ณ บ้านพักริมทะเลหลังเกาะส่วนตัวของเวฆา
"ฝนเทกระหน่ำลงมาแบบนี้นายควรแวะพักที่หลังเกาะก่อนนะครับ"
เรือของเวฆากำลังโดนฝนเทกระหน่ำเข้าใส่อย่างหนักจนมองแทบไม่เห็นหนทางข้างหน้า
ลูกน้องที่มีหน้าที่ขับเรือรีบขอผู้เป็นเจ้านายพาเรือเข้าฝั่งก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ
และสถานที่ใกล้ที่สุดก็คือด้านหลังของเกาะที่มีบ้านพักที่เพิ่งสร้างเสร็จไว้รอรับให้เข้าไปหลบฝนได้
"อืม"
เวฆาที่นั่งอยู่ในห้องพักส่วนตัวภายในเรือและกำลังทำแผลที่ถูกยิงมาอยู่โดยมีดีนมือขวาเป็นคนทำให้พยักหน้าอนุญาตให้ลูกน้องทำในสิ่งที่ควรทำ
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบเข้าพักในสถานที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านของเขาก็ตาม
เรือขนาดไม่ใหญ่มากนักหันหน้าเรือเข้าหาฝั่งในทันที
มันแล่นฝ่าสายฝนที่กำลังโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนักเข้าหาฝั่ง
และไม่นานเรือก็ถึงที่หมาย ลูกน้องของเวฆาก้าวลงสู่ผืนน้ำด้านล่างทันทีเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เป็นเจ้านาย
เวฆาก้าวลงจากเรือคนสุดท้ายโดยมีอมือขวาคอยเดินประกบมุ่งหน้าสู่บ้านพักริมทะเลที่เพิ่งสร้างเสร็จ
"กรี๊ด"
พริมากรีดร้องอกกมาสุดเสียงด้วยความตกใจเมื่อมีคนเปิดประตูเข้ามาภายในห้องนอนที่เธอกำลังใช้เป็นห้องแต่งตัวหลังอาบน้ำเสร็จ
สองมือบางรีบคว้าเอาผ้าเช็ดตัวขึ้นมาพันรอบร่างกายปิดบังเรือนร่างที่ยังมีหยดน้ำเกาะอยู่อย่างรวดเร็ว
ใจดวงเล็กในอกเต้นโครมครามด้วยความตกใจแทบเป็นลมล้มพับไปกับพื้นห้อง
"อยากตายหรือไง"
มือหนากระชากประตูห้องปิดอย่างรุนแรงจนมันแทบจะพังคามือ
สายตาคมมองอย่างดุดันไปยังผู้บุกรุกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างไม่สบอารมณ์
"ทำไมคุณไม่เคาะประตูก่อนเข้ามาละ"
หญิงสาวรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปแต่งตัวออกมาใหม่เพื่อเผชิญหน้ากับเขา
การอยู่กับคนอย่างเขาเธอจำเป็นต้องเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ
เมื่อไหร่ที่อ่อนแอความพ่ายแพ้ก็จะมาเยือนในทันที
"ที่นี่บ้านใคร"
ร่างเปียกปอนของมาเฟียหนุ่มเดินไปหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาหนังสีดำ
มือหนาดึงผ้าปิดแผลบริเวณหน้าอกออกด้วยมันเปียกน้ำฝนจนใช้งานอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ก่อนจะถอดเสื้อเชิ้ตสีดำออกแล้วทิ้งตามผ้าปิดแผลไปเพราะมันก็เปียกเหมือนกัน
หญิงสาวได้แต่เงียบเพราะที่นี่มันบ้านของเขาบนเกาะของเขาอีกตั้งหาก
เวฆาเองก็เงียบอย่างใช้ความคิดไปเช่นกัน
สายตาหวานเผลอมองมัดกล้ามเนื้อส่วนท่อนบนของเขาที่มีรอยสักมากมาย
แก้มของเธอถึงกับแดงชัดขึ้นเพราะเกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนดูเพอร์เฟคครบเครื่องขนาดนี้มาก่อน
ตอนอยู่บนเตียงเขาโหดร้ายจนเธอไม่เคยมองมันเลย นึกแล้วแอบเสียดายเหมือนกันที่เพิ่งจะได้เห็น
พริมาส่ายหน้าแรงๆ สองสามครั้ง สลัดความคิดบ้าบอของตัวเอง
"ไอ้ดีน"
เวฆาเรียกดีนที่เป็นมือขวาของเขาให้เข้ามาหาภายในห้อง
"ครับนาย"
เสียงด้านนอกตอบรับผู้เป็นเจ้านายในทันทีและเปิดประตูเข้ามาในห้อง
ใบหน้านิ่งขรึมที่ไม่แพ้ผู้เป็นเจ้านายก้มหน้านิ่งมองพื้น รอรับความผิดพลาดที่ได้ทำลงไป
เขาดันใจอ่อนไปช่วยหญิงสาวเอาไว้เพราะสงสารเห็นว่าเธอกำลังท้อง
แต่ความลับดันมาแตกเสียก่อน เขาที่ทำผิดลงไปแล้วก็ยินดีที่จะรับโทษ
"คำสั่งกูมันใช้ไม่ได้กับมึงแล้วสินะ"
มือหนาของเวฆาคว้าปืนที่เหน็บอยู่ด้านหลังออกมา
ปลายกระบอกปืนจ่อไปที่ศีรษะของลูกน้องคนสนิท
เมื่อคำสั่งของเขาดูเหมือนจะเป็นเรื่องล้อเล่นไปเสียแล้ว
"อย่ายิงเขานะ"
ร่างบางแทรกตัวเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างปืนกับดีน
ที่เธอรอดมาได้จนถึงตอนนี้ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากดีน
เธอก็จะต้องช่วยชีวิตเขาจนสุดความสามารถ หรือไม่ก็อาจจะตายพร้อมกัน
"จะตายแทน"
มุมปากหนากระตุกยิ้มอย่างร้ายกาจขึ้นมา ปลายนิ้วชี้จดจ่ออยู่ที่ไกปืนเตรียมเหนี่ยวมัน
"ฉันบังคับให้เขาช่วยฉันเอาไว้เอง"
พริมาหลับตาปี๋ด้วยความกลัว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอกับเหตุการณ์มีปืนจ่ออยู่ตรงหน้ามาก่อน
ใจดวงเล็กเต้นโครมครามอย่างลุ้นระทึก เม็ดเหงื่อเริ่มไหลผุดตามไรผมด้วยความหวาดกลัว
ปากก็พูดไปเรื่อยๆ เพื่อเอาตัวรอด และเพื่อให้ดีนรอดไปด้วย
เธอไม่ได้ขอร้องให้ดีนช่วยเพราะไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว แถมบางครั้งยังรู้สึกไปเองด้วยว่าดีนไม่ชอบเธอ
เขาเข้ามาช่วยเธอเองให้รอดชีวิตจากเมื่อตอนกลางวันที่ชายหาดและพาเธอมาอยู่ที่นี่ และก็ไล่เธอไปในคราวเดียวกันด้วยการเรียกเรือมารับพรุ่งนี้เช้า
"อย่ามาปัญญาอ่อน"
ปืนในมือของเวฆาถูกลดระดับลงเอาเสียดื้อๆ
มาเฟียหนุ่มถอดหายใจพรืดใหญ่เสียงดังลั่นห้องนอนขนาดใหญ่
"รีบออกไปสิ"
พริมารีบไล่ดีนที่อยู่ด้านหลังออกไปเมื่อเห็นปั่นประสาทเวฆาจนสำเร็จ
นับว่าโชคดีที่จะได้รอดชีวิตไปได้อีกวัน แม้ต้องลุ้นจนฉี่แทบเล็ดตลอดเวลาก็ตาม
ร่างใหญ่เอนหลังพิงกับโซฟาตัวใหญ่ สองขายกขึ้นไขว่ห้าง ดวงตาคมค่อยๆ หลับสนิทลง ผ่อนคลายร่างกาย และพยายามสงบสติอารมณ์ที่เดือดพล่าน
ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของพริมาทุกอย่าง
เธอกำลังเป็นพวกถ้ำมองแอบมองผู้ชายท่ามกลางความเงียบที่รายล้อมอยู่ล้อมห้องเป็นใจ
"จะมองอีกนานไหม"
คนหลับตาอยู่พูดออกมาทั้งที่ดวงตายังคงหลับตาอยู่ ใบหน้ายังคงเคร่งขรึมไร้รอยยิ้มใดๆ
"คุณมีแผล ทำแผลหน่อยไหม ฉันพอทำให้ได้นะ"
หญิงสาวหาเรื่องอื่นขึ้นมาพูดกลบเกลื่อนอาการถ้ำมองของตัวเอง
เธอทำแผลไม่เป็นแต่คิดว่าคงไม่ยาก คงเหมือนอ่านตำราทนายความ
"อย่ายุ่ง"
ร่างหนาลุกขึ้นยืนอย่างสง่าไร้อาการเจ็บแผลใดๆ
สองเท้าเดินย่างกรายผ่านหน้าหญิงสาวเพื่อไปยังห้องน้ำ
"ตายไปก็คงต้องตกนรกแน่ๆ ร้ายขนาดนี้"
พริมาแอบกระซิบกระซาบกับอากาศเมื่อชายหนุ่มเดินผ่านหน้าเธอไปแล้ว
"ฉันง่วงมาก ขอตัวนอนก่อนนะ"
สายตาพิฆาตถูกส่งตรงมาจากหน้าห้องน้ำ ขนอ่อนในกายของหญิงสาวลุกซู่ไปด้วยความกลัว
ร่างบางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มทันทีเพื่อเอาตัวรอด
คนบ้าอะไรหูดีชะมัด อยู่ห่างกันตั้งกี่เมตรยังได้ยินที่เธอพูดอีก
และเธอก็ผล็อยหลับไปก่อนอย่างง่ายดายด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาทั้งวัน โดยไม่รู้ว่าคนใจร้ายออกมาจากในห้องน้ำหรือเปล่า