ตอนที่ 1

1467 Words
ก่อนที่ลูกสาวจะออกจากบ้าน คุณเตือนอนงค์ได้ส่งเสียงเตือนตามหลังเพราะห่วง ที่ ชิดชลัยกำลังเล่นกับไฟ “ชลัย อย่าลูก เอาตัวเองไปเสี่ยง ถ้าพลาดมันจะเสียหายหนัก ผู้ชายพวกนั้น มันเสือผู้หญิงทั้งนั้น” ชิดชลัยนิ่งฟัง แต่นี่คืออาชีพ ไม่ทำก็อดตาย “หนูรู้ค่ะ จะระวัง แม่อย่าห่วงมากเลย” ตอบแล้วชิดชลัยในชุดเดรสสีครีม เตรียมพร้อมที่จะขับรถออกไปข้างนอก ท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกรุงเทพ ท้องถนนดูโล่งไปหมด สองทุ่มครึ่ง เวลานี้เธอคิดว่าคงจะไปถึงงานทันพอดี จุดหมายแรก งานเลี้ยงสังสรรค์สวยหรู ของชั้นไฮโซ หล่อนจะทำตัวให้กลมกลืน กับคนชั้นสูงโดยไม่เคอะเขิน อย่างที่ศึกษามาแล้วอย่างดีกับหนุ่มเจนสังคมก่อนหน้านี้ อาชีพทำให้เธอต้องพบปะกับคนเหล่านี้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบ” เจ้าของดวงหน้าเรียวยาวและหวานเจ้าเสน่ห์ แม้หล่อนจะแย้มริมฝีปากสีแดงเข้ม แต่งกายเข้ากับชุด หากแต่แววตานั้นเฉี่ยวดูมีเสน่ห์เหลือเกิน หล่อนรั้งรอท่าทีเพื่อให้อีกฝ่ายตอบ “เอ้อ ผมคมครับ ชื่อ คมกล้า” “ค่ะ ยินดีที่รู้จัก คุณคม” แววตาหล่อนเหมือนยั่วยวนในที “ดิฉัน ชื่อช่องิ้ว” “ว้าว ช่ออะไรนะครับ ช่องิ้ว ชอบปีนต้นงิ้วหรือเปล่า” ถามหล่อนเชิงเย้าแหย่ แต่ช่องิ้วชักสีหน้าไม่พอใจ ที่คำถามรวน และหยาบ “ไม่ชอบค่ะ ค่อนข้างเกลียดและขยะแขยง” ตอกกลับด้วยคำรุนแรง ฝ่ายหนุ่มนั้นไม่ยอม ต้องเอาใจสาว เพราะเธอเริ่มมีสีหน้าโกรธ “ผมพูดเล่น อย่าหน้างอสิครับ” “ใครหน้างอกัน คุณสิ พูดจาไม่รู้เรื่อง” สาวเจ้าเริ่มฉุนขึ้นมา และกำลังขยับเท้าเดินหนี แต่อีกฝ่ายคนเดิมก็เดินมาดักหน้า “ผม ขอโทษ ที่ทำให้คุณโกรธ แต่ผมประทับใจคุณมาก คืนนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนสวยสะเด็ดเท่าคุณเลย” “งั้น ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ อ้อ ดิฉันเคยได้ยินชื่อเสียงคุณคมมาบ้างแล้วล่ะ” หนุ่มรายเดิมยิ้มอีก มิเสียแรงที่เขาสนใจเธอ และเธอคงสนใจเขาเช่นกัน “ยินดีอย่างมาก ตอนนี้คุณรู้จักผมแล้วนะ” เหมือนตีขลุมเข้าข้างตนเอง “งั้น ขอเชิญนั่งเป็นเพื่อนกับผม” คมกล้าผายมือเชิญหล่อน กันยิตารู้สึกว่าเขาไม่คิดจะแคร์หล่อนเลย คมกล้าทำแบบนี้กับหล่อนเลยหรือ เขาให้ผู้หญิงร่างระหงงามคนนั้นมานั่งเคียงข้าง ตัวเขา โดยไม่ตะขิดตะขวงใจสักนิดว่า หล่อนอยู่ด้วย คำให้เกียรติแทบไม่มี หล่อนกลายเป็นส่วนเกินของคมกล้าไปแล้วหรือนี่ ช่องิ้วหรือชิดชลัยทรุดนั่งอย่างเรียบร้อย หล่อนไม่มองมาทางผู้หญิงอีกคน แล้วเริ่มคุยกับเขาอย่างสนิทสนมจนออกรส ราวกับว่าไม่มีร่างของผู้หญิงกันยิตาอยู่ตรงนั้นเลย ทำให้กันยิตาร้อนรุ่ม และพล่านไปหมด แววตาบึ้งตึง สาดมาทางช่องิ้วเหมือนหาเรื่องแกมเยาะเย้ย แต่ช่องิ้วสงบ รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ช่องิ้วไม่พะวงหรือแคร์กับสายตาที่จ้องมองหล่อนด้วยริ้วริษยาดวงหน้าที่หวานคม นิ่ง ตรึกตรองซ่อนสิ่งบางอย่างแนบเนียน “ทราบชื่อของคุณมานานแล้ว ไม่นึกว่าจะได้พบเจอตัวจริง” เสน่ห์หล่อนเปล่งประกายเหลือเกิน กิริยาท่าทางนั้น สายตาของคมกล้าจ้องมองด้วยแววตาที่กะลิ้มกะเหลี่ย เหมือนปรารถนาในดวงตาอย่างแรงกล้า “ขอบคุณอีกครั้งค่ะ” น่าเสียดาย คมกล้า อยากจะกระโดดเข้าใส่หล่อนตามประสาผู้ชายเจ้าชู้ เขาชะงัก ช่องิ้วไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ที่จะทำแบบนั้นได้ หล่อนมีความพิเศษ ชิดชลัยก้าวเท้าเพื่อจะออกห่างจากผู้ชายคนนี้ แต่เธอไม่ทันระวัง มีร่างสูงเดินมาพอดีทำให้ปะทะจนร่างของเธอเกือบทรุดพื้น ดีที่เขาคนนั้นประคองคว้าไว้ทัน “ขอบคุณค่ะ” ภูอนลหยุดนิดหนึ่ง ดวงตานั้นขรึม ค่อนข้างหน้าตาดี ดูผ่าเผยองอาจ ผิวเป็นสีแทน เขาเป็นใคร.. “เอ้อ ผมต้องขอโทษเช่นกัน” เขาเอ่ย ครั้นกวาดตามอง โต๊ะตรงหน้า มีร่างของคมกล้ากับกันยิตานั่งอยู่ สายตาภูอนล มองร่างบางระหงด้วยแววตาเฉยชา เขาไม่สนใจในเรื่องของวงการ พวกดารานางแบบ ทำแต่งาน บ้าแต่งาน “คุณเป็นอะไรมากมั้ย” แต่ก็ถาม เนื่องจากกลัวบาดเจ็บ “ไม่ค่ะ แต่ขอบคุณที่รับไว้ทัน ไม่งั้น ฉันคงขาเคล็ดแน่” “ทีหลังก็เดินให้ระวังหน่อยสิครับ” ถามเหมือนตำหนิ แต่ชิดชลัยก็โทษตัวเอง “คุณชื่อ” “ชิดชลัยค่ะ หรือจะเรียกว่า ช่องิ้วก็ได้” “ทำไม ชื่อช่องิ้ว” เขาถามด้วยแววตาที่ขมวดตาม “ชื่อ ที่ใช้ทำงานค่ะ” “คุณทำงานอะไร” เขาถามอีก ชิดชลัยนิ่งหล่อนกระดากปากที่จะตอบเขาตรง “ไม่กล้าบอกใช่มั้ย เป็นความลับ” “ค่ะ” “เป็นอาชีพที่ไม่มีใครอยากรู้จัก” “งั้นสักวันผมคงจะรู้” ภูอนลกล่าวติดตลก ก่อนจะขยับฝีเท้าจากไป เพื่อตรวจตราดูความเรียบร้อยของสถานที่ เหมือนจะเป็นงานที่เขารับมอบหมายมา เพราะเกรงการป่วนจากผู้ไม่หวัง แต่งานวันนี้ น่าจะผ่านพ้นไปด้วยดี ชิดชลัยเผลอมองตามหลัง ใบหน้าของเขาคมคายหล่อเหลาอย่างที่สุด จากนั้นหล่อนปราด มายังรถส่วนตัวที่จอดเอาไว้ เ แต่ใจต้องเต้นแรงอีกครั้ง เมื่อรูปร่างสูงโปร่งที่คมเข้มและสง่า ยืนอยู่ตรงหน้าหล่อน เป็นรถเก๋งสีบรอนซ์ทอง “ควานหาอะไร หรือคะ” เขาหันหน้ากลับมา ซึ่งเขาเหมือนค้นหาอะไรสักอย่างในรถ ควานคว้าจนทั่วและแน่ใจว่า ไม่มี “ผมคงจะลืมมือถือไว้ข้างใน ขอตัวก่อน” ร่างสูงเลยปิดประตูรถสนิทตามเดิม ก้าวไปหายังโต๊ะ ที่เขานั่ง ซึ่งเป็นกลุ่มนักธุรกิจด้วยกัน มือถือที่วางทิ้งไว้ ยังอยู่ที่เดิม จึงหยิบกลับมา แล้วเดินกลับไปที่รถ แต่ปรากฏว่าหล่อนไม่อยู่แล้ว อยากรู้จักมากกว่านี้จะต้องทำไงล่ะ ภูอนล เขาไม่ชอบการเฮฮากับสุราเมรัยสักเท่าไหร่ ยังอยู่ที่เดิม และแขกคนหนึ่งเดินมาลาเขาเพื่อเดินทางกลับ เห็นว่าจวนดึกแล้ว พรุ่งนี้มีงานต้องทำต่อ ภูอนลเห็นว่าเขาสมควรกลับไปพักผ่อนเช่นกัน เมื่อเขากลับมาเอา และเมื่อได้คืนแล้ว ก็ล่ำลาสหายเพื่อนสนิท เดินมาทางนี้ก็พบว่า ก้าวมาทางนี้ มีสายตากราดมองจ้องเขา จากคนทั้งคู่ ที่ดูเหมือนจะไม่เป็นมิตร คมกล้ารู้สึกไม่พอใจ เขาเห็นภูอนลปะทะคารมกับผู้หญิงของเขา ที่เขาหมายจองตั้งแต่เห็นทีแรก “โลกมันกลมเหลือเกินไอ้ภู แกอยู่ในงานนี้เหมือนกัน ฮึ ถึงทำให้บรรยากาศความสุขของฉันมันกร่อยลง” น้ำเสียงนั้นพาลหาเรื่อง แต่คนถูกบ่นใส่นิ่งขรึมเช่นเดิม เหมือนไม่ได้สนใจ มากกว่าหน้าที่ที่ได้รับ คือช่วยเป็นหูเป็นตาแขกในงาน จนงานเลี้ยงในวันนี้จบสิ้น ภูอนลเป็นลูกเลี้ยงของเจ้าของบริษัท ที่แม่ของเขาได้แต่งงานใหม่หลังบิดาเสียชีวิต วาจาร้ายแววตาริษยาของคมกล้า ภูอนลรู้ว่าเป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูล หาญสุริยเดช หลานสามีของมารดา กระด้างกระเดื่องไม่ยำเกรง ตั้งแต่เห็นครั้งแรก “ถ้าไม่พอใจ แกรีบออกจากงานนี้สิ ฉันทำตามหน้าที่” น้ำเสียงตอกกลับ คมทั้งคำพูดแววตา จนทำให้อีกฝ่ายออกอาการร้อนรน “แก ทำเกินหน้าที่ด้วยซ้ำ แล้วเมื่อกี้ แกไปยุ่งอะไรกับผู้หญิงคนนั้น” เมื่อถามถึงผู้หญิงคนนั้น” “คนไหน” ถามหยั่งเชิง รอท่าทีอีกฝ่าย “คุณช่องิ้ว” ทำให้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้น” เป็นของ คมกล้า จริงหรือเท็จไม่รู้เหมือนกัน ตีขลุม เป็นนิสัยของคมกล้าอยู่แล้ว เพื่อทำให้ตัวเองดูเด่น “พูดออกมาสิ ฉันทำอะไรผิดตรงไหน” เสียงดังขึ้นอย่างไม่เกรงอีกฝ่าย เหมือนแรงมาก็พร้อมจะแรงไป ยิ่งตอกย้ำเดือดจัดในสีหน้าของคมกล้า มากกว่าเดิม “แกเข้าไปอี๋อ๋อกับคุณงิ้วนั่นไง ฉันประกาศให้รู้เลย ผู้หญิงคนนี้เป็นของฉัน” “ผู้หญิงคนนั้นวิเศษวิโสแค่ไหน ถึงขนาดฉันจะต้องอยากรู้จักเหมือนแก” กระแทกเสียงใส่คนตรงหน้าแบบไม่ไว้หน้าอีกครั้ง “คนอย่างฉันไม่มีเวลามานั่งมองจ้องขาอ่อนผู้หญิงจนตาค้างเหมือนใครบางคนหรอก ไร้สาระ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD