พร้อมพรไม่ได้กินอะไรมาก เธอนั่งจิบนมจนหมดแก้วแล้วก็ตรงไปบอกลูกชายว่าไม่ให้ดื้อมากนัก แล้วออกไปรอแท็กซี่ที่โทรตามไว้แล้วตั้งแต่เช้า
พร้อมพรขับรถไม่ค่อยแข็งนัก แต่เธอก็ตั้งใจไว้ว่าหากได้งานทำเอจะต้องลองขับรถเอง จะได้ไม่เป็นภาระคนอื่น หากจะต้องเรียกรถแท็กซี่มาคอยรับส่งทุกวัน เห็นว่าสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายไม่น้อยอยู่เหมือนกัน แม้จะได้เงินเดือนสูงตามที่สุพิชชาบอกก็ตามที
บริษัทที่พร้อมพรมายื่นใบสมัครเป็นตึกสร้างขึ้นมาใหม่สูง 7 ชั้น ตั้งอยู่ที่ชานเมืองไกลจากบ้านของพ่อกับแม่อยู่เหมือนกัน
พร้อมพรเผื่อเวลาไว้แล้ว แต่เกิดอุบัติเหตุกลางทาง ทำให้มาถึงบริษัทสายกว่าเวลาที่นัดไว้เกือบครึ่งชั่วโมง พร้อมพรไม่เคยผิดเวลานัดเช่นนี้มาก่อน เธอลนลาน ตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่ก็พยายามรวบรวมสติของตัวเอง บอกให้สงบเอาไว้
ชั้น 3 เป็นในส่วนของฝ่ายบุคคล
พร้อมพรตรงเข้าไปด้านในของตัวอาคาร เธอเสียเวลากับการแลกบัตรเพื่อเข้าไปในตัวอาคารอยู่เกือบ 5 นาทีเพราะมีคนเข้ามาก่อนหน้าเธอกลุ่มใหญ่ คนกลุ่มนั้นแลกบัตรแล้วก็เดินเข้าไปก่อนเธอ พร้อมพรแลกบัตรเข้าตัวตึกได้แล้วก็ตรงไปยืนรอลิฟท์อยู่อีกหลายนาที
ตอนนั้นเองที่มีกลุ่มคนต่างชาติเดินตรงมาที่ลิฟต์ตัวเดียวกันกับเธอ หนึ่งในนั้นดูออกว่าเป็นคนเอเชีย แต่พร้อมพรไม่แน่ใจว่าเขาเป็นคนไทยหรือเปล่า
ลิฟต์มาถึง กลุ่มคนที่ยืนรอส่งสายตาบอกเธอว่าให้เข้าไปก่อน พร้อมพรยิ้มน้อยๆ เพราะรู้สึกอึดอัดใจ วางตัวไม่ถูก เธอออกจากงานมานานหลายปี พอกลับมาในสังคมแบบนี้แล้วก็เริ่มประหม่าแต่ก็เดินเข้าไปตามที่เห็นสายตาของพวกเขา เธอยื่นมือไปที่ปุ่มต่างๆ ตรงแผงควบคุม ตั้งใจจะกดลิฟท์ แต่ด้วยความประหม่า เธอดันไปกดปิดประตูเสียอย่างนั้น พร้อมพรตกใจมาก เธอลนลานกดปุ่มอีกอันที่อยู่ข้างกัน พร้อมกับที่มีมือสอดเข้ามาระหว่างประตู ชายคนที่ดูเหมือนคนเอเชียมากที่สุด มองเธอด้วยสายตาตำหนิ
เขาใช้มือของตัวเองดันประตูที่ติดเซ็นเซอร์ไว้ให้เปิดออกพร้อมกับเดินเข้ามากดประตูลิฟต์ให้ค้างไว้ หันไปพูดเป็นภาษาอังกฤษเชิญคนทั้งหมดให้เข้ามาในลิฟต์
พร้อมพรเดินตัวลีบเข้าไปอยู่ในมุม
ได้แต่ร้องอยู่ในใจว่าเริ่มต้นแบบนี้ไม่ดีเอาเสียเลย หวังว่าผู้ชายทั้งหมดจะไม่ใช่กลุ่มผู้บริหารของบริษัทแห่งนี้หรอกนะ
เสียงถามเป็นภาษาไทยดังขึ้น “ชั้นไหนครับ”
“ชั้น 3 ค่ะ”
ชายที่เอ่ยถามเธอเป็นคนไทย แม้จะใช้คำพูดสุภาพแต่สายตาที่มองมานั้น พร้อมพรพอจะมองออกว่าเขาไม่พอใจ สายตาของเขาดูจริงจัง กดดันและพร้อมพรลงความเห็นว่าสายตาแบบนี้คือสายตาของคนชอบข่มคน
เธอน่าจะพูดอะไรสักคำหรือเปล่า ว่าเมื่อครู่นี้เธอกดลิฟต์ผิดไป แต่แล้วก็ถอนลมหายใจออกมาเบาๆ เธอไม่อยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องเอ่ยแก้ตัวด้วยคำพูดใด
พร้อมพรยืนนิ่งอยู่แค่ครู่เดียว ประตูลิฟต์ก็เปิดออกพร้อมกับที่ไฟของเลข 3 ดับลง นั่นแสดงว่าถึงชั้นที่หมายที่เธอต้องมาแล้ว
พร้อมพรเอ่ยขอตัวออกจากลิฟต์ แล้วตรงไปยืนมองป้ายบอกว่าทางแผนกบุคคลไปยังทิศทางไหน ก่อนจะเดินตรงไปยังแผนกฝ่ายบุคคลในนาทีต่อมา
สายตาที่พร้อมพรลงความเห็นไว้ในใจว่าคือสายตาของคนชอบข่มคนอื่นของชายคนนั้นที่ในลิฟต์ มองตามหลังพร้อมพรนิ่งๆ จนประตูเคลื่อนปิดกั้นสายตาของเขาในนาทีต่อมา ชายคนนั้นจึงได้หันมาตอบคำถามของฝ่ายบริหารคนอื่นที่ยืนอยู่ในลิฟต์
พร้อมพรกรอกใบสมัครเสร็จแล้วและกำลังส่งให้เจ้าหน้าที่ที่คอยให้คำแนะนำเธออยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เข้ามาในแผนกฝ่ายบุคคลและนั่งลงกรอกข้อมูลส่วนตัวลงในใบสมัครงาน
“เอกสารครบถ้วนหมดแล้วใช่ไหมคะคุณพร้อมพร”
เธอตอบรับไปว่าใช่ ทางนั้นพยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืน
“ถ้าเรียบร้อยแล้ว ผู้บริหารแจ้งไว้ว่าให้ขึ้นไปที่ชั้นบนได้เลยค่ะ ท่านรอสัมภาษณ์งานที่ห้องประชุมสิบสองนะคะ”
“ขอบคุณนะคะ”
พร้อมพรบอกกับเจ้าหน้าที่คนนั้น แล้วพาตัวเองมายืนรอที่หน้าลิฟต์อีกครั้ง เธอขึ้นไปที่ชั้นบนสุดของตัวอาคาร เวลาตอนนี้เฉียดเที่ยงเข้าไปทุกทีแล้ว มาถึงพร้อมพรแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามารอสัมภาษณ์งาน ทางนั้นทำหน้างงเล็กน้อย เห็นโทรลงไปถามที่แผนกบุคคลคุยกันอยู่หลายนาที พอได้คำตอบแล้วสายตาที่มองเธอดูเปลี่ยนไป
เจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนั้นลุกออกจากเก้าอี้ที่ด้านหลังของเคาน์เตอร์พาเธอเดินตรงไปที่ห้องประชุมสิบสอง ตรงนั้นมีเก้าอี้สำนักงานให้นั่งคอยอยู่สามตัว
“รอตรงนี้นะคะ จะมีเจ้าหน้าที่ออกมาเรียกค่ะ”
พร้อมพรตอบรับแล้วนั่งรอเงียบๆ ที่หน้าห้องประชุมตรงนั้นเกือบสามสิบนาที กว่าจะมีคนเปิดประตูออกมาเรียกเธอให้เข้าในห้อง
ในห้องประชุมสิบสองมีแค่โต๊ะตัวยาวตัวเดียว เก้าอี้มีวางเรียงตามลำดับของไมโครโฟน มีคนนั่งที่หัวโต๊ะรออยู่แล้วตอนที่เธอเปิดประตูเข้าไป
“นั่งแล้วแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษได้เลยครับ”
พร้อมพรบอกตัวเองว่าอย่าประหม่า
เพราะคนที่นั่งรอสัมภาษณ์งานเธอเป็นคนคนเดียวกันกับที่เธอขึ้นลิฟต์มาพร้อมกลุ่มคนต่างชาติกลุ่มนั้น แต่ตอนนี้ในห้องมีเพียงแค่เธอกับเขาแค่สองคน
พร้อมพรรวบรวมสติของตัวเองแล้วพูดแนะนำตัวเองตามที่ได้ยินเขาบอกมา
เขาฟังจนเธอแนะนำตัวเองจบ ถามเธออีกหลายคำถามด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงบริติช แม้จะฟังยากสักหน่อย แต่พอตั้งใจฟังดีๆ พร้อมพรก็บอกตัวเองไปว่าเธอพอจะฟังออกอยู่บ้าง
เขาถาม เธอตอบ แบบนั้นอยู่เป็นนาน พร้อมพรแอบพ่นลมหายใจออกจากปากเบาๆ เมื่อเห็นเขาก้มหน้าลงเปิดเอกสารการสมัครและหลักฐานการศึกษาและใบเซอร์ติฟิเคชันต่างๆ ที่เธอแนบไปให้ด้วย