ตอนที่ 4

1519 Words
คาร์ตัน บรีซ คฤหาสน์ส่วนตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในลุยเซียนาและเมืองใกล้เคียงคือที่อยู่ของเทพบุตรทั้ง 6 แห่งคาร์ตัน สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมแห่งความสะดวกสบายและความปลอดภัยอันดับต้นๆ ของโลกการตกแต่งภายในเป็นสไตล์อิตาลีทั้งหมด เน้นความเรียบง่าย แต่ก็เต็มไปด้วยความคลาสสิกมีรสนิยม คุมโทนด้วยสีเข้มสลับขาว เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกจัดวางอย่างเหมาะสมราวกับว่าทำขึ้นมาเพื่อคฤหาสน์หลังนี้โดยเฉพาะ พื้นที่รอบๆ ตัวตึกใหญ่ที่ทอดปีกยาวออกไปทั้งด้านซ้ายและขวาเป็นสระน้ำอุ่นขนาดใหญ่ อีกด้านเป็นสวนสีเขียวรื่นรมย์ แซมด้วยทิวไม้ดอกหลายสีอย่างลงตัว ด้านหลังของคฤหาสน์หลังงามคือทะเลสาบจำลองที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยอำนาจเงิน มันสวยงาม เหมือนจริง และไม่ต่างจากสรวงสวรรค์เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้ได้รับสิทธิ์มาเยือนที่นี่จะพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘สวรรค์บนดิน’ รถสปอร์ตสีบลอนด์เทาพุ่งทะยานเข้ามาจอดสนิทในโรงจอดรถขนาดใหญ่ที่มีรถหรูหราหลายชนิดจอดเรียงรายกันอยู่นับร้อยคัน ร่างสูงหกฟุตสามนิ้วของชายเจ้าของรถก้าวลงมาด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด คนรับใช้รีบก้มหน้ารับกุญแจรถ และรีบถอยห่างออกไปเพราะเกรงจะถูกเอ็ดตะโร ลมหายใจหนักหน่วงถูกกระแทกกระทั้นออกมาจากปากและจมูกของดีแลนตลอดเวลาที่เดินเข้ามาในตัวตึกใหญ่ ความหงุดหงิดที่ไม่สามารถเก็บกดเอาไว้ได้ เขาเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ได้พบเจอกับแม่พยาบาลสาวประจำตัวของจอร์จ เป็นทุกครั้งจนน่าโมโห ทั้งๆ ที่แม่นั่นก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจต่อปากต่อคำกับเขาเลยสักนิด ตรงกันข้าม กลับเอาแต่ก้มหน้าหลบตา และพยายามจะหนีหายทุกเวลาที่ทำได้ แต่ไอ้กิริยาแบบนี้ของเจ้าหล่อนนั่นแหละที่ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิด “บ้าชิบ ยายผู้หญิงนรก” “ใครทำให้พี่ชายสุดที่รักของผมอารมณ์เสียกันครับเนี่ย” เสียงทักทายนุ่มๆ ของน้องชายคนที่สี่ดังขึ้นด้านข้าง ดีแลนชะงักหันไปมอง และเอ่ยทักทายเช่นกัน “แล้วนั่นนายจะออกไปไหนดึกๆ ดื่นๆ ล่ะเจ้าไท” ไทโรน คาร์ตัน หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย-อังกฤษ ซึ่งก็คือลูกบุญธรรมอีกคนหนึ่งของจอร์จ คูล คาร์ตันเช่นกัน ชายหนุ่มอมยิ้ม นัยน์ตาสีสนิมหวานฉ่ำ “ผมมีนัดน่ะครับ ว่าแต่พี่ดีนยังไม่ตอบผมเลย หน้าบูดเรื่องอะไรกันครับ” ดีแลนหลบสายตาน้องชาย และถอนใจเบาๆ “ไม่มีอะไรหรอก พี่ก็แค่เหนื่อยๆ อยากพักผ่อน” พี่ชายผู้มีใบหน้าถอดแบบมาจากเทพบุตรกรีกจะก้าวเท้าเดินหนี แต่ไทโรนก้าวไปขวางเอาไว้เสียก่อน และมองด้วยสายตารู้ทัน “ลิลลี่ทำให้พี่ชายของผมหงุดหงิดอีกแล้วใช่ไหมครับ” ความเยือกเย็นบนใบหน้าของดีแลนจางหายไปในทันที เมื่อได้ยินชื่อของลัลลลิน ผู้หญิงที่ตามหลอกหลอนเขาตลอดเวลา “อย่าพูดถึงชื่อแม่นั่นอีก หล่อนไม่มีอิทธิพลพอที่จะทำให้พี่หงุดหงิดหรอก” ไทโรนยังคงอมยิ้ม นัยน์ตาที่ได้รับอิทธิพลมาจากแพขนตายาวงอนยังคงหวานฉ่ำตลอดเวลา “แต่เธอก็สามารถทำให้พี่ดีแลนของผม เดินทางไปเยี่ยมคุณพ่อได้ทุกวันไม่ใช่หรือครับ” “อย่าสู่รู้ ไท” นัยน์ตาสีดำสนิทของดีแลนตวัดจ้องมองน้องชายอย่างไม่พอใจ กรามแกร่งขบกันแน่นจนนูนเป่ง “และท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจเลยนะว่า พี่ไปหาคุณพ่อก็เพราะว่าพี่เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของท่าน พี่ไม่ไว้ใจแม่นั่น” “คร๊าบบบ ผมเชื่อพี่ดีนที่สุดเลยครับ” ดีแลนรู้ดีว่าไทโรนตอบประชดประชัน แต่เขาก็ไม่คิดจะสนใจ “คุณพ่อสุขภาพแข็งแรงขึ้นมาก ถ้าพวกนายไม่ว่าง... ก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปหาท่านหรอก พี่จะดูแลท่านเอง” “ครับพี่ดีน” ผู้เป็นพี่ยิ้มน้อยๆ ให้น้องชายก่อนจะเดินผ่านขึ้นบันได มุ่งหน้าไปยังห้องพักส่วนตัว ในขณะที่ไทโรนมองตามร่างของพี่ชายไปด้วยสายตารู้ทัน “หวงก้างสิไม่ว่า พี่ดีน” หนุ่มผู้น้องส่ายหน้าและอมยิ้ม กำลังจะเดินออกไปจากตึก แต่ก็สวนกับบรูซที่พึ่งกลับเข้าบ้านมาพอดีเข้าเสียก่อน “จะออกไปเที่ยวหรือพี่ไท” ไทโรนพยักหน้าตอบรับน้องชาย “จะพูดแบบนั้นก็ได้ ว่าแต่นายจะไปด้วยกันหรือเปล่า สนุกนะ พี่จะให้เด็กจัดหาสาวสวยๆ ให้ รับรองนายไม่ผิดหวัง สวรรค์ทั้งคืน” บรูซ คาร์ตัน หนุ่มคนสุดท้ายของคาร์ตันส่ายหน้าน้อยๆ นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย “ขอบคุณครับพี่ไท แต่ผมหมดแรงแล้ว อยากพักผ่อนมากกว่า” คนฟังหัวเราะร่วนด้วยความขบขัน “นี่อย่าบอกนะว่ายายซันนี่ดูดพลังของแกไปหมดน่ะเจ้าบรูซ” หนุ่มผู้มีสายเลือดบราซิลเลี่ยนอยู่ทั้งเนื้อทั้งตัวหน้าบูดขึ้นมาทันควัน เสียงลมหายใจที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายดังตามออกมา “ก็ยายเด็กบ้านั่นเล่นตามผมทั้งวันเลยนี่ครับ ไม่ว่าจะนั่งทำงาน เข้าประชุม เฝ้าได้เฝ้าดี นี่ถ้าไม่เห็นแก่คุณพ่อ ผมจับโยนทิ้งหน้าต่างไปนานแล้ว เด็กอะไรแก่แดดแก่ลมที่สุด” “ถึงจะยังเด็ก แต่หุ่นนี่เกินมหาลัยนะเจ้าบรูซ พี่ว่าแกก็น่าจะรับรักเจ้าหล่อนไปเถอะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยวิ่งหนี” บรูซส่ายหน้าดิก และทำหน้าขยาดหวาดกลัว “ไม่เอาหรอกครับ ขืนผมได้ยายบ้านี่มาเป็นเมีย มีหวังชีวิตผมคงไม่มีวันสงบสุขแน่” ไทโรนหัวเราะลั่น เห็นความทุกข์ของน้องชายเป็นความสนุก “แต่พี่ว่าชีวิตของนายจะเต็มไปด้วยสีสันนะเจ้าบรูซ ถึงจะยังเด็ก ยังต้องพร่ำสอนวิชากันมากหน่อย แต่พี่ว่ายายซันนี่น่าจะหัวไวนะ แกสอนไม่กี่ครั้งก็น่าจะเชี่ยวชาญแล้ว” “นี่พี่ไทกำลังหมายความถึงเรื่องอะไรครับ” ไทโรนเดินเข้ามาตบบ่าน้องชาย พรางเอียงหน้ากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูแล้วหัวเราะ “ก็เซ็กซ์ไงล่ะเจ้าบรูซ” “ผมไม่เคยคิดเรื่องนั้นกับยายเด็กนี่ และจะไม่มีทางทำด้วย ซันนี่ยังเด็กเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ผมขอตัวนะครับ” “เดี๋ยวก่อนสิ...” น้องชายเดินหนี แต่ไทโรนรีบหมุนตัวเดินตามไปขวางหน้าเอาไว้ “สิบแปดเด็กที่ไหนกันล่ะ ถ้าพี่เป็นนายนะเจ้าบรูซ ยายซันนี่คงโตเป็นสาวเต็มตัวไปนานแล้ว” บรูซตวัดตาคมกริบมองพี่ชาย และพูดเสียงลอดไรฟันขาวสะอาดออกมาแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ “ถึงผมจะเบื่อเด็กบ้านี่แค่ไหน แต่ผมก็ไม่ชอบให้ใครมองซันนี่แบบที่พี่ไทมอง” “นายหวงหรือ” “ถ้าพี่ไทมีน้องสาว และถูกผู้ชายพูดแบบนี้ใส่หน้า พี่ไทจะเข้าใจความรู้สึกของผมในตอนนี้ ขอตัวนะครับ ผมอยากพักผ่อน” บรูซไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้หงุดหงิดแบบนี้ แต่เขาควบคุมมันไม่ได้ เขาเดินหนีไทโรนแต่กระนั้นก็ยังได้ยินเสียงของพี่ชายดังตามหลังมาอยู่ดี “แต่ยายซันนี่ไม่ใช่น้องสาวของนายนะเจ้าบรูซ คิดดีๆ ว่าทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้” นี่เขาเป็นบ้าอะไรไป? ทำไมจะต้องไปแคร์ ไปสนใจด้วยว่าใครจะมองทานตะวันยังไง เขาเบื่อ เขาหน่าย และเขาก็รำคาญหล่อนไม่ใช่เหรอ ใช่... เขาเบื่อ และแสนจะเหม็นขี้หน้าเด็กบ้าคนนี้ เด็กผู้หญิงที่วิ่งตามเขาตั้งแต่เด็ก จนโตเป็นสาวก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรม ‘โตขึ้นซันนี่จะแต่งงานกับพี่บรูซ’ “เด็กบ้าเอ๋ย เธอน่ารำคาญที่สุด รู้ไหม ซันนี่” บรูซเปิดประตูเมื่อเดินมาถึงห้องพักส่วนตัวของตัวเอง ประตูห้องถูกปิดสนิทลงแผ่วเบา เรือนกายสูงสง่ากว่าหกฟุตสามนิ้วถูกทิ้งลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง ความเมื่อยล้าทางร่างกายกลับหาได้เทียมทัดความอ่อนอกอ่อนใจภายในฤดีไม่ เขาสับสน... รู้สึกเหมือนกำลังถูกจองจำด้วยวาจาสิทธิ์ของใครบางคน ดิ้นก็ไม่หลุด หนีก็ไม่มีทางพ้น ทำได้แค่เพียงเดินหน้าท้าชนให้แหลกเละกันไปข้างหนึ่งเท่านั้น กายหนุ่มเอนลงนอนราบกับเตียงนุ่ม นัยน์ตาคมกริบสีน้ำทะเลยามพิโรธค่อยๆ ปิดสนิทลงช้าๆ ปลดปล่อยความรู้สึกที่ตัวเองไม่สามารถควบคุมได้ให้ล่องลอยไปในที่ที่ไกลแสนไกล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD