ในเวลาต่อมา
กรี้ดดดด!!!! เสียงกรีดร้องดังก้องออกมาจากเรือนส่วนตัวของถานหยี่เหยียนจนได้ยินไปทั่วบริเวณ ท่ามกลางความแตกตื่นของผู้คนน้อยใหญ่ภายในจวนตระกูลถานเมื่อเสียงของคุณหนูรองกรีดร้องออกมาเช่นนั้น
ในขณะที่ภายในห้องส่วนตัวของถานหยี่เหยียน บ่าวรับใช้ทั้งสองนางกำลังถูกใช้เป็นที่รองรับอารมณ์อันเกรี้ยวกราดของคุณหนูรองที่กำลังสำแดงเดชอยู่ในขณะนี้
ฟิ้ววว! ฟิ้ววว! ฟิ้ววว!!! อาภรณ์สูงค่ามากมายนับสิบชุดถูกจับเหวี่ยงลงกับพื้นด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดของถานหยี่เหยียน ด้วยเพราะร่างในอนาคตไม่สามารถสวมเสื้อผ้าเหล่านั้นได้เลยแม้แต่ชุดเดียว
“ทำไมเสื้อผ้าของข้าถึงได้หดสั้นเหลือเพียงแค่นี้! พวกเจ้าเอาเสื้อผ้าของผู้ใดมาให้ข้าสวมใส่! นี่มันเสื้อผ้าของเด็กชัดๆ ดูสิกระโปรงก็ลอยเหนือข้อเท้าขึ้นมาตั้งมากมายขนาดนี้ ชายแขนเสื้อยิ่งแล้วใหญ่สั้นนิดเดียว ตัวเสื้อก็คับแน่นเสียขนาดเนี่ยยัดหน้าอกของข้าลงไปไม่ได้เลย! เอาเสื้อผ้าบ้าๆ แบบนี้มาให้ข้าได้อย่างไง!!!”สิ้นเสียงโวยวาย
กรี้ดดด!!!! นางกรีดร้องออกมาด้วยความขัดใจท่ามกลางเสียงของบ่าวรับใช้คนสนิทของนางพยายามอธิบายให้เข้าใจ
“แต่นี้เป็นเสื้อผ้าที่คุณหนูเพิ่งจะตัดมานะเจ้าคะ ช่างเย็บในเมืองหลวงที่มีฝีมือดีที่สุดเป็นผู้เย็บชุดคุณหนูอยู่เป็นประจำไม่เคยทำงานพลาดเลยสักครั้ง อีกอย่างชุดของคุณหนูที่บ่าวนำมาให้ก็เพิ่งจะถูกนำมาส่งถึงจวนเมื่อไม่กี่วันนี้เอง เนื้อผ้าที่ทางวังหลวงพระราชทานมาที่จวนล้วนตรงกันทุกอย่าง บ่าวก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรคุณหนูจึงสวมวันนี้แล้วกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ทั้งที่เมื่อสามวันก่อนยังสวมได้อย่างพอดีอยู่เลยเจ้าค่ะ”บ่าวรับใช้คนดังกล่าวพยายามอธิบาย
ในขณะเดียวกันจิตสำนึกของถานหยี่เหยียนที่เกรี้ยวกราดอยู่ในขณะนั้นกำลังจะเริ่มอาละวาดออกมาอีกครั้งอย่างไม่สบอารมณ์แต่แล้วต้องหยุดชะงักอย่างไม่รู้สาเหตุ
พรึบ! เปลือกตาปิดลงทันทีเมื่อดวงตาของเธอมีบางอย่างกระเด็นเข้าไปพร้อมจิตสำนึกของหยางลี่จูปรากฏขึ้นมาทันใด
เฮ้อ! เสียงถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงเมื่อพฤติกรรมของถานหยี่เหยียนที่กำลังอาละวาดอยู่ในขณะนั้นทำให้หญิงสาวเหนื่อยใจเป็นอย่างมาก และไม่สามารถต้านทานพฤติกรรมเลวร้ายของนางได้เลย
“พวกเจ้าออกไป! ข้าอยากอยู่คนเดียว!”นางสั่งเสียงห้วน
“เจ้าค่ะคุณหนู!”บ่าวรับใช้ทั้งสองรับคำเสียงเบาพร้อมรีบก้าวออกไปจากห้องอย่างไม่รอช้า
เพียะ! ฝ่ามือตีลงบนหน้าผากของตัวเองพลางท้าวศอกลงกับโต๊ะตรงหน้าด้วยพยายามที่จะหาวิธีทำให้เธอสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ต้องการพร้อมลืมตาขึ้น
“เจ้าดวงตาสวรรค์พูดเอาไว้ไม่ผิดเลย ว่าถ้าร่างในอดีตเป็นคนไม่ดีก็ซวยไป เหมือนกับเราในตอนนี้ไม่มีผิด โคตรจะมหาซวยก็ว่าได้ ชาติอดีตของฉันเป็นนางมารร้ายชัดๆ เอาแต่ใจ ปากจัดชอบด่าเหยียดคนรับใช้ ขี้อิจฉาริษยา แถมยังโหดเหี้ยมอำมหิตได้โล่อีก! ย้อนเวลากลับมาทั้งทีแทนที่จะได้ลงมือแก้ไขอะไรบ้าง ดันมาเสียเวลากับนิสัยใจคอแย่ๆ ของตัวเองแบบนี้ให้ตายเถอะ!”หญิงสาวสบถออกมาก่อนจะส่งเสียงถาม
“เจ้าดวงตาสวรรค์ออกมาหน่อยได้ไหม! ช่วยบอกวิธีแก้ไขตัวของข้าที่กำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ไม่ได้เหรอ! พาข้ากลับมาแล้วทำไมหายไปเฉยเลย”หญิงสาวร้องเรียกหาดวงตาสวรรค์ที่แสนจะลึกลับในตำนานด้วยความกลุ้มใจ
หากแต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีแต่ความเงียบงันไร้สิ้นสัญญาณสื่อสารจากเจ้าดวงตาสวรรค์แม้แต่น้อย
เฮ้อ! เสียงถอนหายใจดังออกมาอย่างแรงเมื่อเธอคิดได้ว่า เรียกไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเจ้าดวงตาสวรรค์ได้ทำหน้าที่ของตัวเองจนบรรลุผลสำเร็จเรียบร้อยแล้วทันทีที่พานางกลับมาในชาติอดีตของตัวเองได้ ส่วนจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ได้อย่างไรต่อไปนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอแล้ว
เพราะตัวตนของหยางลี่จู ได้หลอมรวมเป็นถานหยี่เหยียนกับร่างในอดีตของเธอในเวลาอันรวดเร็วทันทีที่ถูกเจ้าดวงตาสวรรค์นำกลับมา มิหนำซ้ำยังมาปรากฏตรงหน้าห้องนอนของตัวเองโดยไม่ต้องเสียเวลาตามหาร่างในอดีตแต่อย่างใด ราวกับว่าเส้นทางการย้อนเวลากลับมาต้องการให้ร่างในอนาคตและร่างในอดีตได้พานพบกันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
“เหยียนเอ๋อ!”เสียงเรียกดังขึ้นอยู่ด้านหลัง
ควับ! หญิงสาวหันกลับไปมองทางประตูอย่างรวดเร็วทันทีที่ได้ยินเสียง สมองสั่งการและบอกออกมาทันทีว่าผู้หญิงที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตูอยู่ในเวลานี้คือเหลียนฮูหยิน แม่ของถานหยี่เหยียนซึ่งก็คือตัวเธอในเวลานี้นั่นเอง
“ท่านแม่!”เสียงหวานเรียกคนเป็นแม่ออกไป
ท่ามกลางสายตาของเหลียนฮูหยินที่ยืนมองลูกสาวของนางอย่างตื่นตะลึงระคนแปลกใจในคราเดียวกัน ภาพของถานหยี่เหยียนในชาติอดีตที่นางเคยเห็นตั้งแต่เกิดเลือนหายไปจากความทรงจำ
ร่างในอนาคตซ้อนทับเข้ามาในความทรงจำของนางเข้ามาแทนที่ เหยียนเอ๋อของนางในเวลานี้ช่างงดงามมากยิ่งนักผิดหูผิดตาไปกว่าทุกวันที่ผ่านมา ร่างอวบอิ่มก้าวเดินเข้าไปหาพร้อมทรุดกายลงนั่งบนตั่งพิจารณาด้วยความรู้สึกแปลกใจอย่างยิ่งยวด
“เหตุใดวันนี้ลูกของแม่จึงงดงามกว่าทุกวันยิ่งนัก เจ้าไปทำอะไรมาหรือเปล่าเหยียนเอ๋อ”นางถามกลับไปด้วยความอยากรู้
ครั้นถานหยี่เหยียนได้ยินเช่นนั้นนางตอบสวนกลับไปทันที
“ข้าเพิ่งตายเมื่อครู่ที่ผ่านมา พอตายลงก็เลยรีบกลับชาติมาเกิดใหม่กลายเป็นแบบนี้ตามที่ท่านแม่กำลังเห็นอยู่นี่แหละ ท่านแม่ก็เห็นข้าอยู่ทุกวันเหตุใดตั้งคำถามแบบนี้ด้วยเล่า แต่ท่านแม่มาหาข้าก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องเดินไปหาที่เรือนใหญ่ ท่านดูเสื้อผ้าของข้าสิ! ไม่มีชุดไหนที่ใส่ได้เลย ไม่พอดีกับตัวข้าแม้แต่ชุดเดียว ช่างเย็บเสื้อบ้าบอที่ไหนทำไมตัดชุดของข้าได้แย่สิ้นดีเช่นนี้”นางก่นด่าอย่างไม่สบอารมณ์ตามนิสัยของร่างในชาติอดีต
ท่ามกลางความงงงันของเหลียนฮูหยินครั้นได้ยินเช่นนั้น ด้วยเพราะนางเป็นคนนำช่างเย็บมาวัดตัวบุตรสาวและตัดเย็บเสื้อผ้าชุดใหม่ซึ่งมีด้วยกันถึงห้าชุด เตรียมพร้อมที่จะสวมไปในงานคัดเลือกตัวพระชายาชินอ๋อง ก่อนจะสังเกตเห็นชายแขนเสื้อหดสั้นลอยเหนือข้อมือไปมากเลยทีเดียว
“เป็นเช่นนี้เองเสียงร้องโวยวายของเจ้าจึงดังไปทั่วทั้งจวน ทำกิริยาเช่นนี้ไม่งามเลยนะลูก แล้วนี่เหตุใดเจ้าจึงโตขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่วันเช่นนี้เหยียนเอ๋อ ลุกขึ้นยืนให้แม่ได้เห็นรูปร่างของเจ้าเร็วเข้า”เหลียนฮูหยินสั่งบุตรสาวออกไปทันที
พรืดดด!!! ร่างงามระหงลุกขึ้นจากตั่งอย่างรวดเร็วพลางก้าวเดินออกมายืนอยู่ตรงหน้าเหลียนฺฮูหยินเพื่อให้คนเป็นแม่สำรวจร่างกายได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
“เจ้าโตขึ้นมากจริงด้วย มิหนำซ้ำงดงามอย่างหาที่ติไม่ได้เลย ลูกแม่สวยมากสวยจริงๆเชียวลูกรัก ถ้าชินอ๋องได้ทอดพระเนตรจะต้องพึงพอพระทัยอย่างแน่นอน”เหลียนฮูหยินกล่าวพร้อมลุกขึ้นจากตั่งมายืนมองบุตรสาวด้วยความภูมิใจ
“ข้าสวยขนาดนี้ไม่ชอบก็ไม่รู้จะว่าอย่างไงแล้วท่านแม่ ตำแหน่งหนึ่งในห้า ถ้าไม่เป็นของข้าแล้วตำแหน่งนั้นจะเป็นของผู้ใด! แต่ก่อนอื่นท่านแม่ต้องจัดการเรื่องเสื้อผ้าของข้าก่อน ถ้าข้าไม่ได้เสื้อผ้าชุดใหม่มาแทนพวกเสื้อผ้าเด็กบ้าบออะไรภายในวันนี้! จ้างให้ข้าก็ไม่ก้าวออกจากจวนไปไหนทั้งนั้น”ถานหยี่เหยี่ยนบอกความต้องการของนางกลับไป
“มีหรือที่เจ้าจะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ เดี๋ยวแม่จะรีบวัดตัวให้เจ้าเสียใหม่และนำขนาดกับรูปร่างแจกจ่ายไปให้ผู้ที่มีฝีมือทางด้านการเย็บอาภรณ์สูงค่าให้กับชนชั้นสูง รีบเร่งเย็บเสื้อผ้าชุดใหม่ทั้งหมดเดี๋ยวแม่จะจัดการให้เจ้า แต่ตอนนี้ใช้ผ้าที่แม่เพิ่งซื้อมาที่มีเก็บไว้อยู่ในจวนเย็บชุดของเจ้าใส่ไปพลางก่อน เดี๋ยวแม่จะเกณฑ์บ่าวไพร่ภายในจวนมาทำให้เจ้านะเหยียนเอ๋อคนดีของแม่”
เหลียนฮูหยินเอาใจลูกสาวคนเดียวของนางเป็นการใหญ่พร้อมยกมือลูบไล้ใบหน้าแสนสวยไปมาอยู่เช่นนั้นด้วยชื่นชมและภูมิใจในความงดงามของบุตรสาวอย่างยิ่งยวด
หมับ! มือน้อยเรียวงามรีบยกขึ้นจับมือของเหลียนฮูหยินเอาไว้ทันที ร่างในอนาคตสามารถสัมผัสได้ถึงความรักและความอบอุ่นที่เหลียนฮูหยินมอบให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวของนางได้อย่างชัดเจน
“ท่านแม่”หญิงสาวเรียกแม่ของตัวเองในชาติอดีต
เธอแนบใบหน้าลงบนฝ่ามือของเหลียนฮูหยินด้วยความรู้สึกอบอุ่นที่ปรากฏขึ้นภายในจิตใจอยู่ในขณะนี้ ความรู้สึกดังกล่าวที่สามารถสัมผัสและรับรู้ได้ถึงความรักที่คนเป็นแม่มอบให้นั้นกดความรู้สึกนึกคิดของถานหยี่เหยียนในชาติอดีตลงเอาไว้ได้ทันทีพร้อมความรู้สึกนึกคิดของร่างในอนาคตปรากฏเข้ามาแทนที่
“ท่านไม่ต้องลำบากเพื่อลูกหรอกเจ้าค่ะ มีเพียงพอได้ใส่ไม่ต้องมากมายลูกก็พอใจแล้ว”นางตอบกลับไป
หากแต่เหลียนฮูหยินกลับส่ายหน้าไปมาเมื่อได้ยินบุตรสาวกล่าวกับนางเช่นนั้น
“เจ้าคือลูกสาวคนเดียวของแม่ จะน้อยหน้าได้อย่างไรกันในเมื่อลูกแม่เติบโตเต็มที่แล้ว มิหนำซ้ำยังงดงามถึงเพียงนี้ อีกทั้งผ่านพ้นพิธีปักปิ่นมาแล้วด้วย เจ้าพร้อมที่จะออกเรือนแล้วลูกรักและสามีของเจ้าจะต้องเป็นชินอ๋องเท่านั้น ลูกแม่จะต้องได้เป็นพระชายาเอกของพระองค์ไม่ใช่อนุชายาตามตำแหน่งของพ่อเจ้า”นางบอกลูกสาว
รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นบนใบหน้างามครั้นได้ยินเหลียนฮูหยินกล่าวเช่นนั้น
“เจ้าค่ะท่านแม่”หญิงสาวตอบรับกลับไป
“ถ้าเช่นนั้นเจ้ารอชุดใหม่อยู่ในห้องไปพลางก่อน อีกไม่เกินสองชั่วยามก็น่าจะเรียบร้อย เดี๋ยวแม่จะเอามาให้เจ้าลองสวมเมื่อเย็บเสร็จแล้ว อีกอย่างแม่จะต้องไปบอกท่านพ่อก่อนว่าเช้านี้เจ้าไม่ออกไปร่วมโต๊ะอาหาร แม่จะสั่งบ่าวไพร่ยกสำรับมาให้เจ้าที่ห้อง”
เหลียนฮูหยินบอกบุตรสาวพลางส่งยิ้มให้ก่อนจะหันกายเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางดวงตาคู่สวยที่กำลังเฝ้าจับจ้องร่างอวบอิ่มของเหลียนฮูหยินเดินออกจากห้องไปจนลับสายตา ก่อนจะยกสองแขนขึ้นกอดอกพร้อมยกหัวนิ้วโป้งขึ้นขบกัดเบาๆ พลางใช้ความคิด
“เมื่อกี้นิสัยของเราในชาติอดีตหายไปทันทีพอเหลียนฮูหยินสัมผัสตัว ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจปรากฏขึ้นจึงทำให้เราออกมาได้ถ้าเป็นแบบนี้ก็แสดงว่าหากได้สัมผัสไออุ่นนิสัยของเราก็จะออกมา แต่ถ้าเวลาโมโหหรือถูกขัดใจและไม่สบอารมณ์ใครขึ้นมาเราในชาติอดีตก็จะออกมาทันที...เฮ้ย! ทำไมชีวิตฉันถึงได้วุ่นวายอะไรแบบนี้”หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนจะนิ่งงันไปชั่วขณะ
“แต่เดี๋ยวนี้นะหากเราใช้วิธีสะกดจิตตัวเองให้ลืมเลือนนิสัยใจคอที่เลวร้ายในชาติอดีตให้หายไปจะสามารถทำได้ไหม แต่ถ้าหากไม่ลองก็คงไม่รู้เพียงแต่ว่าจะสะกดจิตตัวเองได้อย่างไง ในเมื่อยุคนี้ไม่เหมือนในอนาคตที่แค่คิด และลงมือสะกดจิตเพื่อสั่งการสมองของตัวเองก็ได้แล้ว แต่ถ้าเกิดพลาดขึ้นมาละก็ได้งานเข้ากันพอดี แทนที่จะดีขึ้นกลับเลวร้ายกว่าเดิมจะทำอย่างไง..”หญิงสาวพูดพลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นกุมขมับของตัวเอง
“โอ้ย! ปวดหัวเป็นบ้าย้อนเวลากลับมาได้ก็จริงแต่ดันไม่เป็นตัวของเราเอง มิหนำซ้ำมีพฤติกรรมเป็นคนสองบุคลิกอีก”
หญิงสาวพูดพลางส่ายหน้าไปมาด้วยความรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเองอยู่ในขณะนี้ แต่แล้วเพียงครู่ดวงตาคู่สวยกลับเบิกกว้างขึ้นมาโดยพลัน
“เฮ้ย!...เดี๋ยวนะ! นี่เราเกือบหลงลืมสิ่งสำคัญไปเสียสนิทเลย เจ้าดวงตาสวรรค์พาเรากลับมา ก่อนหน้าที่ยังไม่มีเหตุการณ์แต่งตั้งพระชายา ตัวเราในชาติอดีตในเวลานี้ก็ยังไม่ได้เข้าไปเป็นอนุชายา เพราะฉะนั้นจากเหตุการณ์โดยรวมนับตั้งแต่กลับมา ตอนนี้ฉันอยู่ในช่วงไหนของเหตุการณ์ในอดีตว้า”หญิงสาวพยายามคิดทบทวนเหตุการณ์ในอดีตของตัวเองที่เคยผ่านมา พลางยกหัวแม่นิ้วโป้งขึ้นขบกัดอย่างเคร่งเครียด เพียงครู่ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นมาทันที
“นึกออกแล้ว!”หญิงสาวส่งเสียงออกมาด้วยความดีใจเมื่อเธอคิดทบทวนแล้วว่าถูกนำกลับมาในช่วงเวลาใดในอดีต
