ขอเวลาสักหน่อย

1333 Words
กรุงเทพฯ ปรานนท์ขับรถมาถึงกรุงเทพฯก็เกือบเย็นแล้ว เพราะปรางนรินให้เขาแวะระหว่างทางตลอดเวลา ไม่ว่าจะกินข้าว เข้าห้องน้ำ ซื้อของฝาก แม้กระทั่งแวะถ่ายรูปตามวิวต่างๆ ที่ผ่านตามข้างทางเธอก็บังคับให้เขาจอดจนเขาเริ่มหงุดหงิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเธออ้างแต่ว่าเขาเป็นคนทำให้เธอเจ็บตัว เขาต้องยอมทำตามที่เธอบอกทุกอย่าง ... โรมแรมในกรุงเทพฯ ของปรางนริน “ขอบใจมากนะที่มาส่ง...” “...” เขาหันมามองหน้าเธอนิ่งๆแล้วก็ไปเปิดประตูรถยกกระเป๋าเธอลงอย่างหัวเสีย “ถ้านายไม่ทำฉันเจ็บตัวนะฉันคงไม่ต้องรบกวนนายแบบนี้ ต้องขอบคุณอีกครั้งที่ตามใจฉันพาแวะทุกที่เลย...” เธอยิ้มให้เขาอย่างพอใจแต่เขากลับทำหน้านิ่งใส่จนเธอหงุดหงิด “นี่ฉันขอบคุณนายนะ นายควรมีมารยาทพูดตอบฉันสักคำซิ ไม่ใช่มาทำหน้านิ่งเป็นผีดิบแบบนี้...” “...” เขาหันมามองหน้าเธอแล้วก็ถอนหายใจแรงๆใส่ “ครับ...” “อีตาบ้า...” เขากำลังจะเดินขึ้นรถไป “เดี๋ยว...” เขาหยุดชะงักหันมามองอีกครั้ง “ช่วยขนกระเป๋าขึ้นไปบนห้องให้ฉันด้วยซิ...” เขาอ้าปากค้างเลยทีเดียวที่ได้ยินเธอพูด แล้วก็เริ่มไม่พอใจที่เธอใช้เขาเป็นคนใช้แบบนี้ “คอนโดคุณไม่มี รปภ.หรือไง ให้พวกเขามาช่วยยกไปซิ...ผมจะกลับแล้วผมเหนื่อย” เขาเปิดประตูรถออกแล้วกำลังจะก้าวเท้าขึ้นรถ “นี่...ฉันบอกให้นายมาช่วยฉันยกขึ้นไปก็ต้องเป็นนายซิ ถ้านายไม่ช่วยฉันยกขึ้นไปฉันจะฟ้องคุณศิวัช ว่านายทำให้ฉันเจ็บตัวจนเดินไม่ไหวแล้วพ่อฉันก็จะไม่พอใจด้วย...คุณศิวัชกับพ่อฉันอาจจะต้องมามีปัญหากันเพราะนายนะ...” “...” เขาลุกออกจากรถแล้วหันมามองหน้าเธอนิ่งๆ เธอยิ้มให้เขาอย่างผู้ชนะ เขายอมช่วยเธอขนกระเป๋าขึ้นไปบนห้องตามที่เธอสั่งอย่างทุกลักทุเล ส่วนเธอก็นั่งรถเข็นตามไปโดยมีพนักงานในโรมแรมเป็นคนขนให้ ภายในลิฟต์เธอคอยแอบมองเขาตลอดเวลาอย่างนึกขำ ในท่าทางแล้วก็หน้าตาที่บึ้งตึงของเขา ลิฟต์เปิดออกมาในห้องของปรางนรินพอดี เขาเดินถือกระเป๋าออกมาก็มองห้องพักของเธอไปรอบๆอย่างอึ้งๆ เพราะมันช่างกว้างใหญ่แล้วก็ดูหรูหราเอามากๆ “ขอบใจมากนะ...ลงไปได้แล้ว...” “ครับคุณปรางนริน...” เธอหันไปสั่งพนักงานคนที่ช่วยเข็นเธอขึ้นมาบนห้อง โดยที่ปรานนท์ไม่รู้เรื่องเพราะมัวแต่ชื่นชมห้องที่กว้างขวางใหญ่โตของเธออยู่ “จะชื่นชมอีกนานไหม..?” “...” เขาหันมามองเธอที่ลุกขึ้นยืนช้าๆ แล้วเดินเข้ามาใกล้ๆเขา “ถามอะไรอย่างซิ...” “ครับ..?” “นายมีแฟนหรือยัง..?” “...” อยู่ดีๆเธอก็จู่โจมถามคำถามนี้กับเขาจนเขาอึ้งไป “ผมยกกระเป๋ามาให้คุณแล้วงั้นผมขอตัวกลับเลยนะครับ..?” เขาเบี่ยงตัวกำลังจะเดินไป เธอก็ขยับมายืนขวางเขาไว้จนเขาหันมามองนิ่งๆ “ตอบมาก่อนซิ...ว่านายมีแฟนหรือยัง..?” เขามองหน้าเธอแล้วก็คิดถึงใครคนหนึ่งขึ้นมาในหัวสมอง พร้อมกับภาพรอยยิ้มที่เห็นเมื่อเช้าบนโต๊ะอาหาร “ว่าไง...ฉันถาม...นายมีแฟนหรือยัง..?” “มีแล้วครับ...” “...” เขาตอบว่ามีแฟนแล้วจนเธอถึงกับอึ้งไป มองเขาด้วยความเสียดายที่เขามีแฟนแล้วจริงๆ “ก็ดี...ไม่มีอะไรแล้ว นายกลับไปได้แล้ว...” “ครับ...” เธอเดินหลีกทางให้เขา เขาจึงขอตัวเธอกลับแต่พอเดินไปได้เล็กน้อยก็รู้สึกแปลกๆในสายตาที่มองมาของเธอเมื่อกี้ จึงหันกลับไปมองเธอที่ยังเอาแต่ยืนนิ่งไม่ขยับ เขาจึงสลัดมันออกจากหัวเดินตรงไปที่ลิฟต์รอจนมันเปิดแล้วเดินเข้าไป ประตูลิฟต์กำลังจะปิดลงช้าๆ เธอก็หันหน้ามาพอดี สายตาเธอและเขาจึงประสานกันโดยไม่ได้ตั้งใจจนประตูลิฟต์ปิดสนิทลง “ทำไมเมื่อกี้รอยยิ้มนั้นถึงโผล่ขึ้นมาในหัวสมองนะ...” รอยยิ้มของอรสิตาที่อยู่ๆก็โผล่ขึ้นมาในหัวสมองเขา สั่งการว่าให้เขาต้องตอบออกไปแบบนั้น ทั้งที่ใจจริงแล้วเขากับเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ... พัทยา ศิวัชพาอรสิตาออกมานั่งเรือเล่นโดยมีเขาเป็นคนขับออกมากลางทะเล เพื่อหวังจะใช้เวลาอยู่กับเธอ 2 คนในบรรยากาศที่ดูเย็นสบายแล้วก็โรแมนติค “อ้อมชอบไหมครับ...ที่เราได้มาดูพระอาทิตย์ตกพร้อมกันใกล้ๆแบบนี้..?” “ชอบมากเลยค่ะ...มันสวยมากเลยนะคะ...” เธอหันมาหาเขาพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ เขายื่นมือไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้ “ผมดีใจนะที่คุณตอบตกลงคบกับผมเป็นแฟน...ผมดีใจที่สุดเลยอ้อมรู้ไหม..?” “ขอบคุณนะคะที่คุณเป็นคนดี แล้วก็ยังอดทนที่จีบอ้อมนานขนาดนี้ แล้วคุณก็ยังไม่คิดถอดใจ...” “ก็ผมรักคุณนี่ครับ รักมาก...รักจนคิดว่าชาตินี้ผมคงรักใครไม่ได้อีก...ต่อให้ผมต้องรอให้คุณใจอ่อนอีกกี่ปีผมก็จะรอ...” เธอขยับตัวเข้าไปกอดเขาอบ่างรู้สึกขอบคุณในความรักมี่เขามอบให้ “ผมสัญญานะครับว่าผมจะรักอ้อมแค่คนเดียว...ผมจะไม่มีวันทำให้อ้อมเสียใจเป็นอันขาด...” เธอฟังแล้วก็รู้สึกสะอึกกับคำว่าสัญญาของเขา เพราะคำนี้เคยมีคนพูดกับเธอมาแล้วแต่เขาก็ทำไม่ได้ตามสัญญาเลยสักครั้ง เธอจึงขยับออกมาจากอ้อมกอดเขา “ไม่สัญญาได้ไหมคะ...แค่คุณทำให้อ้อมเห็นว่าคุณจะรักอ้อมคนเดียวแค่นั้นก็พอแล้วค่ะ...” “ครับ...ผมรักอ้อมนะ...” “ค่ะ...อ้อมเชื่อคุณ...” เชาจ้องตาเธอท่ามกลางพระอาทิตย์ที่เริ่มตกลงกลางทะเล แววตาเธอที่ส่งประสานมาให้เขาทำให้เขาใจเต้นแรงและไม่อาจละสายตาไปได้ เขายื่นมือขึ้นมาประคองใบหน้าเธอไว้แล้วบรรจงจูบเธออย่างแผ่วเบา "อื้ออออ อื้อ" เสียงอื้ออึงในลำคอจากรสจูบของเขาที่มอบให้เธอในตอนแรกเป็นแค่เพียงแตะเบาๆ แต่พอได้สัมผัสปลายลิ้นที่เผลอยื่นเข้าไปในโพรงปากเธอ เขาก็แปรเปลี่ยนรสจูบ เป็นหนักหน่วงแล้วก็ดูดดื่มมากขึ้น “อื้มมม...” เธอปล่อยให้เขาตวัดลิ้นเกี่ยวลิ้นนุ่มของเธอไปมาด้วยความรู้สึกพอใจ หลังจากนั้นเขาก็ละจากริมฝีปากบางลากใบหน้าลงมาที่ซอกคอขาว เธอย่นคอหนีเล็กน้อยเพราะรู้สึกเสียวที่ต้นคอ เขากระชับอ้อมกอดเธอแน่นขึ้นเพื่อไม่ให้เธอขยับออกห่างตัวเขา “คุณศิวัชคะ...อื้มมม” ใจเธอเริ่มเต้นแรงอย่างรู้สึกประหม่า กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเธอจะปล่อยให้มันเลยเถิดไปถึงขั้นนั้นไม่ได้ “อย่าค่ะ...” เธอคิดขึ้นได้ก็ใช้มือดันตัวเขาให้ออกห่างทันที “ทำไมละครับ...ก็เรา 2 คนเป็นแฟนกันแล้ว..?” “อ้อมว่ามันยังเร็วเกินไปนะคะ...” “...” เขานิ่งไปแล้วก็มองหน้าเธอไม่ได้พูดอะไร “เราเพิ่งคบกันเองนะคะ...ให้เวลากับอ้อมหน่อยนะ” “แล้วเมื่อไหร่ละครับ..?” “ถ้าถึงตอนนั้นอ้อมจะบอกคุณเองค่ะ...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD