เช้าวันใหม่เสียงไก่ขันดังแข่งกับเสียงนาฬิกาปลุก ท่ามกลางอากาศที่เย็น ลมฝนพัดมาเป็นวันที่สามแล้ว ลมพัดแรง เสียงใบไม้เสียดสีกัน แข่งกับเสียงสัตว์ร้อง ต้นไผ่ไหวเอนไปตามลม เริ่มฤดูฝนลมมักพัดแรงแบบนี้เสมอ ไกลออกไปใต้ต้นสักใบที่แห้งกรอบของมันปลิวไปตามแรงลม บ้านไม้ของยายพื้นกระดานเย็นมาก แสงไฟริมถนนยังส่องสว่าง ทำให้มองเห็นรอบบ้าน ถึงบ้านจะปลูกอยู่ท่ามกลางดงต้นไม้ใหญ่ แต่ไม่ได้น่ากลัว เพราะสมัยก่อนตากับยาย ปลูกไว้ห่างจากบ้านมาก
ถัดจากบ้านไม้ของยายไปเป็นบ้านปูนหลังเล็กๆของเธอเอง ยายสร้างไว้ให้เธออยู่ส่วนตัว เมื่อต้องเรียนหนังสือ เป็นที่อ่านหนังสือ ส่วนมากเธออยู่กับยายที่บ้านไม้มากว่า นอกจากคืนไหนที่ต้องทำงานดึก เธอเลือกที่จะไปนอนที่บ้านปูน ไม่อยากรบกวนยาย
ธารธาราลุกมาหุงข้าวทำกับข้าวไปวัด ใช้เวลาไม่นานทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย เพราะวัตถุดิบเธอเตรียมไว้บ้างแล้ว หกโมงเช้า ยายสร้อยตื่น ธารธาราอาบน้ำแต่งตัวหญิงสาวเลือกใส่ผ้าถุงลายไทยสีออกเหลือง สวมเสื้อผ้าลูกไม้สีขาวเข้ารูปแขนสั้น เป็นชุดที่ยายสร้อยซื้อให้หลาน ไม่แต่งหน้าทาแค่กันแดด ทาลิปมัน แค่นั้นก็สวยแล้ว อยู่ต่างจังหวัดไม่ต้องแต่งอะไรมาก ยิ่งเวลาทำงานนี่เธอแทบจะไม่ได้แต่งหน้าเลย
ยายสร้อยนั่งมองหลานสาวที่กำลังเดินออกมาจากห้องส่วนตัว หลานสาวของยายสร้อยสวย ผิวขาวผ่อง หน้าตาไม่เหมือนคนแถวนี้ ชาวบ้านแถวนี้คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยอยากกลับมาอยู่บ้าน ส่วนมากเข้าไปอยู่ในเมือง หรือไม่ก็เข้ากรุงเทพฯ
“เสร็จแล้วค่ะยาย ไปกันเลยดีไหมคะ ยายอย่าลืมใส่เสื้อแขนยาวด้วยนะคะ เข้าฤดูฝนแล้วจริงๆ”หญิงสาวกอดอก แต่ไม่ยอมใส่เสื้อแขนยาว อยากสัมผัสกับอากาศเย็น วันมะรืนต้องกลับกรุงเทพฯแล้วคงไม่ได้สัมผัสอากาศเย็นแบบนี้ ต่างจังหวัดเย็นแบบชุ่มช่ำใจ กรุงเทพฯเย็นแบบกลัวน้ำท่วม
“หนูไม่ใส่เสื้อแขนยาวเหรอลูก”
“ไม่ค่ะยาย ธารอยากสัมผัสอากาศเย็นธรรมชาติแบบนี้ ต้องกอบโกยไว้ เดี๋ยวกลับกรุงเทพฯไปจะได้คิดถึงอากาศที่นี่ มีความสุขจังเลยค่ะ”
ธารธาราขนอาหารที่เตรียมไปใส่บาตรที่วัดลงไปวัดที่รถ เช้านี้เธอใช้รถกะป้อสีขาวเหมือนเดิม เพราะยายสร้อยชอบขับง่าย คันเล็ก เหมาะกับการเดินใกล้ๆจากบ้านไปวัดประมาณห้ากิโลเมตร ตลอดสองข้างต้นๆไม้ใบไม้เขียวทั้งสองฝั่ง ฝั่งซ้ายยังเป็นสวนของชาวบ้าน ฝั่งขวาเป็นพื้นที่โล่งและมีป้ายปักไว้ พี้นที่ส่วนบุคล
ธารธาราขับรถช้าๆหญิงสาวถ่ายวีดีโอระหว่างทาง ยอดหญ้ายังมีน้ำค้างเกาะอยู่เต็มไปหมด ไกลออกไปหมอกขาวลอยเทียบฟ้า บริเวณหน้าภูเขา สวยงามเหลือเกิน ธรรมชาติที่สุด เธอรู้ว่านายทุนที่มาซื้อที่ดินที่นี่ หวังที่จะสร้างรีสอร์ทและโรงแรม เอาจริงๆถ้ามีตึกสูงขึ้นมาบังภูเขา คงเป็นภาพที่ไม่น่าดูสักเท่าไหร่ บรรยากาศบ้านสวนของยายคงเปลี่ยนไป อยากรู้จริงๆเลยว่า คนที่จะมาสร้างโรงแรมคิดอะไรอยู่ จะรู้ไหมว่าจะมาทำลายบรรยากาศธรรมชาติ ส่วนตัวเธอไม่เห็นด้วยเลย ต่อไปถ้าเธอจะเข้าบ้านก็ต้องผ่านโรงแรมแห่งนี้ มันขัดตาขัดใจซะจริงๆ
สองยายหลานมาถึงวัดยังเช้าอยู่มาก แต่ก็ยังมีคนมาเช้ากว่า วันพระใหญ่คนมาทำบุญเยอะ ธาราพายายไปนั่งที่เก้าอี้ สมัยนี้ดี ที่วัดมีเก้าอี้สำหรับให้คนสูงอายุนั่ง ไม่ต้องนั่งพื้นเหมือนสมัยก่อน
หญิงสาวแยกไปไหว้พระองค์ใหญ่ กลิ่นควันธูป เทียนที่จุดแล้ว และดอกไม้ต่างๆวางรวมกันอยู่หน้าองค์พระ แสดงให้เห็นว่า ตั้งแต่เช้ามีคนมาไหว้เยอะมาก จากนั้นไปจัดสำรับกับข้าวเพื่อรอถวายพระ ส่วนยายสร้อยเพียงหันหน้าและยกมือไหว้ไปทางที่ตั้งขององค์พระ เหมือนเดิมเวลามาวัด ยายมักจะพูดคุยกับชาวบ้าน หญิงสาวสังเกตุว่ารอบๆตัวเธอ คนมาทำบุญเยอะมาก อาจเป็นเพราะตรงกับช่วงหยุดเทศกาล หลายคนเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเหมือนเธอ
หลังพระฉันท์ข้าวแล้ว ใครที่ไม่รีบกล้บบ้านก็กินข้าวร่วมกัน ยายไม่รีบเธอก็ไม่รีบ สองยายหลานอยู่กินข้าวที่วัด
ธารธารากับคนอื่นๆช่วยกันเก็บล้าง กวาดพื้น เสร็จเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว หญิงสาวกลับมานั่งที่เดิม เล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย รอยายคุยกับเพื่อนบ้าน จนเบื่อกันไปข้างหนึ่ง จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ
“ยายจ๋า คนนั้นกำนันใช่ไหม เหมือนพวกเขากำลังเดินมาหาเราเลย”ธารธารามองไปที่กลุ่มคนที่กำลังเดินมาหายาย
“ใช่ลูก กำนันนพ คงมีอะไรอยากจะคุยแน่เลย ตั้งใจเดินมาซะขนาดนั้น”
“สวัสดีครับแม่สร้อย”กำนันนพ ตั้งใจมาทักยายสร้อยจริงๆวันนี้สมใจเขา หลายวันแล้วที่กำนันพยายามที่จะเข้าไปหายายสร้อยที่บ้าน แต่คลาดกันทุกครั้งไป
“ไหว้พระเถอะพ่อกำนัน นี่มาทำบุญกับเขาด้วยรึ”
“ครับแม่ อยากเจอใครต้องมาวัดครับ บางคนไปหาที่บ้านไม่เจอ”กำนันนพพูดแล้วก็หัวเราะ
“นี่หนูธารธาราลูกของ สายสุรีย์ใช่ไหม นี่ถ้าไม่มากับยายลุงจะจำไม่ได้เลยนะเนี้ย สบายดีนะลูก”
“สบายดีค่ะลุงนพ ขอบคุณมากค่ะ”หญิงสาวยกมือไหว้ เธอขยับไปยืนอยู่ด้านหลังของยาย เมื่อรู้สึกตัวว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองมาจากด้านหลังของกำนันนพ สายตาเขาจับจ้องมาที่เธออย่างเสียมารยาท มองจนรู้ว่ามอง
“หนูธารนี่หน้าตาสวยเหมือนแม่เลยนะ แม่เราเป็นยังไงบ้างลูก เขาสบายดีไหม หลายปีแล้วนะที่ลุงไม่ได้เจอกับแม่ของหนูเลย ถ้าเจอฝากบอกด้วยนะลูกว่า กลับมาเที่ยวบ้านหน่อย เพื่อนๆหลายคนอยากเจอ”
“แม่สบายดีค่ะ”แม่เคยเล่าให้ฟังค่ะว่าแม่กับลุงเรียนห้องเดียวกัน“
“เออๆนั่นแหละ”กำนันนพหัวเราะร่วน อย่างถูกใจ
“เอ่อแม่ครับ พรุ่งนี้ว่างไหม ผมมีเรื่องอยากจะคุยด้วย จะขอเข้าไปหาที่บ้านได้ไหมครับ พูดคุยที่นี่ไม่ค่อยสะดวก”
“เอาสิ ว่างตลอดนั่นแหละ ถ้ามันพูดที่นี่ไม่ได้ มันเป็นความลับก็ไปพูดที่บ้าน”ยายสร้อยบอกกำนันนพไปอย่างนั้นทั้งที่ในใจก็รู้ว่ากำนันนพอยากจะพูดคุยเรื่องอะไร
“ขอบคุณมากนะครับแม่ พรุ่งนี้สายๆผมจะเข้าไปนะครับ”
“อ่อ แม่ครับผมขอแนะนำ นี่คือคุณอัคนี เป็นเจ้าของรีสอร์ทที่มีพื้นที่ติดกับบ้านแม่เลยครับ เป็นเพื่อนบ้านใหม่ของเราครับ”กำนันนพหันไปหาคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“คุณอัคนีครับนี่แม่สร้อยเจ้าของที่ดินที่อยู่ติดกับคุณอัคนีไงครับ และนี่หนูธารธารา เป็นหลานของแม่สร้อยและเป็นลูกของเพื่อนสนิทผมเอง”
“สวัสดีครับคุณยาย”อัคนีถอดแว่นตาดำออกหลังจากที่เขายกมือไหว้ยายสร้อย
“ไหว้พระเถอะ นี่มาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือ ต้องขอโทษด้วยนะยายไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกเท่าไหร่ เลยไม่ได้สังเกตว่ามีคนมาอยู่แล้ว นึกว่าตรงนั้นเจ้าของที่เดิมเขายังอยู่ซะอีก”
“ผมให้ลูกน้องเฝ้าครับ แต่หลังจากนี้อาจจะต้องมาอยู่ตลอด ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับคุณยาย”
“ยินดีๆมีอะไรก็ปรึกษาหารือกันได้เลยนะ ยายอยู่ที่บ้านตลอดนั่นแหละ”
“ผมเห็นแล้วครับ มองเข้าไปบ้านของคุณยายอยู่ในดงไม้นั่น ไม่บอกไม่รู้เลยนะครับว่ามีบ้านคนอยู่ ยังไงผมขอตามไปเยี่ยมที่บ้านได้ไหมครับ”
“ได้เลย ไม่มีปัญหาอะไร”
“สวัสดีครับคุณธารธารา”อัคนีหันมาหาธารธาราเขายิ้มให้หญิงสาวเล็กน้อย
“สวัสดีค่ะ”หญิงสาวยกมือไหว้เขาแล้วหลบอยู่หลังยายสร้อยเหมือนเดิม
“ยายจ๋ายืนนานแล้วเรากลับบ้านกันก่อนดีไหม”ธารธารากระซิบบอกยายสร้อย เธอไม่ค่อยพอใจสายตาของตาหนวดนั่นนัก ถึงเขาจะใส่แว่นตาดำ แต่เธอรู้ว่าเขาจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา รู้โดยสัญชาตญาณว่าเขากำลังมองอย่างไม่มีมารยาท เธอไม่ชอบคนพวกนี้เลย ทำตัวเหมือนมาเฟีย พวกผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาสองสามคนนั่นอีก หน้าตายังกับมหาโจร
“ฉันกับหลานจะขอตัวก่อนนะ ยืนนานๆไม่ค่อยไหวแล้ว”
ธารธารายกมือไหว้กำนันนพ และอัคนี รีบจูงมือยายสร้อยกลับไปที่รถกะป้อคันเล็กของเธอ
สองยายหลานออกไปจากบริเวณวัดแล้ว กำนันนพและอัคนีมองตามไปอย่างมีความหวัง ต่างคนต่างมีความหวังในใจแตกต่างกัน
“ยายจ๋าลุงกำนันนพเขามีอะไรจะคุยกับยายกันแน่ ถึงขนาดต้องไปดักรอยายที่วัดเลย”
“จะมีอะไร ก็คงเรื่องที่ดินนั่นแหละ”
“เขาจะมาขอซื้อเหรอคะยาย”
“ยายก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน รอดูว่าพรุ่งนี้เขาจะมาว่ายังไง”
“ถ้าเขาถามซื้อยายจะขายไหมคะ”ธารธาราตัดสินใจถามตรงๆเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่ายายจะขายไหม
“ยายแล้วแต่หนูธารเลย อยากขายก็ขาย ไม่อยากขายก็ไม่ต้องขาย ไม่ยากหรอกลูก”ยายสร้อยพูดหน้าตาเฉย
“อ้าว....ทำไมล่ะคะ ก็มันเป็นที่ดินของยาย”
“อีกหน่อยมันก็จะเป็นของหนูธารไงล่ะลูก ยายแล้วแต่หนู”
ธารธารางงกับคำพูดของยายสร้อย อยู่ๆยายก็ให้เธอเป็นคนตัดสินใจเรื่องที่ดิน เธอไม่อยากพบกับกำนันนพ หรือผู้ชายคนนั้นเลย พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯแต่เช้า รู้สึกเป็นห่วงยาย ใจก็อยากรู้ว่ากำนันจะมาคุยเรื่องอะไรกันแน่
“ยายจ๋า พรุ่งนี้ธารต้องกลับไปทำงานแล้ว แต่ก็อยากรู้ว่าลุงกำนันจะมาหายายเรื่องอะไร เราให้เขามาคราวหน้า ไม่ได้เหรอคะยาย ธารเป็นห่วงยายค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกลูก ยายได้บอกเขาไปแล้ว ไม่มีอะไรหรอก จวบกับนงค์ก็อยู่ ไม่มีใครกล้าทำอะไรยายหรอก หนูธารก็กลับไปทำงานเถอะลูกหยุดมาหลายวันแล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะได้กลับมาอยู่กับยายแล้วนี่รีบกลับไปเคลียร์งาน”
