“แกยังไม่ตอบฉันเลย ไปเสนอหน้าทำอะไรที่หน้าร้านยะ” เห็นเพื่อนหน้าบูด ปารารินจึงเลิกพูดถึงคู่กรณีของอีกฝ่าย
“ก็แหม...” จากคนอารมณ์เสีย เปลี่ยนเป็นเขินอายหน้าแดงได้อย่างว่องไว สาวน้อยวริษาเกิดอาการเนียมอายขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงหน้าหล่อ ๆ ของพี่ก้อง สามีอันดับหนึ่งที่ครองใจเธอมายาวนาน ต่อให้มีเดือนคณะคนใหม่เข้ามา เธอก็ไม่เคยสนใจเพราะปักใจกับหนุ่มหล่อสไตล์โอปป้าคนนี้ไปแล้ว ขาวใส หน้าเนียนไร้รูขุมขนจนผู้หญิงยังต้องอาย แถมด้วยรอยยิ้มละลายใจที่ใครเห็นเป็นต้องตัวอ่อนระทวยทุกราย เธอไม่มีทางนอกใจพี่ก้องไปรักคนอื่นได้แล้วชีวิตนี้
“นี่ ให้มันน้อยหน่อยมั้ยแก” ปารารินเห็นอาการเอียงอายของเพื่อนแล้วนึกหมั่นไส้ “เมื่อไหร่จะเลิกมโนว่าเขาคิดอะไรกับแกซะทีวะ” เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนเสร็จก็หันมายืนเท้าเอวจ้องหน้าเพ้อฝัน
“เอ้าอีนี่ ดับฝันกันซะงั้น” สาวคงแก่เรียนถึงกับหลุดมาดความเรียบร้อย
“ก็จริงมั้ยเมิง...แค่เขามาร้านนี้บ่อย ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาชอบแกมั้ยล่ะ ร้านนี้มันอยู่ใกล้มอ แถมอิพี่ก้องของแกก็เป็นเพื่อนสนิทกับคุณชายปรินทร์ เลิกเพ้อเจ้อว่ะแก” ปารารินทำเสียงเหนื่อยใจ อยากจับไหล่เพื่อนเขย่าแรง ๆ ให้หลุดออกจากมโนบ้าบอนี่วันละหลายรอบ เธอฟังวริษาเพ้อถึงสามีมโนในสต็อคจนเริ่มคิดว่าเป็นเรื่องจริงไปแล้ว
นี่ถึงขนาดบางวันเดินไปเจอพี่ก้องควงสาวไปดูหนัง ปารารินยังเผลอเดือดร้อนแทนวริษาจนเกือบเข้าไปฉะกันมาแล้ว ดีที่ยั้งใจทันเพราะนึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นแฟนเพื่อนเธอแค่ในจินตนาการเท่านั้น!
นางเพื่อนตัวดีพอรู้เรื่องก็ได้แต่นั่งขำ ไม่ได้รู้สึกผิดเลยที่เอาอะไรมายัดเยียดใส่หัวเธอจนคิดเป็นจริงเป็นจังไปหมดแบบนี้
“เขาติดใจเสน่ห์ปลายจวักของฉันย่ะ” ยังไม่เลิกมโน และไอ้อาการอมยิ้มตาลอยแบบนี้ก็ทำให้ปารารินกลอกตาไปมาได้อีก
“หนอย...” ปารารินจิ้มนิ้วใส่หน้าผากเกลี้ยงเกลาแรง ๆ อย่างอดไม่ได้ “หล่อนเป็นผู้ช่วยเชฟมั้ยอิคุณฝน”
“ผู้ช่วยเชฟแต่ฉันก็มีโอกาสทำอาหารนะแก แถมพี่ก้องยังยิ้มให้ฉันตลอดเวลา...” ยังลอยหน้าลอยตาอวดสรรพคุณตัวเอง ก็ทุกครั้งที่เจอหน้ากันด้วยความตั้งใจให้เกิดเหตุบังเอิญของเธอ คุณพี่ก้องก็มักจะยิ้มให้ และทักทายกลับทุกครั้ง
“งั้นลูกค้าทุกคนที่นั่งอยู่ข้างนอกนั่นก็คงเป็นผัวแกหมดใช่ปะ ไม่ใช่ผัวแกคนเดียวนะ เป็นผัวฉันด้วยเพราะพวกนั้นก็ยิ้มให้ฉัน เค้าพูดคุยกับฉันแบบกระซิบกระซาบข้างหูเลยเนี่ย” จะไม่ให้กระซิบได้ยังไงก็ในเมื่อเสียงเพลงมันดัง สั่งอาหารแต่ละทีก็ต้องตะโกนสั่งใกล้ ๆ ถึงจะได้ยิน แบบนี้ก็แสดงว่าลูกค้าทุกคนคือผัวเรา...แบบนี้ก็ได้หรา
“หูย...แกก็ช่วยเข้าข้างฉันบ้างสิวะ” เจอเหตุผลของปารารินเข้าไปก็เล่นเอาหมดแรงมโนไปเลย วริษาทำหน้างอง้ำ
“ปล่อยพี่ก้องเขาไปเหอะวะ แกไม่สังเกตเหรอว่าหน้าเขาคล้ำไปเยอะเลยนะตั้งแต่แกมโนว่าเป็นเมียเขาอะ”
คนได้ยินอ้าปากค้างขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อนเธอคนนี้ทำไมมันเป็นคนจริงใจแบบนี้ สาวแว่นจอมมโนโคตรเซ็ง
“นังริน แรงไปมั้ยหล่อน ไม่เข้าข้างเพื่อนแถมยังดับฝันกันอีกเหรอวะ” วริษาจิกตาใส่จนปารารินอดขำไม่ได้
“ก็มันจริงนี่หว่า” ตอกย้ำเข้าไปอีก “แล้ววันนี้พี่ก้องควงใครมา น้องเมย์ปีหนึ่ง หรือพี่น้ำปีสี่” นอกจากจะหล่อติดอันดับหนุ่มฮอตของมหาวิทยาลัยแล้ว พี่ก้องยังขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ด้วย เรียกได้ว่าครบสูตรหล่อเลือกได้จริง ๆ
ภาพชินตาที่มักเห็นเป็นประจำคือสาวน้อยข้างกายแทบไม่เคยซ้ำหน้า ที่สำคัญไม่เคยมีใครได้รับตำแหน่งแฟนของหนุ่มโอปป้าคนนี้เลยตลอดสามปีในรั้วมหาวิทยาลัย พวกหล่อนเหล่านั้นเป็นได้แค่คู่ควงเท่านั้น และดูเหมือนว่าเพื่อนสนิทแต่ละคนของเขาก็ยังคงสถานะโสดสนิท ไม่ว่าจะเป็นเฮียปรินทร์ เฮียทานต์และเฮียปก ซึ่งคนหลังสุดนี่เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของปารารินเอง
ทั้งสี่หนุ่มกลุ่มนี้จึงเป็นเสมือนของล้ำค่าที่ใคร ๆ ต่างก็หมายปองอยากช่วงชิงเป็นเจ้าของ แม้ไม่ได้เป็นตัวจริงแต่ขอแค่เดินควงพวกหล่อนเหล่านั้นก็คุยอวดไปได้หลายเดือน
“ไม่ใช่ทั้งสองย่ะ วันนี้เขาพาพี่แนนมาเปิดตัว” วริษาตอบออกไปแบบเซ็ง ๆ เพราะไม่ใช่แค่เปลี่ยนคู่ควงใหม่ แต่วันนี้สามีมโนของวริษาเพิ่มความหล่อเลือกได้ด้วยการเปิดตัวว่าที่คู่หมั้น ซึ่งเธอได้ข่าวแว่ว ๆ มาระยะหนึ่งแล้ว เพิ่งได้เห็นตัวจริงก็วันนี้เอง
“แหม่ ดูทำเสียง...เหมือนเป็นเมียหลวงเขาอะเนอะ” ยังประชดประชันไม่เลิก ความจริงแล้วปารารินชอบใจที่เห็นวริษาสาวแว่นคงแก่เรียนให้ความสนใจเรื่องอื่นนอกเหนือจากตำราเรียนบ้าง จึงหยิบยกเอาสามีมโนของเพื่อนมาพูดจาหยอกเย้าเล่นเป็นเรื่องสนุกสนานคลายเครียด
“แกนี่ก็เหมือนมีความสุขบนความทุกข์เพื่อนอะเนอะ” วริษากลอกตาขึ้นฟ้า ก่อนจะทำเสียงกระแนะกระแหนกลับไปบ้าง ซึ่งก็ได้รับการลอยหน้าลอยตาแบบยอมรับข้อกล่าวหานั้นอย่างยินดีจากปารารินเช่นกัน
ขณะสองสาวกำลังหยอกล้อกันอยู่นั้น เสียงอึกทึกวุ่นวายพลันเงียบลงพร้อมถ้อยคำที่ลอยแว่วมาจากหน้าร้าน ส่งต่อกันมาเป็นทอด ๆ
“คุณชายมา...”
“บอสมา...”
“ทุกคนประจำที่...” เสียงผู้จัดการร้านสำทับอีกเป็นครั้งสุดท้าย เป็นอันรู้กันว่าช่วงเวลาต่อจากนี้ทุกคนพร้อมใจกันปฏิบัติหน้าที่กันอย่างแข็งขันได้แล้ว
เพียงไม่นานความวุ่นวายไม่ค่อยเป็นระเบียบก่อนหน้านี้ถูกจัดให้เข้าที่เข้าทาง พนักงานแต่ละคนต่างพากันขยับเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อย เสียงพูดคุยเงียบกริบเหลือไว้เพียงการขานออเดอร์อาหาร และคำสั่งของคุณเชฟใหญ่เท่านั้น
สองสาวนักเรียนมัธยมปลายในกลุ่มรุ่นพี่นักศึกษาก็พลอยต้องทำตามไปพร้อมกันเหมือนเป็นเรื่องปกติ
วริษานั้นเดินแยกเข้าห้องครัวไปแล้วตั้งแต่ได้ยินสัญญาณเตือนดังเข้ามาคำแรก
เหลือไว้แต่ปารารินซึ่งก็เตรียมเดินออกไปรับออเดอร์ลูกค้าหน้าร้านทันทีที่เห็นลูกค้าส่งสายตาเรียก
แต่แล้วฝีเท้าที่กำลังจะก้าวออกไปก็ชะงักอยู่แค่หน้าประตูกั้นส่วนหน้าร้านกับหลังร้าน เพราะสายตาเหลือบไปเห็นร่างใครคนหนึ่งเดินเคียงคู่มากับคุณชายจอมโหดในวันนี้...