เขาถาม เธอตอบ แบบนั้นอยู่เป็นนาน พร้อมพรแอบพ่นลมหายใจออกจากปากเบาๆ เมื่อเห็นเขาก้มหน้าลงเปิดเอกสารการสมัครและหลักฐานการศึกษาและใบเซอร์ติฟิเคชันต่างๆ ที่เธอแนบไปให้ด้วย
สายตาของเธอมองผ่านไปยังตัวเลขบอกเวลาแบบดิจิตัลที่ฝาผนัง ก็ต้องลอบถอนลมหายใจออกมาอีกครั้งเมื่อพบว่าเธอนั่งอยู่ในห้องนี้ร่วมชั่วโมงแล้ว
“ตอบคำถามได้ดี หวังว่าจะทำงานได้ดีแบบทัศนคติของคุณนะครับ”
พร้อมพรได้แต่ยิ้ม เธอทำหน้าไม่ถูก เธอตอบคำถามไปอย่างที่คิดและเธอก็ทำงานด้วยนิสัยเช่นนั้นจริงๆ อย่างที่ตอบเขาไป และหากเขาคาดหวังให้เธอทำงานได้ดีแบบทัศนคติ รับรองได้เลยว่าเธอทำได้ดีตามมาตรฐานของตัวเองอย่างแน่นอน
“พร้อมจะเริ่มงานได้วันไหนครับ”
“ถ้าจะขอเริ่มงานเป็นต้นเดือนเลย ได้ไหมคะ”
“คุณว่างงานไม่ใช่หรอ ทำไมถึงไม่เริ่มงานเลย”
“ฉันคิดว่าเริ่มต้นเดือน น่าจะสะดวกกว่าน่ะค่ะ”
พร้อมพรมองเห็นแววตาไม่พอใจพุ่งออกมาจากสายตาของชายที่นั่งสัมภาษณ์เธอ
“ยังไงก็ลงไปแจ้งที่ฝ่ายบุคคลอีกที แล้วทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ที่คุณบุหงาด้วยครับ”
“ค่ะ” พร้อมพรตอบรับสั้นๆ คำเดียวเธอมองสบตาเขาแล้วไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ
“มีคำถามอะไรอีกไหมครับ” เสียงของเขาราบเรียบ สุขุมและกดดัน พร้อมพรยิ้มแล้วส่ายหน้าไว ตอบไปว่า “ไม่มีค่ะ”
“เชิญได้เลยครับ”
นั่นเองเธอถึงได้พ่นลมหายใจออกปากเบาๆ เขาบอกแบบนี้คือหมายความว่าให้เธอไปได้เลยสินะ พร้อมพบจับกระเป๋าก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ หันหลังแล้วเดินออกไปจากห้องประชุมสิบสองทันที
อันดับแรกที่เธอต้องทำจากนี้ก็ตามหาคุณบุหงาก่อน
“เก็บของแล้วตามพี่กับบอสมาเลยนะคะ วันนี้มีเลี้ยงรับรองมิสเตอร์บอนด์ กลับบ้านดึกได้ใช่มั้ย”
บุหงาบอกและถามเธอในประโยคเดียวกัน ก่อนจะลุกขึ้นยืนสนทนากับคณะกรรมการท่านหนึ่งที่เดินผ่านโต๊ะของพวกเธอพอดี สำเนียงแบบเดียวกับเจ้านาย ทำเอาพร้อมพรตามแทบไม่ทัน
เวลาสิบแปดวันที่เธอทำงานที่นี่ ผ่านไปไวมาก ไวเหมือนกับว่าเมื่อวานนี้เองที่เธอเพิ่งกรอกใบสมัคร เพิ่งสัมภาษณ์งานกับบอส และตามหาคุณบุหงาอยู่ครึ่งบ่าย เพื่อจะฝากเบอร์ติดต่อส่วนตัวไว้กับคุณบุหงา แล้วกลับบ้านเกือบห้าโมงเย็น เลยเท่ากับว่าวันนั้นพร้อมพรใช้เวลาทั้งวันในการมาสมัครและสัมภาษณ์งาน
พร้อมพรได้งานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการของผู้บริหารของบริษัทในเครือโลจิสติกส์ที่เป็นบริษัทร่วมทุนข้ามชาติ
ที่จริงแล้วตำแหน่งนี้ไม่เคยมี
เรื่องนี้เธอได้ยินบุหงาพูดกับเลขานุการอีกคนของบอส แล้วจึงเอาไปถามสุพิชชา จึงได้คำตอบว่า เป็นเพราะความสนิทสนมของเพื่อนของเธอนั่นเอง ที่ไปพูดโน้มน้าวให้ญาติผู้พี่ช่วยเปิดตำแหน่งนี้ให้แล้วรับเธอเข้าทำงาน
เรื่องนี้ทำเอาพร้อมพรเฟลดาวน์ไปเกือบสัปดาห์
แต่ในเมื่อมีคนให้โอกาสเข้าทำงาน พร้อมพรก็บอกตัวเองว่าเธอต้องทำให้ดีที่สุด ทำงานให้เต็มศักยภาพของตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอจะต้องไม่ให้ใครมาตราหน้าเธอได้ว่าเป็นเด็กเส้น เป็นคนไม่เอาไหน
บอสของพร้อมพรคือคุณวัชระเศรษฐ์
แม้เขาจะเป็นญาติผู้พี่ของสุพิชชา แต่เธอไม่กล้าเอาตัวขึ้นไปเทียบกับเขา ไม่กล้าตีสนิท อยู่แบบเจ้านายกับลูกน้องน่ะดีแล้ว
วัชระเศรษฐ์มีบุคลิกเป็นผู้นำอย่างชัดเจน เขามีแววตาเรียบนิ่ง กดดันคนเก่ง ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่มองตาก็รู้สึกผิดได้ในทันทีหากทำอะไรขัดแนวทางการทำงานที่เขาตั้งเกณฑ์เอาไว้
นี่เองพร้อมพรจึงพยายามเรียนรู้งานให้ได้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
ร้านอาหารที่พร้อมพรมาพร้อมบอสและบุหงา เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรมดัง ปกติเธอใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาไม่เคยเข้าร้านอาหารหรูหราเช่นนี้ หรูสุดก็นั่งกินที่ร้านแถวบ้าน
เมื่อมาถึงแล้วจึงรู้สึกตื่นเต้น แต่ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้
“ทำตัวสบายๆ ครับ ผ่อนไหล่ของคุณลง หายใจเข้าออกช้าๆ ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้น”
คำพูดเรียบๆ น้ำเสียงสงบ ทำให้พร้อมพรตื่นเต้นน้อยลง เธอรอจนเขาเดินนำหน้าไปพร้อมบุหงาแล้วค่อยลอบมองแผ่นหลังของชายผู้เป็นเจ้านายด้วยสายตาขอบคุณ
วัชระเศรษฐ์ดูภายนอกเป็นคนเข้มงวดและเอาจริงเอาจังกับเรื่องงานเป็นอย่างมาก มากชนิดที่ว่าพร้อมพรไม่เคยเห็นใครดูจริงจังเท่าเขามาก่อน แต่วัชระเศรษฐ์เป็นคนที่ปกครองคนใต้อำนาจของเขาได้อย่างดี
สัปดาห์ก่อนบุหงาถูกตำหนิเรื่องการนำแฟ้มเสนองานเข้าไปให้วัชระเศรษฐ์ตอนประชุมกับกลุ่มผู้บริหารคนอื่น เขารีบแย้งทันทีว่าเป็นคนสั่งบุหงาเอง บุหงาที่เข้มงวดแบบเขาออกมาด้วยใบหน้าซึมๆ ที่ถูกตำหนิ
พอวัชระเศรษฐ์เลิกประชุม เขาเดินผ่านโต๊ะของพวกเธอ ก็หยุดแล้วเอ่ยว่าที่บุหงาทำถูกต้องแล้ว อย่าสนใจเสียงของใคร วัชระเศรษฐ์ขอบคุณบุหงาที่นำแฟ้มเข้าไปให้ได้ทันการณ์พอดี ไม่อย่างนั้นเขาคงล้มโครงการที่อีกฝ่ายคิดจะทำขึ้นมาโดยไม่นึกถึงผลได้ผลเสียไม่ได้อย่างแน่นอน แล้วบอกทิ้งท้ายว่าพวกคุณคือทีมเดียวกับผม ขอเพียงเราจริงใจต่อกัน คุณทำงานให้ผมเต็มที่ ผมจะปกป้องพวกคุณแบบเต็มที่เช่นกัน แล้วเขาก็เดินกลับเข้าห้องไป
นั่นเป็นครั้งแรกที่พร้อมพรเห็นบุหงานั่งน้ำตาซึม
เธอเองก็ซึมตามไปด้วย แต่รู้สึกได้ถึงความจริงใจจากคำพูดของเจ้านาย
ในใจของพร้อมพรในตอนนั้นอดคาดหวังไม่ได้ว่าเธอจะได้รับการปกป้องจากผู้เป็นเจ้านายอย่างที่บุหงาได้รับบ้างไม่วันใดก็วันหนึ่ง
การพูดคุยงานผ่านไปแบบสบายๆ อย่างที่วัชระเศรษฐ์บอกไว้ตอนไปถึง ใช้เวลาชั่วโมงกับอีกไม่กี่นาทีที่ในร้านอาหารอิตาเลี่ยน และการได้พบปะชาวต่างชาติที่เป็นคู่ค้าของวัชระเศรษฐ์ในครั้งนี้ก็ทำให้พร้อมพรได้เรียนรู้ทักษะการเข้าสังคมได้หลายเรื่อง เธอนึกขอบคุณบุหงาและวัชระเศรษฐ์อยู่ในใจ
เมื่อส่งมิสเตอร์บอนด์กลับไปแล้ว บุหงาก็เอ่ยถามผู้เป็นเจ้านาย “บอสจะกลับเลยไหมคะ”