“ไปอาบน้ำเสียหน่อยจะได้ดูสดชื่นขึ้น”
“ไม่ออกไปไหนใช่มั้ยลูกวันนี้”
“ไม่หรอกค่ะ ช่ออยากจะพักบ้างแม่”
“ดีแล้วทำงานตรากตรำหนัก ก็ไม่ดีนักหรอก สุขภาพของเราเงินไม่ได้มีความสำคัญมากมายเท่ากับสุขภาพ”
อาบน้ำเสร็จ เปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่ค่อยดูสวยน่ารักแบบเดิม เนื้อตัวก็หอมกรุ่น คุณเตือนอนงค์มองลูกสาวตรงหน้า หลังจากชิดชลัยทานข้าวต้มกุ้งจนหมดชามเพราะหล่อนหิว แล้ววางช้อนเปล่าไว้บนถ้วย
“เอาอีกมั้ย ท่าทางจะหิว”
“ไม่หรอกค่ะแม่ พอแล้ว เดี๋ยวได้อ้วนตายพอดี รู้ไหมคะงานแบบนี้ของหนูหุ่นก็สำคัญด้วย หุ่นไม่ดีใครเขาจะจ้างล่ะคะ”
คุณเตือนอนงค์ยิ้มในความช่างพูดของบุตรสาว นางเป็นม่ายสามีตายเมื่อหลายปีแล้วมีลูกสาวคนเดียวก็มาด่วนเสียชีวิตก่อน ชิดชลัยที่เป็นลูกบุญธรรม รับมาจากญาติเพื่ออุปการะหลังจากที่แม่ของเด็กถูกรถชนเสียชีวิต ส่วนพ่อดูเหมือนจะป่วยตายอีกคน
นางเตือนอนงค์ไม่อยากให้ลูกสาวรู้เรื่องนี้ ถึงกับปกปิดมาตลอด
“แม่คะรู้ไหมว่า ช่อกำลังเข้าใกล้คนในตระกูลปัญจดิลกแล้ว รับรองเสร็จช่อแน่ ช่อจะเอาคืนคนตระกูลนี้แบบทบดอกทบต้นเลย”
ชิดชลัยเอ่ย
นางเตือนอนงค์รับฟัง แต่ตกใจจนยกมือทาบอก ชิดชลัยยังไม่รามือในเรื่องนี้ มุ่งมั่นจะแก้แค้นให้ได้
“เรื่องของพิ มันผ่านไปนานแล้ว แม่อยากให้ช่อลืมมันเสีย”
“ลืมมันไม่ได้หรอกค่ะแม่ ยังไงพี่พิเป็นพี่สาวหนู พวกมันจะต้องชดใช้” ตอบพร้อมประกาศเสียงกร้าว
การห้ามชิดชลัยเป็นเรื่องยาก ฝังหัวแบบนั้น ถ้าลูกสาวเบื่ออาชีพนี้ก็เลิกเสีย
ใครคนหนึ่ง โทรมาหาหล่อนช่วงบ่ายสองโมง ด.ร ฉายกริช
“พี่กริช”
“ช่อทำอะไรอยู่ล่ะ ออกไปทำงานข้างนอกหรือเปล่า”
ด.รฉายกริชอีกคน ที่รู้ว่างานของหล่อนเป็นอย่างไร
“ค่ะ พี่กริช ขอบคุณที่ห่วงใยค่ะ”
“ไม่ให้พี่ห่วงช่อ จะให้ห่วงใคร”
“ห่วงสุขภาพของพี่บ้างนะคะ ทำแต่งาน เวลากินก็ไม่เป็นเวลา”
ก็เป็นอย่างนั้นจริง ฉายกริชยอมรับ
ธวินดาคือ ผู้หญิงคนนี้ นัดหล่อนให้ไปเจอที่ร้านอาหาร ชิดชลัยขับรถมายังจุดนัดพบ
"ช่องิ้ว ใช่ไหม"
หล่อนในนามของช่องิ้ว
"ค่ะ คุณ" เมื่อหล่อนซักอีกฝ่ายกลับ
"คนที่นัดเธอมาไง"
"คุณธวินดา"
"เรียกฉันว่าวินดี้ดีกว่า"
"ค่ะ คุณวินดี้ คุณจงกลณีเป็นคนบอกแล้วค่ะ"
“เธอจะต้องทำให้ยศฐารักเธอให้มากๆ แล้วเกนสุริยงจะหึงขึ้นหน้า นี่คือหน้าที่ของเธอ”
ธวินดาสาวใหญ่ อายุมากกว่าเธอสี่ปี ดูพราวพริ้งวางตัวเหมือนผู้ดีปากตลาด อ่านยาก ดูเรียบ ก็จริง แต่ดูน่ากลัวไม่น้อย
แต่ชิดชลัยทำงานตามหน้าที่ ไม่ได้อยากจะรู้เรื่องมาก ข้อมูลที่หญิงสาวตรงหน้าบอก ต้องทำอะไรบ้างในฐานะผู้รับงาน
"เธอโอเคดีมั๊ย"
"หมายความยังไงคะ โอเค" ชิดชลัยมองหน้าฝ่ายนั้นก่อนตอบ
"เธอจะต้องทำให้เกนสุริยาผละออกจากยศฐาให้ได้ เพราะน้องสาวของฉัน มีที่หมายดีกว่าไอ้แมงกะจั๊วะตัวนี้"
เป็นเหตุผลที่ชิดชลัยเริ่มเข้าใจว่า ทำไมงานนี้หล่อนจะต้องทำแบบนี้ เพิ่งรับรู้ด้วยว่า เกนสุริยงนี่เป็นน้องสาวของคุณธวินดา
ทำไม ผู้ชายอย่างยศฐามีดีมากงั้นเหรอ เกนสุริยงถึงหลงหัวปักหัวปำขนาดนั้น ชิดชลัยไม่เคยพบผู้หญิงชื่อเกนสุริยงด้วยซ้ำ ฟังจากปากของคุณธวินดา ที่เป็นพี่สาว คงจะร้ายกาจไม่น้อย
งานของหล่อนนั้นชวนให้หนาวๆ ร้อนๆ เฉียดความตายได้เสมอ น้ำกรดหรือปืน หากอีกฝ่ายไม่พอใจ มุทะลุด้วยอารมณ์ หล่อนอาจไม่รอดตาย อย่างที่เป็นข่าวทุกวัน ล้วนมาจากความเข้าใจผิดรักๆใคร่ๆ
ยศฐาไม่ได้ดีในสายตาของหล่อนเลย ไม่รู้ว่าเกนสุริยงรักชอบได้ยังไง เขาพยายามจะก้าวล่วง ด้วยการพยายามจับมือหล่อนแล้วโอบกอด แต่ชิดชลัยรู้ตัวทัน หล่อนเบี่ยงตัวพ้นและห้ามเขา
คงไม่ถามผู้ว่าจ้างเพราะหล่อนทำได้ตามสิทธิ์ของหล่อน ส่วนเงินนั้นถูกโอนเข้ามาในบัญชีธนาคารแล้ว”
รัชนินทร์เหมือนลูกไก่ในกำมือของหล่อน หนุ่มน้อยนั้นเห็นท่าว่าจะลุ่มหลงหล่อนเข้าแล้ว
นี่ละคือผลงานที่หล่อนจะตามไปเย้ยไยไพคุณประอรศรีถึงที่ คงจะเนื้อเต้นหรือสั่นเป็นเจ้าเข้าอย่างแน่นอน ถ้าได้รู้ว่า บุตรชายคนโปรดกลายเป็นแฟนของหล่อนไปแล้ว
หล่อนไม่อยากจะทำอย่างนี้หรอก หล่อนไม่ได้รักเขา และก็ไม่คิดจะเบียดเบียนให้เขาทรมานเพราะความรัก แต่หล่อนจะใช้เขากรุยทางเป็นเครื่องมือในการสืบหาต้นตอที่แท้จริง ว่าใครทำให้พิกันดาตายไปจากโลกนี้
หล่อนอยู่ใกล้เสือหิวโหยตลอดเวลา มักมากในกาม คนภายนอกอาจคิดว่าหล่อนง่าย เพราะทำงานแบบนี้ แต่เอาเข้าจริง หล่อนไม่ง่ายหรอก ผู้ชายที่แม้จะได้เข้ามาพัวพันใกล้ชิด แต่พวกเขาไม่เคยสัมผัสล่วงเกินล้ำถึงสิ่งหวงแหนหล่อน แค่การจับไม้จับมือเท่านั้น มีโอบกอดบ้าง
มันอยู่ในเงื่อนไขอยู่แล้ว ผู้หญิงที่มีอาชีพเป็นนางกลางงิ้วอย่างหล่อน มือที่สาม
คำนึงถึงผลกระทบร้ายแรง จากการกระทำของหล่อน ชิดชลัยไม่อาจจะปฏิเสธ ครอบครัวของเขา คนที่รัก ลูกเมียอีก หล่อนทำบาปกรรม
