"โอยยย..เบื่อจัง ชั้นมาทำอะไรที่นี่เนี่ยเมื่อไรจะได้กลับบ้านเสียทีหิวข้าวแล้วด้วย"
ขณะที่ธนภพกำลังคิดถึงที่นอนนุ่มๆอยู่บ้านนั้นก็ได้เวลากลางวันพอดีขนมจีนกับจ่อยเดินมาที่ตรงที่เขาอยู่ ขนมจีนถอดเสื้อแขนยาวถอดหมวกฟางออกเนื้อตัวเปียกชุ่มไปทั้งตัวเพราะเหงื่อหน้าแดงเพราะไอความร้อนธนภพจ้องมองเธออย่างอึ้งทึ่งในความสวย
"คนอะไรใช้ความสวยได้เปลืองมากขนาดทำนา
ยังสวย"
**มองอะไรกินข้าว..จ่อยมากินเข่าสวยนำกัน บ่ต้องกลับเฮือนดอก**
(จ่อยมากินข้าวกลางวันด้วยกันไม่ต้องกลับบ้านหรอก)
ทั้งสามคนตั้งวงกินข้าวกลางวันธนภพรู้สึกขัดหูขัดตามากจ่อยกับขนมจีนกินข้าวเหนียวปั้นจิ้มปั้นจิ้มคุยภาษาถิ่นกันหัวเราะคิกคักคิกคักเขาฟังไม่รู้เรื่อง เหมือนไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้นเลย
"เจ้ามาจากกรุงเทพแม่นบ่ผิวพรรณขาวอ๋องต่องมาเฮ็ดหยังม่องนี้หล่ะ"
(คุณมาจากกรุงเทพใช่ไหมผิวพรรณขาวจั๊วมาทำอะไรที่นี่)
**อ่อเพิ้นมาฝึกเฮ็ดนานาน่ะฟังเฮาบ่ฮู้เฮื่องดอกต้องเว้ากลางนำเพิ้น**
(เขามาฝึกทำนาฟังเราไม่รู้เรื่องหรอกต้องพูดภาษากลางกับเขา)
"อ๋อ...อยู่กรุงเทพมีงานทำเยอะแยะทำไมคิดอยากทำนาล่ะ"
"ผมไม่ได้อยากทำนาแต่อยากเปิดคาเฟ่กลางทุ่งนาแต่พ่อไม่ให้งบน่ะนี่คือข้อตกลงว่าถ้าจะทำต้องมาเรียนรู้วิธีทำนาและวิธีอยู่กับคนระแวกนี้"
"มันจะขายได้จั๋งได ขอโทษๆ..มันจะขายให้ใครได้แถวนี้มีแต่ชาวนาจนๆพวกเขาไม่มีกำลังจะซื้อหรอก"
"ผมไม่ได้จะขายให้คนแถวนี้แต่จะขายผ่านโซเชียลมีเดียสมัยนี้ทุกคนชอบสร้างคอนเทนต์กันทั้งนั้นที่ไหนดังไกลขนาดไหนก็ไปผมจะขายให้พวกนั้นแหละแล้วอีกอย่างถ้าถึงฤดูที่ไม่ได้ทำนาคนหนุ่มสาวระแวกนี้จะได้มีรายได้พิเศษจากคาเฟ่ของผมด้วยสนใจมาช่วยผมมั๊ยแต่อีกหนึ่งปีนะ"
"สนใจครับ"
*"อย่าไปเซื่อเพิ้นหลายจะทนได้ซำได่**
(อย่าไปเชื่อเขาจะทนได้เท่าไรกัน)
กินข้าวกลางวันเสร็จแล้วก็พากันแยกย้ายกลับบ้านระหว่างทางที่กลับบ้านธนภพไม่เคยเดินบนพื้นที่ขรุขระและก็เล็กบนคันนามาก่อนเขาจึงเซถลาเกือบจะตกท้องนาเปล่าที่มีแต่น้ำและตมขนมจีนคว้าแขนไว้ทันแต่ตัวเขาใหญ่ผู้หญิงตัวเล็กๆจึงยื้อไว้ไม่ไหว ตกลงไปด้วยกันในโคลนตมที่มีน้ำเนื้อตัวเปรอะเปื้อนหมด ขนมจีนทับอยู่บนร่างใหญ่กำยำของธนภพ สายตาประสานกันโดยบังเอิญนิ่งและนานหัวใจทั้งสองเต้นแข่งกันจนแทบจะทะลุออกมาทักทายกันอยู่ข้างนอกทันใดนั้นเอง มีบางอย่างกระดกขึ้นมาจากเป้าของชายหนุ่มและไปชนตรงขาอ่อนนุ่มๆของหญิงสาว ขนมจีนหน้าแดงหูแดงก่ำไม่รู้ว่าอายหรือตกใจโกรธกันแน่
**เพี๊ยยบ...!**
"โอ๊ยยย"
**ไอ้โรคจิต..ไอ้ลามก..**
"เดี๋ยวสิ..อะไร..ลามก..อะไร..นี่คิดอะไรอยู่น่ะรอเดี๋ยวสิ โอ้ย..อะไรมันอยู่ไนกางเกงเนี่ย..?"
++..ตุ๊บ..อ๊บๆ อ๊บๆ..++
"ไอ้กบบ้าเพราะแกเลยเธอเข้าใจชั้นผิดเลยเดี๋ยวจับต้มแม้งเลย..รอด้วยสิ..รอด้วย.."
**อย่ามาใกล้นะเดินห่างๆไปเลย**
ธนภพพเดินคอตกกลับบ้านเนื้อตัวมอมแมมจนถึงบ้านพ่อคำปัน แม่บัวผันทำอาหารรอแล้วส่วนพ่อคำปันซ่อมรถมอเตอร์ไซค์เก่าอยู่หน้าบ้านทุกคนเห็นสภาพทั้งสองคนต่างหัวเราะขบขัน ธนภพอาบน้ำล้างตัวเสร็จแล้วก็มานั่งกินข้าวพร้อมกันทุกคนธนภพมาช้าสุดเพราะกลิ่นโคลนมันล้างออกยาก
"อื้อหือพี่ภพตัวหอมจัง..."
ข้าวปุ้นน้องชายขนมจีนเด็กวัยรุ่นอายุ15กำลังคะนองสาวอยากมีแฟนตอนนี้กำลังอยากรู้อยากเห็นเรื่องเพศศึกษา สนใจในความหล่อสมาร์ทและกลิ่นตัวหอมของหนุ่มกรุงเทพ
"พูดภาษากลางได้ด้วยเหรอ?"
"วัยรุ่นสมัยนี้ส่วนใหญ่ก็จะพูดกลางทั้งนั้นแหละถ้าพูดกับคนกรุงเทพฯแต่ถ้าพูดกับคนพื้นที่เดียวกันก็พูดภาษาถิ่น.....แล้วเอื้อยเป็นหยังล่ะแก้มแดงเป็นลูกตำลึง..นั่งก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จากับใครหิวเข่าแฮงบ่"
**นี่ข้าวปุ่นอย่าเว้าอีสานคำกลางคำเพิ้นจะฟังบ่ฮู้เฮื่อง**
(ข้าวปุ้นอย่าพูดอีสานคำกลางคำเดี๋ยวเขาจะฟังไม่รู้เรื่อง)
"พูดอีสานคำไทยคำพอฟังรู้ครับแต่ถ้าอีสานทุกคำฟังไม่รู้เรื่องเลยครับ"
**จั๋งสั้นบ่**(อย่างนั้นเหรอ)
**อีแหม่ข่อยอิ่มแล้วขึ้นเฮือนแล้วเด้อ**
(แม่ชั้นอิมแล้วขึ้นเรือนแล้วนะ)
"แหม่มึงขนมจีนมันเป็นหยังน่ะไปเยิ่งมันนำเด้อเจ็บท้องเจ็บคิงก็บ่ฮู้"
(แม่มึงขนมจีนเป็นอะไรไปดูลูกด้วยนะปวดท้องปวดหัวหรือเปล่า)
พ่อคำปันเป็นห่วงลูกสาวเห็นช่วงนี้ตรากตรำงานในนาหนักหนาพอสมควร ขนมจีนเข้าห้องไปหัวใจของสาวแรกแย้มมันว้าวุ่นพิกลใช่ว่าจะไม่เคยเจอชายใดตอนอยู่กรุงเทพก็มีคนมาจีบเยอะแยะเธอก็ไม่สนใจใครในใจคิดถึงแต่บางอย่างที่มันกระดกกระตุกตรงเป้ากางเกงของธนภพ
"อีหยังหว่า..มันคืออีหยัง..เฮาสวยปานนั้นบ่หรือเพิ้นแอบชอบเฮา แม่นแหล่ว มันสปาร์คเลยทำให้ตื่นตัวหึยยยบักผีบ้า"
(อะไรนะมันคืออะไรเราสวยขนาดนั้นเลยเหรอหรือเขาแอบชอบเราใช่แล้วมันสปาร์คเลยทำให้ตื่นตัว)
ธนภพไม่รู้จะอธิบายยังไงดีเขานั่งคิดจนเกือบสองทุ่ม
"เฮ้อออ.."
"นี่อ้ายๆ..ปุ้นขอคำปรึกษาหน่อยสิ..คือปุ้นแอบรักผู้สาวคนหนึ่งเรียนที่เดียวกันชั้นเดียวกันแต่เธอบ่สนใจปุ้นเลยหาว่าปุ้นทำตัวไรสาระเธอเป็นนักเรียนดีเด่นเรียนเก่งสวยด้วยแอบชอบมานานและไม่กล้าบอกตื่นเต้นทุกครั้งที่เข้าใกล้"
"พี่ไม่เคยจีบสาวน่ะจีบไม่เป็นมีแต่สาวๆน่ะแหละที่เข้ามาจีบพี่"
"บ๊ะ...ฮั่นแหล่ว.."
"แปลว่าอะไร"
"คำอุทานน่ะ"
"สอนหน่อยทำยังไงให้มีสาวๆมาจีบน่ะอ้าย"
"ไม่ต้องทำอะไร..นี่ดมดู...ดูเสื้อผ้าหน้าผมฟันนี่ยิ้มทีสาวใจละลายฟันขาวยิ้มสวย กลิ่นปากสำคัญเกิดถึงเวลาที่จะเข้าด้ายเข้าเข็มมันจะเป็นอุปสรรค"
"ไม่ๆพี่ผมยังไม่นึกถึงขั้นนั้นแค่จีบเฉยๆ"
"นั่นแหละบางทีอารมณ์พาไปต้องเตรียมพร้อมรบเสมอ จูบสำคัญ กลิ่นปากอย่าให้มีพกหมากฝรั่งไว้ตลอดหรือสเปรย์ดับกลิ่นปาก"
"โห..อ้าย..สุดยอดปรมาจารย์งั้นพรุ่งนี้เย็นไปทำให้ปุ้นดูหน่อยอยู่ซื่อๆแล้วผู้สาวมาหา"
"อะไรซื่อๆ"
"เฉยๆ"
**บักปุ้นนอนได้แหล่วมื้ออื่นบ่ไปเฮียนบ่**
(ไอ้ปุ้นนอนได้แล้วพรุ่งนี้ไม่ไปเรียนเหรอ)
"ดุยิ่งกว่าแม่ก็เอื้อยนี่แหละจ่ะ..ไปแล้วพรุ่งนี้พ้อกัน"
"อะไรพ้อกัน"
"เจอกัน"
ขนมจีนแอบมองข้าวปุ้นน้องชายคุยกับธนภพอยู่นานแล้ว..ได้ยินที่ทั้งสองคุยกันนึกหมันไส้จึงแกล้งเรียกขัดจังหวะไปงั้นแหละ ธนภพขึ้นเรือนนอนแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้นขนมจีนเตรียมข้าวปลาอาหารห่อไว้สำหรับมื้อเที่ยง ข้าวปุ้นแต่งตัวลงตามมาติดๆ กลิ่นน้ำหอมโชยมาติดจมูกของขนมจีนจนฉุน
**โอ้ยยยเนาะขิวจนวินแล้วบักห่านี่แหม**
(เหม็นจนเวียนหัวแล้วไอ้ห่า)
"พูดไม่ไพเราะเลยนะเอื้อยคนสวยวันนี้กระผม ข้าวปุ้น น้องหล้าคนหล่อจะไปจีบผู้สาว"
"เออผู้สาวคงฮากใส่นั่นแหล่วขิวจนวิน"
(สาวๆคงอ้วกใส่แน่แล้วฉุนจนปวดหัว)
ธนภพลงตามมา เขาสวมชุดตามคำสั่งของขนมจีนเสื้อเชิ้ตแขนยาวกางเกงยีนขายาวรองเท้าบูท
"ป๊าดโถะ..อ้าย..คือหล่อแท้หว่า "
"นี่บอกว่าเสื้อแขนยาวเก่าๆนี่ถ้ามันเลอะโคลนซักไม่ออกนะ"
"ก็ไม่มีเสื้อเก่านี่นาชั่วมันเดี๋ยวมันก็เก่าเอง"
"ป๊าดโถ่ะ..ทำไมผมใส่เสื้อแบบนี้คือบ่หล่อซำอ้ายหว่า"
**เออ...ไปไป...ไปโรงเรียนได้แล้วมาอวยกันอยู่นั่นแหละ คุณก็ไปทำนาหรือไปเดินแบบน้ำหอมนี่ไม่ต่างจากบักปุ้นเลยไปสายแล้ว"
ทั้งคู่เดินไปที่นาแปลงเดิมมีเนื้อที่กว่าร้อยไร่หลายวันกว่าจะเสร็จมีคนงานที่พ่อคำปันมาลงช่วยหลายสิบคน ขนมจีนรีบเดินจ้ำเอาจ้ำเอาไม่กล้าอยู่ใกล้ธนภพ ส่วนธนภพก็คิดว่าขนมจีนโกรธเรื่องเมื่อวานก็ยิ่งวิ่งตาม ขนมจีนหยุดกระทันหันเขาชนเธอเกือบหน้าคมำ ธนภพดึงเธอไว้ทันเขารวบร่างบางไว้ไม่ให้ล้ม ชาวบ้านแถวนั้นที่กำลังลงนากันอยู่ก็ตะโกนแซวจนขนมจีนอายหน้าแดง
"หล้า..ผู้บ่าวบ่..คือหล่อแท้ มื้อนี้จะได้เฮ็ดนาบ่ น้อ..อย่าไปแอบเซิ้งกันเด้อ"
(แฟนใช่มั้ยหล่อจังวันนี้จะได้ทำนากันหรือเปล่าอย่าแอบพรอดรักกันนะ)
**ปากขิวซำฮูขี้..เจ้าเคยบ่เซิ้งกันในนาเคยบ่บักห่านี่**
(ปากเหม็นเหมือนตูดมึงเคยเหรอเคยพรอดรักกันในนาไอ้ห่า)
**เพราะคุณเลยไปไกลๆเลย**
"อ้าวก็คุณหยุดเดินทำไมล่ะผมกลัวคุณจะล้มนี่ช่วยก็ผิดโอ๊ย..เนาะ"
**ถึงแล้วลงแหมะ**
"อะไรคือแหมะ"
**ลงสิ..อย่าถามเยอะรีบลงไปแล้วก็ทำแบบที่ทำให้ดูเมื่อวานน่ะ**
"มันเดินยากน่ะมันติดโคลนน่ะครับ"
**โอ๊ยยยเนาะ..ท้องนาค่ะไม่ใช่ถนนคอนกรีตจะได้เดินสะดวกสบายมานี่จะดำให้ดูทิ่มลงไปแบบนี้ค่อยไปก้าวถอยหลังไปแบบนี้ทำได้มั๊ยให้มันตรงแถวให้เป็นระเบียบด้วย**
ธนภพเรียนรู้การทำนาจากขนมจีนข้างๆกัน ความเหนื่อยและความลำบากรวมทั้งกลิ่นโคลมตมเขาก็ไม่ได้สนใจสายตาธนภพจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าขาวนวลถึงแม้จะเอาผ้ามาปิดบังแดดไว้ก็ยังดูสวย อากับกิริยาที่เขาแสดงออกมานั้นอยู่ในสายตาของจ่อยตลอด ขณะที่เขากำลังมีความสุขอยู่จ่อยก๋เข้ามาแทรก
"ไปพักเถอะเดี๋ยวข่อยซ่อยฝึกให้คุณภพเอง"
ธนภพไม่พอใจมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้พอไม่มีแรงบันดาลใจจากขนมจีนเขาก็รู้สึกไม่ค่อยสนุกกับการทำนาสักเท่าไรเลยคิดๆ ว่าเมื่อไรจะเสร็จสักทีเมื่อไรจะเย็นสักทีอยากไปเที่ยวกับข้าวปั้นแล้ว
"นี่คุณชอบขนมจีนใช่ไหม แต่คงยากหน่อยนะขนมจีนเธอเกลียดคนกรุงเทพไปอยู่กรุงเทพตั้งหลายปียังไม่เคยมีแฟนเลยล้มเลิกเถอะถ้าคิดจะทำอะไรอยู่ผมเตือนคุณแล้วนะ"
"ผมชอบความท้าทายยิ่งยากยิ่งชอบ"
สายตาทั้งคู่จ้องกันเขม็งถ้าเป็นการ์ตูนก็จะเห็นประกายไฟของดวงตาทั้งคู่ปะทะกันดังเปรี๊ยะๆ
วันนี้ทั้งวันดำนาเสร็จหมดแล้ว ธนภพรู้สึกโล่งใจพรุ่งนี้สบายสักทีอะไรแค่ทำวันเดียวก็เสร็จแล้ว
"เย้..เสร็จแล้วพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาใช่มั้ย?"
**ใครบอกพรุ้งนี้ไปใช้แรงช่วยบ้านเอื้อยลำเจียก..มะรืนไปใช้แรงบ้านอาสมปอง วันต่อๆไปก็ไปใช้แรงให้นาของคนที่มาช่วยเราวันนี้ไง**
"อ้าวคนพวกนี้ไม่ได้จ้างเขามาหรอกหรือ?"
**ใครเขาจ้างกันเขาลงแรงช่วยกันพอถึงเก็บเกี่ยวก็ช่วยกันแบบนี้ไม่มีจ้างกันนอกจากบางคนที่เขาไม่มีที่นาเขาก็จะมารับจ้างแต่คนส่วนใหญ่ระแวกนี้มีนากันทั้งนั้นพรุ่งนี้ไปต่อบ้านเอื้อยลำเจียกถ้าไม่ไหวก็กลับกรุงเทพฯไปซะชิวๆขิวขี้หน้า**
"คอยดูนะจะจับทำเมียให้เข็ดผู้หญิงสวยใจร้าย"
**อะไรบ่นอะไร เมียๆ..**
"เปล่าบอกว่าเมื่อยจังเลยกลับบ้านกันเถอะ"
ธนภพรีบกลับบ้านเพราะวันนี้มีนัดเขาอาบน้ำแต่งตัวหล่อ ข้าวปุ้นเด็กหนุ่มดีอกดีใจจะได้จีบสาวครั้งแรกได้เรียนรู้จากปรมาจารย์ ข้าวปั้นขับมอเตอร์ไซค์เก่าของพ่อพาธนภพไปเที่ยวตลาดนัดแถวบ้านสาวๆแค่เห็นธนภพเดินมาก็ตะลึงงันเดินกันไม่ถูกมองมาทางเดียวกันหมด
"อ้ายๆ..หล่อจริงหล่อจัง ผู้สาวงี้กรุ้มกริ่มๆกันพลอยให้ปุ้นดูหล่อไปด้วยพี่ทำไงเขาถึงจะมาหาเราล่ะทำไวเขาถึงจะมาขอเบอร์เรา"
"อยู่เฉยๆหล่อๆเดี๋ยวก็มา 5..4..3..2..1..."
"อ้ายขอเบอร์หน่อย.."
หญิงสาววัยรุ่นอายุประมาณ17-18เดินมาขอเบอร์ธนภพสร้างความตื่นเต้นให้กับข้าวปุ้นหนุ่มน้อยด้อยประสบการณ์ ราว7-8คนมีมาขแต่เบอร์โทรของธนภพไม่มีใครมาขอเบอร์ข้าวปุ้นเลย
"อ้ายๆไม่เห็นว่าจะมีใครมาขอเบอร์ผมเลยอ้ายน่ะบดบังความหล่อของผม...อ้ายๆ..คนนั้นคนนั้นผู้สาวผมทำยังไงทำยังไงดีมาแล้วมาแล้ว"
"ใจเย็นๆอย่าลนลานขรึมไว้ทำขรึมเข้าไว้..เดินมาหาแล้ว"
**ข้าวปุ้นนี่ใครนะหล่อจัง...ไม่เคยเห็นเลย**
"เชอะ..อ้ายเขยข่อยมีหยัง..."
**พูดดีๆก็ได้..เออเราว่าจะชวนไปดูหนังน่ะพาไปหน่อยนะ**
"จริงเปล่าเนี่ยคิดยังไงถึงชวนปุ้นล่ะ"
**เออก็ชวนแพรวาแล้วแพรวาไม่ว่างน่ะ ไปเป็นเพื่อนหน่อยไม่ได้เหรอ?*"
"ที่แท้เราเป็นแค่ตัวสำรองนี่เอง..ไม่..ไม่ไปเป็นเพื่อนหรอก"
**อ้าว..งั้นก็ไปคนเดียวก็ได้เชอะ**
"ใครบอกว่าจะไม่ไปล่ะ..ไม่ไปเป็นเพื่อนนะแต่จะไปเป็นแฟนได้ปะล่ะ"
**ไอ้บ้า..พรุ้งนี้หลังเลิกเรียนมารับด้วยจะรออยู่บ้าน**
"ผู้สาวข้าวปุ้นชื่ออะไรน่ะ?"
"ชื่อข้าวจี่"
"เออเหมาะกันดีชื่อเหมือนกันเลย"
"ไม่เหมือนข้าวจี่คือข้าวเหนียวเอามาย่างไฟ.. ข้าวปุ้นกับขนมจีนสิเหมือนกัน"
"เหมือนกันตรงไหนอ่านก็ไม่เหมือนกัน"
"เหมือนสิความหมายเหมือนกันข้าวปุ้นคือขนมจีน"
"อ๋อ..พึ่งรู้นะนี่..กลับกันยังหิวข้าวแล้ว"
"ไปครับไปเพราะน้ำปรุงเสน่ของอ้ายแน่ๆเลยข้าวจี่ถึงมาชวนไปดูหนังไปนำกันบ่"
"บ่..เอ้ยไม่ไปดูสภาพรถมอเตอร์ไซค์เก่าคันนี้ก่อนเถอะจะไปถึงได้แค่ไหน"
"อย่าดูถูกบักห่างนี่นะมันอยู่กับพ่อมายี่สิบปีได้แล้วมั้งก่อนจะจีบแม่อีกบักห้างนี่แหละที่พาแม่ไปเที่ยวสมัยนั้น.......ถึงบ้านแล้วปะกินข้าวแลงกันดีกว่า"
เย็นมากแล้วทุกคนไม่รอกินกันหมดแล้วเหลือสองหนุ่มนั่งกินข้าวกันหัวเราะคิกคักดูสนิทสนมกันเกินจนขนมจีนหมันไส้
**เชอะ..ไปจีบสาวนำกันกลับมาพากันม่วนแท้**
สองหนุ่มกินข้าวเย็นเสร็จแล้วก็เข้านอนข้าวปุ้นนอนฝันหวานอยากให้ถึงพรุ้งนี้เร็วๆส่วนธนภพไม่อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ เลยเพราะวันนี้เหนื่อยมากจนแทบจะถอดใจ แต่เจาก็ไม่ท้อถอยถ้าพ่อยอมให้เงินลงทุนเขาจะได้อยู่ที่นี่กับสาวที่เขาหมายปองขนมจีนคือแรงบันดาลใจที่จะให้ธนภพอยู่ที่นี่อย่างอดทนได้ถึงหนึ่งปี
ฮือออ...อาาา ...ภพขา..ขนมจีนไม่..ไม่..
"เฮ้ยยยย..โถ่เอ้ย..ฝันไปน่ะเองบ้าจริง นี่เราหมกมุ่นขนาดนี้เลยเหรอเอาวะยังไงขนมจีนก็เป็นเมียเราแล้วในฝันก็ยังดีคริคริ ปกติไม่เคยฝันแบบนี้เลยสงสัยไม่ได้ปลดปล่อยหลายวัน จะทนได้มั๊ยเนี่ย"
เหมือนทุกวันขนมจีนเตรียมตัวห่อข้าว แล้วก็พาธนภพไปนาวันนี้ไปใช้แรงให้บ้านเอื้อยลำเจียก คนสอนธนภพก็คนเดิมไอ้จ่อยมารความรักก็้างขวางคอของธนภพ จ้องตาเขม่นกันทุกวันเพราะเขารักผู้หญิงคนเดียวกัน ทำงานไปจ้องตากันไป ธนภพเหงื่อไหลไคลย้อย ร้อนก็ร้อนเหนื่อยก็เหนื่อย
**จ่อยๆมาพักแหมะ..เดี๋ยวข่อยลงไปเบิ่งเพิ้นเองกะได่**
(จ่อยมาพักสิเดี๋ยวฉันไปดูเขาเองก็ได้)
"บ่เป็นหยังข่อยดูเพิ้นกะได่เจ้าไปซอยทางอื่นพุ้น"
(ไม่เป็นไรผมดูเขาให้ก็ได้เธอไปช่วยทางนู้น)
จ่อยคือก้างชิ้นใหญ่ไม่ปล่อยโอกาสให้ธนภพได้ใกล้ขนมจีนเลยธนภพเริ่มโมโหจึงพูดกับจ่อยว่า
"ถึงตอนทำงานจะไม่ได้อยู่ใกล้กันแต่กลับบ้านเรานอนเรือนเดียวกันพลันสายตาก็จ้องกันเขม็งอีกแล้ว
"เบิ่งแนมตากันอยู่ซั่นเป็นปลากัดท้องตะโดนแหล่ว ซอยกันเฮ็ดเวียกแหมจะเสร็จบ่ละซั่น"
(จ้องตากันอยู่นั่นเป็นปลากัดท้องตั้งนานแล้วช่วยกันทำงานสิจะเสร็จไหมล่ะนั่น)
"ขนมจีนไม่มีทางชอบคุณแน่..."
"ก็ไม่แน่นะ..น้ำตาลใกล้มดใครหรือจะอดใจได้ผมหล่อนะรึว่าไม่ใช่..สาวๆที่ไหนได้อยู่ใกล้ก็ใจละลายทั้งนั้นแหละขนมจีนก็ไม่น่าจะยากถ้าผมจะจีบ"
"ข้ามศพผมไปก่อนเถอะ...คุณอย่าหวังผมจะขวางให้ถึงที่สุด"
"แอบรักเธอแล้วเคยบอกเธอรึเปล่าที่เธอดีด้วยเพราะเห็นเป็นเพื่อนแค่นั้นแต่ถ้าสารภาพถ้าเธอคิดแค่เพื่อนความเป็นเพื่อนจะไม่เหมือนเดิมนะคิดให้ดีๆแต่สำหรับผมไม่ได้เป็นเพื่อนถ้าผมสารภาพถ้าเธอไม่ชอบผมผมก็ไม่เสียอะไรแต่คุณระวังเสียเพื่อนนะ"
ได้ผลคำขู่ของธนภพทำให้จ่อยคิดหนักการฝึกงานวันที่สองของธนภพลุล่วงไปด้วยไม่ดีสักเท่าไรอุปสรรคเยอะโดยเฉพาะเรื่องความรัก เรื่องงานไม่ต้องพูดถึงถอดใจตั้งแต่ถึงท้องนาแล้วแต่ที่ธนภพยังสู้ต่อเพราะขนมจีนเขาจะต้องพิชิตใจผู้สาวไทยบ้านคนนี้ให้ได้