เสียงเอะวะวุ่นวายภายในคาเฟ่ขนาดใหญ่เกิดขึ้นจากสาเหตุของกลุ่มนักศึกษาชายหญิงที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่ตามโต๊ะ ต่าง ๆ ภายในร้าน
โต๊ะเก้าอี้รวมทั้งโซฟาถูกลูกค้าจับจองเต็มหมด ด้านนอกร้านก็ยังมีลูกค้าบางส่วนนั่งรอคิวกันอีกจำนวนหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าคาเฟ่แห่งนี้เป็นที่นิยมสมคำร่ำลือจริง ๆ
พวกเขาส่งเสียงพูดคุยเฮฮาด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความโล่งใจหลังผ่านการสอบวิชาสุดท้ายเสร็จสิ้นในบ่ายวันนี้ นั่นหมายถึงวันหยุดยาวที่ได้รับเป็นรางวัลก่อนจะถึงฤดูกาลเปิดเทอมในอีกหลายเดือนข้างหน้า
สถานที่แรกที่พวกเขานึกถึงยามต้องการผ่อนคลายความเครียดก็คือคาเฟ่แห่งนี้ เนื่องจากอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุด ครบครันด้วยเครื่องดื่ม อาหารหลากหลายชนิด ทั้งจานหลักและจานเดียว
ที่สำคัญยังสามารถนั่งได้จนถึงดึกดื่นเพราะช่วงกลางคืนจะมีดนตรีสดเป็นบริการเสริมจากทางร้าน ซึ่งนักร้อง นักดนตรีส่วนใหญ่ก็เป็นนักศึกษาที่มาหางานพิเศษทำ เช่นเดียวกับพนักงานเสิร์ฟเกือบทั้งร้านก็เป็นนักศึกษาทั้งนั้น จึงไม่แปลกที่จะเห็นเหล่านักศึกษาชายหญิงเดินกันขวักไขว่
เครื่องดื่มหลากชนิดตั้งเรียงรายพร้อมอาหารว่างวางเกลื่อนตามโต๊ะ บ้างก็มีตำราเล่มหนาวางสุมกันจนล้นโต๊ะเนื่องจากบางคนก็ยังต้องสะสางรายงานให้ทันกำหนดก่อนปิดเทอมอย่างเป็นทางการ
กลุ่มเด็กเรียนทั้งหลายหยิบยกเอาเนื้อหาในข้อสอบขึ้นมาถกเถียงหาคำตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มีการออกความเห็นในเชิงไม่เห็นด้วยท่ามกลางเสียงสนับสนุนดังมาจากอีกฟากฝั่งของร้านจนเกิดเป็นหัวข้อให้มีการอภิปรายย่อม ๆ ท่ามกลางเสียงเพลงและเสียงสรวลเสเฮฮาจากรอบข้าง
บริเวณช่องว่างระหว่างโต๊ะมีพนักงานเสิร์ฟเดินสวนกันวุ่นวายเพื่อคอยบริการลูกค้าให้ทั่วถึง
หนึ่งในพนักงานเสิร์ฟมีเด็กสาววัยรุ่นในชุดนักเรียนมัธยมปลายเดินถือถาดบรรจุแก้วเปล่าใช้แล้วที่เก็บมาจากโต๊ะของลูกค้า เธอพยายามทำตัวให้เล็กลีบที่สุดขณะยืนหลีกทางให้กับพนักงานเสิร์ฟรุ่นพี่ในชุดนักศึกษาที่กำลังประคองถาดใส่อาหารไปส่งให้ลูกค้าที่อยู่โต๊ะในสุด
รุ่นพี่หนุ่มหล่อสไตล์โอปป้าทำทียักคิ้วขยิบตาส่งให้เด็กสาวรุ่นน้องแล้วกระซิบถ้อยคำแผ่วเบา
“เก็บพุงหน่อยหนูริน” เสียงเอ่ยแซวของรุ่นพี่ตัวสูงที่เดินผ่านไปส่งผลให้เด็กสาวทำปากยื่นส่งเสียงขัดใจตามหลังไปติด ๆ
แต่ก็ยังไม่วายเหลือบมองบริเวณกลางลำตัวด้วยความไม่มั่นใจ นี่เธอคงไม่มีพุงจริงอย่างที่เขาแซวหรอกนะ
“เดี๋ยวเถอะมาบูลลี่เค้า” เด็กสาวแยกเขี้ยวใส่คนที่หันกลับมายักคิ้วให้แล้วรีบเดินกลับเข้าไปยังหลังร้าน เธอไม่ได้คิดมากอะไรหรอกเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายล้อเล่นขำ ๆ แต่มันก็เป็นธรรมดาที่จะแอบนอยด์เบา ๆ และอดคิดกังวลไม่ได้เพราะรู้ตัวเองดีว่ารูปร่างเธอมันไม่ได้เพรียวบางพิมพ์นิยมเหมือนสาว ๆ ที่กำลังเดินกันขวักไขว่เต็มร้านอยู่นี่
ก็เธอยังอยู่ในช่วงวัยกำลังโต ฉะนั้นการกินอาหารสะสมไว้ในร่างกายปริมาณมาก ๆ จนแอบมีพุงนิด ๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดา
ป๊าม๊าและพี่ชายเคยบอกอย่างนั้น ปารารินเองก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง
คิดเข้าข้างตัวเองได้แล้วก็สบายใจ จังหวะก้าวเท้าจึงพลิ้วไปตามเสียงดนตรีเพราะ ๆ ที่เปิดคลออยู่
ดวงตาเปล่งประกายสดใสตามวัยให้ความสนใจกับแก้วเปล่าใช้แล้วที่ถูกลำเลียงวางไว้ในอ่างล้าง ลืมเรื่องเมื่อครู่ไปอย่างรวดเร็วตามสไตล์คนไม่ค่อยคิดอะไรหยุมหยิมให้ปวดหัว แต่แล้วมือที่ทำงานอยู่ก็ต้องชะงักขณะเสียงกรีดแหลมแสบแก้วหูดังขึ้น
“ผัวฉันมา...” น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจในแบบที่ใครต่อใครพากันส่งเสียงหัวเราะคิกคัก สร้างความสนุกสนานให้กับเพื่อนร่วมงานที่กำลังผจญกับวันอันแสนวุ่นวายได้พอสมควร
“ยัยริน แกเห็นไหมเมื่อกี้” เจ้าของเสียงกรี๊ดปรี่เข้าหาเพื่อนสนิทที่กำลังยืนอ้าปากค้างอยู่หน้าอ่างล้างจาน
“อะไรของแกวะฝน” ปารารินหยุดมือแล้วหันมองหน้าเพื่อน เห็นแววตาเป็นประกายเพ้อฝันแบบนี้ รู้เลยว่าเพื่อนเธอกำลังถูกอะไรเข้าสิง คงไม่พ้นสามีมโนคนใดคนหนึ่งของวริษาเป็นแน่ ยายนี่นอกจากหมกมุ่นกับตำราเรียนแล้ว ยังมีงานอดิเรกอย่างหนึ่งคือการแอบส่องผู้ชายตามไอจีแล้วมโนว่าเป็นสามี
ทุกวันนี้ปารารินจำไม่ได้แล้วว่าเพื่อนเธอมีสามีครบโหลหรือยัง
“ก็พี่ก้องของฉันน่ะสิ แกไม่เห็นเหรอ” วริษาในชุดนักเรียนมัธยมปลายเช่นเดียวกับเพื่อนยกมือสองข้างประสานเข้าหากัน ทำตาเคลิ้มถึงพี่ก้องสุดหล่อ หนุ่มวิศวะคนดังที่เป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นลูกค้าประจำของร้านตั้งแต่ปีหนึ่ง จนตอนนี้เลื่อนขึ้นมาอยู่ปีสามแล้วเขาก็ยังแวะเวียนมาสม่ำเสมอ
“คนเยอะแยะฉันจะไปเห็นได้ยังไงล่ะ แล้วแกน่ะมีหน้าที่ในครัวไม่ใช่เหรอ เสนอหน้าออกไปหน้าร้านเพื่อ!? เดี๋ยวก็ได้โดนคุณชายท่านขบหัวเอาหรอก” ในตอนท้ายประโยครีบลดระดับเสียงลงทันทีพลางเหลียวซ้ายแลขวา
“โอย กลัวที่ไหนล่ะ” คนถูกเบรกจนหัวทิ่มสะบัดค้อน รอยยิ้มกว้างหุบฉับ นึกถึงหน้าบึ้งตึงของคุณชายสุดโหด ลูกชายเจ้าของร้านผู้รับหน้าที่ดูแลกิจการสาขานี้ของครอบครัวแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที เพราะไม่ค่อยถูกชะตา อันเนื่องมาจากมีประสบการณ์ไม่ดีร่วมกันมาก่อน
แต่ก็ช่างเถอะ ใครสนกัน ไอ้จอมเก๊กหน้ามึนนั่น ใด ๆ ในโลกนี้หรือจะสู้สุดหล่อหน้าใสของวริษา ผู้เป็นเทพบุตรของสาว ๆ ทั่วทั้งมหาวิทยาลัย และโรงเรียนมัธยมในละแวกนี้ รวมถึงโรงเรียนของสองสาวน้อยด้วยเช่นกัน
“เหอะ กลัวที่ไหน เห็นเจอหน้าพี่แกทีไรก็หัวหดทุกทีปะ” ปารารินทำเสียงดูถูกเพื่อน เห็นปากดีแบบนี้แต่พอเจอหน้ากัน ตรง ๆ ทีไรก็มักจะเห็นวริษาทำตัวหงอก้มหน้าก้มตาหลบ และเก็บปากเก็บคำไม่กล้าหือทุกทีนั่นแหละ ลับหลังนี่เก่งเหลือเกินเพื่อนเธอคนนี้
“เลิกพูดถึงอิตาคุณชายขาโหดซะที เสียอารมณ์” วริษาเบะปากค้อนลมค้อนแล้งจนเพื่อนพนักงานที่เดินผ่านไปมาทำหน้าตกใจคิดว่าถูกด่าเข้าให้แล้ว เป็นงานให้ต้องโบกไม้โบกมือขอโทษกันไปอีก
“แกยังไม่ตอบฉันเลย ไปเสนอหน้าทำอะไรที่หน้าร้านยะ” เห็นเพื่อนหน้าบูด ปารารินจึงเลิกพูดถึงคู่กรณีของอีกฝ่าย