ปัญญาอ่อน

1219 Words
ณ บ้านพักริมทะเลหลังเกาะส่วนตัวของเวฆา "ฝนเทกระหน่ำลงมาแบบนี้นายควรแวะพักที่หลังเกาะก่อนนะครับ" เรือของเวฆากำลังโดนฝนเทกระหน่ำเข้าใส่อย่างหนักจนมองแทบไม่เห็นหนทางข้างหน้า ลูกน้องที่มีหน้าที่ขับเรือรีบขอผู้เป็นเจ้านายพาเรือเข้าฝั่งก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ และสถานที่ใกล้ที่สุดก็คือด้านหลังของเกาะที่มีบ้านพักที่เพิ่งสร้างเสร็จไว้รอรับให้เข้าไปหลบฝนได้ "อืม" เวฆาที่นั่งอยู่ในห้องพักส่วนตัวภายในเรือและกำลังทำแผลที่ถูกยิงมาอยู่โดยมีดีนมือขวาเป็นคนทำให้พยักหน้าอนุญาตให้ลูกน้องทำในสิ่งที่ควรทำ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบเข้าพักในสถานที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านของเขาก็ตาม เรือขนาดไม่ใหญ่มากนักหันหน้าเรือเข้าหาฝั่งในทันที มันแล่นฝ่าสายฝนที่กำลังโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนักเข้าหาฝั่ง และไม่นานเรือก็ถึงที่หมาย ลูกน้องของเวฆาก้าวลงสู่ผืนน้ำด้านล่างทันทีเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เป็นเจ้านาย เวฆาก้าวลงจากเรือคนสุดท้ายโดยมีอมือขวาคอยเดินประกบมุ่งหน้าสู่บ้านพักริมทะเลที่เพิ่งสร้างเสร็จ "กรี๊ด" พริมากรีดร้องอกกมาสุดเสียงด้วยความตกใจเมื่อมีคนเปิดประตูเข้ามาภายในห้องนอนที่เธอกำลังใช้เป็นห้องแต่งตัวหลังอาบน้ำเสร็จ สองมือบางรีบคว้าเอาผ้าเช็ดตัวขึ้นมาพันรอบร่างกายปิดบังเรือนร่างที่ยังมีหยดน้ำเกาะอยู่อย่างรวดเร็ว ใจดวงเล็กในอกเต้นโครมครามด้วยความตกใจแทบเป็นลมล้มพับไปกับพื้นห้อง "อยากตายหรือไง" มือหนากระชากประตูห้องปิดอย่างรุนแรงจนมันแทบจะพังคามือ สายตาคมมองอย่างดุดันไปยังผู้บุกรุกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างไม่สบอารมณ์ "ทำไมคุณไม่เคาะประตูก่อนเข้ามาละ" หญิงสาวรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปแต่งตัวออกมาใหม่เพื่อเผชิญหน้ากับเขา การอยู่กับคนอย่างเขาเธอจำเป็นต้องเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อไหร่ที่อ่อนแอความพ่ายแพ้ก็จะมาเยือนในทันที "ที่นี่บ้านใคร" ร่างเปียกปอนของมาเฟียหนุ่มเดินไปหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาหนังสีดำ มือหนาดึงผ้าปิดแผลบริเวณหน้าอกออกด้วยมันเปียกน้ำฝนจนใช้งานอะไรไม่ได้อีกแล้ว ก่อนจะถอดเสื้อเชิ้ตสีดำออกแล้วทิ้งตามผ้าปิดแผลไปเพราะมันก็เปียกเหมือนกัน หญิงสาวได้แต่เงียบเพราะที่นี่มันบ้านของเขาบนเกาะของเขาอีกตั้งหาก เวฆาเองก็เงียบอย่างใช้ความคิดไปเช่นกัน สายตาหวานเผลอมองมัดกล้ามเนื้อส่วนท่อนบนของเขาที่มีรอยสักมากมาย แก้มของเธอถึงกับแดงชัดขึ้นเพราะเกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนดูเพอร์เฟคครบเครื่องขนาดนี้มาก่อน ตอนอยู่บนเตียงเขาโหดร้ายจนเธอไม่เคยมองมันเลย นึกแล้วแอบเสียดายเหมือนกันที่เพิ่งจะได้เห็น พริมาส่ายหน้าแรงๆ สองสามครั้ง สลัดความคิดบ้าบอของตัวเอง "ไอ้ดีน" เวฆาเรียกดีนที่เป็นมือขวาของเขาให้เข้ามาหาภายในห้อง "ครับนาย" เสียงด้านนอกตอบรับผู้เป็นเจ้านายในทันทีและเปิดประตูเข้ามาในห้อง ใบหน้านิ่งขรึมที่ไม่แพ้ผู้เป็นเจ้านายก้มหน้านิ่งมองพื้น รอรับความผิดพลาดที่ได้ทำลงไป เขาดันใจอ่อนไปช่วยหญิงสาวเอาไว้เพราะสงสารเห็นว่าเธอกำลังท้อง แต่ความลับดันมาแตกเสียก่อน เขาที่ทำผิดลงไปแล้วก็ยินดีที่จะรับโทษ "คำสั่งกูมันใช้ไม่ได้กับมึงแล้วสินะ" มือหนาของเวฆาคว้าปืนที่เหน็บอยู่ด้านหลังออกมา ปลายกระบอกปืนจ่อไปที่ศีรษะของลูกน้องคนสนิท เมื่อคำสั่งของเขาดูเหมือนจะเป็นเรื่องล้อเล่นไปเสียแล้ว "อย่ายิงเขานะ" ร่างบางแทรกตัวเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างปืนกับดีน ที่เธอรอดมาได้จนถึงตอนนี้ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากดีน เธอก็จะต้องช่วยชีวิตเขาจนสุดความสามารถ หรือไม่ก็อาจจะตายพร้อมกัน "จะตายแทน" มุมปากหนากระตุกยิ้มอย่างร้ายกาจขึ้นมา ปลายนิ้วชี้จดจ่ออยู่ที่ไกปืนเตรียมเหนี่ยวมัน "ฉันบังคับให้เขาช่วยฉันเอาไว้เอง" พริมาหลับตาปี๋ด้วยความกลัว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอกับเหตุการณ์มีปืนจ่ออยู่ตรงหน้ามาก่อน ใจดวงเล็กเต้นโครมครามอย่างลุ้นระทึก เม็ดเหงื่อเริ่มไหลผุดตามไรผมด้วยความหวาดกลัว ปากก็พูดไปเรื่อยๆ เพื่อเอาตัวรอด และเพื่อให้ดีนรอดไปด้วย เธอไม่ได้ขอร้องให้ดีนช่วยเพราะไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว แถมบางครั้งยังรู้สึกไปเองด้วยว่าดีนไม่ชอบเธอ เขาเข้ามาช่วยเธอเองให้รอดชีวิตจากเมื่อตอนกลางวันที่ชายหาดและพาเธอมาอยู่ที่นี่ และก็ไล่เธอไปในคราวเดียวกันด้วยการเรียกเรือมารับพรุ่งนี้เช้า "อย่ามาปัญญาอ่อน" ปืนในมือของเวฆาถูกลดระดับลงเอาเสียดื้อๆ มาเฟียหนุ่มถอดหายใจพรืดใหญ่เสียงดังลั่นห้องนอนขนาดใหญ่ "รีบออกไปสิ" พริมารีบไล่ดีนที่อยู่ด้านหลังออกไปเมื่อเห็นปั่นประสาทเวฆาจนสำเร็จ นับว่าโชคดีที่จะได้รอดชีวิตไปได้อีกวัน แม้ต้องลุ้นจนฉี่แทบเล็ดตลอดเวลาก็ตาม ร่างใหญ่เอนหลังพิงกับโซฟาตัวใหญ่ สองขายกขึ้นไขว่ห้าง ดวงตาคมค่อยๆ หลับสนิทลง ผ่อนคลายร่างกาย และพยายามสงบสติอารมณ์ที่เดือดพล่าน ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของพริมาทุกอย่าง เธอกำลังเป็นพวกถ้ำมองแอบมองผู้ชายท่ามกลางความเงียบที่รายล้อมอยู่ล้อมห้องเป็นใจ "จะมองอีกนานไหม" คนหลับตาอยู่พูดออกมาทั้งที่ดวงตายังคงหลับตาอยู่ ใบหน้ายังคงเคร่งขรึมไร้รอยยิ้มใดๆ "คุณมีแผล ทำแผลหน่อยไหม ฉันพอทำให้ได้นะ" หญิงสาวหาเรื่องอื่นขึ้นมาพูดกลบเกลื่อนอาการถ้ำมองของตัวเอง เธอทำแผลไม่เป็นแต่คิดว่าคงไม่ยาก คงเหมือนอ่านตำราทนายความ "อย่ายุ่ง" ร่างหนาลุกขึ้นยืนอย่างสง่าไร้อาการเจ็บแผลใดๆ สองเท้าเดินย่างกรายผ่านหน้าหญิงสาวเพื่อไปยังห้องน้ำ "ตายไปก็คงต้องตกนรกแน่ๆ ร้ายขนาดนี้" พริมาแอบกระซิบกระซาบกับอากาศเมื่อชายหนุ่มเดินผ่านหน้าเธอไปแล้ว "ฉันง่วงมาก ขอตัวนอนก่อนนะ" สายตาพิฆาตถูกส่งตรงมาจากหน้าห้องน้ำ ขนอ่อนในกายของหญิงสาวลุกซู่ไปด้วยความกลัว ร่างบางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มทันทีเพื่อเอาตัวรอด คนบ้าอะไรหูดีชะมัด อยู่ห่างกันตั้งกี่เมตรยังได้ยินที่เธอพูดอีก และเธอก็ผล็อยหลับไปก่อนอย่างง่ายดายด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาทั้งวัน โดยไม่รู้ว่าคนใจร้ายออกมาจากในห้องน้ำหรือเปล่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD