“เมื่อไหร่แกจะทำตามที่ฉันบอกเสียทีไอ้แก่”
“จะให้ทำได้ยังไง มุกมันก็ลูกฉันเหมือนกัน”
“แล้วแกจะทำยังไง จะให้เป็นหนี้หัวโตอยู่แบบนี้หรือไง เมื่อไหร่จะได้ลืมตาอ้าปากกับคนอื่นเขาบ้าง”
มุกดาที่กำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในบ้านต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนกำลังทะเลาะกันอยู่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร สองคนที่ว่านันก็คือ มารุต พ่อของเธอ กับ พรพรรณ ที่เป็นแม่เลี้ยง
ประโยคสนทนาพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่จนน่าตกใจอะไร แต่ที่ยืนฟังอยู่ข้างนอกก็เพราะ หากแม่เลี้ยงของเธอเห็นเข้าก็จะหาเรื่องมาด่าว่าอีก และมุกดาก็มักจะโดนอย่างนี้เป็นประจำจนชินไปแล้ว
ผ่านไปครู่หนึ่งเสียงในบ้านก็เงียบลง นั่นหมายถึงพ่อของเธอกับแม่เลี้ยงเลิกเถียงกันแล้ว มุกดาจึงเดินเข้าบ้าน แต่ก็มีเสียงเรียกดังจากข้างหลัง
“พี่มุก ไปไหนมาอะ ทำไมกลับช้า นัดกับผู้ชายเหรอ”
เสียงแสบแก้วหูที่ถามขึ้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ พิมา เป็นลูกติดของพรพรรณ อายุน้อยกว่าเธอหนึ่งปี ตอนนี้มุกดาอายุ 21 ปี พิมาก็อายุ 20 ปีพอดี
“พี่เพิ่งกลับมาจากมหา’ลัย” ใบหน้าสวยหันมามองน้องสาวต่างสายเลือดเพียงเล็กน้อยแล้วจึงตอบคำถาม
“ปกติเห็นกลับมาเร็วกว่านี้”
“พอดีมีกิจกรรม”
“เหรอ ก็แล้วไป”
ประโยคพวกนี้ไม่ใช่ว่าพิมากำลังเป็นห่วงเธอ แต่หล่อนกำลังหาเรื่องจับผิดต่างหาก หลายต่อหลายครั้งก็ไปฟ้องพ่อ หาเรื่องให้มาดุเธอเป็นประจำ
ตอบคำถามเสร็จมุกดาก็เดินเข้ามาในบ้าน พอเห็นหน้าพ่อกับแม่เลี้ยงก็ทำเพียงส่ายหัวเบา ๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง
บ้านปูนชั้นเดียวแถมเป็นบ้านเช่า ดีหน่อยที่มีสามห้องนอน เลยไม่ต้องเบียดเสียดนอนกับใคร ถึงจะเล็กไปหน่อยก็ยังดีกว่าไม่มีที่ซุกหัวนอน
ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนที่นอน สองมือยกขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้ เวลาแต่ละวันช่างผ่านไปเชื่องช้าเหลือเกิน
‘เมื่อไหร่จะเรียนจบเสียที’ เป็นความรู้สึกที่อยู่ในใจมาตลอด อยากจะเรียนจบไว ๆ อยากจะออกไปจากที่นี่ เพราะไม่อย่างนั้น เธอคงถูกพ่อเอาไปขายใช้หนี้สักวัน
ส่วนเรื่องที่พ่อของเธอกับแม่เลี้ยงเถียงกันเมื่อครู่ ก็เป็นเรื่องเดิม ๆ คือพรพรรณต้องการให้มารุตเอามุกดาไปขายใช้หนี้ที่มีมากกว่า 5 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุของหนี้ทั้งหมดก็คือ การพนัน
Rrrrr
ระหว่างที่กำลังรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ปลายสายขึ้นชื่อ น้ำใส เพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกัน
“ว่าไงน้ำ มีอะไรถึงโทรมา” มุกดากดรับแล้วเอ่ยถาม
//แค่จะโทรมาเตือนว่าพรุ่งนี้อย่าลืมเอารายงานมาส่ง แกยิ่งขี้ลืมอยู่ด้วย//
“เป็นห่วงฉันเหรอยะ”
//เปล่า แต่การุณมันใช้ให้ฉันโทรมาเตือนแก แค่นี้แหละไม่อยากคุยด้วยละ//
พูดเพียงแค่นั้นน้ำใสก็วางสายไป ส่วน การุณ คนที่เพื่อนเธออ้างว่าเป็นคนให้โทรมานั้น ก็คือเพื่อนสนิทอีกคนที่เรียนอยู่คณะเดียวกัน
มุกดาดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนมาเปิดแล็ปท็อปที่อุตส่าห์ทำงานเก็บเงินอยู่เกือบปีถึงซื้อได้ แล้วตรวจดูรายงานที่จะส่งพรุ่งนี้ว่าเรียบร้อยดีหรือยัง
ตรวจดูรายงานของตัวเองเสร็จ เธอก็หยิบเสื้อผ้าเพื่อเตรียมไปอาบน้ำ บ้านเช่าหลังเล็ก ๆ ไม่ต้องคาดหวังว่าจะมีห้องน้ำส่วนตัว เพราะที่นี่มีเพียงห้องน้ำเดียวที่ต้องใช้ร่วมกัน
พอออกมาจากห้องนอนก็เห็นพรพรรณและพิมานั่งดูทีวีอยู่ สายตาของทั้งสองคนจับจ้องมาที่เธอ
“พิมาบอกว่าที่แกกลับบ้านช้าเพราะนัดผู้ชาย” เป็นคำถามที่มุกดามักจะโดนถามเป็นประจำ เมื่อพิมาต้องการหาเรื่องให้เธอเดือดร้อน
“ก็แล้วแต่จะคิดค่ะ” ตอบเสร็จกำลังจะหมุนตัวเดินกลับไปทางห้องน้ำ แต่สมองก็คิดอะไรบางอย่างออก “แต่น้าพรลืมไปหรือเปล่าคะ ว่าพิมากลับมาช้ากว่าหนู หรือว่า จะนัดผู้ชายไปไหนต่อไหนเหมือนกัน”
“อีมุก! แกว่าฉันเหรอ”
ไม่อยากอยู่ต่อล้อต่อเถียงไปมากกว่านี้ มุกดารีบเดินไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำทันที่ แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงแหลม ๆ แสบแก้วหูตะโกนด่ามาตามหลัง
ชีวิตในบ้านหลังนี้ไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน มุกดาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่เป็นใคร เคยถามพ่อหลายครั้งก็ตอบแต่ว่าแม่ตายไปแล้ว ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่ามันจริงหรือเปล่า
แต่ที่รู้แน่ ๆ คือตั้งแต่จำความได้ ก็เห็นพรพรรณกับพิมาอยู่ในชีวิตมาตลอด และก็รู้อีกว่าสองคนนั้นไม่ชอบขี้หน้าเธอเท่าไหร่นัก พยายามหาเรื่องให้พ่อโกรธ หาเรื่องให้ทนไม่ไหว คล้ายจะบีบให้ออกจากบ้านทางอ้อม
หนักสุดก็คงเป็นเรื่องที่พยายามหว่านล้อมมารุตให้ขายมุกดาให้เจ้าหนี้แทนการจ่ายเงิน
ร่างเล็กรีบชำระร่างกาย เสร็จแล้วก็รีบกลับเข้ามาในห้อง เมื่อกี้แวะกินข้าวก่อนจะเข้าบ้านแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องไปนั่งร่วมวงกินข้าวกับพวกเขาให้ลำบากใจ
มุกดาทิ้งตัวลงบนที่นอน ดวงตากลมโตมองพัดลมเพดานที่กำลังหมุนไปเรื่อย ๆ ไม่รู้จะนึกขำหรือสมพชชีวิตตัวเองดีที่ต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ และดูเหมือนพ่อแท้ ๆ เองก็จะปกป้องเธอไม่ได้เช่นกัน
ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ เปลือกตาคู่สวยที่ปิดลงเพราะผล็อยหลับไปต้องเปิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงคนกำลังทะเลาะกันเสียงดัง
“ทำไมแกไม่ทำที่ฉันบอกฮะ ไอ้แก่”
“ก็ยัยมุกเป็นลูก จะให้ฉันขายลูกกินได้ยังไง”
“ไม่ขายมัน แล้วแกจะทำยังไง มีปัญญาหาเงินมาคืนเขาหรือไง”
ลมหายใจถูกพ่นออกมาจากคนที่อยู่ในห้อง ครั้งนี้ดูเหมือนทั้งพ่อและแม่เลี้ยงของเธอจะทะเลาะกันรุนแรงมากกว่าทุกครั้ง
“ถ้าแกไม่เอามันไปขาย ฉันก็จะหาคนมาซื้อมันเอง แกเลือกเอาก็แล้วกัน”
ประโยคนี้ทำเอามุกดาที่ไม่ได้คิดอะไรเริ่มคิดขึ้นมา หากพรพรรณหาคนมาซื้อเธอได้จริง ๆ จะทำอย่างไร
“แกอย่าทำอย่างนั้นนะ เดี๋ยวฉันจะพูดกับลูกดูก่อน”
‘เหอะ สุดท้าย แม้แต่พ่อเองก็ไม่ปกป้อง’
มุกดาได้แต่แค่นหัวเราะอยู่ในลำคอ ที่เลี้ยงดูเธอให้เติบโต ก็เพื่อจะรอวันนี้สินะ
ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนที่นอนอีกครั้ง สองมือยกขึ้นปิดหน้าเอาไว้ แล้วน้ำตาใสที่พยายามกลั้นมาตลอดก็ไหลออกมา
อยากรู้จังว่าแม่อยู่ไหน แม่เป็นใคร ตายแล้วจริง ๆ หรือเปล่า ถ้าแม่ยังอยู่ ชีวิตของเธอจะเป็นอย่างนี้ไหมนะ
ความคิดตีรวนอยู่ในสมองมากมายไปหมด จนสุดท้ายก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง
/////
รุ่งเช้า
หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย มุกดาก็ออกจากห้องเพื่อจะไปเรียนตามปกติ แต่เช้านี้พ่อของเธอกลับนั่งอยู่หน้าทีวี แทนที่จะออกไปทำงานแต่เช้าอย่างเช่นทุกวัน
“หนูไปเรียนแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ”
สองมือเล็กยกขึ้นไหว้บุพการีก่อนที่จะหันกลับเพื่อเดินไปทางประตูบ้าน แต่มารุตก็เรียกเอาไว้เสียก่อน
“มุก คุยกับพ่อก่อนสิลูก ไม่รีบใช่ไหม”
“พ่อมีอะไรจะคุยเหรอคะ”
แม้ลึก ๆ จะรู้อยู่แล้วว่าคงเป็นเรื่องที่พ่อเถียงกับแม่เลี้ยงเมื่อคืน แต่ในใจก็ยังภาวนาของให้มันไม่ใช่ คนเป็นพ่อคงไม่คิดจะขายลูกตัวเองจริง ๆ หรอก
“พ่อกับน้าพรเป็นหนี้เยอะมาก มุกรู้ใช่ไหม”
“รู้ค่ะ แล้วก็รู้อีกด้วยว่าเป็นเพราะน้าพรกับพ่อเอาไปเข้าบ่อนเล่นการพนัน”
หนี้ห้าล้านไม่ใช่ว่าก่อขึ้นภายในครั้งเดียว เมื่อก่อนพ่อของเธอทำงานกับเศรษฐี ค่อนข้างเป็นที่ไว้ใจ เลยสามารถหยิบยืมได้เรื่อย ๆ จนกลายเป็นหนี้ก้อนโตเหมือนกับปัจจุบัน นี่ขนาดไม่มีดอกเบี้ยยังเยอะขนาดนี้ คิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าหากพ่อเธอไปเป็นหนี้พวกหมวกกันน็อค ทบต้นทบดอกแล้วจะเยอะขนาดไหน
“ถ้าลูกรู้ก็ดีแล้ว พ่ออยากจะถามว่า มุกช่วยพ่อกับน้าพรหน่อยจะได้ไหมลูก”
“พ่อจะให้หนูช่วยยังไงคะ”
มาถึงตอนนี้ อะไรที่ภาวนาอยู่ในใจคงไม่เป็นผลแล้วสินะ
“คือพ่ออยากจะเอามุกไปเป็นประกันก่อน ไว้หาเงินไปใช้หนี้ได้ แล้วมุกก็จะได้กลับมาอยู่ที่บ้าน”
‘เหอะ’ ผู้เป็นลูกสาวแค่นหัวเราะอยู่ในลำคอ หยาดน้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมา
“ถ้าพ่อกับน้าพรหาเงินใช้หนี้ได้ คงใช้ไปนานแล้วค่ะ แล้วมุกผิดอะไรถึงต้องเอามุกไปขาย”
มุกดาพูดออกไปอย่างไม่อ้อมค้อม เธอไม่ได้ก่อหนี้ ไม่ได้ร่วมใช้ ไม่ได้ไปเล่นด้วย อีกอย่าง ทำไมต้องเป็นเธอ ในเมื่อพรพรรณก็ยังมีลูกสาวอีกหนึ่งคน
“ทำไมพ่อไม่บอกน้าพรเอาลูกสาวไปขายก่อนล่ะคะ ทำไมต้องเป็นหนู หนูไม่ใช่ลูกพ่อหรือยังไง หรือเป็นเพียงลูกชังที่ใครในบ้านหลังนี้ก็ไม่ต้องการ ถึงได้พยายามหาทางขับไสไล่ส่งให้ไปอยู่ที่อื่น โดยที่ไม่สนใจว่าหนูจะเป็นยังไง”
ความรู้สึกที่เก็บไว้มาหลายปีพรั่งพรูออกมาทั้งหมด ลำพังที่โดนด่า โดนว่าอยู่ทุกวันมันยังไม่พออีกหรืออย่างไร ตอนนี้ถึงได้อยากจะขายเธอ
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะมุก ที่พ่อทำทั้งหมดก็เพื่อมุกนะ”
“เพื่อหนู ถ้าเพื่อหนูจริง พ่อต้องปกป้องลูกตัวเองสิ ไม่ใช่เอาใจแต่กับลูกเลี้ยง แล้วเชื่อฟังเมียใหม่ที่เกลียดลูกตัวเองแบบนี้”
มุกดาเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ตลอดชีวิตไม่เคยเถียงพ่อมาก่อน แต่พูดไปเท่าไหร่เหมือนมารุตเองก็จะไม่เปลี่ยนใจ
“เชื่อพ่อเถอะมุก มันเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับมุกแล้ว เชื่อพ่อเถอะ” มารุตยังคงพยายามหว่านล้อมลูกสาว
“หนทางที่ดีที่สุดสำหรับหนู หรือเป็นหนทางที่จะใช้หนี้ได้ง่ายที่สุดกันแน่คะ”
///////////////////////////////////////////////////////