Chapter.2 เจ้าสาวจำยอม

942 Words
Los Angeles./ลอสแอนเจลิส เด็กสาวชาวอิตาเลียนวัย18เลือกใช้ชีวิตอยู่ในลอสแอนเจลิส เมืองที่ดูวุ่นวายผู้คนพลุกพล่านมากมาย ร่างผอมบางสูงประมาณ175 เซ็นติเมตรสวมสเวตเตอร์สีเทา กางเกงยีนส์พับชายกับรองเท้าผ้าใบสไตล์เรียบง่ายสะพายเป้เดินไปเรียนเพียงลำพังเพราะวันนี้รูมเมทเธอไม่สบายนอนเป็นผักอยู่ในห้อง ใบหน้าสวยสดไร้เมคอัพเอาแต่ก้มหน้าเขี่ยหน้าจอมือถือสวมหูฟังเพลงและส่ายหน้าเล็กน้อยตามจังหวะดนตรีที่ก้องกังวานในหูแบบไม่สนโลก “อุ๊บบบส์” เธอเกือบจะชนกับเจ้าของรองเท้าหนังสีดำมันวับเข้าแล้ว ดีที่หยุดฝีเท้าได้ทัน และแน่นอน เธอรู้ว่าชายที่ยืนตรงหน้าจงใจจะมาหาเรื่องเธอ แต่ไม่ทันที่จะได้เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายได้เต็มตาก็โดนกระชากแขนโดยมีชายฉกรรจ์อีกสองคนช่วยกันลากเธอขึ้นรถลีมูซีนอย่างง่ายดายแบบที่ผู้คนบริเวณนั้นไม่มีใครทันสังเกตเห็น “นี่ พวกแกเป็นใคร!?” เธอตวาดแหวพลางก้มมองดูรอยแดงที่แขน เมื่อเหลือบสายตามองโลโก้เล็กๆสักตัวอักษรdarkไว้บนหลังมือของคนพวกนี้แล้วเธอจึงพ่นลมหายใจออกทางจมูกพร้อมกรอกสายตามองบนอย่างระอา ...พี่ชายคิดจะแกล้งอะไรเธออีกเนี่ย?!! ครืดดดดด เสียงสมาร์ทโฟนในมือเธอสั่นได้พอเหมาะพอเจาะ จึงไม่ชักช้าที่จะรับสาย “แม่คะ แม่คงรู้ใช่มั้ยว่าตอนนี้พี่ชายกำลังแกล้งหนูอยู่ จะพาหนูไปไหนก็ไม่รู้ หนูคิดว่าแม่คงจะโมโหเช่นกันที่พวกนี้กำลังจะทำให้หนูไปเรียนสายนะ!?” เมื่อรับสายมารดาเธอรีบรัวฟ้องแม่ทันควัน “หยุด ฟังแม่ ตอนนี้แม่มีเรื่องด่วนให้เราต้องทำ” “มันจะมีอะไรสำคัญไปกว่าการเข้าคลาสของหนูล่ะคะ ได้โปรดอย่าก้าวก่าย วันหยุดค่อยว่ากัน” “หยุด เลิกบ่น แล้วทำตามที่แม่บอกซะ นี่คือธุระที่สำคัญกว่าทุกอย่างทั้งสิ้น” “ทุกอย่างทั้งสิ้น..” เธอทวนเสียงแผ่วขบคิดตาม “ใช่ลูก สำคัญที่สุด ฉะนั้นนั่งเงียบๆไปกับพวกนั้น รับรองว่าปลอดภัยแน่นอน” “หึ ก็แน่สิ อุตส่าห์โทรมากำชับขนาดนี้” เธอยังโอดครวญแกมประชดผู้เป็นแม่ “โอเค เก่งมากสาวน้อย แล้วเจอกันที่อิตาลีนะ” เมื่อเครื่องบินส่วนตัวลงจอดลานกว้างด้านหลังตัวคฤหาสน์ตระกูลกลอส แม่ของเธอรีบจูงมือลูกสาววิ่งเข้าไปด้านในที่มีเหล่าคณาญาติจำนวนหนึ่งรออยู่ เธองงไม่น้อยแต่คงไม่สู้ผู้เป็นแม่ที่ดูรนรานมากกว่าจูงมือพาเธอวิ่งเข้าไปในห้องแต่งตัว ทันทีที่เธอเข้าไปไม่ได้เอ่ยถามได้เต็มประโยค ช่างแต่งหน้าทำผมประมาณห้าคนวิ่งกรูกันเข้าหาเธอโดยไม่สนคำปฏิเสธเธอเลย “เดี๋ยวๆ นี่อะไรคะแม่” เธอแผดเสียงหงุดหงิดถามมารดาอย่างประหลาดใจเมื่อสายตาสะดุดกับชุดเจ้าสาวฟูฟ่องสีขาวแขวนอยู่ตรงมุมห้อง “ขอโทษที่มันกะทันหันไป แต่แม่ต้องบอกลูกว่าวันนี้เราจะต้องแต่งงานกับคู่หมั้นที่ทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่งได้ตกลงกันไว้นะลูก” “ยังไงคะ?” หญิงสาวอ้าปากหวอขณะยักไหล่ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ใช่ มันเป็นความพอใจของผู้ใหญ่ แล้วไงล่ะ? แล้วเธอต้องแต่งหรือ?? ออ ใช่สิ เธอเกิดมาในตระกูลใหญ่มีอำนาจและธุรกิจมากมาย ไม่แปลกที่ผู้ใหญ่จะคิดแค่เรื่องธุรกิจมากกว่าเรื่องหัวใจ แต่ว่า ต้องถามเธอสักคำบ้างสิ แล้วที่สำคัญ เล่นจับตัวกันมาแต่งเสียดื้อๆอย่างนี้เลยหรือ “นั่งนิ่งๆจะได้สวยๆ วันนี้แม่รีบมากหลังเสร็จพิธีแล้วเราค่อยคุยกัน” “เกิดอะไรขึ้นคะ แล้วพี่ชายล่ะคะ พี่ไปไหน?" เธอนั่งบนเก้าอี้หันรีหันขวางมองมารดาที่สวมชุดเดรสราตรีสั้นแต่งหน้าทำผมสวยสะเด็ดยืนเม้มริมฝีปากน้ำตาคลอหน่วยพยักหน้าให้ ไม่สามารถรู้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แน่ๆคือเธอกลัว กลัวกับความชุลมุนที่ประสบได้แต่พยักหน้าตอบและยอมนั่งนิ่งๆแต่โดยดี เซเรน่า กลอส หรือซาร่าห์ ทายาทตระกูลมาเฟีย สวมชุดเจ้าสาวสีขาวแบบเกาะอกชายยาวลากกรุยกรายกว่าหนึ่งเมตรเดินควงแขนญาติผู้ใหญ่เข้าไปในโบสถ์เก่าแก่ใกล้บ้าน ใบหน้าสวยหวานแสดงแววตาตื่นตระหนกภายใต้ผ้าคลุมลายลูกไม้แอบปรายสายตามองผู้คนที่เธอเดินผ่าน สักขีพยานในพิธีสายฟ้าแลบตอนนี้จะเป็นผู้ชายไว้หนวดเคราและมีฟังชั่นก์เป็นปืนเหน็บเอาไว้ที่เอวเสียส่วนใหญ่ มันไม่ได้ทำให้เธอผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อยกลับเพิ่มความหวาดกลัวเป็นหลายเท่า มันเหมือนไม่ใช่งานแต่งเลยสักนิด ดูสีหน้าทุกคนสิ ดูเคร่งขรึมและระแวดระวัง ส่วนญาติผู้หญิงก็ยิ้มแบบที่เธอดูออกว่าแค่ฉีกมุมปาก เธอเกลียดสภาพแวดล้อมแบบนี้ที่สุด แต่ไม่อาจจะทำให้มารดาต้องผิดหวังจึงลอบถอนหายใจเบาๆก้มหน้าเดินต่อ เมื่อเข้าใกล้แท่นพิธีเธอแอบช้อนดวงตามองเจ้าบ่าวร่างสูงใหญ่เกือบ190เซนติเมตรยืนขยับโบว์ที่คอพร้อมยกยิ้มมุมปากให้เหล่าผองเพื่อนที่นั่งเรียงกันอยู่ แต่ทำไมไร้เงาของพี่ชาย? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่??
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD