บทที่ 3

1394 Words
30 นาทีผ่านไป ลูกเรือเดอะรอยัล อาดามัสก็กลับมาพร้อมเพรียงกัน มาร์คซึ่งถูกส่งให้ไปสืบประวัติของพวกเศษสวะกลับมาพร้อมกับรายละเอียดที่ทำให้กัปตันหนุ่มพึงพอใจกับผลงานที่มอบหมายให้ไปทำ “มันชื่อพารุณครับกัปตัน ทำตัวเป็นเจ้าพ่อคุมทั่วทั้งท่าเรือ มันทำธุรกิจไนต์คลับบังหน้า แต่จริงๆ แล้วมันคอยหาผู้หญิงส่งให้เสี่ยตามซ่องที่มันแอบเปิดลับๆ นอกจากค้ามษุนย์แล้วมันยังค้าอาวุธเถื่อนด้วยครับ” มาร์ครายงานแบบละเอียดยิบตามข้อมูลที่ไปเสาะแสวงหา จากการรับฟังจากปากชาวบ้านในบริเวณท่าเรือที่เดือดร้อนกับการกระทำที่ป่าเถื่อนของเสี่ยพารุณทำให้เขารู้สึกเห็นใจพวกชาวบ้านอยู่ไม่น้อย แต่เขาและลูกเรือเดอะรอยัล อาดามัส ไม่ใช่ศาล...เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาทำได้ก็คือการรับฟังและนำมารายงานให้ศาลเตี้ยอย่างกัปตันบารอน ดี ทีสต์ เป็นผู้ตัดสิน “ที่มันมาตามหาผู้หญิงเมื่อสักครู่ คงไม่พ้นพวกเด็กสาวๆ ที่มันหลอกมาขาย” กัปตันบารอนเอ่ยวิเคราะห์กับลูกเรือและต้นหน เขาไม่เห็นด้วยกับการค้าของเถื่อนและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการค้ามนุษย์ด้วยกันเอง ถ้าหากมีเวลามากกว่านี้เขาคงได้อยู่จัดการกับสวะสังคมอย่างเสี่ยพารุณ แต่ตอนนี้เขามีสินค้ามูลค่าหลายสิบล้านที่จำเป็นต้องนำไปส่งให้กับ เรนย์ เจรามี่ เพื่อนรัก ไม่เช่นนั้นแล้วคนอย่างเสี่ยพารุณที่บังอาจมาลูบคมกัปตันเรือเดอะรอยัล อาดามัส ถึงที่ คงไม่ได้ลอยนวลไปง่ายๆ แน่ “กัปตันจะทำยังไงครับ ลงไปจัดการกับมันดีไหมครับ” ลุกซ์เอ่ยถามเมื่อเห็นกัปตันเงียบไป ตอนนี้เขากับลูกเรือทั้งยี่สิบคน กำลังคันไม้คันมืออยากจะไปเล่นงานเศษสวะอย่างเสี่ยพารุณอีกสักตั้ง “ปล่อยมันไปก่อน เรามีงานด่วนต้องส่งสินค้าให้เรนย์ ถ้ากลับมาแล้วมันยังซ่าเหมือนเดิมค่อยจัดการอีกครั้ง” กัปตันเอ่ยบอกอย่างใจเย็น เขาเงยหน้ามองสายฝนที่ซาลงไปบ้างแล้ว คลื่นลมทะเลเริ่มสงบนิ่งไม่พิโรธโกรธาเหมือนก่อนหน้านี้ จวนจะตีหนึ่งแล้วพวกเขาสมควรจะออกเดินเรือสักที “ถอดสมอเรือ เตรียมออกเรือภายในสิบนาที” กัปตันบารอนสั่งเสียงดังจากนั้นก็เดินตรงไปยังห้องบังคับเรือ ลูกเรือเดอะรอยัล อาดามัส ต่างก็ร้องเฮด้วยความดีใจที่จะได้ออกเดินเรือเร็วกว่ากำหนด พวกเขาต้องนั่งจับเจ่าตบยุงเล่นอยู่บนเรือที่ท่าเรือนานหลายวันแล้ว เมื่อได้ยินคำสั่งให้ออกเดินเรือ ทุกคนต่างก็คึกคักทำหน้าที่ของตนเองอย่างเข้มแข็ง เสียงพูดคุยหยอกล้อติดจะห่ามๆ สัปดนมีให้ได้ยินตลอดเวลา เมื่อรู้สึกได้ว่าเรือเดอะรอยัล อาดามัส กำลังเคลื่อนตัวออกจากท่าน้ำอย่างช้าๆ สง่างาม ลูกเรือต่างก็กอดคอกันกลมร้องเฮด้วยความดีใจ เรือเคลื่อนตัวออกมาได้สักร้อยเมตร กัปตันบารอนก็ปล่อยให้ลุกซ์ต้นหนเรือเป็นผู้ทำหน้าที่บังคับเรือต่อ เขาก้าวเท้ายาวๆ ขึ้นมาบนดาดฟ้าในมือมีกล้องส่องทางไกลแบบส่องตอนกลางคืนติดมาด้วย รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมกระตุกขึ้นตรงมุมปาก นัยน์ตาสีทองเปล่งประกายวาวลุกโชนเป็นไฟ ลูกกระจ๊อกของเสี่ยพารุณนับรวมๆ กันสักยี่สิบคนเห็นจะได้กำลังหัวเสียเมื่อกลับมาอีกครั้งก็พบว่าเรือเดอะรอยัล อาดามัสแล่นออกจากท่าน้ำแล้ว มือหนาสีแทนลดกล้องส่องทางไกลลงพร้อมกับเสียงหัวเราะฮึๆ ในลำคอ พวกหมาหมู่กัดไม่เลิกจริงๆ เสี่ยพารุณคงยังไม่รู้ตัวว่ากำลังเดินเข้าหาความตาย มันคิดผิดที่คิดจะมาต่อกรกับกัปตันบารอน เพราะถ้าหากไม่เก่งจริง เขาไม่มีทางขยายอำนาจธุรกิจเดินเรือได้ทั่วโลกดังทุกวันนี้ ขอเวลาสักสองสามเดือนเถอะ ถ้ากลับมาแล้วเสี่ยพารุณยังไม่ล้มเลิกความคิดเดิม คราวนี้เขาจะตามไปเหยียบยอดอกถึงถิ่นของมัน “พวกมึงว่าไงน่ะ” เสี่ยพารุณตะโกนถามเสียงดัง ในมือมีแก้วบรั่นดีที่สาดลงคอเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดที่หัวแม่เท้า “เอ่อ...เรือสำราญสีขาวมันออกเดินเรือไปแล้วครับ” ลูกกระจ๊อกของเสี่ยพารุณเอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกักด้วยความหวาดกลัวอารมณ์ของเจ้านาย “แล้วพวกมึงตามไปจัดการไอ้กัปตันคนนั้นไม่ทันหรือไง” เสี่ยพารุณตะโกนถามด้วยความโมโห ใบหน้าอวบอูมแดงก่ำ แผลที่หัวแม่เท้าไม่เจ็บเท่าแผลในใจที่ถูกกลั่นแกล้งให้กระโดดหลบลูกกระสุนราวกับเป็นตัวตลก “จะเอาไงต่อดีครับเสี่ย” “มึงรู้ไหมว่าไอ้กัปตันเรือมันเป็นใคร” เสี่ยพารุณเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแห่งความเคียดแค้น “มันชื่อบารอน ดี ทีสต์ ครับ เป็นกัปตันเรือและเป็นเจ้าของบริษัทเดินเรือเดอะรอยัล อาดามัส กรุ๊ป ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ถ้าไปถามพวกไต้ก๋งต่างก็รู้จักมันดีครับ เพราะนอกจากจะเก่งแล้วมันไม่เคยกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น ขนาดโจรสลัดโซมาเลียที่ว่าเก่งนักเก่งหนายังยึดเรือมันไม่ได้เลยครับ นอกจากเรือมันจะมีอาวุธยุทโธ ปกรณ์ที่ทันสมัยแล้ว ลูกเรือของมันต่างก็เป็นอดีตทหารรับจ้างกันทั้งนั้น” ลูกกระจ๊อกเอ่ยรายงานด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น เคยแต่ไปรังแกชาวบ้าน ชาวเรือที่ไม่มีทางสู้ เมื่อมาเจอคนจริงอย่างกัปตันเรือเดอะรอยัล อาดามัส ก็ทำให้พวกพ้องของเขาหวาดหวั่นกลัวจะโดนแก้แค้นคืนเช่นเดียวกัน “กูไม่กลัว ต่อให้มันเป็นเจ้าของบริษัทเดินเรือใหญ่โตแค่ไหนกูก็ไม่กลัว พรุ่งนี้มึงตามไปก่อกวนที่บริษัทเดินเรือของมัน เอาให้คนที่อยู่ในบริษัทหวาดกลัวจนไม่กล้ามาทำงานอีก” ปากบอกว่าไม่กลัว แต่เสี่ยพารุณลืมนึกไปว่าไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาตนเองต้องวิ่งหนีลูกกระสุนไม่ต่างจากสุนัขที่วิ่งหนีจนหางจุกตูด “จะดีหรือครับเสี่ย ผมว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้กัปตันคนนี้เลยครับ” ลูกน้องของเสี่ยพารุณต่างก็มองหน้ากันแล้วแบ่งรับแบ่งสู้ เห็นอยู่แล้วว่าเจ้านายของตนเองกับกัปตันชื่อก้องมันกระดูกคนละเบอร์กัน “ดีสิว่ะ นอกจากไอ้กัปตันบารอนแล้ว ยังมีนังอีตัวที่หนีไปอีกคนที่กูจะต้องเอามันมาสังเวยความแค้นให้ได้ เจอตัวเมื่อไหร่กูจะสั่งสอนให้มันหลาบจำว่าไม่ควรลองดีกับคนอย่างกู” ลูกกระจ๊อกของเสี่ยพารุณต่างก็มองหน้ากันอย่างหวาดหวั่น การที่จะเข้าไปต่อกรกับกัปตันบารอน ดี ทีสต์ ผู้เลื่องชื่อในท้องทะเลสีคราม ก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น... เสียงฝีเท้าหนักๆ ที่กำลังเดินมาบนทางเดิน ทำให้หญิงสาวที่แอบซ่อนตัวอยู่ในเคบินใจเต้นตึกตักด้วยความหวาดกลัว ร่างบางระหงเขยิบถอยเข้าไปจนแทบจะแบนติดกับกำแพงห้อง พอเสียงฝีเท้าหยุดเงียบหน้าห้องที่เธอซ่อนตัวอยู่ ก็ยิ่งทำให้ใจของหญิงสาวเต้นรัวเร็วจนแทบจะทะลุออกมา มือบางเย็นเฉียบยกขึ้นปิดปากตัวเองเพราะกลัวจะมีเสียงเล็ดลอดออกมาขณะแอบมองร่างสูงใหญ่เจ้าของเคบินที่กำลังเปิดประตูเข้ามาข้างใน บุรุษหนุ่มที่มีรูปร่างสูงใหญ่เดินมายืนนิ่งตรงเตียงนอน อาวุธปืนในมือถูกโยนลงไปบนเตียงนอนอย่างแรงจนกระเด็นตกมาอยู่ใกล้เท้าเปล่าเปลือย หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นมัจจุราชสีดำมะเมื่อม เธอยกมืออีกข้างปิดปากไว้แน่นพยายามกลั้นเสียงร้องตกใจไว้สุดกำลัง เท้าเปล่าเปลือยขยับเข้ามาแนบชิดกายตนเองตอนที่บุรุษหนุ่มเดินมาก้มลงหยิบอาวุธปืนแล้วเอาไปวางไว้บนหัวเตียงนอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD