bc

เมียสมนาคุณ (ซีรีส์ชุดเมียที่รัก ลำดับที่ 1)

book_age18+
1.1K
FOLLOW
4.1K
READ
opposites attract
pregnant
mafia
sweet
whodunnit
reckless
tricky
passionate
stubborn
like
intro-logo
Blurb

มาร์โบโล คอฟอร์ด ไม่ปรารถนาจะเหลือบแลตุ๊กตาดิ้นได้ที่ถูกนำตัวขึ้นมาประมูลบนเรือสำราญสุดหรูของตนเลยสักนิด มิหนำซ้ำยังแสดงท่าทีรังเกียจอย่างเปิดเผย ทว่าอยู่ๆ แม่สาวน้อยในชุดหูกระต่ายสีชมพูหวานแหววที่เขาปรามาสด้วยความสมเพชก็หล่นตุ้บลงบนตัก ครั้นจะไม่รับไว้ไอ้เพื่อนตัวแสบที่ยกให้กลับลอยหน้าบอกว่าจะมอบเธอให้แก่ผู้ชายกลัดมันทั้งหลาย ถึงแม้จะไม่พิสมัยสาวเจ้าสักกระผีก หากแต่มนุษยธรรมเล็กๆ ในใจกลับกระตุ้นให้เขารับเธอไว้เอง และนั่นก็ทำให้ ลักษณ์ณารา สุขวิมล รอดพ้นจากการเป็นโสเภณีเต็มขั้น ทว่าที่สุดเธอกลับได้รู้ซึ้งว่าตัวเองได้หนีเสือปะจระเข้เข้าเสียแล้ว เพราะในทันทีที่เขารู้ว่าเธอเป็นน้องสาวของผู้ชายที่เขา 'เเค้น' เขาก็ตอบเเทนเธอด้วยความ 'รักจอมปลอม' หลอกล่อให้เธอรักอย่างหมดใจ ก่อนจะเฉดหัวทิ้งให้สาสมกับความเเค้นที่อัดเเน่นในอก

“อย่าทำอะไรบ้าๆ กับน้ำในที่ทำงานนะ” ลักษณ์ณาราเอ่ยห้ามเจ้าพ่อสุดหื่นเสียงหลง พลางออกอาการขัดขืนปัดป้องอย่างสุดกำลัง

“ว้าย!” คนโดนคุกคามหวีดร้องสุดเสียงด้วยความแตกตื่น เมื่อเจ้าพ่อคลั่งรักออกแรงกระชากอาภรณ์ห่มกายงามออกจนหมดเกลี้ยงในพริบตา

“จะทำอะไร! อย่านะ! ทำที่นี่ไม่ได้!” เจ้าของร่างงดงามเปล่าเปลือยรีบร้องห้ามปากคอสั่น พร้อมทั้งตะเกียกตะกายขึ้นจากโซฟาหรู หากแต่ไม่สำเร็จเพราะเขาตามติดทาบร่างทรงพลังลงมากักตัวไว้ในอ้อมอกผ่าวระอุ

“เซ็กส์ไม่จำเป็นต้องเกิดในห้องนอนอย่างเดียวหรอกนะทูนหัว ขอเพียงกายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้” เสียงหื่นกระซิบอู้อี้ชิดซอกคอหวานหอม

“แต่น้ำไม่พร้อมนี่นา” หญิงสาวประท้วงผาดแผ่ว พลางส่ายหน้าหลบเลี่ยงปากและจมูกร้อนๆ ที่กำลังพรมจูบไปทั่วดวงหน้างามอย่างตะกละตะกลาม

“ผมจะทำให้คุณพร้อมเองทูนหัว”

ฉาด!!!

จากฤทธิ์ฝ่ามือประเคนเข้าใส่เสี้ยวหน้าคร้ามคมที่ไม่เบานัก ทำให้ใบหน้าของมาร์โบโลหันไปตามแรงตบ และซีกหน้าแดงเป็นปื้นขึ้นในทันตา ใช้ปลายลิ้นดุนดันกระพุ้งแก้มด้านที่โดนตบ แล้วค่อยๆ หันดวงตาวาวโรจน์มาสบสานสายตากับคนตัวเล็กอย่างเอาเรื่อง

“สารเลว ฉันเกลียดคุณ!” ลักษณ์ณาราตะเบ็งเสียงก่นด่าเขาทั้งน้ำตาด้วยความอัดอั้นตันใจ ยิ่งเธอขืนกายออกจากพันธการร้ายมากเท่าไหร่ เขายิ่งจงใจบดเบียดร่างทรงพลังเข้าหามากเท่านั้น

“ฉันก็เกลียดน้องสาวไอ้ชาติชั่วอธิปมากเหมือนกัน เธอมันก็คงจะเลวไม่ต่างอะไรกับพี่ชายของเธอ” เขาพิพากษาเธอด้วยน้ำคำร้ายกาจ

“หากฉันกับพี่ชายฉันเลว คุณก็คงสามานย์ไม่ต่างกัน” จ้องมองใบหน้าคมเจิดจรัสที่อัดแน่นไปด้วยความหล่อร้ายกาจ พร้อมกับเค้นเสียงแข็งตวาดลั่น

“สามานย์อย่างนั้นเหรอ แล้วเธอจะได้รู้ซึ้งถึงคำว่าสามานย์อย่างถึงแก่น” เจ้าพ่อหนุ่มคำรามทวนคำพร้อมแสยะยิ้มอย่างน่าสะพรึงกลัว พลอยทำให้คนมองถึงกับตัวสั่นงันงก หากแต่ไม่สามารถก้าวขาอันสั่นเทาหนีจากรัศมีอันตรายที่กำลังเปล่งประกายออกมาจากตัวเขาได้เลย

ขาดคำร่างที่หล่อเลี้ยงไปด้วยไฟแห่งความเคียดแค้น ก็ลงมือฉีกกระชากอาภรณ์ที่ห่มกายสั่นระริกออกอย่างรุนแรงจนขาดหลุดติดมือในชั่วพริบตา จับร่างบางโยนลงไปบนโซฟา แล้วโถมร่างทรงพลังลงไป...

chap-preview
Free preview
ความหลังฝังใจ (50%)
ห้าปีที่แล้ว ผืนนภาที่ปกคลุมกรุงสตอกโฮล์ม เมืองหลวงของประเทศสวีเดน ในเย็นย่ำค่ำวันนี้ดูมืดครึ้มและมัวหม่น อันเนื่องมาจากพายุได้เริ่มตั้งเค้าโหมกระหน่ำตั้งแต่ตอนหัวค่ำ เม็ดฝนห่าใหญ่เทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาราวกับฟ้ารั่ว สลับกับเสียงฟ้าคำรามดังสนั่นหวั่นไหว บ้างก็มีแสงแปลบปลาบจากสายฟ้าแหวกม่านนภากาศฟาดดิ่งลงสู่พสุธา เป็นปกติของการย่างเข้าสู่ฤดูฝน หน้าฝนปีนี้มาเร็วกว่าทุกปี   มาร์โบโล คอฟอร์ด เจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลแห่งน่านน้ำท้องทะเลบอลติก กำลังกอดอกนั่งตัวตรงอยู่บนรถยนต์คันหรูจากค่ายรถชั้นนำของโลกที่กำลังวิ่งฝ่าสายฝนมาด้วยความเร็วปานจรวด ใบหน้าหล่อเหลาฉายชัดไปด้วยความกลัดกลุ้มกังวลใจมากล้น นัยน์ตาสีควันบุหรี่เครียดเขม็งและมัวหม่น ริมฝีปากหยักโค้งราวคันศรที่มักเอื้อนเอ่ยคำประกาศิตอยู่เป็นนิจ มาบัดนี้มันกลับถูกเจ้าตัวเม้มสนิทเกือบเป็นเส้นตรง จนลูกน้องที่ทำหน้าที่เป็นสารถีและนั่งมาด้วยกันในรถไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ หรือปริปากแย้งเมื่อเจ้านายออกคำสั่งให้เหยียบคันเร่งอย่างไม่คิดชีวิต ความอึดอัดกำลังแผ่ซ่านปกคลุมไปทั่วทั้งคันรถ เมื่อทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่าน้องสาวของเขา ที่เจ็บออดๆ แอดๆ มาเป็นเวลาเกือบสองเดือนเต็มมีอาการกำเริบขั้นรุนแรง มาร์โบโลก็โยนหน้าที่รับผิดชอบทั้งหมดในค่ำคืนนี้ให้ที่ปรึกษาอาวุโสของบริษัทรับช่วงดำเนินการต่อ แล้วร่างสูงสง่าก็เดินลิ่วมาขึ้นเครื่องบินส่วนตัว แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ทำให้เจ้าพ่อหนุ่มต้องสั่งให้นักบินเอาเครื่องลงที่ลานจอดบนดาดฟ้าของอาคารสำนักงานแกรนด์เพิร์ลในกรุงสตอกโฮล์ม ก่อนที่พายุลูกใหญ่จะมาถึงในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้าตามคำพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา จากนั้นก็สั่งให้ลูกน้องบึ่งรถกลับบ้านของตนในเมืองคาลมาร์ด่วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ มิเชล คอฟอร์ด ต้องทำการผ่าตัดเอาเด็กในครรภ์ซึ่งมีอายุครบแปดเดือนออกอย่างเร่งด่วน ตอนนี้หมอกำลังรอญาติคนไข้มาเซ็นใบอนุญาตอยู่ นั่นก็หมายความว่าหากเขาไม่เซ็นยินยอมให้หมอทำตามเห็นสมควร เขาก็อาจจะต้องเสียทั้งน้องสาวและหลานไปในคราเดียวกัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่มาร์โบโลรับไม่ได้ และคงจะไม่มีวันยอมรับมันไปชั่วชีวิต ‘ทำไมพระเจ้าถึงได้ใจร้ายนัก หัวใจของท่านทำด้วยอะไร ถึงไม่ปรานีมนุษย์ตาดำๆ อย่างเขาบ้าง’ เจ้าพ่อหนุ่มได้แต่รำพึงรำพันด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่คนเดียวเงียบๆ กระแทกลมหายใจร้อนระอุออกมายืดยาว ก่อนจะยกฝ่ามือใหญ่ขึ้นลูบใบหน้าคร้ามคม ดวงตาฉายแววหม่นเศร้าระคนเจ็บปวด “ขับให้มันเร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอไงวะ ไอ้ฟรานซิส” น้ำเสียงกระด้างของมาร์โบโล คอฟอร์ด เอ่ยกับผู้ทำหน้าที่สารถีเป็นหนที่สอง  ตั้งแต่ก้าวขาขึ้นรถคันหรู หัวใจของเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่ก็บีบคั้นจนแทบแหลกสลาย ความรู้สึกยากจะบรรยายกำลังถาโถมเข้ามาไม่ต่างจากมรสุมลูกใหญ่ และหนึ่งในนั้นคือความหวาดกลัวกับการสูญเสีย ทั้งที่คนอย่างมาร์โบโล คอฟอร์ด ไม่เคยต้องครั่นคร้ามกับอะไรมาก่อนในชีวิต หากแต่ครั้งนี้เขากลับกลัวว่าน้องสาวที่รัก ผู้เปรียบเสมือนครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่จะทิ้งเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ “ต้องขออภัยด้วยครับนาย รถคงไม่สามารถวิ่งด้วยความเร็วได้มากไปกว่านี้แล้ว” สองหนุ่มที่นั่งคู่กันอยู่ตอนหน้าของรถยนต์ราคาหลายสิบล้านต่างมองหน้ากันไปมาสักพักราวกับชั่งใจว่าใครจะเป็นคนต่อกรกับผู้เป็นเจ้านาย แล้วอึดใจต่อมาคาร์ลอสก็เอี้ยวตัวมาค้อมหัวให้นายเป็นเชิงขอโทษ “ทำไมวะ รถซื้อมาคันละตั้งหลายล้าน ถ้าไม่ใช้สอยให้ตอบสนองตามความต้องการของเจ้าของ แล้วจะซื้อมาทำไมไม่ทราบ!” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจก็พลอยพาลพาโลให้รถที่กำลังขับเคลื่อนฝ่าสายฝน เออหนอ…หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้เจ้าพ่อหนุ่มยังเคืองได้แม้กระทั่งรถยนต์จากค่ายหรู “หากขับเร็วกว่านี้ เราเกรงว่ามันจะไม่ปลอดภัยต่อสวัสดิภาพของเจ้านายนะครับ หากเจ้านายเป็นอะไรไป คุณมิเชลจะทำอย่างไร” ถึงแม้จะรีบร้อนยังไง ความปลอดภัยของเจ้านายก็ต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก คาร์ลอสกล้าที่จะพูดเตือนสติคนที่กำลังนั่งทำหน้าตึง เพราะครอบครัวของเขารับใช้ตระกูลคอฟอร์ดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่อยากไปให้ถึงที่หมายเร็วๆ เหมือนกับเจ้านาย แต่ในเมื่อฝนฟ้าไม่เป็นใจจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้รถขับเคลื่อนพาผู้โดยสารทุกคนไปถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ เมื่อเจ้าพ่อผู้กุมอำนาจการเงินของสวีเดนได้ฟังคำคัดค้านอย่างประนีประนอมและสมเหตุสมผล ซึ่งในน้ำเสียงที่มีหลักการของเลขาฯหนุ่มนั้น มันแฝงไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างแท้จริงจนทำให้เขาต้องเลิกเอ็ดตะโร กระแทกลมหายใจร้อนรนออกมาทางริมฝีปากหยักได้รูปอย่างยืดยาว ราวกับจะให้มันช่วยผ่อนปรนความรู้สึกที่กำลังสุมแน่นในทรวงให้ลดระดับลง หลังจากนั้นรถทั้งคันก็ตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงเสียงทอดถอนใจแรงๆ ของมาร์โบโลดังออกมาเป็นระยะ เอี๊ยด!!! ฟรานซิสกระแทกปลายเท้าเหยียบเบรคจนตัวโก่ง เมื่อเหลือบแลเห็นว่าบนพื้นผิวถนนข้างหน้าอีกยี่สิบเมตรมีต้นไม้ล้มขวางทางอยู่ เสียงล้อรถยนต์ครูดกับพื้นถนนดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับไอควันจากการบดอัดของยางรถยนต์ลอยละล่องออกมาฟุ้งกระจายเป็นควันสีขาวคละเคล้าไปในอากาศ “หยุดรถทำไมวะ ไอ้ฟรานซิส แกก็รู้อยู่นี่นาว่าฉันรีบ” จากที่กำลังนั่งจมจ่อมอยู่กับความหมกมุ่น เมื่อรถหยุดอย่างกะทันหันจนแทบหัวทิ่มหัวตำ มาร์โบโลก็กระชากเสียงห้วนระคนดุดันใส่คนที่นั่งประจำตำแหน่งพลขับ สายตาอำมหิตของเจ้านายที่ใช้มองจิกอย่างตำหนิติเตียน ทำให้ฟรานซิสอยากจะกลั้นใจตายให้มันรู้แล้วรู้รอด “เอ่อ…มีต้นไม้ล้มขวางถนนครับนาย” พายุที่โหมกระหน่ำได้กวาดเอาต้นสนริมทางที่ขึ้นมากว่าห้าปีล้มขวางเส้นทางการจราจร ฟรานซิสหันมาตอบเจ้านายอย่างตะกุกตะกัก ถ้าไม่จำเป็นเขาไม่อยากจะปริปากเอ่ยอะไรกับเจ้านายในเวลานี้เสียด้วยซ้ำ คนอะไรดุและน่ากลัวยิ่งกว่ามัจจุราช ทั้งที่รับใช้มาร์โบโลมาหลายปีพอๆ กับคาร์ลอส ฟรานซิสก็ยังไม่ชินกับอารมณ์โมโหร้าย ถ้าเจ้านายเกิดพิโรธทีไรเขาก็ต้องกลัวจนหัวหดอยู่ร่ำไป ไม่เหมือนคาร์ลอส รายนั้นเอาแต่ทำหน้านิ่งราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร “บ้าเอ๊ย…ทำไมมันถึงมีแต่อุปสรรคอย่างนี้วะ” นี่เป็นคำสบถที่มาร์โบโลพ่นออกมาจากริมฝีปากหยักเป็นครั้งที่เท่าไรไม่อาจทราบได้ รู้แต่ว่าขณะนี้ไฟโทสะกำลังโหมกระพือจนเกือบจะลุกท่วมไหม้รถทั้งคัน “นายนั่งรออยู่ในรถสักครู่นะครับ ผมสองคนจะลงไปเคลียร์ทางให้รถวิ่งผ่านไปได้” คาร์ลอสหันมาบอกเจ้านายด้วยท่าทางนอบน้อม แล้วพยักพเยิดให้แก่ฟรานซิส กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถในฝั่งของตน แต่เลขามาดนิ่งก็ต้องชะงักมือไว้เพียงเท่านั้น เมื่อเสียงทรงอำนาจของมาร์โบโลหลุดออกมาจากปาก ที่เพิ่งคลายจากการเม้มสนิทเพราะความไม่ได้ดั่งใจของเจ้าตัว “เปลี่ยนไปใช้เส้นทางลัดแทน” เจ้าพ่อหนุ่มบอกลูกน้องด้วยโทนเสียงราบเรียบติดจะดุ นัยน์ตาที่เครียดขรึมอยู่แล้วมาบัดนี้ยิ่งแดงฉานน่าสะพรึงกลัว สองหนุ่มผู้ต้องคำประกาศิตหันสีหน้าอันสุดแสนกระอักกระอ่วนมาสบสานสายตาซึ่งกันและกันราวกับจะใช้สายตาฟาดฟันประหัตประหารว่าหากใครเพลี่ยงพล้ำ คนนั้นก็จะต้องเป็นฝ่ายทำหน้าที่คัดค้านเจ้านาย ที่สุดฟรานซิสก็พ่ายแพ้ให้แก่หนุ่มมาดนิ่ง เพียงคาร์ลอสใช้สายตาขู่เข็ญแกมบังคับ เขาก็ยอมที่จะเปิดปากห้ามปรามเจ้านายอย่างไม่คิดจะโต้แย้งให้มากความ “แต่ว่าทางนั้นมันมืดนะครับ อีกอย่างถนนก็ไม่ดีด้วย” ใช่ว่าจะใช้เส้นทางที่เจ้านายกำลังกล่าวถึงสัญจรไม่ได้ แต่ฟรานซิสไม่อยากใช้มันในเวลาฝนฟ้าคะนองเช่นนี้ เพราะขนาดในเวลาปกติหากไม่รีบจัดจนเกินไปก็จะหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางนั้น ผิวถนนขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อไม่พอ ไฟถนนยังเสียตั้งหลายหลอด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เพิกเฉย ไม่คิดจะมาปรับปรุงซ่อมแซม ปล่อยปละละเลยจนเส้นทางนี้ร้างรถยนต์สัญจรไปมาในที่สุด “ถึงแม้จะวิ่งฝ่าความมืด แกก็ต้องพาฉันไปให้ถึงบ้านภายในครึ่งชั่วโมงให้ได้ เข้าใจไหม!” เสียงกร้าวกระด้างออกคำสั่งประกาศิตบ่งบอกว่าทั้งสองหนุ่มหมดสิทธิ์โต้แย้ง ซึ่งมันเป็นการเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ “ครับนาย” สุดท้ายสองเสียงที่ร่วมแรงแข็งขันก็ไม่สามารถคะคานหนึ่งเสียงหัวเดียวกระเทียมลีบ ทว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจได้ สารถีหนุ่มยอมที่จะหักพวงมาลัยย้อนกลับมาทางเดิมประมาณสองร้อยเมตร ก่อนจะนำพารถยนต์คันหรูวิ่งเข้าสู่ถนนวิบากที่โรยตัวไปด้วยความมืดมิดของราตรีกาลอันไร้ซึ่งแสงดาวส่องสว่างนำทาง เพราะมีกลุ่มเมฆทะมึนเคลื่อนตัวมาบดบัง ท้องฟ้าจึงปิดสนิท จากเปิดไฟต่ำเมื่อขับขี่รถยนต์ตามปกติมาตบไฟสูงเพื่อให้มองเห็นพื้นผิวถนนที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เป็นการลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น จะเรียกว่ากันไว้ดีกว่าแก้ก็คงจะไม่ผิดสักเท่าไหร่ เพราะไม่มีใครทราบได้ว่าอุบัติเหตุจะมาเยือนเมื่อใด แต่ที่แน่ๆ คืออุบัติเหตุมักจะมาพร้อมกับความประมาทเสมอ อึดใจต่อมาฟรานซิสก็หักพวงมาลัยมุ่งเข้าสู่ถนนส่วนบุคคลของตระกูลคอฟอร์ด แล้วเร่งความเร็วเพื่อไปให้ถึงที่หมายอย่างที่ใจเจ้านายปรารถนา “รอพี่ก่อนนะมิเชล พี่กำลังจะถึงบ้านแล้ว” เสียงพึมพำดังลอดออกมาจากปากเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาทว่าเครียดเขม็งราวกับจะฝากสายลมไปบอกคนที่กำลังนอนป่วยอยู่ที่บ้าน มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมกระชับเข้าหากันแล้วบีบจนเส้นเลือดปูดโปน   แม้เจ้านายจะเปล่งวาจาออกมาแผ่วเบาไม่ต่างอะไรจากเสียงกระซิบ แต่ฟรานซิสและคาร์ลอสก็ได้ยินชัดเต็มสองรูหู อยากจะเหยียบคันเร่งให้มิดเข็มไมล์ เอาให้ทันใจผู้เป็นนายที่กำลังร้อนเป็นไฟ แต่ก็ทำอย่างที่ใจปรารถนาไม่ได้ เพราะถ้าหากพลาดพลั้งขึ้นมา ผลเสียย่อมบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หลังจากนั้นสามสิบนาทีไม่ขาดไม่เกิน ฟรานซิสก็สามารถประคับประคองรถยนต์คันหรูมาถึงคฤหาสน์คอฟอร์ดอย่างปลอดภัยครบสามสิบสองกันถ้วนหน้า คฤหาสน์หรูสไตล์โคโลเนียนที่ไม่อาจประเมินค่าตั้งตระหง่านอยู่บนเนื้อที่นับสิบไร่ ท่ามกลางธรรมชาติในเขตชนบทของเมืองคาลมาร์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสวีเดน โดยที่ข้างหน้าจรดทะเลบอลติกข้างหลังติดเนินเขาเขียวขจีลูกย่อมๆ มาร์โบโลไม่ค่อยได้กลับมาที่บ้านบ่อยนัก เพราะส่วนมากเขาจะใช้ชีวิตอยู่บนเรือสำราญแกรนเพิร์ล ที่ล่องอยู่ในน่านน้ำสีครามของท้องทะเลบอลติก ธุรกิจที่บรรพบุรุษรุ่นแรกๆ ของตระกูลคอฟอร์ดได้บุกเบิกและริเริ่มทำขึ้น แล้วก็ตกทอดมาจนถึงทายาทคนโตผู้มีสายเลือดไวกิ้งอยู่เต็มเปี่ยมอย่างมาร์โบโล คอฟอร์ด อาจจะเป็นเพราะเจ้าพ่อหนุ่มมีเลือดของเชื้อสายไวกิ้งอยู่เต็มเปี่ยมทั่วทุกอณูของเรือนร่างทรงพลัง จึงทำให้เขาเป็นคนดุดันและน่าเกรงขามในสายตาของผู้พบเห็น แล้วไหนจะยังกิตติศัพท์ความเลือดเย็นของเขาอีกล่ะ เพียงแค่ได้สดับรับฟังผู้คนทั้งหลายต่างก็ขยาดกลัวแล้ว

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

หัวใจซ่อนรัก(เฮียเดย์)

read
29.4K
bc

Passionate Love รักสุดใจนายขี้อ่อย 20+

read
31.8K
bc

เมียลับอุ้มรัก

read
77.8K
bc

ขังรัก

read
17.7K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
14.3K
bc

รอยแค้นแห่งรัก

read
52.4K
bc

My Sister น้องสาว... ที่รัก

read
6.6K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook