ตอนที่ 8

1123 Words
และวันนี้ก็เช่นเดียวกันที่เขาสัญญาว่าจะพาเธอนั่งเรือออกไปเที่ยวตามเกาะในทะเลแถวอุทยานหาดนพรัตน์ธารา หญิงสาวนั่งรอเขาตั้งแต่เช้าจนเวลาล่วงเลยมาถึงบ่าย เมลิดาเผลอหลับไปบนเก้าอี้หวายตัวกลมใหญ่และลืมตาตื่นอีกทีเมื่อรู้สึกว่าริมฝีปากของเธอกำลังถูกล่วงล้ำจากลิ้นหนาที่ค่อย ๆ ดุนให้เรียวปากบางเผยอออก             “คุณภูมิ!......”             หญิงสาวตื่นตัวเต็มที่เมื่อร่างหนาของเขากดทับลงบนร่างบาง เจ้าของร่างสูงใหญ่โปรยยิ้มในขณะกอดเธอไว้ในอ้อมแขน             “ผมจะพาคุณเมย์นั่งเรือเที่ยวชมทะเลด้านนอก ที่นี่มีเกาะสวย ๆ หลายแห่ง คุณเมย์จะต้องประทับใจมาก ๆ “             “แต่นี่มันบ่ายไปแล้วนะคะ เราคงไปได้ไม่กี่แห่ง”             “ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ อย่างน้อยที่สุดก็จะได้ชมบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตกน้ำในทะเล ถ้าคุณเมย์เห็นคุณเมย์จะรู้ว่ามันสวยมากแค่ไหน”             หญิงสาวไม่ปฏิเสธความเห็นของเขา ภูมิพาเธอมุ่งหน้าไปยังท่าเรือที่อ่าวนางซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกประมาณหกกิโลเมตรโดยขับรถยนต์แล่นเลียบไปตามถนนริมหาดซึ่งเต็มไปด้วยที่พัก ร้านค้าและบริษัทนำเที่ยว เมลิดามองเห็นภูเขาหินปูนตั้งตระหง่านบนเส้นทางที่เธอผ่านไปและหลายครั้งก็อดไม่ได้ที่จะหันมองใบหน้าหล่อเหลาด้านข้างของผู้ที่อยู่หลังพวงมาลัยซึ่งหันมายิ้มกับเธอบ่อยครั้งโดยมือข้างหนึ่งของเขาวางลงบนหน้าขาของหญิงสาวราวกับจะบอกว่าเธอจะมีเขาเช่นนี้ไม่ไปไหน             “คุณภูมิขับเรือมานานแล้วหรือคะ ดูชำนาญมากเลย”             เมลิดาร้องถามชายหนุ่มแข่งกับเสียงคลื่นเมื่อเขาพาเธอนั่งเรือไฟเบอร์ขนาดหนึ่งเครื่องยนต์แล่นห่างออกจากฝั่งมุ่งไปทางทิศตะวันออก             “ไม่นานเท่าไหร่แต่ก็ไม่ใช่เวลาสั้น ๆ หรอกครับ”             หญิงสาวมองเขาบังคับเรือให้แล่นฉิวไปบนผิวน้ำสีเขียวมรกตที่มีคลื่นเคลื่อนตัวเข้ามาปะทะอยู่ตลอดเวลา เธอนั่งหลบแดดบนที่นั่งภายในเรือข้างคนขับ แม้อากาศไม่ร้อนจัดแต่ไอแดดผสานกับละอองน้ำเค็มและลมแรงก็ทำให้รู้สึกผะผ่าวบนผิวขาวเนียน ชายหนุ่มหันมองดวงตากลมโตบนใบหน้าสวยหวานซึ่งล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีน้ำตาลไหวลู่ไปตามสายลมที่พัดพาเข้ามาปะทะด้วยความรู้สึกบางอย่างที่กำลังดันตัวเองขึ้นมาอยู่เหนือเจตจำนงใต้จิตสำนึก ความงามและความสดใสนั้นสะกดความตั้งใจอันรุนแรงที่ปรารถนาจะทำแต่แรกให้ลดถอยกลับไปอยู่ในส่วนลึกที่เคยรุ่มร้อน เมลิดาไม่เคยมีใครจริงหรือ?......ผู้หญิงสวยสะคราญที่มีความงามมัดใจชายได้เช่นนี้ไม่เคยแม้แต่จะแลกจูบกับใครเลยกระนั้นหรือ? ทำไมเขาต้องตั้งคำถามกับตัวเองในเรื่องของเธอไม่หยุดไม่หย่อน เขาไม่ได้ตั้งใจจะนึกสงสัยอะไรในตัวเธอตั้งแต่แรกเพราะคำถามคือกับดักในเงามืดที่อาจล่อให้ผู้สงสัยฝ่าลึกเข้าไปสู่ทางอันซับซ้อน ยิ่งเขามีคำถามเกี่ยวกับเมลิดามากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องหลงเข้าไปใต้หลืบเงานั่นและอาจพลัดตกลงไปในหลุมเสน่ห์ของเธอจริง ๆ เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะค้นหาเธอ ความตั้งใจมั่นที่มีในครั้งแรกต่างหากที่จะคอยเตือนให้เขาก้าวล่วงไปจนถึงที่หมาย             “นั่นเป็นหาดไร่เลนะครับ สวยมาก ๆ แถวนี้มีเกาะตั้งแปดสิบกว่าแห่ง คุณเมย์ต้องอยู่ที่นี่สักปีถึงจะเที่ยวได้หมด”             “ก็ไม่แน่นี่คะ เมย์อาจต้องอยู่นานอย่างคุณภูมิว่าจริง ๆ ก็ได้”             เจ้าของนัยน์ตาแสนหวานหันมามองชายหนุ่มและนั่นทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในอารมณ์ที่เจ้าของร่างสูงใหญ่เพียรบังคับให้มันสงบนิ่ง เขาอดที่จะมองริฝีปากสีชมพูเคลือบกลอสแวววาวนั้นไม่ได้ ร่องรอยสัมผัสอันนุ่มนวลยังคงติดตรึงอยู่ในความรู้สึกนั้นและดูเหมือนว่ามันยังไม่พอเพียงต่อความปรารถนาที่ยิ่งนับวันจะรุนแรงมากขึ้นทุกที             “คุณภูมิดูสิคะ.....มันสวยมากอย่างที่คุณภูมิบอกเมย์จริง ๆ “             เมื่อแดดร่มลมตกเมลิดาจึงออกไปที่หัวเรือซึ่งมีที่นั่งปูเบาะสีครีม คนขับเรือพาเธอไปยังเกาะต่าง ๆ ฝ่าคลื่นในห้วงมหาสมุทรที่พลิ้วไหวไม่เคยหยุดนิ่งจวบจนแสงตะวันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มจางลอดผ่านม่านเมฆที่คลี่ตัวเบื้องบนสาดกระทบท้องน้ำคล้ายสีของมรกตและบุษราคัมส่องประกายออกมาจากใต้ท้องคลื่น หญิงสาวรู้สึกว่าเขาพาเรือออกมาไกลจนไม่เห็นฝั่ง แม้เครื่องยนต์ถูกดับลงสนิทหากเธอก็มิได้รู้สึกอ้างว้าง แม้เรือถูกปล่อยให้ลอยเคว้งอยู่เหนือระลอกน้ำกระเพื่อมไหว ชายหนุ่มเดินตามออกมาที่หัวเรือพลางสอดแขนแข็งแรงกอดเธอจากด้านหลัง             “คุณเมย์คงไม่เคยเห็นสิ่งที่สวยงามแบบนี้”             “ค่ะ....เมย์ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ มันบริสุทธิ์มาก มันเงียบสงบ กว้างใหญ่ และทำให้เมย์รู้ว่าธรรมชาติยิ่งใหญ่กว่าตัวเราที่เล็กนิดเดียว”             “ใช่ครับ....มันทั้งปกป้องและทำลายล้างมนุษย์ในเวลาเดียวกัน ทะเลยิ่งสงบ ก็ยิ่งน่าหวั่นกลัว”             เมลิดาหมุนตัวหันหน้าหาชายหนุ่ม รอยยิ้มละมุนยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าความอ่อนหวานตรงหน้านั้นน่าหวั่นเกรงกว่าคลื่นโหมลมแรง “คุณภูมิอยู่กับทะเลมากกว่าเมย์ ยังไม่ชินกับมันอีกหรือคะ?”             “มีคนบอกผมว่าอย่าไว้วางใจอะไรให้มันมากนัก ยิ่งเราวางใจมันมากเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะตายเพราะมันก็มากเท่านั้น ผมว่าคำพูดนี้ไม่น่าจะเอามาใช้กับทะเล น่าจะใช้กับคนดูเหมาะสมกว่าเพราะการที่เราไว้วางใจใครมากเกินไป บางทีเขาอาจจะฆ่าเราให้ตายโดยไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ”             “งานที่เมย์ทำก็สอนเมย์นะคะ....เอ้อ....พนักงานบริษัทน่ะค่ะ ไม่มีใครจริงใจกับเรานอกจากตัวเราเอง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD