“เพชรถือกล่องของขวัญให้นางแล้ว เดี๋ยวนางจะโทร.หาตุ๊กตาเอง แล้วนี่เพชรโทร.ไปถามยาหยีหรือยัง เรื่องที่จะไปทำบุญที่อยุธยาในวันพรุ่งนี้”
ช้อนนางถาม แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้ม มองกล่องของขวัญที่เพชรน้ำค้างอุ้มเอาไว้อย่างขอบคุณ ตอนเธอถือออกมาจากร้าน เพราะกล่องใหญ่ไป จนทำให้เธอมองข้างหน้าไม่ได้ แต่พอกล่องของขวัญมาอยู่ที่เพชรน้ำค้าง ดูจะเหมาะกับเพชรน้ำค้างอย่างอธิบายไม่ถูกทีเดียว
“โทร.เรียบร้อยแล้ว ฉันนัดกับยาหยีเอาไว้ตอนเจ็ดโมงเช้าที่คอนโดของฉัน”
“งั้นเรากลับกันเถอะ”
“อืม”
เพชรน้ำค้างตอบสั้นๆ แล้วเดินตามช้อนนางออกจากหน้าร้านขายตุ๊กตาทันที จากนั้นช้อนนางก็ล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหาปาลิตา ก่อนจะสนทนากันไม่กี่ประโยค ช้อนนางก็ตัดสายจากปาลิตา
“เรียบร้อยแล้วล่ะ ตุ๊กตาบอกว่าพรุ่งนี้จะมาเจอพวกเราตอนเจ็ดโมงเช้าที่คอนโดเพชร”
เธอบอกคำพูดของปาลิตาออกมาให้เพชรน้ำค้างได้ยินอีกครั้ง เก็บโทรศัพท์มือถือกลับเข้าไปในกระเป๋าสะพายอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปไปยังลิฟต์ แล้วถามโปรแกรมที่เหลือในวันนี้ของเพื่อนสนิท
“แล้วนี่เพชรมีโปรแกรมที่ต้องไปทำอีกไหม”
“ไม่มีแล้ว”
“งั้นเพชรที่ส่งนางที่บ้านได้ใช่ไหม”
“อืม”
คำตอบสั้นๆ ของเพชรน้ำค้าง เรียกรอยยิ้มอ่อนหวานของช้อนนางได้ชะงัก ขณะคนที่นั่งมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ จนถึงขั้นเดือดดาลเลยก็ว่าได้ และสัญญากับตัวเองในใจ ว่าจะหาทางทำให้หลานสาวเลิกกับผู้ชายหลายใจคนนี้ให้ได้
///////////
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
หลังจากกลับมาจากอยุธยา เพชรน้ำค้างก็ไปหาซื้อหนังสือบัญชีกับการเงินธุรกิจและภาษีอากรมาเพิ่มเติม เพราะส่วนใหญ่วิชาที่วัชระสอบตก ที่จริงน่าจะบอกว่าตกเกือบแทบทุกวิชาเลยมากกว่า ถึงวัชระสอบผ่านมาได้ ก็เกรดไม่ดีเท่าไร คงต้องสอนกันตั้งแต่เริ่มต้น
เพชรน้ำค้างอ่านทวนวิชาที่ต้องไปติวให้วัชระอยู่สองวันเต็ม และวันนี้จะเป็นวันแรกที่เธอต้องมาติวหนังสือสอบให้วัชระที่คฤหาสน์ศิวาลักษณ์ หลังจากนั่งทำใจในรถอยู่นาน หญิงสาวก็ถอนหายใจซะยาวเหยียด ก่อนจะสูดอากาศเข้ามาในปอดอย่างแรง แล้วปล่อยมันออกมาช้าๆ
แล้วหันไปหยิบหนังสือและสมุดจดอีกสองเล่ม พร้อมกับกระดาษเอสี ที่เต็มไปด้วยเนื้อหาที่เธอย่อมาให้วัชระได้อ่าน เพราะเธอไม่รู้ว่าวัชระเข้าใจวิชาที่ตัวเองเรียนมากแค่ไหน เพื่อความไม่ประมาท เธอเลยเตรียมเนื้อหาและข้อมูลที่คิดว่าจะออกข้อสอบมาด้วยเลย
เมื่อเปิดประตูลงจากรถ สาวใช้ก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ด้านประตูคนขับ ใบหน้าดูแดงระเรื่อและชวนให้สงสัย และทันทีที่เธอก้าวเท้าลงมาจากรถ และได้สบตากับสาวใช้ เธอก็เข้าใจได้ทันที ถึงสาเหตุที่สาวใช้คนนี้หน้าแดงกับท่าทางเขินอายจนน่าหมั่นไส้ ซึ่งสาเหตุทั้งหมดก็คงมาจากเธออย่างไม่ต้องสงสัย
“มาค่ะเดี๋ยวสมศรีช่วยถือหนังสือกับกระเป๋าของคุณเอง”
คำพูดของสมศรี ทำเอาเพชรน้ำค้างแทบจะหัวเราะลั่น ดูเหมือนสาวใช้คนนี้จะจำเธอไม่ได้ ก็ไม่แปลกอะไรที่จะจำเธอไม่ได้ ปกติเธอก็ไม่ได้ค่อยมาหารังสิยาที่คฤหาสน์ศิวาลักษณ์เท่าไร เวลานัดเจอกัน พวกเธอก็มักจะนัดเจอกันที่ร้านเจ้าประจำ หรือไม่ก็ที่ห้องพักของเธอ
และที่ทำให้เธอดูแปลกตาไปจากเดิม อาจเพราะเธอตัดผมสั้นและเปลี่ยนการแต่งกายเล็กน้อย เลยทำให้สาวใช้คนนี้จำเธอไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าเพียงแค่ตัดผมกับเปลี่ยนการแต่งกาย จะทำให้เธอเปลี่ยนไป จนคนใกล้ตัวบางคน แทบจะจำเธอไม่ได้แบบนี้
“ขอบใจ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
สมศรีตอบด้วยสีหน้าแดงก่ำ รู้สึกใจเต้นจนแทบจะหลุดออกมานอกอก เมื่อเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลากับสายตาหยอกเย้าจากเพื่อนสนิทของคุณวัชระ
ตั้งแต่ที่คุณวัชพาเพื่อนสนิทมาคฤหาสน์ศิวาลักษณ์ เธอยังไม่เคยเห็นเพื่อนคนไหนของคุณวัช จะหน้าตาดีขนาดนี้ ไม่เพียงแต่หน้าตาดี ยังพูดสุภาพมากด้วย
“ตอนนี้คุณวัชอยู่ที่ไหน”
“คุณวัชอยู่ที่สระว่ายน้ำกับเพื่อนนะคะ คุณเป็นเพื่อนของคุณวัชหรือคะ ทำไมสมศรีถึงจำคุณไม่ได้ ปกติสมศรีจำหน้าเพื่อนสนิทของคุณวัชได้ทุกคน”
“แล้วฉันบอกเมื่อไร...ว่าฉันเป็นเพื่อนสนิทของคุณวัช”
“อ้าว แล้วคุณมาหาคุณวัชทำไมค่ะ”
สมศรีหน้าเหวอไป เมื่อฟังคำตอบจากหนุ่มหล่อตรงหน้า ก่อนจะพิจารณาใบหน้าสวยเกินชายนั่นอีกครั้ง เธอมั่นใจว่าเคยเจอหนุ่มหล่อคนนี้ เพียงแต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอเขาที่ไหน แต่มันคุ้นหน้าคุ้นตาเธอมาก แต่เธอก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนกันแน่
“นี่สมศรีจำฉันไม่ได้จริงๆ เหรอ?”
“จำไม่ได้ค่ะ แล้วคุณเป็นใครคะ”
“ขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆ สิสมศรี แล้วสมศรีจะรู้ว่าฉันเป็นใคร”
“อย่าบอกนะคะว่าคุณเป็นพี่ชายหรือน้องชายของคุณเพชร แต่คุณเพชรไม่มีพี่ชายน้องชายนิค่ะ
ถ้าจำไม่ผิดคุณเพชรมีแต่ลูกพี่ลูกน้องอยู่คนหนึ่ง แต่หน้าตาลูกพี่ลูกน้องของคุณเพชรไม่ได้หล่อขนาดนี้นี่นา”
สมศรีเงยหน้าขึ้นจ้องใบหน้าที่สวยจนเกินชายด้วยสายตาอ่อนเชื่อม พร้อมกับบ่นพึมพำเบาๆ เกี่ยวกับข้อมูลของเพื่อนสนิทคุณรังสิยาเท่าที่เธอจำได้ออกมา
เพชรน้ำค้างถึงยิ้มกว้างเมื่อได้ยินข้อมูลของเธอจากปากของสมศรี นึกไม่ถึงว่าแม้แต่สาวใช้ในคฤหาสน์ศิวาลักษณ์ยังรู้ประวัติของเธอแทบจะทั้งหมด แม้ลึกๆ เธอจะรู้สึกว่ามันน่ากลัวไปหน่อยก็ตาม แต่ก็เข้าใจว่าคนในตระกูลนี้ แปลกประหลาดกันแทบจะทุกคน ยกเว้นก็แต่รังสิยา ที่ยังดูปกติกว่าคนอื่นๆ ในตระกูล
“แล้วสมศรีคิดว่าฉันเป็นใครล่ะ”
“อย่าบอกสมศรีนะคะว่าคุณคือ...คุณเพชร”
“ใช่แล้วสมศรี ฉันคือคุณเพชรของสมศรีไง”
คำตอบของเพชรน้ำค้าง ทำให้สมศรีถึงกับอ้าปากกว้าง ดวงตาเบิกกว้างออกมาจนแทบถลน ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มขบขันจากคนที่เธอเพิ่งแน่ใจว่าเป็นใคร ก็ยิ่งทำให้รู้จักอับอายอย่างแรง
“กะ...เกิดอะไรขึ้นค่ะคุณเพชร ทำไมคุณเพชรถึงตัดผมสั้นเหมือนผู้ชายเลย” เธอล่ะอยากจะบ้าตายๆ เกิดอะไรขึ้นกับคุณเพชรในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาล่ะเนี่ย
จากสาวสวยผมยาวกลายเป็นสาวสวยผมสั้น มาดทอมบอยซะได้ ตอนไว้ผมยาวก็เป็นสวยซะจนผู้หญิงอิจฉา แต่พอตัดผมสั้นก็ดูเป็นสาวหล่อจนผู้ชายอิจฉาและหมั่นไส้ไปพร้อมกัน
“เรื่องส่วนตัวนะสมศรี”
“อ้อ...ค่ะ”
“สมศรีอย่าเพิ่งบอกใครนะ ฉันอยากแกล้งวาสนาหน่อย”
“ได้สิคะคุณเพชร สมศรีสัญญาค่ะ สมศรีจะไม่บอกใครแน่นอน”
“ฉันไปก่อนนะสมศรี เดี๋ยวเย็นนี้จะมาคุยด้วย”
เพชรน้ำค้างบอกสมศรี ก่อนจะแยกเดินออกมา แล้วเดินขึ้นตึกไป นี่ก็ใกล้เวลาที่เธอจะต้องติวหนังสือให้พี่ชายรังสิยาแล้ว ไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะขึ้นจากสระว่ายน้ำแล้วหรือยัง
สมศรีเดินแยกออกมาเห็นกัน เธอยังงานที่ต้องทำอีกเยอะ ขณะเดินกลับไปด้านหลังครัว ก็นึกแผนที่จะแกล้งวาสนาขึ้นมาด้วย เมื่อกี้เธอถูกคุณเพชรต้มซะเปื่อย เธอไม่ยอมถูกหลอกคนเดียวแน่ ก็อยากรู้เหมือนกันว่าป้าแม่บ้านกับวาสนาจำคุณเพชรในมาดทอมบอยได้ไหม?
////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...