มันเจ็บปวดเหมือนกัน แต่ก็พยายามเลี่ยงให้ได้ที่สุด แต่ก็มีคนปล่อยข่าวเหมือนกัน ว่าชิดชลัยง่าย และหล่อนมั่ว นอนกับผู้ชายจนเกลือกกลั้วไม่รู้หน้า
นั่นก็ผิด หล่อนไม่ได้ตามไปแก้ข่าว เพราะรู้ดีว่า มันไม่ใช่ความจริง ต้องมีใครสักคนที่ตีสีเรื่องนี้เพื่อให้มันดัง เพื่อผลประโยชน์เท่านั้น
จริงๆ แล้วงานแบบนี้ร้ายกาจนัก ไว้ใครไม่ได้ซ่อนเหลี่ยมเล่ห์กล แม้คนที่แสนดีมีเมตตาอาจจะซ่อนความร้ายกาจไว้ข้างใน ชิดชลัยเดินมาในจุดนี้แล้วหล่อนรู้ดี
ชิดชลัยไม่รู้ตัวเลยว่าว่าขณะก้าวจากไปนั้น สายตาของผู้หญิงดังกล่าวยัง ปรายตาหันมองร่างระหงของหล่อน ด้วยสายตาที่ยิ้มเยาะมุมปาก รับโทรศัพท์อีกครั้ง คนที่โทร.มาคือ ลูกชายของคุณประอรศรี
ถามกับหล่อนด้วยสีหน้าตื่นเต้นและร่าเริง
"คุณช่อทำงานอยู่หรือเปล่าครับ คิดถึงจังเลย"
"อุ้ยปากหวานจัง ค่ะ ช่อทำงานอยู่ เสร็จพอดีค่ะ แล้ว คุณต่อล่ะ"
"เสร็จจากคาบเช้า ตอนนี้กำลังจะกลับบ้าน คิดถึงคุณช่อ เลยโทร.มาหา"
รัชนินทร์เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีที่สอง
"เหรอคะ แล้วจะไปไหนต่อ" หล่อนชวนคุยและแววตาก็ครุ่นคิดหาทางบางอย่าง
"เอ้อ ไม่รู้จะไปไหนดีครับ กลับเข้าบ้าน"
รัชนินทร์ตอบ
"ไม่เบื่อบ้างหรือคะ เข้าบ้าน ก็จำเจซ้ำซาก"
"ครับ เบื่อ แล้วจะทำยังไง คุณแม่ก็คอยเข้มงวดตลอด นึกเบื่อ"
หล่อนเข้าใจเขา ชิดชลัยไม่มีงานต่อเสียด้วย งานของหล่อนเป็นไปตามลีลาและจังหวะ อย่างที่เรียกช็อตเด็ดๆ เหมือนกับแสดงละคร แต่หล่อนต้องตีบทให้แตก
"ทานข้าวแล้วยังคะ"
"ยังเลยครับ" เขาตอบกลับมา
"งั้นหาอะไรทานกันมั๊ยคะ เจอช่อที่"
หล่อนบอกชื่อร้านอาหาร เขายิ้มกริ่มตอบตกลง
"ครับ ผมจะรีบไป"
อีกคนที่เขาโทร.มาหาหล่อน หลังจากที่วางสายกับรัชนินทร์ รู้สึกว่าช่วงนั้นจะมีสายซ้อนขึ้นมา ชิดชลัยเหลือบสายตา ปรากฏว่าเป็นของคมกล้า ที่เขาพยายามตื้อหล่อนทุกวิถีทาง โทร.มาบ่อยจนหล่อนรำคาญ และไม่รับสายของเขาดื้อ
แต่คราวนี้หล่อนจำต้องจำยอมรับอีกครั้ง ตั้งใจจะพูดกับเขาให้เด็ดขาดไปเลย
เขาโทร.มาต่อว่าหล่อนอีก หลังจากที่หล่อนรับสายและได้คุยกับหล่อน
"คุณช่อ ทำไมไม่ยอมรับสาย ผมติดต่อไปคุณก็เงียบ ผมอยาก"
แทนที่จะปล่อยให้พูดจบ หล่อนตอบในทันที
"ช่อมีงานด่วนค่ะ ไม่ว่างเลย ต้องขอโทษและขอตัวนะคะ" หล่อนปิดมือถือในทันที