ตอนที่ 19 : คำสั่งเด็ดขาด
"ลุกไปล้างตัวและออกไปหาฉันข้างนอก ถ้ายังขืนนอนแหกอยู่แบบนี้ มันอาจทำให้ฉันสอนประสบการณ์เธออีกสักยกสองยก" ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มมุมปากไม่ได้สนใจคำไล่ของเด็กสาว ร่างสูงลุกออกจากเตียงนอนก่อนจะปรายตามองสภาพเธออีกครั้ง ขาทั้งสองข้างไม่สามารถหุบเข้าหากันได้ ผ้าปูเตียงสีขาวเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสดไว้ดูต่างหน้า และไม่นานเทเลอร์ก็เดินออกจากห้องนอนของเธอด้วยร่างกายเปลือยเปล่า ไม่จำเป็นต้องอายใคร
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ร่างกายที่เปลือยเปล่านั่งลงบนโซฟาด้านนอกที่คุ้นเคยพร้อมกับสูบบุหรี่ราคาแพงเพื่อคายความเมื่อยล้าและกล่อมประสาทให้รู้สึกโล่ง สายตาคมกริบจับจ้องไปที่ประตูห้องนอนของเด็กสาวแต่ก็ยังไร้วี่แววของคนด้านใน ร่างกายที่เปลือยเปล่าเอนกายพิงกับเบาะกำมะหยี่ของโซฟาราวกับใช้ความคิด
ก่อนหน้านี้ที่เขาได้ข้อความจากเธอในช่วงเช้า ทำให้เขาไม่ได้มารับเธอที่คอนโด แต่หลังเลิกเรียนได้ไปแอบซุ่มดูเธอว่าจะไปได้สักกี่น้ำ แต่สิ่งที่เห็นคือเด็กสาววัยแรกรุ่นกำลังกะหนุงกะหนิงกับผู้ชายอื่นหน้าระรื่น ทั้งๆที่เมื่อวานเธอยังแหกขาให้เขากระแทก ความเจ็บปวดที่เขามอบให้เธอเมื่อวานมันไม่ได้เตือนสติความพยศของเธอเลย ยังกล้าท้าทายอำนาจที่เขามี เขาจับตาดูเธอตั้งแต่อยู่ในมหาวิทยาลัย จนท้ายที่สุดก็จูงมือกันขึ้นรถเมล์ท่ามกลางคำแซวของเด็กแถวนั้น
และหลังจากนั้นเทเลอร์ได้ออกจากมหาวิทยาลัยของเธอและมุ่งมาที่คอนโด แอบขึ้นมาบนห้องและจัดการดึงสลักตัวล็อคประตูทุกบานในห้องนี้ออก เขาใช้เวลารอเธอเป็นชั่วโมงในห้องนี้ แต่ก็ไร้ซึ่งเงาของเด็กสาวทำให้ต้องไปนั่งรอที่ล็อบบี้ด้านล่างและไม่นานเธอก็เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กลับมาโดยที่ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
"ถ้าฉันยังสอนเธอไม่จบหลักสูตร เธอก็ไม่มีสิทธิ์เลิกเรียนกลางคัน ใจกล้าแบกหน้ามาขอความช่วยเหลือจากฉัน มันไม่มีทางที่เธอจะเดินออกไปง่ายๆโดยที่ฉันไม่อนุญาตน้อยหน่า"
ริมฝีปากหนาพ่นควันขาวคลุ้งไปทั่วบริเวณ ร่างกายเปลือยเปล่ากับเครื่องปรับอากาศที่หนาวเย็นไม่ได้สะเทือนผิวของเขาแม้แต่นิดเดียว
ภายในห้องนอน
เด็กสาวร่างเล็กยืนมองสภาพตัวเองหน้ากระจกเงาบานใหญ่มาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แววตาที่แดงก่ำบ่งบอกว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักกำลังมองร่างกายสุดหวงแหนของตัวเอง ถึงแม้ตอนนี้ร่างกายจะสวมเสื้อผ้าหมดแล้วแต่ก็ยังนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านมา ฉันไม่น่าก้าวเข้ามาในวังวนของคนใจร้ายอย่างพี่เทเลอร์เลย ไม่น่ามาขอความช่วยเหลือจากเขาตั้งแต่แรก เขาไม่เคยสนใจคำขอร้องอ้อนวอนของฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะตั้งแต่วันแรกจนมาถึงวันนี้เขาก็ยังเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง ใช้อารมณ์ตัวเองเป็นหลัก จนทำให้ร่างกายที่บอบช้ำของฉันทุกข์ทรมานอย่างหนัก
กลางหว่างขาที่เจ็บปวดจนเกือบจะเดินไม่ได้ แต่ฉันต้องกัดฟันฝืนทนลุกขึ้นจากเตียงนอนเพราะคำขู่ของเขา ถ้าขืนฉันยังนอนต่อเชื่อว่าคนอย่างเขาคงทำมันจริง ภาพที่เขาเคลื่อนไหวอยู่บนตัวฉันยังคงฉายซ้ำไปซ้ำมา รสสัมผัสในตอนที่เขาก้มลงมาดูดดึงยอดประทุมถันยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี ความรู้สึกเจ็บปวดที่เขามอบให้ฉันมันไม่เคยมีความสุขแม้แต่นิดเดียว
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เขาคงวางแผนมาตั้งแต่แรก ตั้งแต่เจอฉันที่ลิฟต์ด้านล่าง จนขึ้นมาถึงบนห้องโดยที่เขาก็มีคีย์การ์ดส่วนตัว แถมเข้ามาในห้องตัวล็อคทุกประตูพังทั้งหมด ทั้งที่เมื่อเช้าก่อนออกไปเรียน ฉันก็ใช้ห้องน้ำและทุกอย่างก็ยังคงล็อคได้ปกติ มันไม่มีเหตุผลอื่นเลยนอกจากฝีมือคนเจ้าเล่ห์อย่างพี่เทเลอร์
"เจ็บจัง...พรุ่งนี้จะไปเรียนได้ไง ขายังหุบแทบไม่ได้ มีหวังเดินขาถ่างไปเรียนแน่ ขนาดวันนี้ฉันก็ไม่รู้จะตอบเพื่อนยังไงแล้ว"
"ก็แค่บอกว่าโดนเอามามันจะยากอะไร เพื่อนเธอน่าจะเข้าใจเรื่องแบบนี้ดี"
ร่างบางรีบหันไปยังต้นเสียงที่เล็ดลอดเข้ามา ก่อนที่เจ้าของคำพูดจะปรากฏตัว ฉันไม่รู้ว่าเขาเข้ามาในห้องแต่งตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดคิดและรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเมื่อเห็นร่างกายเปลือยเปล่าที่เดินโทงเทงเข้ามาไม่รู้จักอายใคร
"โดนเอามาสองครั้ง เธอน่าจะชินกับมันได้แล้ว ทำเป็นอายสุดท้ายก็แหกขาให้ฉันเข้าไปอยู่ดี"
"พี่เทเลอร์มันจะมากไปแล้วนะคะ พี่ทำกับหนูแบบนี้ยังไม่พอใจอีกเหรอไง" ดวงตากลมโตกลับมาจ้องใบหน้าคมคายอย่างเหลืออดเพราะคำพูดแดกดันของเขา ฉันมั่นใจว่าครั้งนี้ฉันไม่ได้อ้าขาให้เขาง่ายๆเหมือนกับครั้งแรก มีแต่เขานั่นแหละที่เป็นคนบังคับให้ฉันทำมัน
ฝีเท้าหนักสาวเท้ามาหาเด็กสาวที่ยืนเถียงไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง ทั้งที่พึ่งผ่านศึกหนักมาได้ไม่นานเธอก็พยศเขาอีกรอบ
หมับ
"อื้อ...ปล่อย" ฉันพยายามแกะมือเขาออกจากปลายคางมนเมื่อถูกฝ่ามือหนาบีบเข้าอย่างแรง และตัวเขาก็เข้ามาแนบชิดจนฉันรับรู้ได้ถึงท่อนเอ็นที่กำลังเสียดสีกับหน้าท้องตัวเอง
"ขายังไม่หายถ่าง อย่าคิดมาต่อปากต่อคำกับฉัน ฉันบอกให้เธอออกไปหาฉันข้างนอกไม่ใช่เหรอไง กล้าท้าทายฉันนักใช่ไหม ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ชอบต้องรอใครนานๆ สิ่งที่ฉันสั่งไม่เข้าไปในหัวเธอเลยเหรอ"
"หนูเจ็บนะ ปล่อย! จะอะไรกับหนูนักหนา หนูพยายามจะออกจากชีวิตพี่ ไม่ต้องให้พี่ไปรับไปส่งยังไม่พอใจพี่อีกเหรอไง มาทำกับหนูแบบนี้อีกทำไม"
"เธอเองต่างหากที่มาขอร้องอ้อนวอนให้ฉันทำมัน"
"แต่มันควรจบตั้งแต่เมื่อวานแล้ว หนูโง่เองที่ไปขอความช่วยเหลือจากพี่...อื้อออ เจ็บ"
ฝ่ามือหนาเพิ่มแรงบีบปลายคางมนมากขึ้นจนเห็นสีหน้าเธอเหยเกไปกับแรงบีบ และไม่สามารถต่อล้อต่อเถียงได้อีก
พรึบ
ปึก
"อ๊ะ" แรงสะบัดทำให้ตัวฉันเซไปชนกับตู้เสื้อผ้าที่อยู่ด้านหลังอย่างจัง โชคดีที่ใช้มือประคองตัวเองไว้ได้ไม่ให้ล้มไปกองกับพื้น นัยส์ตาทั้งสองข้างร้อนผ่าวกับสิ่งที่ตัวเองได้รับ ทั้งที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองผิดอะไรนักหนาเขาถึงได้ทำกับฉันแบบนี้
"ออกไปรอฉันข้างนอก ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน และฉันสอนให้เธอพูดมีหางเสียงกับฉัน ไม่ใช่มายืนเถียงฉันฉอดๆแบบนี้ แต่ถ้าเธอยังยืนกรานไม่ออกไปฉันจะกระแทกเธอให้นี้ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าโต๊ะเครื่องแป้งของพี่สาวเธอจะรองรับน้ำหนักได้มากน้อยแค่ไหน"
ดวงตากลมโตที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาจ้องมองคนตรงหน้าอย่างคาดโทษ มือบางกำหมัดแน่นด้วยความโกรธแต่กลับต่อสู้อะไรเขาคืนไม่ได้เลย เท้าเรียวเล็กเลือกที่จะก้าวออกมาจากตรงนั้นตามคำสั่งของเขา ถ้าขืนอยู่ต่อสุดท้ายมันก็เป็นภัยให้กับตัวเองอยู่ดี
เพียงแค่ออกมากลิ่นบุหรี่ก็ตลบอบอวลไปทั่วห้องนั่งเล่น ดวงตากลมโตมองของที่วางเกลื่อนกลาดอยู่บนโต๊ะ หนึ่งในนั้นก็หนีไม่พ้นกล่องถุงยางอนามัย ที่เขาพกมาด้วยแต่กลับไม่ใช่มัน ข้างๆกันมีกล่องคล้ายกล่องยาสีขาว ซึ่งฉันไม่มั่นใจว่ามันคือกล่องยาอะไร
"กินซะ นั่นยาเธอ" เทเลอร์เดินออกมาจากห้องนอนด้วยสภาพที่เปลือยเพียงแค่ท่อนบน และเห็นว่าเธอยืนจ้องของที่วางอยู่บนโต๊ะอยู่ก่อนแล้ว
"ยาอะไรคะ"
"ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อวานฉันปล่อยนอก วันนี้ฉันปล่อยใน ถ้าอยากท้องแบบไม่มีผัวก็ไม่ต้องกิน เพราะฉันคงไม่รับผิดชอบและไม่มั่นใจว่านั่นคือลูกฉัน เธอยังไปไหนมาไหนกับไอ้เวรนั่น ก็ไม่แน่ลับหลังฉันเธอก็อาจแหกขาให้มันเหมือนกัน"
"....." มือที่สั่นเทาหยิบกล่องยาสีขาวขึ้นมา ฉันไม่ได้สนใจคำพูดดูถูกของเขาแม้แต่นิดเดียว แต่ฉันนึกถึงแม่ตัวเอง ถ้าเกิดท้องขึ้นมาทั้งที่ตัวเองยังเรียนไม่จบคนที่เสียใจที่สุดก็คงเป็นแม่ของฉัน และก็ทำให้อีกหลายคนต้องผิดหวังรวมถึงพี่ไอรีนกับคุณโนอาร์ที่ส่งเสียค่าเล่าเรียน
เทเลอร์มองปฏิกิริยาของเด็กสาวและเดินมานั่งที่โซฟาตามเดิมแต่เธอยังคงยืนนิ่งก้มมองกล่องยาคุมฉุกเฉินในมือโดยไม่พูดไม่จา
"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะคอยไปรับไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยทุกวัน หวังว่าฉันพูดครั้งเดียวจะเข้าไปในสมองเธอ"
"หนูจะขึ้นรถเมล์ไปเองค่ะ"
"นี่คือคำสั่งของฉัน" เทเลอร์ตวาดเสียงดังลั่น สายตาคมจ้องมองเด็กสาวอย่างคาดโทษและเธอเองก็มองเขากลับเช่นกัน
"ค่ะ"
ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่นพยายามข่มอารมณ์ตัวเอง ทำได้เพียงกัดฟันตอบกลับไป
"ส่วนนี่ค่าขนมเธอ"
"พี่ไอร์ฝากมาให้เหรอคะ"
ฉันถามด้วยความแปลกใจเพราะไม่กี่วันก่อนพึ่งได้ซองค่าขนมจากพี่ไอรีนจากเขา ยังใช้ไม่หมดด้วยซ้ำ และวันนี้ยังได้เพิ่มมาอีกทั้งทีพี่ไอร์บอกว่าจะให้ฉันเป็นรายเดือน
"......" เทเลอร์เลือกที่จะเงียบ และไม่ได้สนใจกับคำถามของเธอ เลือกที่จะหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูมากดเช็คงาน
“คืนนี้ฉันกลับดึก”
“บอกหนูทำไม? ไม่เห็นจะเกี่ยวกันสักหน่อย” ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ และไม่เข้าใจว่าเขาจะบอกทำไม อีกอย่างในห้องนี้มีแค่ฉันกับเขาสองคน เขาคงไม่ได้พูดลอยๆให้ผีสางฟังแน่
ร่างสูงยัดกายเต็มความสูง เขาได้ยินสิ่งที่เด็กสาวพูดแบบชัดถ้อยชัดคำ
“ไปหยิบเสื้อมาใส่ให้ฉัน” เทเลอร์ออกคำสั่งเสียงเข้มและปรายตามองเสื้อเชิ้ตที่พลาดไว้ที่เก้าอี้
“หนูเจ็บขา เดินไปหยิบไม่ไหว”
“น้อยหน่า!”
“พี่จะอะไรกับหนูนักหนา เอาแต่บีบบังคับตั้งแต่เรื่องแบบนั้น ทุกทีพี่ก็ใส่เองได้ หนูไม่ใช่ทาสรับใช้พี่นะ!”
“งั้นฉันเปลี่ยนใจ เธอออกไปข้างนอกกับฉัน การที่เธอเถียงฉันฉอดๆแบบนี้แสดงว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก” เทเลอร์เดินผ่านหน้าเด็กสาวไปอย่างไม่พอใจก่อนจะไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีดำของตัวเองมา และโยนใส่หัวร่างบางที่มองตาขวาง ทั้งที่นัยส์ตาตัวเองยังแดงก่ำเพราะร้องไห้ แต่ปากก็ยังเถียงไม่หยุด
พรึบ
“พี่!” ในจังหวะที่เสื้อเขามาคลุมหน้าทำให้ได้กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย กลิ่นนี้บ่งบอกถึงความสุขุมนุ่มลึก และดูมีเสน่ห์มาก … แต่สำหรับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่เขา
“ทีนี้จะใส่เสื้อให้ฉันได้ยัง?”