“ดวงตาสวรรค์พาเรากลับมาก่อนที่จะมีคนไปพบซากศพที่เรือนร้างท้ายจวนซึ่งก็คือวันพรุ่งนี้! ดังนั้นตอนนี้ในเมื่อเรากลับมาก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ล่วงหน้านั้นหนึ่งวัน ก็เท่ากับว่าสามารถช่วยคนที่อยู่ในเรือนร้างไม่ให้เขาต้องตายจนทำให้เป็นสาเหตุของการประหารเก้าชั่วโคตรในเวลาต่อมาได้นะสิ”นางกล่าวพร้อมนั่งใช้ความคิดก่อนจะเอ่ยขึ้น
“แต่ว่าเราจะช่วยเขาด้วยวิธีไหนดีนะ อีกอย่างผู้หญิงที่ถูกขังอยู่ในเรือนร้างท้ายจวนเป็นใครกันอยากรู้จริงๆ เลย ทำไมต้องให้ค่อยๆ นึกออกด้วยแทนที่กลับมาแล้วจะจดจำได้รวดเดียวจนหมด!”
สิ้นเสียงของเธอความทรงจำของถานหยี่เหยียนในชาติอดีตปรากฏขึ้นมาให้เห็นขึ้นมาทันใด เมื่อร่างของสตรีสาวนางหนึ่งถูกคลุมศีรษะด้วยผ้าเพื่อไม่ให้ล่วงรู้ว่านางกำลังถูกพามาอยู่ที่ไหน
ร่างนั้นถูกพาดไว้บนบ่านำกำลังเข้าไปภายในเรือนร้างท้ายจวนตระกูลถาน ที่อยู่ไกลโพ้นไม่มีผู้ใดเข้ามาภายในบริเวณดังกล่าว
ท่ามกลางสายตาของถานหยี่เหยียนกำลังยืนมองอยู่ด้านนอกเรือนร้างอยู่ในเวลานั้น สายตาเต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัวและความอำมหิตของจิตใจแผ่เข้าปกคลุมไปโดยรอบ
“ตีโซ่ตรวนล่ามนางเอาไว้อย่าให้หนีออกไปจากที่นี่ได้! ข้าจะให้เรือนร้างแห่งนี้เป็นสุสานฝังร่างของถานเย่ย่า!!!”สิ้นเสียงที่เต็มไปด้วยความเหี้ยมเกรียม
ใบหน้าของเด็กสาวที่มีวัยเพียง 15 ปีเท่านั้น กรีดเสียงหัวเราะเย็นยะเยือกด้วยความรู้สึกสะใจที่ได้กำจัดพี่สาวต่างแม่ของนางได้เป็นผลสำเร็จ
พรึบ! ภาพเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตดับวูบลงอย่างรวดเร็วพร้อมเสียงหัวเราะหวีดหวิวยังคงดังก้องอยู่ในหัวติดแน่นอยู่ในความทรงจำไม่สามารถสลัดออกไปได้
“ร้ายกาจมาก! ชาติอดีตของเราทำไมถึงเป็นคนเลวแบบนี้ ไม่แปลกหรอกที่จะเป็นต้นเหตุทำให้ตระกูลถานถูกประหารชีวิตถึงเก้าชั่วโคตรก็เล่นใจคอโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดนี้ ฆ่าพี่สาวของตัวเองได้ลงคอ”หญิงสาวพูดพึมพำพลางยกนิ้วหัวแม่มือขบกัดลงในกกเล็บยามเวลาที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
ทันใดนั้นเอง
“คิดออกแล้ว! ว่าจะช่วยนางออกมาได้อย่างไง!”หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจออกมาทันที
“มีเพียงคนนี้แหละที่ช่วยได้อย่างไร้ข้อกังขา และยังสามารถทำให้นางเกิดความรู้สึกที่ดีขึ้นและให้ความไว้วางใจ”
คำกล่าวที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง เมื่อเธอคิดหาวิธีที่จะช่วยชีวิตพี่สาวต่างแม่ซึ่งถูกตัวเองกักขังอยู่เรือนร้างท้ายจวนก่อนที่ร่างจากอนาคตจะเดินทางย้อนเวลากลับมาเพื่อแก้ไขเหตุการณ์ทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นให้เปลี่ยนแปลงไป
การเดินทางย้อนเวลากลับมาในชาติอดีตของตัวเองหวังเพื่อกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตให้เปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดแม้แต่น้อย
โดยเธอไม่ล่วงรู้เลยว่าหากร่างในอนาคตกับร่างในอดีตได้หลอมรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกันจะทำให้เกิดผลเสียอย่างใหญ่หลวงมากกว่าผลดีที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่นางจะต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้นในภายภาคหน้า
ในขณะที่หยางลี่จูเมื่อล่วงรู้แล้วว่า ชาติอดีตของนางแท้จริงแล้วเป็นใคร มิหนำซ้ำยังเป็นตัวการสำคัญทำให้ตระกูลต้องพบกับความหายนะ หญิงสาวจึงตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อพยายามแก้ไขเหตุการณ์อันเลวร้ายซึ่ง ร่างในอดีตของเธอก่อเหตุขึ้นจนทำให้ตระกูลถานต้องล่มสลาย
เมื่อถานหยี่เหยียนซึ่งเป็นชาติอดีตของหญิงสาว มีจิตสำนึกที่ชั่วร้ายเลือดเย็นและอำมหิต นางมีจิตริษยาพี่สาวต่างมารดาที่มีความงดงามถ่ายทอดมาจากฉางฮูหยินซึ่งเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งแคว้นฉู่ ในขณะที่ความงามของถานหยี่เหยียนช่างห่างไกลกับถานเย่ย่ามากมายยิ่งนัก
นางมีปมด้อยเรื่องของความงดงามซึ่งมีหน้าตาธรรมดาไม่ได้สะสวยโดดเด่นแต่อย่างใด มีจิตริษยาสตรีทุกคนที่มีความงามมากกว่านาง อีกทั้งยังมีความทะเยอทะยานสูงคำว่าที่หนึ่งกว่าผู้ใดคือเป้าหมายของถานหยี่เหยียน ซึ่งถือเป็นความโชคร้ายอย่างยิ่งของร่างในอนาคตที่มีชาติอดีตเช่นนี้
ดังนั้นความปรารถนาก่อนตายนอกจากสำนึกผิดทุกอย่างที่ได้กระทำลงไปนั้น นางยังขอกลับมาในร่างที่งดงามเหนือกว่าผู้ใด
ด้วยเหตุนี้เจ้าดวงตาสวรรค์ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์และมีอำนาจมากจึงเลือกที่จะนำร่างในอนาคตของหยางลี่จูกลับมา แทนที่จะทำการดึงดวงจิตหรือดวงวิญญาณเข้ามาสวมร่างในอดีต
และการกลับมาเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ในอดีตจะสามารถทำสำเร็จได้หรือไม่นั้น จึงขึ้นอยู่กับว่าการหลอมรวมนิสัยใจคอและจิตใต้สำนึกระหว่างร่างในอดีตและร่างในอนาคตจะหลอมสิ่งที่ดีและสิ่งชั่วร้ายเอาเข้าไว้ด้วยกันให้ออกมาเป็นอย่างไร จะดีสุดขั้วดั่งเช่นพระโพธิสัตว์หรือจะเลวสุดโต่งดั่งนางพญามารไม่มีใครสามารถให้คำตอบสำหรับเรื่องนี้ได้ นอกจากตัวเองเท่านั้น