"พะ พร้อ... อื้ออ!" ฉันยังตอบรับไม่เต็มคำ ติณย์ก็เข้ามาประกบฉกชิมริมฝีปากฉันเสียก่อน มือหนาก็คอยวนลูบไปทั่วหน้าขาอ่อนของฉันทั้งสองข้าง ยอมรับเลยว่าเขาสามารถทำฉันอ่อนระทวยเหลวเป็นน้ำได้อย่างรวดเร็ว ฉันชอบกลิ่นกายของเขา มันหอมและปลุกสร้างอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
จ๊วบบ
ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ฉันก็ยังไม่อยากให้เขาผละตัวออกไป ลิ้นร้อนไล่ต้อนลิ้นของฉันไปทั่วโพรงปาก จนฉันที่อดใจไม่ไหวตวัดหยอกล้อลิ้นหนานั้นกลับไป กลายเป็นว่าในตอนนี้เราทั้งคู่กำลังสอดประสานลิ้นกันอย่างเมามันส์ รสชาติของไวน์ทั้งในโพรงปากเขาและโพรงปากผสมผสาน เกิดความหวานอย่างลงตัว
“อืมมม” ฉันครวญครางเสียวซ่านออกมาอย่างน่าไม่อาย เหมือนผีเสื้อนับร้อยล้านตัวบินวนไปมาอยู่ในท้อง สมองขาวโพลนหลับตารับสัมพัสจากฝ่ามือแกร่งอย่างยอมจำนนท์ นี้คือสัมผัสจากชายคนเรียกที่ฉันพร้อมพลีกายให้ตั้งแต่เห็นหน้า ใครจะคิดอย่างไรก็ช่างฉันไม่สน ฉันเก็บความสาวมาจนอายุป่านนี้แล้ว เมื่อเจอคนที่ใช่ฉันก็ไม่ควรลังเลอีกต่อไป
พรึบ
ติณย์อุ้มร่างของฉันขึ้นในท่าเจ้าสาวเดินเข้ามาในห้องนอนของเขา และวางฉันลงบนที่นอนนุ่มอย่างเบามือ เมื่อเราผละห่างออกจากกัน ฉันจึงได้เห็นแผงอกกำยำ และมัดกล้ามแขนที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดนูนนั้น ฉันจ้องมองเขาด้วยใจที่เต้นแรงไม่หยุดหย่อน เพราะเขากำลังถอดกางเกงต่อหน้าฉัน
เห็นดังนั้นแล้วฉันก็ไม่น้อยหน้า เอื้อมมือไปด้านหลังจัดการถอดชุดของตัวเองออกเช่นกัน มือที่เย็นเฉียบมีอาการสั่นเล็กน้อยตอนที่ฉันกำลังถอดมันออกทางปลายเท้า ทั้งชีวิตไม่เคยเปลื้องผ้าต่อหน้าใครนอกจากบุพการีตอนเด็กน้อย แต่ในตอนนี้ฉันกำลังเหลือแค่จีสตริง และบราปีกนกที่ไว้โอบอุ้มหน้าอกคัพซีเท่านั้น
“อ๊ะ” ฉันร้องตกใจสั่นเสียงหลงเพราะคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงเมื่อสักครู่ กำลังขึ้นมาคล่อมร่างฉันสายตาคมก็คอยสำรวจทั่วร่างตั้งแต่เนินอก ไล่ลงหน้าท้องแบนราบ และหยุดอยู่ที่...จีสตริงลายลูกไม้สีดำอย่างพิจารณา ในตอนนี้ใจฉันเต้นแรงมาก แรงของมันนั้นยิ่งกว่าแผ่นดินไหว
“สวยมาก” เขายกยิ้มที่มุมปาก ตวัดสายตาจ้องมองฉันอย่างพึงพอใจ ก็ยิ่งทำให้ฉันใจเต้นแทบทะลุออกมา
“อืออ อ๊า” ฉันร้องครางเสียงหลง ใจเต้นระรัวแรงไม่คิดจะหยุดหย่อนเมื่อคนตรงหน้ากระโจนตะครุบเข้าหาซอกคอฉันในทันทีแบบไม่รีรออีกต่อไป ฉันเชิดหน้าหลับตาพริ้มขนลุกชูชันไปทั้งตัว ยินยอมรับสัมผัสจากปากหนาที่คอยดูดดึง ขบเม้ม ไปทั่วลำคอ ใจสั่นเต้นแรงขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อปลายลิ้นหนาลากวนเลียไปทั่วซอกลำคอสลับกันไปมา สร้างความเสียวซ่านไปถึงกลางกายสาว อืออ~ ฉันเหมือนคนกำลังขาดอากาศหายใจ หายใจไม่ทั่วท้อง ยังไงบอกไม่ถูก ปลายเท้าคอยจิกลงเตียงนุ่มสั่นเกร็งไปทั้งตัว ยามคนตัวโตเลื่อนไซร้ซอกคอไปมา
“ติณย์” ความวูบหวามเข้าครอบงำอย่างไม่ลดละ ทำให้ฉันร้องเรียกชื่อเขาอย่างไม่รู้ตัว ลำแขนสองข้างฉันโอบร่างแกร่งไว้แน่น พลางลูบวนมัดกร้ามแกร่งอย่างสำรวจ เชิ่ดหน้ารับสัมผัสร้องเรียกหาเขาอย่างไม่นึกอาย
“ครับ ” ยิ่งกว่าสัมผัสทางกาย ก็เสียงละมุนแหบพล่าตอบกลับมานี้แหละ ที่ทำให้ฉันกระสับกระส่ายไปมาอยู่ใต้ร่างกำยำของเขาอย่างเสียวซ่าน เสียว? ความรู้สึกแบบนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกกันว่าเสียว... มันดี ดีมาก จริงๆ
ผมเงยออกจากซอกคอหวานอย่างรู้สึกเสียดาย เพราะมันช่างหอมหวานยิ่งกว่าลูกกวาด กลิ่นกายสาวของต้นหวานก็ช่างหอมยิ่งกว่าดอกไม้พลิบานในยามเช้า แต่ทว่า ก้อนเนื้อนุ่มนิ่มที่เสียดสีผ่านอกของผมมันมีแรงดึงดูดมากว่า
"ผมทำคุณขัดจังหวะใช่ไหม อีกเดี๋ยวได้เสียวกว่านี้แน่ครับ"สายตาปรือหวานจากความเสียวซ่านจดจ้องมาที่ผมทันทีที่ละใบหน้าขึ้น ในดวงตานั้นมีความรู้สึกถูกขัดใจออกมาอย่างชัดเจน จนผมต้องพูดปลอบออกไป ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะจัดการกับปราการด่านตรงหน้า
ตึกตัก ตึกตัก~
น้อยครั้งนักที่คนโชกโชนอย่างผมจะใจเต้นแรงให้กับร่างกายของเพศตรงข้าม ทันทีที่เห็นยอดปทุมทันสีชมพูชูเปร่งสวยงามควบคู่ไปกับเต้าอวบอิ่มตรงหน้า ใจผมเต้นแรงเหงื่อตกเอาเสียดื้อๆ
อึก!
"สวยมากต้นหวาน" สายตาของผมโลมเลียไปทั่วทั้งเรือนร่างบาง ผิวขาวผ่องเนียนนุ่มน่าสัมผัส สวยไปทุกสัดทุกส่วนทุกอณูผิว
"อ๊ะ!" เสียงหวานร้องตกใจปนเสียวซ่านยามใบหน้าของผมซุกไซร้สูดดมสลับสองเต้าคู่งาม หอม~ ยอมรับแบบเหงื่อตกๆ ตรงนี้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลต่อผมมากจริงๆ
"อื้มม~" สองมือผมกอบกุมเต้างามจนล้นปลิ้นออกมาตามซอกนิ้ว ตั้งยอดปทุมส่งเขาปากอย่างคนหิวโหยจากที่ไม่เคยปลุกเร้าหยอกล้อกับเรือนร่างใครมาก่อน ตอนนี้ผมต้องจำนนท์ให้กับเรือนร่างของเธอคนนี้
จ๊วบบ!
ปากก็ดูดดึง มือทำหน้าที่บีบเค้น พร้อมกันกับร่างกายที่ขยับขึ้นลงช้าจงใจให้จุดกลางตัวของเราทั้งคู่ได้เสียดสี ท่อนร้อนปวดหนึบ กระตุก ตุบ ตุบ ทุกครั้งตามจังหวะเสียงหวานครางใต้ร่าง
เมื่อพอใจเต้างามผมก็เลื่อนใบหน้าต่ำลงเพื่อหมายพรหมจูบให้ทั่วทั้งผิวกายขาวเนียนนุ่มของเธอ แต่มือทั้งสองก็ยังกอบกุมที่เต้างามอยู่อย่างนั้น
"อืออ ติณย์" เสียงหวานร้องครางไม่หยุด ลมหายใจถูกผ่อนออกจากปากบางหนักขึ้นกว่าเดิม เมื่อผมใช้ปากงับเอาเจ้าจีสตริงด้านหน้าออก ค่อยเลื่อนลงอย่างช้าๆ
และทันใดนั้นความงามที่ไร้ขนก็ปรากฏต่อหน้า ผมละมือจากทุกสิ่งชันตัวขึ้นจดจ้องสิ่งนั้นอย่างโดนสะกดจิต
อึก! เสียงกลืนน้ำลายน้ำลงคออึกใหญ่ ยังไม่ดังเท่าหัวใจที่กำลังเต้นแรงอยู่ตอนนี้
"ทะ ทำไมค่ะ" ต้นหวานที่เห็นท่าทีของผมเปลี่ยนไปก็เอ่ยถามด้วยเสียงหวานปนสีหน้ากังวล
"สวยมาก" ครับสวย สวยมาก เปรียบเหมือนดอกบัวตูม ที่กลีบยังคงปิดสนิท
"ยังไม่เคยใช่ไหม?" เสียงทุ้มแหบพล่าเอ่ยถามออกมาพร้อมตวัดสายตาคมจ้องมองไปยังหญิงสาวใต้ร่าง อาการไม่ยินดียินร้ายของติณย์นั้นทำต้นหวานนึกกลัว
ยังไม่ทันที่ต้นหวานจะเอ่ยอะไรออกมา ติณย์ที่ทนไม่ไหวให้กับความกำหนัดกลางแก่นกาย รีบเอื้อมมือเปิดลิ้นชักข้างเตียง หยิบน้ำยาหล่อลื่น และ...
"F*uck เชี้ยเอ้ย! ถุงยางหมด" ปากหนาพ้นคำหยาบออกมาอย่างหงุดหงิด เพราะความตื่นเต้นที่จะได้ลิ้มลองของสดใหม่ตรงหน้า เพราะเสือกินไม่เลือกอย่างเขาเคยได้แต่เนื้อชิ้นเก่า เมื่อมีชิ้นสดอยู่ตรงหน้าความรนรานจึงเกิดขึ้น
"ติณย์ขอสดได้ไหมครับ" เสียงแหบพล่าพร้อมแววตาหื่นถูกส่งทอดออกไปอย่างไม่ปิดกั้น
"ปะ ปลอดภัยใช่ไหม"
"เราปลอดภัย นี้ก็ครั้งแรกที่จะสด"
____________✂️__________