หญิงสาวก้าวเข้าไปนั่งบนศาลา สายตาเหม่อมองไปไกล ในหัวก็พลันคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ หลังจากตื่นขึ้นมาในเช้าวันนั้นเธอก็ไม่ใช่ปิ่นรักคนเดิมอีกต่อไป ถึงแม้จะยังรู้สึกเศร้าเสียใจ แต่ทุกอย่างมันก็ผ่านไปแล้ว ไม่มีอะไรจะเรียกคืนกลับมาได้
“มานั่งทำอะไรมืด ๆ หรือคิดจะมานั่งดักรอใคร”
น้าวี!!
ปิ่นรักตัวแข็งทื่อ เมื่อได้ยินเสียงทักดังมาจากด้านหลัง หญิงสาวรีบก้มหน้าแสร้งไม่ได้ยิน เพียงแต่นั่งนิ่งรอให้เขาเดินผ่านไป แต่แล้วสายตาก็ปะทะเข้ากับร้องเท้าหนัง ที่มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
“ฉันถามว่ามานั่งรอใคร ไม่ได้ยินเหรอ” น้ำเสียงเข้มดุดังอยู่เหนือศีรษะ ปิ่นรักเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะชะงักและเบนหน้าหนีไปทางอื่น ไม่กล้าสบตาเพราะยังรู้สึกละอายกับเหตุการณ์คืนนั้น
“เปล่าค่ะ ปิ่นแค่มานั่งเล่น ถ้าน้าวีจะนั่ง งั้นปิ่นขอตัวก่อนนะคะ”
ปฐวีทรุดตัวลงนั่งข้างเธอ แขนยกขึ้นพาดพนักพิงด้านหลังของหญิงสาว ปิ่นรักรีบลุกขึ้นยืน ยังไม่ทันก้าวเท้าก็ต้องร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อปฐวีคว้าจับแขนเธอไว้ และออกแรงกระตุกเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เธอเสียหลักล้มลงไปนั่งบนตักเขา
“น้าวี!!”
“จะรีบไปไหน เธอมานั่งรอเจอฉันไม่ใช่เหรอ”
“มะ...ไม่ใช่นะ” ปิ่นรักปฏิเสธทันที
เห็นรอยยิ้มเยาะของเขาก็ทำให้ใบหน้าเธอร้อนผ่าวด้วยความอับอาย เหตุการณ์คืนนั้นยังจำได้ทั้งยามหลับและตื่นไม่มีวันลืม ไม่ใช่เพราะรสพิศวาส แต่เพราะความอดสูใจ
หากพลอยขวัญไม่เอาความเป็นความตายมาขู่ เธอก็ไม่มีทางยุ่งกับน้าเขยเด็ดขาด! และเหตุการณ์แบบนั้นก็ไม่ควรเกิดขึ้นอีก
“ตอนนี้ทั้งบ้านก็ไม่มีใคร น้าเธอก็ยังไม่กลับ คนอื่นก็คงเข้าห้องหมดแล้ว” เขายกแขนขึ้นกอดเธอไว้หลวม ๆ ใบหน้าก้มต่ำลงมากระซิบชิดริมหูเธอ น้ำเสียงแหบพร่า ทำเอาขนอ่อนตรงคอหญิงสาวพร้อมใจกันลุกชันขึ้นมา
“น้าวี!!...จะ…จะทำอะไร”
“ก็ทำแบบ...คืนนั้น เธอชอบไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่...ปิ่นไม่ได้ชอบ น้าวีเอามือออกไปนะ”
หญิงสาวดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนเขา ก่อนจะรีบลนลานปฏิเสธ แต่...พอนึกถึงหน้าพลอยขวัญที่เคยขอร้องให้ช่วยดึงน้าเขยมาจากผู้หญิงทุกคน หญิงสาวก็พูดไม่ออก
เธอต้องยอมก็เพราะน้าสาวหาใช่ความต้องการของตัวเอง แต่เหมือนปฐวีจะไม่เข้าใจ ยังคิดจะฉกฉวยโอกาส ราวกับเธอเป็นสมบัติส่วนตัวของเขา
“ไม่ชอบ แต่ก็อยากได้ผัวน้า!”
“ไม่ใช่!! ปิ่นไม่เคยคิดแบบนั้น”
“ปฏิเสธทำไม ทั้งที่จริงเธอก็ต้องการมัน อย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้สิ พวกเธอมันก็เหมือนกันทั้งน้าทั้งหลาน ไวไฟ ร้อนแรง และที่สำคัญร่านและก็ไว้ใจไม่ได้”
คำดูถูกที่เขาพูดกรอกหูเธอ ทำให้ปิ่นรักดิ้นจนสุดแรงหลุดออกจากอกเขา ก่อนจะหันกลับมาประเคนฝ่ามือใส่หน้าน้าเขยเต็มแรงด้วยความโกรธจนหลงลืมตัว เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้าสากเสียงดัง
“เพลี้ยะ”
หญิงสาวก้มมองฝ่ามือตัวเองด้วยความตกใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขา ใบหน้าหญิงสาวก็ซีดเผือดลง เมื่อเห็นสีหน้าทะมึน ดวงตาแข็งกร้าวและดุดันน่ากลัว แต่ตอนนี้เธอกำลังโมโหจัดจนลืมตัวไม่กลัวตาย ส่งเสียงแว๊ดกลับด้วยความโมโห
“หยุดว่าน้าพลอยแบบนี้นะ น้าวีจะไปรู้อะไร เคยสนใจหรือเปล่าว่าคนอื่นเป็นยังไง ต้องยอมเสียสละแค่ไหน ยอมเจ็บเพื่อให้น้าวีมีความสุข ที่น้าพลอยเค้าทำลงไปทุกอย่างก็เพราะรัก...รักมากจนไม่อยากเสียน้าวีไป นอกจากไม่เห็นค่าแล้วยังจะมาพูดจาดูถูกกันอีก”
“ใช่ฉันดูไม่ผิดหรอก ในเมื่อสันดานของพวกเธอมันมักมาก ไม่รู้จักพอ” น้ำเสียงเยือกเย็นตอกกลับเธอทันที
“น้าวีต่างหากมักมากไม่รู้จักพอ และยังมั่วเอาไม่เลือก ไม่เคยสนใจความรู้สึกของน้าพลอย” พูดเสร็จหญิงสาวก็เชิดหน้าขึ้น ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากศาลา แต่ยังไม่ทันก้าวลงบันได
“ว๊าย!!”
แขนเล็กถูกกกระชากจนร่างปลิวมากระแทกกับอกเขา ก่อนปฐวีจะผลักเธอไปพิงต้นเสาศาลา กักเธอไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหนได้ มือใหญ่เลื่อนขึ้นมาลูบต้นคอหญิงสาวบีบเบา ๆ อย่างข่มขวัญ
ปิ่นรักได้แต่ยืนนิ่งตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับ ดวงตาไหวระริกด้วยความหวาดหวั่น ปฐวีตอนนี้ดูน่ากลัวจนเธอไม่กล้ามอง ได้แต่ก้มหน้าหลบและภาวนาขออย่าให้เขาขาดสติจนเผลอลงมือฆ่าเธอก็พอ
“จะไปไหน” น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้นเหนือศีรษะเธอ
“ปะ...ปล่อยนะ อย่ามายุ่งกับปิ่น”
“เมื่อกี้ยังปากดีอยู่เลย ตอนนี้ทำไมเสียงสั่นล่ะ”
เธอปัดมือที่กำลังลูบไล้ต่ำลงไปจนถึงเนินอกออกให้พ้นตัว พลางขู่เขาเสียงสั่น “ไม่ต้องยุ่ง”
“ไม่ยุ่งงั้นเหรอ เป็นเธอมากกว่ามั้งที่เป็นคนเริ่มก่อน เข้าไปหาฉันถึงห้องนอน แล้วยังนอนแบรอให้ฉันเอา...ทำไมคราวนี้ถึงปากแข็งไม่อยากล่ะ”
“น้าวีปล่อย...ปิ่นจะขึ้นบ้าน”
“จะรีบไปไหน ในเมื่อตรงนี้ก็ไม่มีใครนอกจากเรา”
“ปิ่น...เอ่อ..รู้สึกไม่สบายยังปวดหัวอยู่ ขอตัวไปพักก่อนนะคะ”
“พวกเธอน้าหลานวางแผนจะทำอะไร” ปฐวีไม่เชื่อน้ำคำหญิงสาว
ใบหน้าคมเข้มก้มต่ำลงมาจนปลายจมูกแทบจะสัมผัสกัน หญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบด้วยความหวาดกลัว ท่าทางของปฐวีตอนนี้ราวโกรธเกลียดเธอมาแต่ชาติปางไหน
ไม่รู้จะเรียกว่าแผนการหรือไม่ แต่ที่เธอทำอยู่ตอนนี้ก็เพื่อช่วยพลอยขวัญ ไม่มีเจตนาจะเข้าไปเป็นเมียน้อยเมียเก็บของเขา หรือมีจิตพิศวาสต่อน้าเขยแต่อย่างใด
เธอก็แค่รอเวลาหากเรียนจบมีงานทำ ก็จะย้ายออกไปทันที ส่วนเรื่องของปฐวีกับพลอยขวัญเธอถือว่าได้ช่วยเต็มที่แล้ว หากจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ก็แล้วแต่พวกเขาสองคน
“ปิ่นพูดไปแล้ว ไม่ใช่แผนการแต่ทุกอย่างที่ทำก็เพราะน้าวีทั้งนั้น”
“เพราะฉัน?”
“ใช่! เพราะน้าวี”
“เธอจะบอกว่าที่เข้ามานอนกับฉัน เพราะเธอชอบฉันจนต้องขอแบ่งสามีจากน้าสาวตัวเองงั้นเหรอ”
“น้าวี! มันจะมากเกินไปแล้วนะคะ ปิ่นไม่เคยคิดอะไรกับน้าวีทั้งนั้น”
“ไม่ได้คิดอะไรงั้นเหรอ...ได้ในเมื่อพวกเธอมันก็ร่านพอกัน น้าร่านกับผู้ชายไปทั่ว ส่วนหลานก็ร่านอยากได้ผัวน้า ของแบบนี้แบ่งกันกินกันใช้ได้ฉันไม่ถือ...ไม่ชอบฉันก็ดี นอนด้วยกันจบก็แยกย้าย ง่ายดีฉันชอบ”
“ไม่...”