<7> ความรู้สึกที่ค่อยๆเปลี่ยนไป

1911 Words
“ฮ่า อิ่มจังเลย ขอบคุณนะคะที่ให้ยืมเงินซื้อเสื้อผ้าแถมยังใจดีเลี้ยงชาบูไออีกด้วย” ร่างบางที่ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟานุ่มหันมายกมือไหว้ขอบคุณธามไทพร้อมทั้งฉีกยิ้มกว้างให้เขาด้วยความจริงใจจนตาหยี ในขณะที่คนรับบทป๋าสายเปย์ได้แต่ฉีกยิ้มตอบกลับเธอเพียงแวบเดียวเท่านั้นเขาก็กลับไปทำหน้านิ่งเหมือนเดิมเมื่อย้อนคิดไปถึงวีรกรรมที่แสนแสบของคนตัวเล็กเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ภาพเด็กสาวที่งอแงอยากกินชาบูพร้อมกับกอดแขนเขาไม่ยอมปล่อยแถมยังทำท่าจะร้องไห้หน้าร้านจนทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาพากันมองมาที่เขาด้วยสายตาตำหนิ เพราะทุกคนเข้าใจว่าเขาคือพี่ชายใจร้ายที่ไม่ยอมตามใจน้องสาวที่อยากกินชาบู โดยที่สุดท้ายแล้วคนที่ไม่ชอบกินชาบูอย่างเขาก็จำใจต้องยอมให้ไออุ่นควงแขนลากเขาเข้าร้านด้วยรอยยิ้ม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังเบะปากน้ำตาจะเล็ดอยู่เลย เฮอะ เอารางวัลออสการ์ไปเลยเถอะถ้าจะเปลี่ยนอารมณ์ไวจนเขาตามไม่ทันแบบนี้ “ใจดีหรือจำใจหวังว่าเด็กมัธยมแบบเธอคงแยกออกนะ” ธามไทมิวายพูดจาแขวะเด็กสาวที่ยังคงยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้กินของโปรดที่เธอชอบถึงแม้ว่าตลอดการกินเขาจะเอาแต่นั่งเฉยๆไม่ยอมกินกับเธอก็ตาม แต่พอเธออยากกินกุ้งและลงมือแกะด้วยความทุลักทุเลคนที่นั่งหน้าบึ้งก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอแกะกุ้งเกือบยี่สิบตัวโดยที่ไม่บ่นเลยสักนิดมันทำให้ไออุ่นรู้สึกอบอุ่นใจไม่น้อยที่เขาคอยเอาใจใส่เธอ “ต้องแยกออกอยู่แล้วค่ะ ถ้าคุณไม่ใจดีคงไม่นั่งแกะกุ้งให้ไอจนมือถลอกเพราะโดนหนวดกุ้งบาดแบบนั้นหรอกค่ะ” เด็กสาวที่ช่างสังเกตดักคอธามไทที่นิ่งไปเล็กน้อยเมื่อเจอคนที่รู้ทันเขาก่อนที่ร่างสูงจะยักไหล่น้อยๆอย่างไม่แยแสกับคำพูดของเด็กสาวแล้วลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในห้องนอนเพื่ออาบน้ำชำระล้างกลิ่นชาบูออกจากร่างกายและเตรียมตัวไปเข้าเวร ซึ่งช่วงดึกของวันนี้เขามีเวรผ่าตัดคนไข้ถึงสองคนเพราะฉะนั้นเขาจะไปเข้าเวรสายเหมือนทุกวันที่ผ่านมาไม่ได้เด็ดขาด ส่วนไออุ่นเมื่อเห็นธามไทเดินหายเข้าไปในห้องนอนเด็กสาวก็ลุกขึ้นหอบถุงเสื้อผ้าและรองเท้ากว่าสิบถุงเดินหายเข้าไปในห้องนอนบ้าง เพื่อจัดเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ให้เรียบร้อยเพราะหลังจากที่ซื้อเสื้อผ้าเสร็จแล้วธามไทก็โทรเรียกใครไม่รู้มาเอาเสื้อผ้าของเธอไปส่งซักและเมื่อเธอกลับมาถึงห้องเสื้อผ้าก็ถูกนำกลับมาไว้ให้ที่ห้องเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่จัดเสื้อผ้าเข้าตู้จนเรียบร้อยไออุ่นก็เปิดประตูออกมาจากห้องนอนเป็นจังหวะเดียวกับธามไทที่ก็เปิดประตูออกมาจากห้องเช่นกัน ไออุ่นมองร่างสูงที่อยู่ในชุดสูทอย่างคนที่กำลังจะออกไปทำงานสองเท้าก็รีบก้าวเข้ามาหาเขาทันทีพร้อมกับเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย เพราะวันนี้คือวันหยุดและเวลานี้ก็เกือบจะสี่โมงเย็นแล้วด้วยแล้วนั่นเขาจะออกไปไหนกันนะ “คุณจะไปไหนเหรอคะ” คำถามของเด็กสาวทำให้คนที่กำลังผูกเน็กไททำเพียงแค่ปรายตามองคนตัวเล็กที่จ้องมายังเขาไม่วางตาจนกระทั่งเน็กไทถูกผูกเรียบร้อยแล้วธามไทก็เงยหน้าขึ้นมองเด็กสาวที่ยังคงมองมาที่เขาอย่างรอคอยคำตอบ “ได้เวลาทำงานของฉันแล้วล่ะสาวน้อย เวลานอนของพวกเธอก็คือเวลาทำงานของมนุษย์ค้างคาวอย่างฉัน” คำตอบที่ไม่กระจ่างแก่ใจเลยสักนิดของธามไททำให้ไออุ่นถึงกับขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยเข้าไปใหญ่เพราะเธอไม่รู้ว่างานของเขาทำไมถึงต้องทำในเวลากลางคืน ซึ่งโดยปกติแล้วคนเขาทำงานกันเช้าเลิกเย็นไม่ใช่เหรอเพราะขนาดบิดาของเธอเองยังตื่นไปทำงานตั้งแต่เช้าและกลับมาในช่วงเย็นของทุกวัน ถึงแม้ว่าบางวันจะมีงานค้างแต่บิดาของเธอก็มักจะเอางานกลับมาทำที่บ้านเสมอ เอ๊ะ!!หรือว่าเขาจะเป็น..... “คุณทำงานเป็นบาร์โอสต์เหรอคะถึงได้ทำงานกลางคืนเหมือนมนุษย์ค้างคาว” คำถามที่แสนไร้เดียงสาของคนตรงหน้าทำเอาธามไทถึงกับแทบลมจับเมื่ออยู่ๆคุณหมอที่หน้าตาดีถึงแม้ว่าจะน้อยกว่าสองแฝดนรกวายุกับเพลิงกัลป์ถูกเด็กสาวเปลี่ยนอาชีพให้ไปเป็นเด็กโฮสต์ซะอย่างนั้น “นี่ ยัยหนูทำงานดึกไม่จำเป็นต้องเป็นโฮสต์เสมอไปนะอาชีพอื่นที่เขาทำงานดึกเลิกเช้ามีถมเถไป อีกอย่างหน้าตาอย่างฉันเนี่ยนะจะไปเป็นโฮสต์คงไม่เข้าตากรรมการหรอกมั้ง” ธามไททั้งอธิบายและตั้งคำถามกับเด็กสาวก่อนที่ไออุ่นจะเอียงคอมองหน้าธามไทซ้ายที ขวาที ซึ่งคนที่ถูกมองก็เผลอเอียงคอซ้ายที ขวาที มองเธอด้วยความสงสัยเช่นกัน ต่างคนต่างเอียงคอมองกันไปมาก่อนที่ไออุ่นจะหยุดเอียงคอซึ่งธามไทเองก็หยุดตามไออุ่นเช่นกันโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องทำตามเด็กสาวด้วย “หน้าหล่อๆแบบนี้ก็เหมาะที่จะเป็นโฮสต์ไม่ใช่เหรอคะ ไออุ่นเคยดูละครที่ผู้ชายแสดงเป็นโฮสต์ส่วนใหญ่มีแต่คนหน้าตาดีๆทั้งนั้นเลยซึ่งหน้าตาของคุณก็เข้าขั้นว่าหล่อมาก” คำชมของไออุ่นทำเอาคนที่ไม่เคยประหม่าหรือเขินอายกับความหล่อของตัวเองกลับค่อยๆหน้าแดงอย่างห้ามไม่อยู่เพราะไม่คิดว่าในสายตาของเด็กสาวเขาจะดูดีถึงขั้นที่ว่าเด็กสาวชมเขาว่าหล่อมาก ซึ่งไออุ่นไม่เพียงแต่พูดเท่านั้นหากแต่เธอยังเดินเข้าไปใกล้ๆเขาพร้อมกับใช้สองมือจับที่ใบหน้าของธามไทเอาไว้ ทำเอาคนที่กำลังตกอยู่ในโหมดเขินถึงกับชะงักไปเพราะไม่คิดว่าเด็กสาวจะกล้าเดินเข้ามาจับแก้มเขาแบบนี้ รู้สึกเหมือนกำลังโดนเด็กมันแอบเต๊าะเลยครับทุกคน “หล่อขนาดนี้ถ้าบอกว่าเป็นดาราไอก็เชื่อค่ะ แต่น่าเสียดายที่คุณเลือกที่จะเป็นโฮสต์” ในขณะที่ธามไทกำลังหลงเคลิ้มไปกับคำชมของเด็กสาวแต่คำว่า โฮสต์ ที่ดูเหมือนเธอจะเข้าใจว่าเขาทำอาชีพนี้จริงๆกลับทำลายบรรยากาศนั้นให้หายวับไปกับตา ก่อนที่ธามไทจะก้าวถอยหลังจนใบหน้าของเขาหลุดจากการเกาะกุมของเด็กสาวทำเอาไออุ่นเองก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกันที่เผลอไปจับหน้าของเขาเข้า “นี่ใจคอเธอจะให้ฉันเป็นโฮสต์ให้ได้ใช่ไหมยัยหนูไอ” “ก็แล้วไม่ใช่เหรอคะ” “ไม่ใช่โว้ยยัยหนู ดูปากฉันให้ดีๆนะฉันเป็น มอ หอ ออ สะกดว่าหมออะรู้จักไหม” คราวนี้ธามไทไม่ได้พูดโดยที่เว้นระยะห่างหากแต่เขากลับพูดพร้อมกับก้าวเดินเข้ามาหาไออุ่นและใช้มือใหญ่กุมใบหน้าของเธอให้มองมาที่เขาซึ่งใบหน้าของหนุ่มสาวทั้งคู่ห่างกันเพียงแค่ลมหายใจกั้นเท่านั้น ส่วนไออุ่นเมื่อเจอกับความใกล้ชิดที่เขาเป็นคนเริ่มก็ได้แต่หน้าแดงอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนที่เธอจะพยักหน้ารับช้าๆทั้งๆที่ใบหน้ายังคงถูกฝ่ามือใหญ่จับไว้ไม่ยอมปล่อยส่วนคนที่เอาคืนโดยการเดินเข้ามาจับหน้าของไออุ่นบ้างได้แต่ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ก็เอาสิยัยหนูไอถ้าจะมาแกล้งเต๊าะฉันๆก็จะแกล้งเต๊าะเธอกลับให้วินๆกันทั้งสองฝ่ายเพราะฉันจะไม่ยอมเขินคนเดียวเด็ดขาด “ไม่รีบไปทำงานเดี๋ยวจะสายเอานะคะ” คนที่เขินจนแก้มเนียนแดงปลั่งได้แต่หันหน้าหนีจากการเกาะกุมของเขาอย่างทำตัวไม่ถูก เพราะเธอไม่คิดว่าการที่ตัวเองเดินเข้าไปจับแก้มของเขานั้นจะถูกเขาเอาคืนโดยการเดินเข้ามาจับแก้มของเธอบ้าง “อ้าว นึกว่าอยากจับแก้มฉันต่อซะอีก” “คนบ้า ใครเขาอยากจับแก้มคุณกันเล่า” “อ้าว แล้วเมื่อกี้ใครกันล่ะที่จับแก้มฉันอะไม่ใช่เธอหรือยังไงยัยหนู” ธามไทตะโกนแซวไล่หลังไออุ่นที่ชิ่งเดินหนีเข้าห้องนอนด้วยหัวใจที่เต้นแรงด้วยความรู้สึกที่ทั้งตื่นเต้นและเขินจนแทบควบคุมอาการเอาไว้ไม่อยู่ จนกระทั่งประตูห้องปิดลงสองมือก็พลันยกขึ้นมากุมที่หน้าอกเอาไว้ก่อนที่ไออุ่นจะเผลอยิ้มออกมาเมื่อคิดไปถึงตอนที่เขากุมใบหน้าของเธอและสบสายตากับเธอด้วยแววตาที่ทั้งอบอุ่นและแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ส่วนธามไทที่ยังคงมองมาที่ประตูห้องนอนที่ปิดสนิทก็ได้แต่ยิ้มในหน้าอย่างรู้สึกมีความสุขที่ได้แกล้งไออุ่นคืนก่อนที่เขาจะหยิบกระเป๋าและมือถือพร้อมกับเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบๆโดยที่ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าและก้าวสู่รัตติกาลคนที่ค่อนข้างกลัวผีอย่างไออุ่นก็ไม่รอช้าที่จะแอบเข้ามานอนที่ห้องของธามไท เพราะห้องนอนของเขานั้นตกแต่งด้วยโทนที่ดูสว่างตาไม่ใช่โทนมืดที่ดูน่ากลัวเหมือนห้องนอนที่เขาให้เธออยู่ จนกระทั่งช่วงเช้าที่ธามไทกลับมาจากทำงานและเปิดประตูเข้ามาในห้องเขาก็พบกับเด็กสาวที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงไม่ยอมตื่น ธามไทเลือกที่จะไม่ปลุกไออุ่นที่กำลังนอนหลับสนิทโดยที่ใบหน้าของเด็กสาวมีรอยยิ้มบางๆประดับอยู่ราวกับว่าเธอกำลังนอนหลับฝันดี เขาจัดการอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนก่อนที่จะมาล้มตัวลงนอนข้างๆไออุ่นโดยที่เว้นระยะห่างพอสมควร เพราะเขาไม่อยากให้เธอมองว่าเขาไม่เป็นสุภาพบุรุษและฉวยโอกาสในตอนที่เธอหลับหากเผลอดึงเธอเข้ามากอด แต่สุดท้ายแล้วคนที่เป็นฝ่ายขยับเข้ามาหาอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของธามไทกลับกลายเป็นไออุ่นเองต่างหาก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD