ทันทีที่ได้ฟังเรื่องราวของปริมจากหลานชายเพื่อน มันทำให้เขาแทบนั่งไม่ติดเบาะ ไอ้เรื่องมีคนตามมาวนเวียนรอบตัวเธอก็ว่าแย่แล้ว แถมยังต้องมารู้อีกว่ากำลังมีคนที่แอบชอบอยู่!
ขาแกร่งของเขาเดินไปมาจนแม่บ้านไม่จำเป็นต้องถูกพื้นห้อง จนลืมไปแล้วว่าอีกไม่ไม่ถึงชั่วโมงข้างหน้าจะมีประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท โดยที่เขามีหน้าที่จัดเตรียมเอกสาร ข้อมูล รวมไปถึงความเรียบร้อยของท่านประธานสายชลด้วย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
‘ออยล์’ 1 ในผู้ช่วยของพีเข้ามาพร้อมกับเอกสารที่พีสั่งให้เตรียมเพื่อการประชุม วันนี้เธอสวมชุดสูทกระโปรงเลยเข่านิดหน่อย สีชมพูอ่อน ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดัง สวยสะอาดเพลินตา
ทรงผมที่ถูกเกล้าขึ้นปล่อยหางม้าให้เรียบร้อย ดูเป็นผู้ช่วยเลขาฯ ในแบบฉบับที่ควรจะเป็น ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เธอมักจะใช้เวลาแต่งตัวเป็นเวลานานแทบทุกวัน เพราะต้องการให้ตัวเองเป็นที่ต้องตาและต้องใจกับคนที่เธอแอบรักมานานหลายปี
“ใกล้ได้เวลาแล้ว คุณพิพัฒน์ไม่ไปเตรียมตัวเหรอคะ?”
ร่างสูงหยุดชะงักไปทันที นี่เขาคิดเรื่องของปริมจนลืมเรื่องงานที่ต้องรับผิดชอบไปเสียแล้วอย่างนั้นเหรอ พีพยายามสะบัดความคิดที่มากเกินไปออก และพยายามโฟกัสกับการประชุมสำคัญครั้งนี้!
“ไม่ลืมครับ คุณออยล์ไปจัดการตามที่ผมบอกไว้ได้เลย ผมจะไปหาท่านประธาน”
“ค่ะ”
หญิงสาวยังดูไม่เข้าใจกับกิริยาของชายหนุ่ม วันนี้เขาแปลกไปมาก ปกติแล้วเขาจะดูสุขุมเสมอ แต่วันนี้ทั้งสายตา และกิริยา ดูเลิกลักแปลกพิกล
พีเอื้อมไปหยิบเสื้อนอกมาสวมทับเชิ้ตสีขาวให้เรียบร้อย ขยับเนกไทนิดหน่อยให้เข้าที่ ก่อนจะเดินไปส่องกระจกตรวจสอบร่างกายเพื่อไม่ให้เป็นมีอะไรผิดพลาด แต่ก็ไม่วายความร้อนรุ่มใจนี้ มันทำให้เขาไม่สามารถสุขุมได้อย่างที่เคย
บรรยากาศการประชุมผ่านไปอย่างราบรื่น พีเองก็ทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง แถมยังได้รับหน้าที่ดูแลโปรเจคใหม่ของบริษัทอีก แม้ว่าประสบการณ์การทำงานของพีจะถูกสั่งสมมานานนับ 10 ปี แต่ด้วยสถานะของเขา ทำให้ผู้ถือหุ้นหลายคนไม่พอใจ
“เป็นอะไรหรือเปล่า?” ประธานสายชลเอ่ยถาม เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ขนาบข้างนิ่งและเงียบผิดปกติ “กังวลเรื่องที่ประชุมวันนี้เหรอ?”
“ท่านประธานครับ ผมว่าให้คนอื่นดูแลน่าจะเหมาะกว่า”
พีเสนอแนวทางที่เหมาะสม ท่านประธานที่ตัดสินใจเด็ดขาดได้แต่ยิ้ม เพราะบุตรบุญธรรมตรงหน้าดูจะถ่อมตนเกินไป หากให้หาใครสักคนที่ทำงานเก่งมากพอที่จะดูแลเงินเป็นพันเป็นหมื่นล้านให้งอกเงย ในสายตาของผู้อาวุโสก็มีเพียงเขาเท่านั้น
พีรู้ดีว่าสถานะตนเองเป็นอย่างไร แม้ความจริงทั้งเขาและสายชลจะเป็นญาติกัน แต่สำหรับคนที่เกิดจากน้องชายต่างมารดาของเขา ก็ไม่อาจจะเรียกว่าลุงได้เต็มปาก แค่การมาอยู่ข้างกาย ก็ดูจะมากเกินไปด้วยซ้ำ
“ถ้าจะถามถึงความเหมาะสม พี... แกเหมาะสมที่สุดแล้ว”
อีกแล้ว ท่านประธานไว้ใจเขามากเกินไปอีกแล้ว ก่อนหน้านั้นก็ปล่อยให้ตัวเขาดูแลลูกชายเพียงคนเดียวของตนเองหลายเดือน ไม่คิดเลยหรืออย่างไร ว่าคนที่มีมลทินอย่างเขา อาจจะทำเรื่องที่ไม่ควรทำก็ได้
ผู้อาวุโสมองใบหน้าของพีอย่างรู้ทัน ไม่เคยเลยสักครั้งที่เด็กคนนี้จะเรียกร้องอะไร ขนาดเจ็บปางตายก็ไม่ร้องสักนิด ทุกวันก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อบริษัทไม่มีหยุด มันก็สมควรแล้วที่เขาจะได้รับผิดชอบงานที่เหมาะสมและยิ่งใหญ่ไม่ใช่เหรอ?
“ไปกินข้าวกัน ฉันอยากกินอะไรที่เผ็ด ๆ หน่อย” ท่านประธานพยายามเปลี่ยนเรื่อง
“ไม่ได้นะครับ อายุท่านก็เยอะแล้ว ควรดูแลสุขภาพ เดี๋ยวผมจะหาร้านอาหารที่อร่อยและมีประโยชน์กับตัวท่านให้ครับ” ไม่รอช้า ชายหนุ่มก็จัดการควักมือถือเลื่อนหาร้านอาหารที่เหมาะกับท่านประธานอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่แค่เรื่องงานหรือบริษัท แต่ยังรวมถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเรื่องอาหารที่ต้องใส่ใจ เนื่องจากท่านสายชลก็อายุมากขึ้นทุกวัน หรือแม้แต่เสื้อผ้าที่ท่านประธานต้องใส่ เขาทั้งรักและเคารพ อีกทั้งลูกชายก็อยู่ห่างเสียไกล ขนาดกลับมาก็ยังไม่โผล่หน้ามาหาพ่อตนเอง มีเพียงเขานี่แหละที่จะคอยดูแลทั้งพ่อและลูกได้อย่างดี
ไม่นานทั้งคู่ลุงหลานก็มานั่งทานข้าวด้วยกัน หากใครผ่านไปผ่านมาก็ไม่รู้ว่ามีหนึ่งคนเป็นถึงท่านประธานใหญ่ และอีกคนก็ยังเป็นเลขาฯ มากเสน่ห์ เพราะตั้งแต่เดินเข้ามาในร้าน ทุกสายตาก็จับจ้องไปหาชายหนุ่มเป็นทางเดียว เพราะเสน่ห์อันแพรวพราวที่เขาไม่ได้ตั้งใจจะเปล่งมันออกมา กลับจ้าเสียจนหลายคนต้องหันมาชื่นชม
ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่เป็นเหมือนร้านลับของทั้งคู่ พวกเขามักจะมานั่งทานของอร่อย ราคาไม่แพงด้วยกันเสมอ จนเจ้าของร้านจำหน้าได้ แม้ว่าเงินทองจะมากมายแค่ไหน แต่สายชลมักจะสอนทั้งพี และซัน ผู้เป็นลูกชายให้ทำตัวสมถะ ดูเหมือนจะมีเพียงหลานชายตนเท่านั้นที่ดูจะเคารพในคำสอน ต่างจากลูกชายที่พูดหูซ้ายทะลุหูขวา
“อาหารญี่ปุ่นอีกแล้ว ไม่เบื่อบ้างรึ?”
“ก็ท่านประธานต้องการทั้งสุขภาพ และรสชาติอร่อยนี่ครับ ผมก็คิดได้แค่ที่นี่ที่เดียว”
พียกกาน้ำชาที่ถูกปั้นมาอย่างดี ค่อย ๆ รินชาลงถ้วยชาไม่ให้สายน้ำมันดีดกระเด็น ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ รินให้ตัวเอง ร้านนี้ไม่มีห้องส่วนตัว มีโต๊ะให้นั่งทานไม่กี่ชุด นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังสะอาด และรสชาติดีเกินราคาอีกด้วย
“มีอะไรหรือเปล่า?”
วันนี้เหมือนเป็นวันโลกแตกของพีก็ว่าได้ เขาเคร่งเครียดจนผู้มากประสบการณ์จับได้ทันที ไหนจะเรื่องที่ประชุมวันนี้ และยังมีเรื่องของเด็กสาวอีก ไม่รู้เลยว่าเขาจะจัดการอย่างไร
พลันสายตาเลื่อนไปสบผู้อาวุโส ที่ตอนนี้กำลังคีบปลาดิบเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย แววตาก็วาววับขึ้นมาทันที จนคนที่โดนจ้องเสียวสันหลังไปทั้งเส้น!
“ท่านประธานสนใจไปบรรยายพิเศษหรือเปล่าครับ?”
ผู้มีอายุกำลังเคี้ยวปลาดิบอย่างอร่อยต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินเรื่องที่ไม่คาดคิดมาจากคนที่ไม่คาดคิดด้วยเช่นกัน ปกติแล้วชายหนุ่มจะพยายามไม่ให้ตนทำงานเกินความจำเป็น เพราะอายุเริ่มเยอะขึ้น สุขภาพร่างกายก็เริ่มเสื่อมถอยตามกาลเวลา
แต่ทำไม จู่ ๆ เขาถึงได้มาพูดเรื่องที่ไม่น่าพูดแบบนี้เล่า!?
“พี... แกเป็นอะไรหรือเปล่า?” ผู้อาวุโสถามด้วยหน้าตาฉงน
“ช่วงนี้บริษัทกำลังไปได้ด้วยดีครับ ทั้งยังมีแพลนขยายกิจการไปสาขาเพื่อนบ้านด้วย เลยอยากให้ท่านประธานไปแชร์ความรู้และประสบการณ์สักหน่อยครับ”
“แล้วยังไง ปกติแกไม่อยากให้ฉันขยับเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กำลังโยนงานที่ฉันไม่อยากทำที่สุดมาให้เนี่ยนะ”
“ไปนะครับ เดี๋ยวผมหาคิวให้เลย เอาเร็วที่สุด”
“ดะ... เดี๋ยว!”
“เดี๋ยวผมขอตัวไปเช็กคิวก่อนนะครับ”
พีกระโดดออกจากโต๊ะอาหารทันที ไม่รอแล้วคำตอบ ตอนนี้ใจมันร้อนรุ่มไปหมด โดยที่ตัวเองยังไม่ทันได้เอาอะไรลงท้องเลยสักคำ แต่ที่แตกต่างจากตอนมาจนรู้สึกได้ก็คือเรื่องของอารมณ์ ชายหนุ่มออกไปด้วยความดีใจสุดขีด แม้จะไม่ได้แสดงออกมาก็ตาม ส่วนคนที่โดนมัดมือชกน่ะเหรอ...
“ถ้าไม่กินฉันกินหมดนะ”
กำลังนั่งกินอาหารอย่างสบายใจ เพราะตอนนี้ไม่มีใครมานั่งคุมแล้ว
สายชลได้แต่ส่ายหน้ามองหลังหลานชายตัวเองห่างออกไป ไม่รู้หรอกว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคืออะไร รู้แค่ว่าตอนนี้เขากำลังกลายเป็นเครื่องมือที่แสนสำคัญของชายหนุ่มไปเสียแล้ว
... แต่ก็ยินดีที่จะทำ
เสียงจอแจของมวลนักศึกษาในห้องสโลพขนาดใหญ่ วันนี้เป็นวันที่พิเศษมาก ๆ เพราะกำลังจะมีผู้บรรยายพิเศษมากมาเล่าเรื่องราว และให้ความรู้ต่าง ๆ แก่ว่าที่นักธุรกิจรุ่นใหม่อีกหลายชีวิตให้ฟัง
การบรรยายครั้งนี้ ทันทีที่มีคนติดต่อมาที่มหาวิทยาลัย ก็ตอบตกลงทันที นอกจากจะเป็นเครดิตให้มหาวิทยาลัยแล้ว ยังจะช่วยเสริมสร้างความรู้ และเติมฝันสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากจะเป็นเหมือนท่านผู้นี้ด้วย
ท่าน สายชล อัศวโภคิน เป็นหนึ่งในผู้บริหาร และประธานบริษัทใหญ่ เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกจับตามองจากสื่อทั้งในและต่างประเทศ เรื่องการสัมภาษณ์เขามักไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่ เพราะไม่ชอบเวลาตัวเองต้องออกไปพูดคำพูดสวยหรู หรือแจกแจงวิสัยทัศน์ให้คนอื่นฟัง
ไม่ใช่ว่าหวงวิชาอะไร แค่สงสัยว่าการที่ต้องพูดเรื่องพวกนี้ มันจำเป็นต้องใช้คำสวยหรูขนาดนั้นหรืออย่างไร ครั้งแรกที่มีคนมาขอสัมภาษณ์ พิพัฒน์จะเป็นคนดูคำถาม และทำสคริปต์คำตอบคร่าว ๆ ให้ แน่นอนว่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านสายชลไม่คิดจะให้สัมภาษณ์ใครอีกเลย
“ว่าที่พ่อตามาเองแบบนี้ แกเลยตื่นเต้นกว่าปกติเหรอ?” ปริมถามเพื่อนสาวที่นั่งข้าง ๆ เอาแขนวางบนโต๊ะแล้วเท้าคางหรี่ตามองดูเธอ ใจก็มีอยากจะแซวเจ้าหล่อนอยู่หรอก แต่เหมือนสังขารจะไม่รอด เพราะตอนนี้เธอง่วงเกินไปแล้ว
“ก็คุณลุงเขาสุดยอดจริง ๆ นี่ปริม ขนาดเจอวิกฤตเศรษฐกิจท่านยังผ่านมาได้เลย แล้วตอนนั้นนะ...”
“พอจ้ะ ๆ ให้เจ้าตัวเขาพูดเองก็ได้นะ”
ปริมรีบห้ามเพื่อนที่กำลังจะสาธยายยาวเหยียดให้ตนฟังเสียก่อน ไม่รู้แล้วว่าใครกันแน่ที่จะมาเป็นผู้บรรยายพิเศษครั้งนี้แทน ระหว่างท่าน สายชล หรือว่าที่ลูกสะใภ้ท่าน
หญิงสาวมองไปรอบห้อง วันนี้ไม่ได้มีแค่นักศึกษาอย่างเดียว ทางมหาวิทยาลัยเองยังเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ารับฟังการบรรยายครั้งนี้ด้วย กลายเป็นว่าห้องที่จุคนได้เกือบ 200 ที่นั่ง เต็มทุกพื้นที่ แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดก็คือท่านประธานสายชลนี่แหละ
ความจริงการบรรยายครั้งนี้เธอไม่ได้ตั้งลงทะเบียนมาเพื่อต้องการฟังสักเท่าไหร่ แต่ที่มาเพราะหวังลึก ๆ ว่าจะได้เจอใครบางคนโดยไม่ผ่านสื่อบ้าง แต่ที่น่าเศร้าคือเธอมองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเขาเลย
... เขาไม่มาอย่างนั้นเหรอ?
พิพัฒน์ที่จัดแจงเตรียมงานของท่านประธานกำลังวุ่นตั้งแต่เช้า เพราะคนมาเยอะกว่าที่คาดเอาไว้มาก ตอนนี้ความปลอดภัยของท่านประธานคือที่สุด ส่วนเรื่องของตัวเองต้องรองลงมา อย่างน้อยได้เห็นรายชื่อของเด็กสาวที่ตนเฝ้าหามาลงทะเบียนก็เบาใจ
อย่างน้อยวันนี้แค่ได้เห็นก็ยังดี...
“เรียบร้อยแล้วครับ” หนึ่งในบอดี้การ์ดเข้ามารายงานสถานการณ์กับชายหนุ่ม เขาพยักหน้าให้เป็นคำตอบ ก่อนผู้มาใหม่จะกลับไปทำงานงานของตัวเอง
“ลงทะเบียนไว้จะมาหรือเปล่านะ”
นั่นสิ ไม่รู้เลยว่าเจ้าหล่อนมาลงทะเบียนฟังการบรรยายนี้ไว้เพียงเพราะเพกาเพื่อนของเธอหรือเปล่า หากวันนี้เธอไม่มาล่ะจะทำอย่างไร คาบเรียนแรกของวันเป็นช่วงบ่ายเสียด้วย จะขี้เกียจตื่นมาหรือเปล่านะ
แก่แล้วจะขี้กังวลมันก็ไม่แปลก เพราะหากอะไรต่อมิอะไรไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ในความคิดของพีนั้นเท่ากับล้มเหลว
ร่างสูงกำยำเดินเข้าในห้องบรรยาย ตอนแรกจุดสายตามีเพียงท่านประธานกำลังกล่าววาทะต่าง ๆ แต่พอมีชายรูปหล่อที่อยู่ข้างกายผู้อาวุโสเข้ามา ทุกสายตาก็เปลี่ยนทิศทางไปหาเขาทันที
ดวงตาเข้มกวาดสายตามองไปทั่วห้องอย่างหวั่นใจ แต่ก็คลายความกังวลออก เพราะตอนนี้เธออยู่ในห้องแห่งนี้แล้ว แต่ที่ขัดใจก็คือ งานที่เขาทั้งคิดทั้งเตรียมมาหลายวัน เจ้าหล่อนดันมาหลับใส่แบบนี้ได้อย่างไรกัน!?!
ช่วงนี้เป็นช่วงที่เด็กสาวต้องทำวิจัยจนดึก มีแต่เรื่องไม่เข้าใจเต็มไปหมด ขนาดเพกาที่ว่าเก่ง ๆ ยังขอยกธงขาวยอมแพ้ มิหนำซ้ำยังโดนลากมาที่มหาวิทยาลัยตั้งแต่เช้า ไม่แปลกเลยที่เธอจะผล็อยหลับไป
คาดว่าบุญมีแต่กรรมดันบังจนมิด เด็กสาวเท้าคางหลับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทกับผู้มาบรรยาย ยังคงตั้งหน้าตั้งตาหลับเพราะไม่รู้ว่าจะตื่นขึ้นมาทำไม ตื่นมาก็ไม่เจอคนที่เธออยากเจอ แต่หารู้ไม่ว่าเขากำลังมองเธออยู่ไม่คาดสายตาเลยแม้แต่วินาทีเดียว
ร่างเล็กขยับเพียงเล็กน้อย มันก็สะกิดให้ดวงใจที่ร้างรามานานของชายหนุ่มกระตุกแรง แอบภาวนาในใจให้เจ้าหล่อนตื่นและเปิดตาออกมองเขาบ้าง เพียงนิดเดียว อยากเห็นดวงตาสวย ๆ คู่นั้นด้วยตาของตัวเอง
จะเรียกได้ว่าเป็นความสามารถพิเศษหรืออย่างไร เพราะเจ้าหล่อนเล่นหลับตั้งการบรรยายยังไม่เริ่ม จนบรรยายใกล้จบ และพีเองก็ต้องไปจัดเตรียมความเรียบร้อยต่าง ๆ ให้ท่านประธานแล้ว สงสัยวันนี้จะไม่ใช่วันของเขาจริง ๆ