6. วันไนท์สแตนด์

1769 Words
@คอนโดริสา . “นายอยากดื่มอะไร เหล้า ไวน์ เลือกได้เลยนะ” เจ้าของห้องเอ่ยกับผม ภายในห้องของเธอเต็มไปด้วยเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ผมเลือกเหล้าราคาแพงแล้วหยิบมาหนึ่งขวด เป็นยี่ห้อเดียวกับที่ดื่มในคลับเพราะไม่อยากดื่มผสมกันเดี๋ยวจะปวดหัว ริสาหยิบแก้วมาเทให้กับผมและเธอคนละแก้ว เรานั่งดื่มกันที่โซฟา เธอเปิดไฟห้องแบบสลัวๆ เอาจริงผมก็เริ่มเมาตั้งแต่ในคลับแล้วเหมือนกัน คราแรกผมก็ไม่ได้อยากจะมาหรอก แต่ในเมื่อเธอชวนและถ้ากลับห้องไปก็นอนไม่หลับอยู่ดี เลยเลือกที่จะมาดื่มต่อ “ชนแก้วจ้ะ ดื่มได้ตามสบายเลยนะ เผื่อติดใจจะมาบ่อยๆ ก็ได้นะ พี่ไม่ถือ” “คงจะชวนคนอื่นเข้าห้องบ่อยสินะ” อย่าหาว่าผมดูถูกเลย “สมัยนี้ใครๆ ก็ทำกัน นายอย่าคิดมากสิ ก็แค่สนุกกัน” พูดจบก็ยื่นแก้วมาชนแล้วดื่มต่อ ริสาขยับเข้ามาใกล้ผมเรื่อย ๆ เธอวางแก้วลงบนโต๊ะ ก่อนจะส่งใบหน้ามาซบที่หน้าอกของผมอีกครั้ง พร้อมกับลูบไล้ไปตามลำแขนอย่างเบามือ “พี่มองออกว่านายมีเรื่องเครียด ให้พี่ช่วยให้นายมีความสุขนะ” เธอเงยหน้ามองผมก่อนจะเลื่อนมาใกล้ปากแล้วทำท่าจะจูบ ผมผลักเธอออกทันที ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมรัก ก็จะไม่ยอมจูบกับใครเด็ดขาด “พี่สัญญา จบคืนนี้ไป เราจะลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น” ผมก็ยังคงไม่ตอบ เธอก็เริ่มซุกไซ้ซอกคอของผมทันที พร้อมกับส่งมือลูบไล้ไปตามลำตัว และความเป็นชายที่อยู่ภายใต้กางเกง ผมก็เป็นผู้ชายทั้งแท่ง บวกกับความเครียดที่มันถาโถม แถมยังถูกจู่โจมจากหญิงสาวมากประสบการณ์แบบนี้ คืนนี้ขอปล่อยตัวไปตามอารมณ์กามหน่อยก็แล้วกัน ผมยังไม่มีใคร การที่ผมจะนอนกับใครสักคนมันคงไม่ใช่เรื่องผิด และเธอก็เป็นฝ่ายเสนอตัวเข้าหาผมเองแบบไม่มีข้อผูกมัด ให้กันฟรีๆ แบบนี้ อยากได้มากก็จะสนองให้สมใจ แต่ทำแค่ส่วนนั้นอย่างเดียวนะ จะไม่มีการเล้าโลมใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเรื่องคืนนี้มันไม่ได้เกิดจากความรัก มันเป็นแค่ความใคร่ก็เท่านั้นเอง และที่สำคัญผมป้องกัน ไม่ต้องคิดว่าผมเป็นคนพกมา เพราะบนหัวเตียงของเธอมีครบทุกขนาด แค่นี้ก็รู้แล้วว่าช่ำชองขนาดไหน เสร็จกิจผมก็เข้าไปล้างเนื้อล้างตัวและรีบแต่งตัวออกมารอเธออยู่ข้างนอก ตรงโซฟาที่เรานั่งดื่มอยู่ก่อนหน้า “โชกุน นายร้อนแรงมากเลยนะ” “ทำตามสัญญาด้วย” “เรื่องอะไร” “พูดเองกับปาก อย่าคิดจะผิดคำพูด” “ถ้าเป็นเรื่องที่เรามีอะไรกันน่ะเหรอ พี่ไม่ถือหรอก แต่นายดุดันได้ใจพี่มากเลยนะ ชักจะติดใจนายขึ้นมาแล้วสิ” “หยุดคิดเดี๋ยวนี้ เธอบอกเองนะว่าวันไนท์สแตนด์ จบแล้วแยกทาง” พูดจบผมก็ลุกเดินมายังประตูทันที ผู้หญิงคนนี้ร้ายกว่าที่ผมคิด คราแรกบอกอีกอย่าง ยังไม่ทันข้ามคืนก็คิดจะผิดคำพูด “พี่ไม่ได้กลับคำสักหน่อย แค่อยากจะบอกเอาไว้ ว่านายมานอนกับพี่ได้อีกนะ พี่ไม่ถือ” “แต่ผมถือ นี่จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย และหวังว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้” ผมเปิดประตูและก้าวออกจากห้อง “ไว้พี่จะโทรหานะ” เธอรีบตะโกนตามท้ายไว้แค่นั้น ผมออกจากห้องมาด้วยความรู้สึกผิดต่อน้ำขิง เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ทำไมผมจะต้องกลัวเธอรู้และเสียใจกับเรื่องนี้ด้วย นี่กูทำอะไรลงไปวะเนี่ย ไม่น่าให้เกิดเรื่องแบบนี้เลย ทางด้านน้ำขิงที่ไม่เจอกับโชกุนมาเป็นอาทิตย์ ตอนนี้เขาก็เริ่มมาเรียนเหมือนเดิมแล้ว แต่พวกเขาทั้งสามย้ายที่นั่งไปอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งห่างจากที่ฉันนั่งอยู่มาก หมดคาบเรียนก็รีบออกจากห้องราวกับไม่อยากเจอกัน ฉันเลยยังไม่มีโอกาสได้คุยกับเขาเลย แก้วตากับฟ้าใสก็พากันถามว่าโชกุนมันเป็นอะไร ทำไมถึงไม่มานั่งกับพวกเราเหมือนแต่ก่อน ฉันก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร ทำได้แค่เงียบและเลี่ยงคำถามนี้เท่านั้น แต่สองสาวก็พอจะเดากันออกอยู่เหมือนกันว่าวันนั้นเราสองคนทะเลาะกัน เพราะปกติโชกุนไม่เคยหนีหน้าและจะคอยตามฉันอยู่ตลอด @สถานที่ปลูกป่า . พี่ต้นชวนเข้าชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยตอนเราคบกันใหม่ๆ ฉันเห็นว่าโครงการต่างๆ ที่เราจะได้ทำมันน่าสนใจดีก็เลยเข้าร่วม ชวนสองสาวเพื่อนรักให้มาอยู่ชมรมด้วยกันก็ไม่เอา บอกแค่ว่าไม่อยากมาอยู่เป็นกอขอคอ ก็ตามใจพวกเธอก็แล้วกัน ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย วันนี้เป็นวันที่ทางชมรมจะพากันมาปลูกป่าชายเลน ซึ่งทางฉันไม่มีเพื่อนที่รู้จักเลยสักคน ส่วนมากจะเป็นเพื่อนต่างคณะ และก็เพื่อนพี่ต้นเสียส่วนใหญ่ ฉันก็พึ่งจะรู้เมื่อไม่นานมานี้เอง ว่ากลุ่มเพื่อนที่สนิทกันของพี่ต้นมีเพื่อนผู้หญิงที่เรียนวิศวฯ ด้วย ปกติเห็นตามกันอยู่แค่สามคน พี่ต้น พี่ธันและพี่ซัน ตอนนี้รู้จักเพิ่มมาอีกสองคน คือ พี่พราว กับพี่มิตา แต่สองสาวรุ่นพี่ดูจะไม่ค่อยชอบฉันสักเท่าไร เราก็พอคุยกันได้ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นสนิทสนมกัน กิจกรรมของชมรมในวันนี้พวกพี่ต้นก็มากันครบทั้งห้าคนเลย มีเพื่อนมากันครบทีมคงจะสนุกน่าดู พวกพี่เขาดูสนิทกันมากเลยนะ โดยเฉพาะพี่ต้นกับพี่พราว นี่ฉันไม่ได้หึงหวงนะ เพราะมันก็คงเหมือนกับที่ฉันกับโชกุนเป็นเพื่อนสนิทกัน พอคิดถึงโชกุนขึ้นมาก็รู้สึกจุกอกขึ้นมานิดหน่อย พอเวลาผ่านไปเราก็เจอหน้ากันได้ปกติ โชกุนก็กลับมาอยู่คอนโดเดียวกับฉันเหมือนเดิม เจอกันก็ทักทายกันได้ แต่แค่ไม่สนิทกันเหมือนเดิม เวลาเรียนเรายังแยกที่นั่งกัน และเวลามีงานกลุ่มเขาก็ไม่มาอยู่กลุ่มเดียวกับฉันอีก “ต้น เราเอาน้ำมาให้” เสียงของพี่พราวที่ถือน้ำมาเพื่อแฟนหนุ่มของฉัน ทำไมพี่มิตาต้องชำเรืองมองมาทางฉันแล้วเหมือนแสยะยิ้มให้ด้วยล่ะ ไม่ได้คิดไปเองนะแต่มันเห็นแบบนั้นจริงๆ “หิวน้ำมั้ยครับ” พี่ต้นยื่นขวดน้ำที่พี่พราวเอามาให้ ส่งต่อให้ฉัน สายตาสองคู่ของรุ่นพี่สาวจ้องมองมา ฉันเลยตอบปฏิเสธไป “ยังไม่หิวค่ะ” ยิ้มอ่อนให้ ก่อนจะเก็บของกันต่อ พวกเราจะพักกันที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน จะนอนรวมกันที่ด้านนอกห้อง มีที่นอนแบบยัดนุ่นปูกับพื้นและกางมุงกัน บรรยากาศที่นี่ดีมากเลยนะ ลมเย็นมาก ไม่รู้สึกร้อนเลย กลางคืนคงจะนอนสบายไม่ต้องมีพัดลมก็ยังอยู่ได้เลย อยากให้เพื่อนๆ มาด้วยจัง หลังจากที่เก็บของกันเสร็จพวกเราก็พากันไปร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลนร่วมกับชาวบ้านที่นี่ เสร็จแล้วก็จะกินข้าวร่วมกับชาวบ้าน อาหารทุกอย่างถูกปรุงกันสุกใหม่ๆ เลยนะ ส่วนวัตถุดิบก็เป็นกุ้ง หอย ปู ปลา ที่จับมาจากทะเล ตัวเป็นๆ สดๆ ทั้งนั้นเลย อยากจะบอกว่าอาหารของที่นี่รสชาติเด็ดถูกปากมาก ตอนนี้ก็คงถึงเวลาที่จะเข้านอนกันแล้วล่ะ แต่พวกเรามีกันหกคน ผู้หญิงสาม ผู้ชายสาม พี่ธันกับพี่ซันเลือกที่จะนอนด้านในสุดไปแล้ว ก็จะเหลือแค่พวกเราสี่คนที่ยังลังเลกันอยู่ “พราว เธอนอนต่อจากต้นสิ เดี๋ยวฉันนอนต่อจากเธอเอง” พี่มิตาหันไปจัดแจงที่นอน “จะบ้าเหรอมิตา เดี๋ยวน้ำขิงก็น้อยใจกันพอดี ให้แฟนเขามานอนใกล้กันน่ะดีแล้ว” พี่พราวตอบพี่มิตา พรางเลื่อนสายตามองมาทางฉัน “น้ำขิงมานอนข้างพี่มั้ยครับ” พี่ต้นเอ่ยขึ้น ความจริงฉันนอนตรงไหนก็ได้ ในเมื่อพวกรุ่นพี่เลือกที่นอนกันแล้ว ฉันนอนนอกสุดก็ได้ ไม่เป็นไร ไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้ว นอนด้วยกันตั้งหลายคน อีกอย่างพวกพี่เขาก็เป็นเพื่อนกันหมด “ไม่เป็นไรค่ะพี่ต้น น้ำขิงนอนตรงนี้ก็ได้ค่ะ” พูดเสร็จก็ย่อตัวลงนั่งที่นอนอันนอกสุด สองสาวรุ่นพี่หันหน้าไปส่งยิ้มให้กันก่อนจะล้มตัวลงนอน และพี่ต้นเองก็นอนลงเช่นกัน ด้วยความที่นอนด้านนอกสุด และยังเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ทำให้คืนนี้นอนไม่ค่อยจะหลับ เหมือนหลับๆ ตื่นๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเวลาก็เกือบจะตีสามแล้ว หันไปมองดูพวกรุ่นพี่ที่กำลังนอนหลับกันอยู่ แต่พี่ต้นกับพี่พราวกลับไม่ได้อยู่บนบ้าน หายไปไหนของเขานะ ฉันนอนไม่หลับเลยออกมารับลมที่ชานบ้าน พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูอะไรเล่น ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงพี่พราวก็เดินขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี และไม่นานพี่ต้นก็ตามขึ้นมา “อ้าว น้องน้ำขิงมายืนทำอะไรตรงนี้จ๊ะ” สาวรุ่นพี่ที่กำลังขึ้นบันไดมาเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “นอนไม่หลับน่ะค่ะ” “งั้นพี่ไปนอนก่อนนะจ๊ะ เหนื่อย ง่วงมากเลย” พูดเสร็จก็เดินกลับไปนอนที่เดิม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD