ตอนที่ 20 : ไม่ชอบพรากผู้เยาว์
"คนอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้จักคำว่าสำนึก เมื่อกี้ยังทำคนอื่นร้องไห้ ยังจะกล้ามาใช้หนูอีก" ฉันได้แต่บ่นพึมพำแต่สุดท้ายก็หยิบเสื้อเชิ้ตสีดำมาสวมใส่ร่างกายกำยำอย่างลวกๆเพราะเขามายืนประจันหน้าแทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้ว
"ฉันว่าร่างกายเธอชอบนะ แฉะขนาดนั้น"
"ถ้าพี่จะพูดเรื่องแบบนี้ก็เชิญใส่เองค่ะ มีมือเหมือนกัน"
หมับ
ฝ่ามือหนาจับมือเด็กสาวไว้แน่นในจังหวะที่เธอจะผละออก สายตาคมกริบมองใบหน้าหวานด้วยสายตาเรียบนิ่ง
จู่ๆความเงียบก็เข้าครอบงำเมื่อถูกสายตาคมกริบคู่นั้นจับจ้องมา มือหนานั้นกุมมือฉันไว้แน่นอยู่แบบนั้น นานหลายนาทีที่สายตาของฉันและของพี่เทเลอร์ประสานกัน ถ้าเขาไม่ใช่คนปากร้ายและบีบบังคับฉันทุกทางแบบนี้ ฉันคงหลงเสน่ห์ในรูปร่างหน้าตา และการกระทำของเขาตอนนี้ไปแล้ว แต่พอนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆและคำพูดแดกดันพวกนั้นความรู้สึกเหล่านั้นกลับหายไป
"หลงเสน่ห์ฉันหรือไง"
"ไม่มีทางที่หนูจะหลงเสน่ห์คนปากร้ายอย่างพี่หรอกค่ะ" ดวงตากลมโตถลึงตาใส่คนตรงหน้า ราวกับฟ้าผ่ากลางหัวเมื่อได้ยินคำถามที่ตรงไปตรงมาของเขา
"ติดกระดุมให้ฉันเร็วๆ ถ้าเธอยังยื้ออยู่แบบนี้ฉันจะคิดว่าเธออยากใกล้ชิดฉัน" ไม่พูดเปล่าแต่ใบหน้าคมคายโน้มลงไปใกล้ใบหน้าหวานพร้อมกับเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ลมหายใจออกของเธอกำลังเป่ารดสันจมูกโด่งคม
"พี่!"
"ติดกระดุมซะ ถ้าไม่อยากให้ฉันใกล้เธอไปมากกว่านี้"
"พี่เอาหน้ามาใกล้แบบนี้ใครจะทำได้" มือเรียวเล็กรีบติดกระดุมให้เขาอย่างรวดเร็วเพราะเริ่มเห็นว่าใบหน้าคมคายนั้นเริ่มลดต่ำมาเรื่อยๆ ขืนพูดต่อมีหวังฉันกับเขาไม่ได้แค่ใส่เสื้อแบบนี้แน่ ริมฝีปากหนาเกือบจะโดนแก้มของฉันอยู่รอมร่อ
"เสร็จแล้วค่ะ" เท้าเรียวเล็กก้าวถอยหลังออกมาทันทีกลัวว่าจะถูกเขาจับมือรั้งไว้อีก
"ไปแต่งตัว ฉันจะไปข้างนอก"
"ไม่เกี่ยวกับหนู"
"ถ้าฉันนับถึงสามเมื่อไหร่ เธอยังยืนอยู่ตรงนี้ ฉันได้สอนประสบการณ์เธออีกยกแน่"
"แล้วมันเกี่ยวกับหนูตรงไหน พี่จะไปไหนมันก็เรื่อง...."
"นับหนึ่ง!" เทเลอร์ไม่สนใจคำเถียงของเธอ และเขาก็เริ่มนับแทรกคำพูดเธอทันที สายตาคมกริบจับจ้องไปที่คนตัวเล็กพร้อมกับก้าวเท้าไปหาร่างบางที่ยืนอยู่
"อยะ อย่ามาบังคับหนูนะ" เท้าเรียวเล็กก้าวถอยหลังอัตโนมัติเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาคู่นั้น
"แล้วจะเดินตามหนูทำไม"
"นับสอง..."
"นี่ก็สองทุ่มแล้ว พรุ่งนี้หนูมีเรียน"
"เธอมีเรียนบ่าย"
"หนูเจ็บ...ตรงนั้น ก็เพราะพี่นั่นแหละ ไปไหนไม่ไหว"
"นับ..."
"ก็รู้แล้วไง จะไปอยู่นี่ไงคะ ก็บอกว่าเจ็บขาเดินไม่ค่อยไหวยังจะบังคับกันอยู่ได้ คนอะไรก็ไม่รู้เอาแต่ใจ" ฉันรีบหมุนตัวและเดินหนีก่อนที่เขาจะนับถึงสาม ขาเรียวเล็กก้าวฉับๆราวกับลืมความเจ็บปวดไปอย่างปลิดทิ้ง ริมฝีปากบางขมุบขมิบบ่นไปตลอดทาง
"ฉันให้เวลาเธอห้านาที ถ้ายังไม่ออกมา รอบนี้ฉันจะไม่ใช่แค่เข้าไปเอาของ แต่จะเอาเธอแทน"
น้ำเสียงเข้มตะโกนพูดไล่หลังเมื่อเห็นเด็กสาวหายเข้าไปในห้องนอนแล้ว สายตาคมจับจ้องไปที่ประตูบานนั้นก่อนจะกลับมานั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นตามเดิม
ภายในรถสปอร์ตคันหรู
เทเลอร์ขับรถออกจากคอนโดมาได้สักพักใหญ่โดยมีเด็กสาวตัวเล็กนั่งมาเคียงข้างด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ ใบหน้าหวานแสดงออกอย่างชัดเจนว่าถูกบังคับขู่เข็ญให้มาด้วย แต่เขาเลือกที่จะไม่สนใจ ฝีเท้าแกร่งเหยียบคันเร่งจนมิดไมล์เพื่อมุ่งตรงไปยังชานเมือง บรรยากาศโดยรอบยังพอมีรถสัญจรไปมาให้เห็นแต่สะดวกสบายกว่าตอนกลางวัน ทำให้เขาชอบที่จะออกจากกรุงเทพในช่วงดึก ไม่ต้องฟันฝ่ารถติดในชั่วโมงเร่งด่วน
ถึงแม้วันนี้จะผิดแผกไปกว่าทุกครั้งเพราะมีอีกคนนั่งมาด้วย แต่เธอก็ทำตัวไม่ต่างจากหุ่นที่ไม่มีแม้แต่เสียงพูดหรือคำถามให้หงุดหงิด ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปากท่ามกลางความมืดภายในรถ ได้แต่ชำเลืองมองปฏิกิริยาของเด็กสาวที่ดูสงบปากสงบคำตั้งแต่ถูกปราบพยศไป
"....." ดวงตากลมโตชำเลืองมองอีกคนอย่างไม่พอใจ เรื่องมันไม่จบแค่ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่คนหื่นกามกลับตามเข้าไปและบีบบังคับฉันทุกทาง เอาสารพัดเหตุผลมาอ้างหาว่าฉันแต่งตัวช้าทั้งที่ฉันพึ่งเข้าไปในห้องแต่งตัวได้ไม่ถึงห้านาที จนสุดท้ายเขาก็สอนประสบการณ์เรื่องอย่างว่าให้ฉันอีกรอบ กว่าเราจะออกจากคอนโดก็เกือบสี่ทุ่ม และเขาก็ยังลากฉันออกมาด้วยแบบเดิม แต่มันน่าแปลกที่รอบล่าสุดที่พี่เทเลอร์สอนประสบการณ์มันไม่ได้รู้สึกทรมานเหมือนครั้งแรก แต่มันก็ยังรู้สึกเจ็บปวดที่กลางหว่างขาเหมือนเดิมอาจจะไม่มากเหมือนสองก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าฉันจะชอบรสสวาทของเขา
บรรยากาศสองข้างทางเริ่มไม่มีไฟส่องแสงสว่าง จากถนนสี่เลนถูกบีบให้เหลือสองเลนสวนกัน ถึงแม้คำถามมากมายจะเกิดขึ้นในหัวแต่ฉันก็เลือกที่จะเงียบเพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับคนอย่างเขาอีกแล้ว
ไม่นานรถสปอร์ตคันหรูก็ขับมาจอดในบริเวณโกดังเก็บอาวุธขนาดใหญ่อย่างเช่นทุกครั้ง ใบหน้าคมคายหันมองเด็กสาวเพียงนิด
ฉันนั่งตัวแข็งทื่อเพราะตั้งแต่ปากทางเข้าก่อนมาถึงที่นี่ก็มีชายฉกรรจ์อาวุธครบมือยืนตามจุดต่างๆ ถึงแม้ก่อนหน้านี้ฉันจะเห็นลูกน้องของพ่อคุณโนอาร์ในรูปแบบนี้มาบ้างแต่ตอนนั้นฉันมั่นใจว่าพวกเขาไม่ทำอะไรฉันแน่นอน แต่วันนี้ฉันมากับบุคคลที่ไม่น่าไว้ใจอย่างพี่เทเลอร์ไม่รู้ว่าเขาจะเอาตัวฉันไปให้พวกนั้นฆ่าทิ้งเมื่อไหร่ มือเรียวเล็กกำสายเข็มขัดไว้แน่นต่อให้รถสปอร์ตคันหรูจะจอดนิ่งสนิทแล้ว แต่ผู้คนโดยรอบที่ยืนนิ่งด้านนอกทำเอาหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบและหวาดผวาเมื่อสายตาของบางคนจดจ้องมาที่รถคันนี้
"นั่งรอฉันอยู่ในรถ ถ้าอยากตายก็ลองเปิดประตูลงจากรถ แต่ถ้าไม่ก็นั่งอยู่ในนี้ เมื่อไหร่ที่เธอท้าทายพวกมัน ปืนพวกนั้นจะมาจ่ออยู่ที่หัวเธอ"
"เดี๋ยวสิ พี่ลากหนูมาแล้วให้หนูอยู่แบบนี้เหรอ"
"มีปากแล้วเหรอ ฉันนึกว่าเธอลืมหยิบปากมาจากคอนโด"
"หนูไม่อยากอยู่คนเดียว"
"ในนั้นมันน่ากลัวกว่าตรงนี้ และมันไม่ใช่สนามเด็กเล่นให้เธอได้วิ่งสนุก สิ่งที่เธอควรทำคือนั่งรอฉันอยู่ในนี้แล้วเธอจะปลอดภัย"
“หนูไม่ใช่เด็กซะหน่อย ใครมันจะไปวิ่งเล่นในที่แบบนี้”
หลังจากพูดจบเทเลอร์ก็ลงจากรถทันที ถึงแม้จะได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายของเด็กสาวแต่ก็เลือกที่จะนิ่ง ถึงแม้โกดังนี้จะปลอดภัยแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะให้คนนอกอย่างเธอรู้ความเคลื่อนไหวและไม่ใช่เรื่องดีถ้าเด็กอย่างเธอจะเห็นอาวุธสงครามที่เต็มโกดัง เขายังไม่เชื่อปากของเธอว่าจะเก็บความลับได้มากน้อยแค่ไหน
"คนใจร้าย" ริมฝีปากบางเบะราวกับเด็กกำลังจะร้องไห้เมื่อถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว ดวงตากลมโตมองชายหนุ่มร่างสูงห่างออกไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็หายเข้าไปด้านใน
ภายในรถตกอยู่ในความเงียบ ดวงตากลมโตวูบไหวเมื่อมองบรรยากาศโดยรอบ ถึงแม้ฉันจะอยู่บนดอยแบบไม่มีไฟฟ้ามาก่อนก็ไม่น่ากลัวเท่านี้ ไม่ใช่เพราะความมืดแต่เป็นเพราะสายตาของคนที่ยืนอยู่ด้านนอกต่างหาก ราวกับฉันแอบขึ้นรถเข้ามาในนี้เพื่อมาล้วงความลับของมาเฟียยังไงยังงั้น แผ่นหลังบางเลือกที่จะเอนกายพิงไปกับเบาะไม่อยากให้เป็นจุดสนใจของคนด้านนอกมากนัก
เทเลอร์ขึ้นมาบนชั้นสองของโกดังที่เป็นสำนักงานเอาไว้เคลียร์เอกสารและร่วมประชุมกับเจ้านายแต่ละคน
"มึงมาสายนะไอ้เทเลอร์"
"ไม่เห็นว่ามีรถจอดอยู่" คิ้วหนาเลิกขึ้นเมื่อเห็นโนอาร์ยืนอยู่ก่อนแล้ว และที่น่าแปลกไม่เห็นรถประจำตำแหน่งของโนอาร์จอดอยู่หน้าโกดัง
"การที่กูจะเอารถไปจอดด้านหลังโกดังมันก็เรื่องปกติ คำถามมึงแปลกๆนะ"
"ก็แค่ถาม" เทเลอร์ยังคงทำสีหน้าเรียบนิ่งและจัดการในงานของตัวเอง
"มึงจะอะไรกับมันนักหนาวะไอ้โนว์ งานของมึงเสร็จแล้วหรือไงถึงได้ปากมากอยู่ได้"
เทเลอร์ก้มหัวให้เจ้านายหนุ่มอย่างชาร์ลที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ถึงจะแปลกใจกับการมาของเจ้านายหนุ่มแต่ก็เลือกที่จะนิ่ง เพราะวันนี้ยังไม่ใช่วันส่งงานล็อตใหญ่ แต่ทั้งสองคนกลับเข้าโกดังโดยที่เขาไม่รู้มาก่อน
"ปกป้องลูกน้องฉิบหาย ส่วนไอ้เวรนี่ก็เคารพแต่นายมึงนั่นแหละ"
โนอาร์ส่ายหัวเบาๆกับความนอบน้อมที่เทเลอร์มีต่อชาร์ล ถึงเพื่อนของเขาจะเห็นเทเลอร์เป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มไปแล้วก็ตาม แต่คนอย่างเทเลอร์ก็ไม่เคยลืมตัว เมื่ออยู่ในหน้าที่เทเลอร์ยังคงเป็นลูกน้องเหมือนเดิม แต่เมื่ออยู่ในวงเหล้าก็คือเพื่อนซี้ปึก
"ใช่ กูเคารพแต่นายชาร์ล ไม่ใช่มึงโนอาร์" เทเลอร์ย้ำชัดอีกรอบ ทำเอาชาร์ลถึงกับปรบมือเสียงดังด้วยความชอบใจ
ฮ่า ฮ่า
แปะ แปะ…
"นี่แหละคนของกู ว่าแต่งานที่บริษัทเรียบร้อยดีใช่ไหม"
"ครับนาย"
"อื้ม ดีแล้ว มึงเป็นถึงรองประธานกูก็ไม่มีอะไรต้องห่วง แล้วเรื่องน้องสาวของไอรีนละโอเคใช่ไหม พักหลังไม่เห็นมึงเข้าไปหาหลานคงยุ่งไม่น้อย"
"พยศตามประสาเด็กครับ แต่ทุกอย่างไม่มีปัญหา"
"พยศมาก ก็แค่ปราบให้จมเตียงไปเลยดิวะ" ชาร์ลพูดขึ้นอย่างยียวน
"ไม่ชอบพรากผู้เยาว์" เทเลอร์ตอบกลับเพียงสั้นๆและก้มหน้าดูเอกสารในมืออย่างไม่สนใจทั้งสองคนที่อยู่ในห้อง