อาย

1908 Words
Part : ฐิสา หลังจากไล่คู่นอนที่มาสอนประสบการณ์ One Night Stand ไปพ้นห้อง สิ่งที่ทำคือรีบเปลี่ยนรหัสเข้าคอนโด ฐิสาโกรธตัวเองหนัก ที่มักง่ายตั้งรหัสห้องเดิมๆ จนอดีตสามีตามเข้าห้องได้ แม้จะเคยนัดมาตกลงเรื่องหนี้สินที่ตกลงญาติ ก่อนจะกลับเข้ามามองห้อง เห็นเตียงที่เมื่อคืน 2 สาวได้สอนประสบการณ์เรื่องบนเตียงให้กันและกัน มันน่าจะเป็นเช้าที่ดีกว่านี้ ถ้าสามีเก่าไม่บุกมา ยอมรับว่าอายอีกคนกับความหน้าเงินของสามีเก่า และรู้สึกอุ่นใจ ที่ผู้หญิงคนนั้นปกป้อง ฐิสาได้ จากที่ไม่เคยได้รับจากคนที่แต่งงานมากว่า 2 ปี จากวันนั้น ไม่มีวันไหนที่ฐิสา ไม่คิดถึงอีกคน ไม่น่าเชื่อว่า แค่ 1 คืน จะมีพลังรุ่นแรงกระแทกใจอีกคนได้ขนาดนี้ ฐิสา ตัดสินใจคืนคอนโด ที่เช่าเพื่อนตอนตัดสินใจย้ายออกจากคอนโดเรือนหอ ให้เหตุผลว่าไม่อยากให้สามีเก่าตามมาหาเรื่องอีก แต่สาเหตุหลักที่เจ้าตัวไม่สามารถบอกใครได้ เพราะการที่อยู่บนเตียงที่เคยนอนร่วมกับอีกคน ทำให้เจ้าตัวคิดถึงเพียงใด จนต้องออกมาจัดการที่พักใหม่ มีบางครั้งที่ ฐิสาไปแถวบาร์ที่พบกัน แต่ก็ไม่เข้าไปเพราะยังไม่รู้ว่าเราควรเจอกันอีกหรือไม่ จนผู้ชายเห็นแก่ตัวบุกมาที่ทำงาน เพื่อพูดคุยเรื่องเงิน เรื่องรถ จากที่หล่อนสบายใจเขาเงียบไปนาน ก็โผล่มาเรื่องเดิม ขอเงินรีไฟแนนซ์รถ รถจะถูกยึด เอก : สาเอกหมุนเงินไม่ทัน สาก็แบ่งๆ เงินมาคนละครึ่ง หรือผ่อนให้เอกสักงวด ฐิสา : เอก งวดก่อนๆ ก็ผ่อนได้นิ จะอะไร สาแค่เอาส่วนที่สาช่วยดาร์ว ที่ผ่อนไปคืนแค่นั้น เอก : อย่ามาแกล้งโง่เลย ถ้าสาไม่ช่วย เอกจะไปหา ยัยคุณหนูริสา เจ้าของบริษัทเอกอีก เที่ยวที่แล้ว มันจ่ายให้ตั้ง 3 งวด ฐิสา : เอกว่ายังไงนะ ใครจ่าย ไปให้เขาจ่ายได้ยังไง เอก : ก็เด็กใหม่สาไง แค่เอกไปถามหาสา ไปหาที่คอนโดไม่เจอ มันก็ให้เราขาไปจัดการยอดค้างทั้งหมด ฐิสา : ไม่อายหรือไง ที่ทำแบบนั้น เดียวสาจัดการโอนให้เอก คนละครึ่งแล้วอย่าข้องเกี่ยวกันอีก หรือถ้าไม่ไหวติดต่อเอารถมาคืน ก่อนจะดึงเอกสาร หลักฐานยอดเงินที่อีกคนที่คิดถึงทุกวันจ่ายเงินให้สามีเก่าในเรื่องที่ไม่ควรจะยุ่งและเสียเงินเช่นนี้ จะให้อับอายไปถึงไหน กับการตัดสินใจเลือกสามีผิด บ... ตึกใหญ่ ที่ต้องลางานครึ่งวันเช้า มายืนแค่หน้าทางเข้าตึกหลังจากจอดรถ ใจก็เต้นโครมคราม ตื่นเต้นมือเย็น ทั้งที่เคยมาที่นี่ 2- 3ครั้งเพื่อรับสามีเก่า เดินไปถึงประชาสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่ชั้นล่าง แจ้งชื่อคนที่มาขอพบ หลังจากที่แจ้งว่าไม่ได้นัด ก็มีการโทรไปสอบถาม (สงสัยไม่ได้พบแน่ๆ ก็อย่างว่า ผู้บริหารไม่น่าจะให้ใครไม่รู้จักเดินมาขอพบได้เลย) ฐิสา คิดในใจ ก่อนที่ประชาสัมพันธ์จะลงบอกให้ขึ้นไปชั้นผู้บริหารได้ จนถึงตอนนี้ ที่ฐิสาขับรถกลับไปทำงานต่อ หลังจากพบเจ้าเด็ก จนถึงที่ทำงาน ก่อนจะพบว่า ไลน์เจ้าเด็กแจ้งเตือน Li lisa : ถึงที่ทำงานหรือยังคะ? Li lisa : ถึงหรือยัง Li lisa : คิดถึงแล้ว Li lisa : อ่านแล้วไม่ตอบบุกถึงที่นะคะ Ti.Sa : ถึงแล้วคะ ตะกี้จอดรถอยู่ พี่ต้องประชุมนะ ตอบบ่อยๆ ไม่ได้ Li lisa : ก็ไม่ต้องตอบสาจะส่งไปเรื่อยๆ คะ Ti.Sa : ตามใจคะ อยากทำอะไรก็ทำ Li lisa : ทำได้จริงๆ อ่ะ อุอุ Li lisa : ส่งสติกเกอร์ Ti.Sa : ทะลึ่ง Li lisa : ก็จะไปรับไปทานข้าว คิดอะไรคะ ปักหมุดให้หน่อยจะไปรับ Ti.Sa : เก่งก็หาทางมาเองสิ ฐิสา อาย คนน้องอีกแล้ว ที่คิดไกลว่าน้องคิดเรื่องอื่นทั้งที่จะชวนทานข้าว แต่ก็ต้องหยุดคิดก่อน เพราะประชุมกับผู้ใหญ่กำลังจะเริ่ม ผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง ฐิสากลับไปยังห้องทำงานตัวเอง แล้วหยิบมือถือมาเช็ค เห้นข้อความคนน้องเมื่อ 2ชั่วโมงที่แล้ว Li lisa :: พี่คะ ถ้าสาจะทำหาที่อยู่พี่ พี่ทำงานอะไร พักที่ไหน ไปไหน สาทำได้ แต่สาไม่ทำ อยากให้พี่สบายใจ ไม่รู้สึกถูกบุกรุกพื้นที่ส่วนตัว และอยากให้เรา 2 คน มีสตอรี่ที่น่าจดจำ ไม่ใช่เอาแต่ใจนะ Li lisa : ไปทานข้าวกับสานะคะ ส่งโลมา แล้วจะไปรับ เห็นข้อความคนน้อง แล้วอมยิ้มเบาๆ ก่อนจะตอบกลับไปว่า Ti.Sa : ไม่ต้องมารับคะ ไม่เกิน 5 วินาที มีข้อความสั่นๆ ส่งมา แต่ฐิสารับรู้ได้ว่า กำลังน้อยใจ Li lisa : ไม่เป็นไรคะ Ti.Sa : พี่หมายความว่า จะไปร้านไหน เดียวพี่ไปเอง ไม่ต้องมารับ เดียวเสียวเวลาวนไปมา Li lisa : สาโทรหาได้หรือเปล่า สะดวก? ฐิสาเลยเป็นคนกดโทรออกไป เสียงเตือนดัง 2 ครั้งก็รับแล้ว ริสา : อยากทานอะไรคะ ฐิสา : แล้วคุณสาอยากทานอะไรละคะ ริสา : อะไรก็ได้ แค่อยากทานกับพี่คะ ฐิสา : งันทานแถวคอนโดพี่นะคะ เดียวปักโลไปให้ ริสา : ไม่ต้องคะ สาจำได้ ว่าที่ไหน ฐิสา : ย้ายนานแล้วจ้า พี่ปักให้นะ ถึงแล้วโทรมานะ 19.00 น. RRRRRRRRRRRRRRRRRRRR ริสา : จอดรถแล้วคะ เราจะเดินไปร้านเหรอคะให้มาจอดหน้าคอนโด ฐิสา : เดียวพี่ลงไปนะคะ . ฐิสาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืด กางเกงขาสั้นลงมาหาคนน้อง ที่ยังอยู่ในชุดทำงานเต็มยศ ทั้งสูท รองเท้าส้นสูง ริสา : เปลี่ยนรองเท้าแตะก่อนได้หรือเปล่าคะ แป้บ ท่าทางจะชิวๆ เราจะไปกินอะไรคะ คนน้องถอดสูทออก และเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะที่มีในรถ ฐิสา : คุณหนูริสา ทานส้มตำเป็นมั้ย อยากกินส้มตำปลาร้า ริสา : พี่หนูก็คนนะคะ สองสาวเดินเท้าไปสัก 150 เมตร ก็พบร้านอาหารอีสาน ที่ตอนนี้ โต๊ะแทบจะเต็มทุกโต๊ะ พอดี มี 2 คนเช็คบิลพอดี 2 สาวเลยได้โต๊ะ โดยเจ้าของร้านชายวัย 40 กว่าทักทายเป็นภาษาอีสานว่า “น้องสา กินหยังมื้อนี่ ว้าวมีคนมานำ งามทั้งคู่เนาะหมู่เจ้า” (น้องสา ทานอะไรดีวันนี้ ว้าวมีคนมาด้วย สวยทั้งคู่เลย) ฐิสา : เดียวจดเอาไปให้เด้ออ้าย ว่าเอาหยังแน่ เอาแจ๋วฮ้อน ชุดเล็กมา 1 ชุดก่อน (เดียวจดรายการอาหารไปให้นะพี่ ว่าจะกินอะไรบ้าง ขอแจ๋วฮ้อน ชุดเล็ก1 ก่อน) ริสา : พี่สาเป็นคนอีสานเหรอคะ ฐิสา : เป็นคน ก.ท.ม.คะ ริสา : เก่งอ่ะ พูดอีสานได้ด้วย ฐิสา : กลางทุ่งมหาสารคาม จ้า (พร้อมหัวเราะให้กับคนน้องที่ทำหน้า งงกับมุก) ริสา : มีตำป่าหรือเปล่าคะ ขอ 1 เผ็ดปกติ ใส่หอยเยอะๆ ฐิสา : มีคะ เอาอะไรอีกคะ ริสา : คอหมูย่าง ลาบหมู ต้มเนื่อขม ฐิสา : หือ ทำไมเชียวชาญ อาหารอีสาน ละเนี้ย ริสา : แม่หนู คนอุบลเด้อจ้า กลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้ ถูกปาก 2 สาว และต่างคนต่างคุยเรื่องราว ต่างๆ กินไปคุยไป จากตอนแรกเจอะ จิ๊บคอลเทล วันนี้สองสาวกับนั่งดื่มเบียร์ กินแจ๋วฮ้อน พร้อมสารพัดเมนูแซบจนถึงจะ 3 ทุ่น ค่อยชวนกันเดินกลับ ริสา : อิ่ม พุงกาง เลย กินข้าวเหนียวแล้วจะง่วงๆ นะพี่ว่าเปล่า ฐิสา : ขับรถไหวหรือเปล่า ทานเบียร์ไปตั้ง 2 ขวด เดียวตำรวจจับ ริสา : ถ้าไม่ไหว จะให้ค้างหรือเปล่า (เจ้าเด็กทำตาเจ้าเล่ห์ใส) ฐิสา : ใครจะให้ค้างคะ ----แต่ขึ้นไปนั่งเล่น พักก่อน ให้สร่างเมาแล้วค่อยขับรถกลับ จากที่ตอนแรก ทำหงอยๆ พอได้ยินว่าขึ้นไปได้ ก็ทำท่าทางเหมือนหมาดีใจ ส่ายตัวไปมาดิกๆ ตามคนพี่ขึ้นไปห้อง ริสา : ห้องสวยจัง ใหญ่กว่าห้องเดิม มี 2 ห้องนอนด้วย ฐิสา : พี่เช่าคะห้องเก่า ห้องนี้ของที่บ้าน ซื้อไว้เวลามากรุงเทพ หรือหลานๆ ที่บ้านมาเรียน มาธุระ ริสา : พี่สาคนสวยรวยนะเนี้ย ฐิสา : รวยอะไรคะ พนักงาบริษัทธรรมดาๆ ริสา : สา ฉลาดไง สารู้ สาเก่ง แล้วก็น่ารักด้วย สวยด้วย ฐิสา : จ้ะ คนเก่ง พี่ไปเก็บผ้า เก็บครัว อาบน้ำก่อนนะ สาใช้ห้องน้ำด้านนอกได้เลย ตามสบายนะ.. ฐิสาเข้ามาในส่วนห้องนอนตัวเอง แล้วยิ้มอย่างมีความสุข สุขที่หายไปนานตั้งแต่ตัดสินใจแต่งงานกับเอก เอ็นดูคนน้อง ถ้าตัดเรื่องบนเตียงที่ร้อนแรง จนคนพี่จำฝังใจแล้ว ริสา คือคนน่ารักขี้เล่น คุยสนุก ผิดกับมาดทำงานที่บริษัท ทำงานบ้านเสร็จ อาบน้ำใส่ชุดนอนลายโดราเอม่อน ออกมาดูโซฟาห้องรับแขก ก็เห็นคนน้อง นอนหลับไปเฝ้าเทวดาเรียบร้อย “สา สาคะ นอนตรงนี้ ไม่สบายตัวไปนอนห้องแขกเลยคะ อาบน้ำ เดียวหาชุดนอนให้ ท่าทางจะง่วง ไม่ต้องขับรถกลับ” ขุกเข่าลงพื้น พร้อมเขย่าตัวปลุกริสา ลืมตาปรับแสง พอเห็นหน้าคนพี่ชัดก็เริ่มอ้อน “นอนห้องพี่ไม่ได้เหรอคะ สากลัวผี” พูดจบก็เอนหัวไปซบไหลคนพี่ที่ได้ระดับนั่งอยู่พื้น ฐิสา : ห้องพี่ไม่มีผีคะ จะนอนห้องแขก หรือให้พี่ไล่กลับบ้านคะ ริสา : นอนห้องแขกคะ เดียวไปอาบน้ำนอนเลยคะ ฐิสา : ผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟันอยู่ในตู้ เสื้อคลุมอาบน้ำด้วย แขวนอยู่ เดียวพี่เอาชุดนอนไปให้ 10 นาที ผ่านไป ริสาเข้ามาในห้องนอนแขก เห็นเจ้าเด็กอาบน้ำเสร็จแล้ว ฐิสา : วิ่งผ่านน้ำเหรอคะ ไวดีจัง นี่คะชุดนอน ฝันดีนะคะ (หรือจะกลัวผีจริงๆ หน้าซีดๆ ก่อนที่ฐิสาจะเดินไปเอามืออังหน้าผาก เอ้าตัวรุมๆ แพ้อะไร ผื่นขึ้นตัวร้อน ตาบวม ริสา : มันจะเป็นเองคะ ไม่รู้แพ้อะไร ไปหาหมอหลายทีก็ไม่หาย ฐิสา : นอนบนเตียงเลยคะ เดียวไปเอาน้ำเอายามาให้กิน หลังจากที่เอายาให้คนน้องกิน ยาแก้แพ้ทำให้ง่วง ไม่นานก็หลับ ก่อนจะห่มผ้า ปิดไฟ ให้น้องนอน แต่แทนที่ เจ้าของห้องจะกลับห้องตัวเอง กลับมุดผ้าห่มลงไปนอนข้างๆ คนน้อง..ไม่ให้ไปนอนห้องนอนตัวเอง แต่ย้ายตัวเองมานอนห้องแขกสะงั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD