ปริณมองดูร่างเล็กที่เอนซบอยู่กับหน้าต่างรถ ในมือยังถือแผ่นกระดาษสีขาวที่เป็นจดหมายจากมารุตเอาไว้แนบอก ดวงตาคู่สวยบอบช้ำด้วยเพราะร้องไห้อย่างหนัก จนถึงตอนนี้ เสียงสะอื้นก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลง “พิงกระจกแบบนั้นเจ็บหัวแย่ เอนมาทางนี้สิ” ฝ่ามือหนาเอื้อมไปหาคนที่ยังพิงกระจกอยู่ แล้วค่อย ๆ ดันศีรษะทุยให้เอนมาซบกับหน้าอกตัวเองแทน มุกดาไม่ได้ขัดขืน ปล่อยให้ร่างกายขยับไปตามแรงของเขาที่พาร่างกายของเธออิงซบลงกับอกกว้างอบอุ่น น้ำตาใสยังไหลลงมาไม่ขาดสาย ในตอนนี้ ปริณเหมือนพ่ออีกคนที่อยู่เคียงข้างในวันที่เธอไม่เหลือใครอีกแล้ว “หนูไม่เคยรู้เลยว่าพ่อป่วย พ่อไม่เคยแสดงอาการ หรือพูดออกมาให้หนูรู้เลยสักครั้ง” เสียงหวานที่ยังสั่นเครือเริ่มระบายความรู้สึกที่อัดอั้นออกมา “ตอนที่พ่อบอกว่าจะเอาตัวหนูมาใช้หนี้แทนเงิน ตอนนั้นหนูโกรธพ่อมาก เอาแต่คิดว่าพ่อไม่รัก พยายามผลักไสหนูให้ไปอยู่ไกล ๆ” ระหว่างที่มุกด