำอะไรไม่ได้เลย ลืมเลือนที่จะแอบสอดส่องความเคลื่อนไหวของเขาแบบที่เคยทำ ๆ มา
“ ‘เขา’ ไม่ได้รักแม่หนูลินลินอะไรนั่นหรอก ผมแน่ใจ”
คุณวัฒน์ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น แล้วลุกออกจากวงสนทนาไปโดยไม่แตะของว่างที่ปานทิพย์ยกมาให้แม้แต่น้อย หญิงสาวมองตามหลังอีกฝ่ายไปจนลับตา ค่อยหันมาถามกับน้าสาวของตน
“คุณน้าเป็นอะไรคะ”
“คงจะงอนลูกชายเขาน่ะสิ จะหมั้นจะแต่งกับใครไม่มีมาบอกมากล่าวกันละ แล้วดูพูดเข้า ยังกับรู้จักลูกชายตัวเองดี ไปรู้ใจได้ยังไงว่าทางนั้นเขาไม่ได้รักไม่ได้ชอบยัยอลินคู่หมั้น คนไม่รักไม่ชอบกัน เขาจะตกลงหมั้นหมายกันทำไม ใช่ไหมยัยปาน”
รัศมีโชติบ่นยาวเหยียด เนื้อหาก็ค่อนสามีเสียเยอะ
“ว่าแล้ว น้าก็นึกหมั่นไส้คุณดินอะไรนั่นเหมือนกันนะปาน เด็กอะไรก็ไม่รู้ก้าวร้าว เจอหน้าน้าทีไรไม่มีล่ะจะยกมือไหว้”
ปานทิพย์นึกถึงเขาแล้ว ได้แต่ยิ้มน้อย ๆ ให้กับผู้เป็นน้า ไม่รู้จะพูดอะไรเป็นการตอบท่านกลับไป อดคิดไม่ได้ว่าณัฏฐ์คงไม่พอใจน้าเดือนเท่าไรนักหรอก ที่เข้ามาแทรกกลางครอบครัวของคุณวัฒน์กับคุณสารินีแบบนั้น
นึกถึงใบหน้าของคนในบทสนทนาทีไร ใจที่เคยนิ่งก็มักจะทำงานหนักขึ้นทุกที ด้วยว่าแอบรักเขา ตั้งแต่เรียนมัธยมศึกษา และเธอก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้ใครสักคนได้รับรู้มาก่อน
“น้าล่ะ อยากจะเห็นสีหน้าคุณดินเหมือนกันนะ ว่าถ้าตัวเองเกิดพลาดไปนอกใจว่าที่คู่หมั้นบ้าง จะเป็นยังไง”
รัศมีโชติพูดจบก็มองหน้าหลานสาวที่เลี้ยงมาแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ พลันนั้นเองที่สายตาแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ขึ้นในทันที จนปานทิพย์ต้องกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก เมื่อพอจะคาดเดาความคิดผู้เป็นน้าได้บ้างแล้ว จึงส่ายศีรษะพร้อมปฏิเสธเสียงค่อยไปว่า
“ไม่นะคะน้าเดือน”
แต่แล้วสายตาของรัศมีโชติกลับดูวาววับเจ้าแผนการมากยิ่งขึ้น