“ก็ได้ค่ะยาย แต่ยังไงก็เป็นห่วงอยู่ดี ถ้ารู้แบบนี้ธารจองตั๋วเครื่องบินไว้ดีกว่า จะได้ไม่ต้องขับรถกลับเอง อาจได้อยู่ฟังว่าลุงกำนันเขาจะคุยเรื่องอะไร”
“เอารถเก๋งไปนะลูก เดินทางไกลจะได้นิ่มหน่อยไม่เหนื่อยมาก ถึงจะขนของได้ไม่เยอะก็ไม่เป็นไร”
“ค่ะยาย”
“คืนนี้ก็เก็บของที่จะเอาไปที่กรุงเทพฯขึ้นรถไว้นะลูกเช้าจะได้ออกแต่เช้า ถึงกรุงเทพฯจะได้ไม่ค่ำมาก”
ยายสร้อยเตรียมผักต่างๆกับข้าว ของแห้ง ให้หลานสาว เพื่อเอาไว้ไปทำกินที่กรุงเทพฯ ยายสร้อยเป็นคนสะอาดและเรียบร้อยมาก แน่นอนยายสร้อยเพียรบอกสอนหลานสาวคนเดียว และธารธาราก็ได้ดั่งใจนัก หญิงสาวเรียนรู้ทุกอย่างจากยาย ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความใจเย็น ความเข้มแข็งทั้งกายและใจ มารวมอยู่ที่ธารธาราหมดทุกอย่าง
“จะกลับมาอยู่บ้าน จะมีหนุ่มๆเสียใจไหมหลาน” อยู่ๆยายสร้อยก็ถามหลานสาว ทั้งๆที่ไม่เคยถามเลย
“ไม่มีหรอกค่ะยาย หลานยายยังไม่มีแฟนค่ะ โสดสนิทมากยังไม่อยากมีเรื่องปวดหัว แค่พวกที่อยู่รอบๆตัวก็น่าเบื่อมาก ดีเหมือนกันนะคะ กลับมาอยู่บ้านต่างจังหวัดแบบนี้ ไม่มีใครมาก่อกวน ธารเบื่อ ไอ้พวกที่โสดไม่ค่อยเท่าไหร่นะคะ พวกที่มีเมียแล้วนี่ซิ น่าเบื่อและน่ารำคาญที่สุด”
“ก็เรายังสาวยังสาวแถมโสดอีกด้วย ผู้หญิงสาวก็เหมือนดอกไม้นั่นแหละลูก ใครๆเขาก็อยากมาพูดคุยด้วย อยากชื่นชม ช่างเขาเถอะลูก ใครที่ดูแล้วไม่น่าไว้ใจเราก็ระวังตัว สมัยนี้คนไว้ใจยากมาก รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ”
“ธารพยายายามที่จะไม่ยุ่งกับใคร ยิ่งคนที่มีครอบครัวแล้วนี่ธารไม่ยุ่งเลยค่ะยาย กลัวบาป ยายสบายใจได้เลยะคะ หลานสาวของยายคนนี้ยังโสดและโสดมาก”
“ชีวิตคนเราอยู่ไม่นานหรอกลูก ได้เกิดมาก็ถือว่ากำไรแล้ว ยิ่งร่างกายครบสามสิบสอง นั่นคือบุญของเรานะ เวลาที่เราลำบากหรือท้อแท้ หรือมีปัญหาอะไรก็ตาม ให้มองคนที่ลำบากกว่าเราเอาไว้ เขาอยู่ได้เรายิ่งต้องอยู่ให้ได้ จำไว้นะหลาน”
“ค่ะยาย ธารจะเชื่อยายนะคะ”
สองยายหลานช่วยกันเก็บของและพูดคุยกัน กว่าจะเสร็จและแยกย้ายกันไปนอนก็เกือบสี่ทุ่ม