เช้าวันรุ่งขึ้น ลักษณ์ณาราต้องสะดุ้งตื่น ทั้งที่ยังไม่อยากลุกจากเตียงเลยสักนิด การเดินไปเดินมาทำงานเมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้เธอปวดเมื่อยไปทั้งตัว อยากจะนอนแหมะอยู่บนเตียงทั้งวันไม่ไปไหน ทว่าเสียงเคาะประตูหนักๆ ยังคอยตามมาหลอนโสตประสาทให้สะดุ้งโหยงทุกคราที่ตั้งใจจะผ่อนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ทำให้เธอมิอาจทนนิ่งดูดายได้ไหว จึงต้องปรือตางัวเงียลุกขึ้นมาเปิดประตู แต่ช้ากว่าคนที่อยู่อีกฟาก เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ทั้งทุบทั้งเรียกเจ้าของห้องก็ไม่มีทีท่าว่าจะมาเปิดประตู มาร์โบโลจึงสั่งให้ลูกน้องไปเอากุญแจสำรองไขเข้ามาภายในอย่างถือวิสาสะ
“ว้าย!” เสียงเล็กแหลมหวีดร้องแทบผงะ เมื่อเจอหน้าคนไร้มารยาทบุกเข้าห้อง ก่อนจะรีบวิ่งฉิวไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมทาบทับชุดนอนจนมือไม้เป็นระวิง
“ทำไมไม่รอให้ฉันไปเปิดประตูให้ บุกเข้าห้องคนอื่น ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย” ตำหนิติเตียนเขาอย่างไม่พอใจ ลูกน้องของชายหนุ่มได้แต่มองหน้าแม่สาวน้อยเอเชียอย่างตื่นๆ แล้วพากันลอบกลืนน้ำลาย แม่คุณช่างไม่รู้ว่ากำลังต่อกรอยู่กับใคร
“กับลูกหนี้อย่างเธอ ฉันไม่เห็นจำเป็นต้องมีมารยาท” ไหวไหล่กว้างเบาๆ พลางพูดอย่างไม่แยแสกับน้ำคำที่เธอจงใจพูดกระแทกแดกดัน สร้างความประหลาดใจให้ผู้ติดตามทั้งสองเป็นอย่างมาก เพราะโดยปกติแล้วหากนายของพวกเขาโดนว่าซึ่งๆ หน้าแบบนี้ สิ่งที่จะได้เห็นตามมาแบบฉับพลันคือการเอ็ดตะโรราวกับฟ้าผ่า
“แล้วคุณมาหาฉันทำไมตั้งแต่เช้า” ถามพลางอ้าปากกว้างหาวหวอดๆ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงจากการเพิ่งตื่นนอนมาหมาดๆ น่าแปลกใจที่เธอไม่พยายามทำตัวให้สวยและน่าประทับใจต่อหน้ามาร์โบโล คอฟอร์ด อย่างที่สตรีนางอื่นชอบกระทำกัน
‘ให้ตายเถอะ! เมื่อคืนนี้แม่คุณไม่ได้เอาหูฟังคำสั่งของเขาหรืออย่างไร’ มาร์โบโลได้แต่แอบสบถอยู่ในใจด้วยความหงุดหงิด
“เช้าอะไรกันแม่คุณ แหกขี้ตาดูเสียบ้างว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว” เจ้าพ่อหนุ่มกระแทกเสียงใส่ร่างบางอย่างฉุนๆ พร้อมพยักพเยิดไปทางนาฬิกาเรือนสวยที่ประดับอยู่ข้างฝาผนังห้อง
“แหะๆ โทษที ฉันนอนเพลินไปหน่อย” ตาหวานของคนที่แหงนหน้าคอตั้งบ่าเบิกกว้าง เมื่อเห็นเข็มสั้นบนหน้าปัดนาฬิกาเลยเลขแปดไปแล้วหลายนาที หันมากลบเกลื่อนความอายโดยการหัวเราะแห้งๆ แก้ตัวด้วยประโยคที่ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย พร้อมลูบท้ายทอยแก้เก้อ
“รีบไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วไปพบฉันที่ห้องนอน” คนถนัดแต่ออกคำสั่งพูดเสร็จก็ตั้งท่าจะพาร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างออกไปจากห้องนอนของอีกฝ่ายทันที
“ห้องนอนของคุณ!” ลักษณ์ณาราลืมตัวอุทานเสียงดัง แววตาหวานซึ้งเผยความหวาดระแวงที่หลบซ่อนอยู่ภายใน
“ใช่ห้องนอนของฉัน มีปัญหาหรือไง” เจ้าพ่อหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างนึกรำคาญกับความเรื่องมากของอีกฝ่าย ก่อนจะถามเสียงเรียบหน้าตึง กับอีแค่ไปหาเขาที่ห้องนอน มันจะอะไรนักหนา ทำหน้าแตกตื่นราวกับเขาจะพาไปเชือดอย่างงั้นแหละ
“ทำไมต้องไปห้องนอนของคุณด้วย ไปห้องทำงานไม่ได้หรือไง” คนหวาดระแวงต่อรองเพื่อหาทางเอาตัวรอด แต่ไม่ยอมที่จะปริปากบอกเขาไปตรงๆ ว่าเธอหวาดกลัวที่จะต้องอยู่ในห้องนอน อันมีองค์ประกอบหลักคือเตียงกับเขาสองต่อสอง
‘ถ้าพูดไปอย่างนั้นเขาก็รู้หมดน่ะสิว่าเธอกลัวเขา ไม่เอาหรอก เสียฟอร์มกันพอดี’
“ถ้าไม่ไปห้องนอนฉัน แล้วเธอจะทำความสะอาดให้ฉันได้ยังไงไม่ทราบ” คำพูดของเขาทำให้ลักษณ์ณษราโล่งอกจนเผลอถอนหายใจออกมาเสียงดัง ไอ้เธอก็คิดว่าเขาจะเรียกไปทำมิดีมิร้ายอย่างวันแรกที่ทั้งสองได้เจอกัน ที่ไหนได้จะให้ไปเป็นนังแจ๋วนี่เอง
“อย่าลีลาท่ามาก อาบน้ำเสร็จแล้วรีบตามมาให้ไว” กล่าวจบก็หมุนตัวออกไปจากห้องนอนเล็ก ก่อนที่เธอจะทันได้โต้แย้งอะไรอีกต่อไป หญิงสาวได้แต่อ้าปากค้าง ครั้นจะถามเรื่องเงินเดือนที่เขาจะตั้งให้ก็เห็นแค่แผ่นหลังกว้างที่เดินจากไปอยู่ไกลๆ แล้ว
“คนบ้า! ชาติที่แล้วเป็นฮิตเลอร์หรือยังไงกัน ถึงได้เอาแต่สั่งๆๆ และสั่งคนอื่นเขาอยู่ได้ ขอให้น้ำลายติดคอตายเข้าสักวันเถอะ” ร่างบางบ่นอุบ พร้อมย่นจมูกใส่ราวกับมีร่างของเขายืนอยู่ต่อหน้า
“แล้วฉันจะเอาอะไรใส่ล่ะทีนี้” ฉุกคิดแล้วก็ต้องทำหน้ายับยุ่ง ขณะนี้เสื้อผ้าที่อยู่กับเธอมีเพียงสองชุดเท่านั้น หนึ่งคือชุดทำงานที่ใส่เมื่อวานและยังไม่ได้ซัก สองคือชุดที่เธอใส่นอนแล้วเมื่อคืนนี้ และตอนนี้เธอก็ยังสวมมันติดกายอยู่ แล้วไหนจะยังชุดชั้นในของเธออีกล่ะ
ขณะที่กำลังบ่นอยู่นั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นตู้เสื้อผ้าใบย่อมที่ตั้งอยู่มุมห้อง ก้าวเท้าเรียวไปหยุดตรงตู้เสื้อผ้า เอื้อมมือดึงบานประตูให้เปิดออก และก็ปรากฏชุดพอดีตัวอยู่เต็มตู้ ซึ่งหนึ่งในเสื้อผ้าจำนวนมากมายเหล่านั้น ก็มีชุดทำงานของเธออยู่ด้วยกันเจ็ดชุด สงสัยว่าเขาจะให้คนเอาเข้ามาให้เมื่อคืนตอนที่เธอไปทำงาน พ่อคุณช่างรอบคอบดีจริง คงกลัวเธอจะทำงานไม่คุ้มค่าตัวสินะ
มัวแต่สำรวจเสื้อผ้ามากมายหลายชุดในตู้จนลืมเวลาไปเสียสนิท พอผงกหัวขึ้นอีกทีก็เป็นเวลาเกือบจะเก้าโมงเช้าแล้ว หญิงสาวจึงรีบฉวยผ้าเช็ดตัว แล้วซอยเท้ายิกๆ เข้าห้องน้ำเร็วไว วิ่งผ่านน้ำได้สิบนาทีลักษณ์ณาราก็รีบออกมาแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วมุ่งหน้าไปหามาร์โบโลที่ห้องนอนของเขาทันที
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอยู่หน้าห้อง ทำให้คนที่กำลังก้มหน้าอ่านรายงานอยู่ผงกหัวขึ้น ไม่บอกก็รู้ว่าคนที่อยู่ภายนอกคือลักษณ์ณารา เพราะเช้านี้เขาไม่ได้นัดหมายกับใครไว้
“เชิญ” น้ำเสียงทรงพลังเอ่ยอนุญาต จากนั้นเธอก็เปิดประตูแผ่วเบาและก้าวเข้ามาภายในอย่างเชื่องช้า นัยน์ตาสีนิลมองเจ้าของห้องอย่างระแวดระวัง
“แล้วไหนล่ะอุปกรณ์ทำความสะอาดของเธอ” ใช้สายตาคมมองหญิงสาวที่ดูจะไม่ได้เรื่องได้ราวในสายตาเขาไปเสียทุกเรื่องอย่างระอา
“อ้าว…คุณไม่ได้บอกให้ฉันเอามันมาด้วยนี่นา” ลักษณ์ณาราทำท่าโวยเมื่อโดนเขาชักสีหน้าใส่ ก็เขาบอกให้เธอรีบอาบน้ำแล้วมาหาเขา เธอก็ทำตามคำสั่งแล้ว ยังจะเอาอะไรกับเธออีก
“ต้องให้ฉันบอกด้วยไหมแม่คุณว่าไอ้การทำความสะอาดเขาต้องทำยังไงบ้าง” มาร์โบโลถามเสียงห้วนประชดอย่างฉุนๆ ผู้หญิงอะไรพูดจาขวานผ่าซาก ไม่มีความเป็นกุลสตรีเลยสักนิด
“ถ้าได้อย่างนั้นก็ดี” ลอยหน้าตอบโต้เสียงสูงในท้ายประโยคอย่างไม่ยี่หระ พร้อมส่งสายตาท้าท้ายให้เขาทำตามอย่างที่ได้ลั่นวาจาไปเมื่อสักครู่ และคนอย่างมาร์โบโล คอฟอร์ด ก็ไม่ชอบให้ใครมาท้าทายเสียด้วย โดยเฉพาะกับผู้หญิงด้วยแล้ว คิดจะมาลูบคมเขาอย่างนั้นหรือ เธอจะต้องได้เจอดีแน่วันนี้
“ทำความสะอาด เขาก็ทำแบบนี้ไงล่ะสาวน้อย” ขาดคำปุ๊บ ร่างบางก็ปลิวไปตกในอ้อมแขนแกร่งจากการออกแรงกระชากเพียงน้อยนิดของเจ้าพ่อหนุ่ม หญิงสาวตะลึงงัน ดวงตากลมใสเบิกกว้าง แต่ยังไม่มีโอกาสได้ต่อต้าน ริมฝีปากกระด้างของคนที่กำลังหายใจรดต้นคอก็โฉบลงมาปิดกั้นถ้อยคำเหล่านั้นให้กลับลงไปในลำคอดังเดิม
มาร์โบโลถอนริมฝีปากหยักออกมาเมื่อรับรู้ว่าแม่สาวจอมพยศจะทำร้ายเขาแล้วจัดการบีบกระพุ้งแก้มกำราบ ก่อนจะกลับไปบดขยี้เรียวปากสีกุหลาบอีกครา ลักษณ์ณาราพยายามเบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากร้อนผ่าวที่ตามประชิด แต่การกระทำของเธอดูโง่งม เพราะไม่เพียงสร้างความขบขันในสายตาเขา เธอยังถูกตรึงปลายคางให้แหงนเงยรับจุมพิตเอาแต่ใจอย่างถนัดถนี่ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เมื่อเขาผลักร่างน้อยลงไปนั่งกองกับพื้นด้วยสภาพหายใจรวยรินเสียแล้ว
“เป็นไงการทำความสะอาดในแบบของฉัน ถึงใจดีไหม” ร่างสูงใหญ่นั่งลงบนส้นเท้า ใช้ปลายนิ้วเรียวยาวเชยคางมนขึ้นมาสบตาแล้วแค่นเสียงถาม
“บ้า! ทำความสะอาดบ้านคุณเขาทำกันอย่างนี้หรือไง” ตะคอกกลับเสียงขุ่นขวาง ใบหน้าหมดจดแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอายประสมปนเปกันไปจนจะแยกไม่ออก
“ก็ทำความสะอาดปากไงสาวน้อย ปากเธอมันชอบพ่นคำไม่สุภาพดีนักนี่” เขาว่าอย่างยิ้มๆ ตวัดปลายลิ้นเลียริมฝีปากด้วยท่าทางกักขฬะ ปลุกระดมความตื่นกลัวจนลักษณ์ณาราต้องปัดมือแข็งที่จับคางมนของเธอออกแล้วกระถดตัวถอยหลังห่างจากรัศมีอันตราย
“ฉวยโอกาสน่ะสิไม่ว่า” ค้อนปะหลับปะเหลือกให้เขาอย่างเคืองๆ ก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ผลพวงจากจุมพิตร้อนแรงที่เธอไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิตสาว พลอยทำให้หญิงสาวอ่อนเปลี้ยไปทั้งร่าง
“ก็แล้วแต่เธอจะคิด” เจ้าพ่อหนุ่มผุดลุกขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะไหวไหล่ทรงพลังน้อยๆ อย่างไม่สะทกสะท้านกับวาจาค่อนแคะของอีกฝ่าย แถมยังยกยิ้มที่มุมปากอย่างเป็นต่อได้น่าต่อยสักหมัด
“อ๋อ…ฉันคิดแน่ คนมือไว ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย” ลักษณ์ณาราสบตาคมอย่างไม่กะพริบ พร้อมทั้งสวนกลับเขาด้วยท่าทางถือดี
“ฉันมีความเป็นลูกผู้ชายอยู่ทั้งแท่ง เธอจะลองดูหน่อยไหมล่ะ” เมื่อโดนปรามาสด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุดในชีวิตลูกผู้ชายอกสามศอกอย่างเขา มาร์โบโลก็หน้าดำหน้าแดง กัดฟันกรอด ก่อนจะสาวเท้าเข้าประชิดร่างน้อยอย่างคุกคาม
“อย่ามาทำบ้าๆ กับฉันนะ” สีหน้าแตกตื่นตกใจ ปากรูปกระจับละล่ำละลักห้ามปรามเสียงสั่น พลางยกสองมือเรียวออกแรงดันแผ่นอกกว้างไม่ให้เข้ามาประชิดลำตัว
“ทำไม ไม่อยากพิสูจน์ในความเป็นชายของฉันหน่อยเหรอ จะได้รู้ซึ้งถึงแก่นไปเลยไง” ตวัดแขนรอบเอวคอดให้ร่างบางเข้าแนบชิด แล้วก้มลงกระซิบเสียงแหบห้าวริมใบหูบอบบาง
“มะ…ไม่ ฉันเชื่อแล้ว” บอกเขาอย่างตะกุกตะกัก การยืนแนบชิดสนิทเนื้อกับร่างที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจแห่งบุรุษเพศ แถมยังหล่อกระชากใจแบบนี้ มันพลอยทำให้หัวสมองเธอขาวโพลน ไม่เกิดการประมวลผลไปชั่วขณะ
“เชื่อแล้ว เชื่อว่ายังไงพูดมาให้เคลียร์ ถ้ายังไม่เคลียร์มีพิสูจน์แน่” พูดชิดพวงแก้มสุกปลั่ง รุกเร้าให้อีกฝ่ายได้ผวาเล่นๆ ซึ่งมันก็ได้ผล เรือนกายอรชรที่โดนเขากักตัวไว้ในวงแขนกำลังออกอาการสั่นเทาราวกับลูกนก
“เชื่อว่าคุณเป็นลูกผู้ชาย เอ่อ…ทั้งแท่ง ได้ยินชัดไหม คนบ้า!” เสียงแข็งโพล่งขึ้นอย่างอายๆ ปนขุ่นเคืองให้คนตัวโต อยากจะตะบันหน้ากวนๆ นั่นให้หมดหล่อนัก
“ชัดเจนแจ่มแจ๋วเลยล่ะทูนหัว” ว่าพลางก้มลงฉวยจุมพิตแก้มป่องๆ ทั้งสองข้าง ถอยฉากออกมายืนยักคิ้วหลิ่วตาให้อีกฝ่ายที่กำลังทำท่าฮึดฮัดเหมือนอยากจะหักคอเขา
“ทำให้ห้องฉันสะอาดด้วยล่ะ อีกหนึ่งชั่วโมงจะกลับมาตรวจ” ออกคำสั่งเสร็จเจ้าพ่อหนุ่มก็ตั้งท่าจะหมุนตัวออกจากห้องนอนใหญ่ ทว่าโดนหญิงสาวเอ่ยรั้งไว้ก่อน
“เดี๋ยวสิคุณ เรายังไม่ได้ตกลงกันเลยนะว่าคุณจะให้เงินเดือนฉันเท่าไหร่” ร่างใหญ่ต้องหันหลังกลับ แล้วสาวเท้ามาหยุดยืนตรงหน้าร่างบาง
“หน้าที่แม่บ้านและเด็กเสริ์ฟในคาสิโน ฉันให้เธอเดือนละสองหมื่นก็แล้วกัน” มาร์โบโลใช้สมองอันชาญฉลาดคิดคำนวณค่าแรงของหญิงสาว ครู่เดียวก็ตอบกลับมาอย่างฉะฉาน
“สองหมื่น” ลักษณ์ณาราทวนคำเสียงใส ใบหน้างามเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มหวานละมุนชวนมองจนอีกฝ่ายเผลอจับจ้องนิ่งนาน หัวใจดวงน้อยกำลังลิงโลด เมื่อคิดคำนวณแล้วทำงานที่นี่ไม่ถึงครึ่งปีเธอก็จะได้กลับบ้าน โอ้ย! ไม่มีอะไรที่จะทำให้เธอยินดีไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว
“สองหมื่นบาทไทยนะคนสวย ไม่ใช่สองหมื่นยูโร” คำแถลงไขของเจ้าพ่อหนุ่มทำให้ใบหน้าที่กำลังบานเบ่งด้วยความดีใจหดลงเหลือแค่สองนิ้ว หัวใจดวงน้อยห่อเหี่ยวราวกับลูกโป่งที่ถูกเจาะลมออกอย่างกะทันหัน แล้วเมื่อไหร่กันล่ะเธอจะใช้หนี้ให้เขาหมดสิ้น ไม่ต้องทำงานในเรือไปตลอดชีวิตเลยหรือไง
“ฉันขอเพิ่มอีกหน่อยไม่ได้เหรอ” ทำหน้าละห้อยให้อีกฝ่ายสงสาร ยอมที่จะลดเสียงอันฟังไม่ค่อยจะรื่นหูให้ดูละมุนขึ้นเพื่อเว้าวอนขอความเห็นใจ
“ฉันเคยเห็นแต่นายจ้างหน้าเลือด แต่เธอนี่มันลูกจ้างหน้าเลือดชัดๆ” เจ้าพ่อหนุ่มพูดเชิงประชดประชัน แต่ไม่มีแววกรุ่นโกรธในน้ำเสียง แถมยังแอบขันซะด้วยซ้ำที่เห็นแม่สาวจอมพยศทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ถ้าหน้าเลือดแล้วคุณขึ้นเงินเดือนให้ ฉันก็โอเคนะ” หญิงสาวว่าเสียงใส พลางจับจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยประกายตาแห่งความหวัง
“ไม่ได้ สองหมื่นก็มากพอแล้วสำหรับตำแหน่งแม่บ้าน เทียบเท่ากับวุฒิปริญญาตรีเลยนะนั่น” ชายหนุ่มปฏิเสธคำขออย่างสิ้นเยื่อขาดใย ดวงตากลมโตที่ส่องประกายเรืองรอง ความหวังสว่างวาบพลับดับวูลบลงเพราะคำพูดไม่กี่คำที่หลุดออกมาจากปากของเขา
“แล้วคุณจะเสียใจที่ทำกับฉันแบบนี้” มองหน้าเขาอย่างตัดพ้อ ใบหน้างามที่เปี่ยมไปด้วยความหวังเมื่อสักครู่พลันสลด ดวงตาหม่นแสงลงอย่างเห็นได้ชัด
“คนอย่างมาร์โบโล คอฟอร์ด ไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ได้ตัดสินใจทำลงไป อย่าพูดมากไปทำงานได้แล้ว” ไล่ให้หญิงสาวไปทำงานที่เขาสั่งในตอนท้าย ซึ่งคำพูดแสนทระนงตนนั้นก็ทำให้ลักษณ์ณาราหมั่นไส้เขาเหลือกำลัง
“คนบ้าดีแต่สั่งๆๆ อย่าให้ถึงทีฉันบ้างก็แล้วกัน” เจ้าของใบหน้าบูดบึ้งบ่นกระปอดกระแปด พลางอาฆาตแค้นเขาในน้ำเสียง
“แล้วเธอจะทำอะไรฉันไม่ทราบ แม่สาวน้อย” เสียงกลั้วขำดังชิดใบหูน้อย ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดต้นคอจากทางด้านหลัง ทำให้ร่างบางสะดุ้งโหยง คนบ้า! กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
“รีบทำล่ะ ถ้าไม่เสร็จโดนดีแน่” ปากสั่งอย่างเอาแต่ใจ ส่วนสายตาร้อนแรงคู่นั้นก็จับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากเต็มตึง สร้างความอึดอัดให้ลักษณ์ณาราอย่างมหาศาล
“อย่ามาขู่ฉันนะ” หญิงสาวขึ้นเสียงใส่อย่างไม่ชอบใจ คนอะไรขยันขู่ ขยันสั่ง ว่างมากนักหรือไงถึงได้คอยมาตามจ้ำจี้จ้ำไชกับเธออยู่ได้
“คนอย่างฉันไม่คิดจะขู่อย่างเดียว แต่จะทำอย่างที่พูดจริงๆ ด้วย” ก่อนจะไปยังไม่วายชะโงกหน้าเข้ามาเฉียดแก้มใส กลั่นแกล้งเธอให้สะดุ้งสะเทือนอย่างนึกสนุก