หลังจากที่ยลดาตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะไปทางใด จะไปอยู่ที่ไหน จะหันหน้าไปพึ่งใคร ชีวิตไร้จุดหมาย ชีวิตที่ไม่มีใคร ไม่มีใครต้องการ แม้แต่แม่ยังรักคนอื่นมากว่าลูกในไส้อย่างเธอ
ยลดาเดินไปเรื่อยๆ ด้วยความปวดใจอย่างไร้จุดหมาย ในมือถือกระปุกออมสินรูปหมาน้อยสีขาว กอดมันไว้ราวกับเป็นที่พึ่งสุดท้าย เพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกโดดเดี่ยว
เธอเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า ค่อยๆ นั่งลงแถวท่ารถโดยสาร ดวงตาคู่กลมที่เอ่อรื่นไปด้วยหยาดน้ำใสกวาดมองไปรอบๆ ผู้คนมากมาย แสงสียามค่ำคืนที่ดูคึกคักไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกที่โดดเดี่ยวในใจของเธอดีขึ้นเลย
"หัวหิน...หัวหิน ประจวบครับ รถจะออกแล้ว" เสียงวินรถตู้ร้องเรียกลูกค้า
เด็กสาวที่กำลังนั่งคิดไม่ตกกับชีวิตตัวเอง เธอเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงนั้น เธอนึกถึงเพื่อนของเพื่อนคนหนึ่งที่เปิดกิจการห้องพักรายวันที่ชายหาดหัวหิน ได้รู้จักกันเมื่อครั้งที่ไปเที่ยวหัวหิน จึงไม่รอช้า
"รอด้วยค่ะ" ยลดาตัดสินใจขึ้นรถตู้คันนั้นทันที
เมื่อขึ้นมานั่งบนรถเธอก็ส่งข้อความหาเพื่อนเพื่อขอเบอร์ติดต่อเพื่อนคนนั้น และเป็นโชคดีที่รถตู้คันนี้ต้องไปส่งผู้โดยสารที่ห้องพักนี้พอดี
"พี่ยูมิใช่ไหม" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นในขณะที่ยลดายืนชะเง้อมองหาเพื่อนคนนั้น ที่ห้องพักสำหรับเช่ารายวัน
"ใช่ๆ" ยลดารีบตอบในพลัน
"หนูแจมนะ พอดีพี่แยมไปชุมพรกับแม่กว่าจะกลับก็คงจะดึก ก็เลยให้แจมมารอรับพี่ยูมิ" แจมเอ่ยบอกอย่างเป็นมิตร
"พี่ขอโทษแจมด้วยนะที่มารบกวนกลางดึก" เธอบอกด้วยความเกรงใจ
"ไม่เป็นไร มีลูกค้าเข้าพักพอดี ยังไงแจมก็ต้องลงมาดูอยู่แล้ว พี่เข้าไปพักก่อนเถอะ เดินทางมาเหนื่อยๆ ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่" แจมบอกก่อนจะเดินนำเข้าไปยังห้องพักของเธอ
"แล้วเรื่องค่าห้องล่ะ" ยลดาถาม
"คืนนี้พี่พักไปก่อนพรุ่งนี้ค่อยคุยกับแม่ พี่พักเถอะแจมไปละ"
"ขอบใจนะ"
เด็กสาวเดินเข้ามาไปในห้อง แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปล็อคประตูให้เรียบร้อย เธอมองไปรอบๆ ห้อง ในห้องมีเพียงตู้เสื้อผ้า เตียงเก่าๆ และพัดลมหนึ่งตัว
เธอไม่กลัวที่จะอยู่คนเดียวในตอนกลางคืน เพราะความเคยชิน เมื่อแม่ของเธอออกไปทำงานเธอก็ต้องอยู่คนเดียวเป็นประจำอยู่แล้ว
เมื่อนึกถึงผู้เป็นแม่ น้ำตาก็ไหลลงอาบสองแก้ม ทั้งเสียใจ ทั้งน้อยใจ แม่ไม่เคยให้ความสำคัญกับเธอ ทุกครั้งที่แม่มีผู้ชายเข้ามา เธอยิ่งไม่มีตัวตนในสายตาของแม่ ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดมากขนาดนี้ เพราะมีพี่สาวใจดีอย่างพรพระพาย แต่ตั้งแต่พี่พายของเธอย้ายไปอยู่ที่อื่น มันทำให้เธอรู้สึกว่าเหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ สามปีแล้วที่เธอไม่เคยเจอพี่พายที่แสนดีของเธอ เบอร์ติดต่อก็หายไปพร้อมกับโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ถูกแม่ปาลงพื้นจนแตกกระจาย ในวันที่แม่เมาเพราะทะเลาะกับผู้ชายของแม่
"ยูมิคิดถึงพี่พาย พี่พายอยู่ที่ไหน ฮือๆๆๆ" เด็กสาวร้องไห้ด้วยความคิดถึงพรพระพาย พี่สาวที่รักและหวังดีกับเธอเสมอ เธอร้องไห้จนหลับไป รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู
ก๊อกๆๆ
"ขอโทษนะที่มาปลุกแต่เช้า พอดีเราต้องไปธุระน่ะเลยมาคุยกับยูมิก่อน" แยมบอกเมื่อยลดาเปิดประตูห้องออกมา
"ยูมิก็อยากคุยกับแยมเรื่องค่าเช่าห้องเหมือนกัน"
"แม่บอกว่าถ้ายูมิจะเช่ารายวันแม่คิดแค่วันละร้อย ถ้าเป็นเดือนคิดเดือนละสองพัน" แยมบอก
"ทำไมถูกจัง ยูมิเห็นติดป้ายรายวันตั้งห้าร้อย"
"แม่บอกว่าเป็นเพื่อนกันคิดแค่ค่าน้ำค่าไฟก็พอ"
"ขอบใจแยมมากเลยนะ แล้วยูมิจะไปขอบคุณแม่ของแยมได้ที่ไหน" ยลดาเอ่ยด้วยความตื้นตันใจ อย่างน้อยชีวิตที่เลวร้ายของเธอก็ยังได้พบคนดีมีน้ำใจในวันที่ไร้ที่พึ่ง
"แม่เราไม่อยู่ อีกสองสามวันถึงจะกลับ"
"แยม...ยูมิมีเรื่องจะรบกวนแยมอีกอย่าง คือยูมิอยากหางานทำ แยมพอจะหาให้ยูมิได้ไหม"
"งานเหรอ...อืม...เธอเสิร์ฟอาหารได้ไหมล่ะ พอดีป้าเราเปิดร้านอาหาร เขากำลังต้องการเด็กเสิร์ฟอยู่พอดี แต่อาจจะต้องมีช่วยงานในครัวบ้าง" แยมครุ่นคิด ก่อนจะแนะนำงานให้ยลดา
"ได้ๆ ยูมิทำได้หมดเลย" ยลดาตอบด้วยความดีใจ
เด็กสาวทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหารของป้าแยม เธอต้องเข้างานตอนเก้าโมงครึ่ง เพื่อช่วยเตรียมของในครัว จะได้เลิกงานก็เกือบสองทุ่ม เพราะต้องช่วยเขาเก็บล้างในครัวให้เสร็จก่อน
เธออยู่ที่นี่มาเกือบหนึ่งอาทิตย์ แม่ไม่เคยโทรหาเธอเลย ทำให้เธอยิ่งรู้สึกเสียใจ แล้วนึกถึงคำพูดของแม่ที่มักจะใช้ด่าทอเธอเป็นประจำ
'แกนี่มันเป็นตัวถ่วงชีวิตของฉันจริงๆ ถ้าไม่มีแกชีวิตฉันคงจะดีกว่านี้'
แม่คงสบายใจ และรู้สึกดีที่ตัวถ่วงอย่างเธอได้ออกไปจากชีวิตของแม่แล้ว ยิ่งนึกถึงน้ำตาแห่งความน้อยใจในโชคชะตาชีวิตของตัวเองก็ยิ่งรินไหล