หลายวันต่อมา...
@AA SUPERCLUB
07.00 PM
วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันในการทำงาน ตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมานี้ ฉันได้รู้เรื่องของนายติณย์เยอะแยะเลยละ เพราะแบงค์เล่าให้ฉันฟังหมดแล้วเพื่อแลกกับการให้ทานเบเกอร์รี่และน้ำที่ร้านฟรีหนึ่งเดือน เรื่องของกินนี้ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
เอาละกลับมาเรื่องนายติณย์กันต่อ หลังจากที่ฉันฟังแบงค์เล่า ฉันก็อยากจะรู้จะเห็นด้วยตาของฉันเอง จึงต้องทำเป็นมานั้งแต่งหน้าอยู่ในห้องแต่งตัวของเหล่าพนักงานอย่างเช่นตอนนี้ เพราะเรื่องของเขาเกี่ยวข้องกับคนทุกคนในห้องนี้
"สวัสดีเราต้นหวานนะ เธอชื่ออะไรเหรอ" ฉันเอ่ยถามหญิงสาวสุดน่ารักข้างๆ
"เราเซียร์"
"เพิ่งมาทำงานวันแรกเหรอ" ที่ฉันถามออกไปแบบนั้นเพราะฉันเพิ่งเห็นหน้าเธอครั้งแรก
"เปล่าหรอกวันนี้ วันที่สอง"
"..." และฉันก็ต้องขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัย วันที่สองงั้นหรอ ทำไมเมื่อวานฉันไม่เห็น
"เมื่อวานเราถูกเรียกขึ้นไปชั้นสองแหนะ"
"อ้อ เราก็ลืมไปเพื่อนเฮียพีทใช่ไหมที่เรียก" เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉันก็ร้องอ้อคลายสงสัยทันที
"อืมๆ ใช่ ทำไมเหรอ"
"เขาก็เรียกเด็กที่มาใหม่ทุกคนนั้นแหละ อย่าสำคัญตัวเกินไป"
อยู่ๆ ก็มีเสียงเล็กแหลมของใครบางคนเอ่ยแทรกเข้ามาระหว่างที่เราสนทนากันอยู่ ไม่ต้องหันไปมองฉันก็รู้แล้วว่าเป็นใคร
มะนาวหยุดเดินก่อนจะลอบหันมองหน้าฉันกับเซียร์ทางหางตาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสีหน้าท่าทางอย่างกับนางอิจฉาในละครก็ไม่ปาน เมื่อเธอมองเราสองคนจนพอใจแล้วขายาวๆ นั้นก็ก้าวสาวเดินออกไป
"ใครหรอ?" เซียร์หันหน้ามามองฉันและเอ่ยถามออกมาในทันที
"เด็กโปรดของเพื่อนอีกคนของเฮีย แต่พักหลังๆ เขาไม่ค่อยมาที่ร้าน นางเลยขาดรายได้หลักไป" เรื่องนี้ฉันก็รู้จากแบงค์มาอีกที
"เลยพาลไปทั่วแบบนี้ใช่ไหม"
งึกๆ~ ฉันก็ได้แต่พยักหน้าและยิ้มตอบไป
หลังจากนั้นฉันก็สืบล้วงข้อมูลเล็กๆ น้อย เรื่องที่ไปให้บริการหมอนั้น และเรื่องจิปาถะทั่วไปเพื่อไม่ให้เกิดความสงสัย แต่ก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ เพราะไม่กล้าเจาะลึกมากเดี๋ยวสงสัย
"เซียร์" มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้เราสองคนต้องละหน้าออกจากกัน และหันไปมองตามเสียงนั้น
"ค่ะ พี่เอิร์น" เมื่อหันไปมองตามเสียง ถึงรู้ว่าคนที่เรียกเซียร์ก็คือเอิร์น เธอเป็นผู้จัดการผับนี้
"วันนี้ไม่ต้องประจำโซนนะ อยู่รอขึ้นชั้นสองทีเดียวเลย" ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าใครเรียก เพราะชั้นสองไม่ใช่ชั้นที่มีแขกทั่วไป หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นชั้นออฟฟิตสำนักงาน มีแค่เฮียพีทและเพื่อนของเขาเท่านั้นที่อยู่ชั้นนั้น
"ค่ะ" สิ้นคำตอบรับของเซียร์เอิร์นก็เดินออกไปในทันที
"แสดงว่าเซียร์กลายเป็นคนโปรดของเขาแล้วแหละ" ฉันไม่รู้เลยถึงเอ่ยคำนี้ออกมา เหมือนฉันกำลังอิจฉาคนตรงหน้าหรือน้อยใจ หรืออะไร...ก็บอกไม่ถูก
"เขา?"
"หมายถึงนายติณย์นั้นแหละ" แบงค์เล่าให้ฉันฟังหมดแล้วว่านายติณย์ชอบเรียกเด็กที่มาใหม่ขึ้นไปบริการ และหากพูดคุยถูกคอถูกใจ ก็พากันไปต่อ รวมเธอที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันด้วยหรือเปล่า
"นาย? เอ่อโทษที พอดีเรางงๆ สับสนกับสรรพนามที่ต้นหวานใช้เรียกอ่ะ"
"เราไปละ" เซียร์ทำหน้างงๆ กับการตัดบทสนทนาของฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ เอ่ยลาและรีบเดินออกมาเพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเอง ว่อกแว่กไปเรื่องไร้สาระมากเกินพอแล้ว
"แกแค่ชอบ ก็แค่ชอบ จำไว้" อยู่ๆ ก็รู้สึกแปลกๆ ในใจ จนต้องพูดเตือนสติตัวเองหลายๆ รอบ ที่ต้องมาสืบฉันแค่อยากจะรู้ให้เห็นกับตาว่านายนั้นเป็นจริงอย่างที่แบงค์เล่ามาหรือเปล่า และที่รู้มาทั้งหมดมันเป็นความจริง แต่ช่างเขาสิต้นหวาน เขาจะเป็นยังไง ทำตัวแบบไหน มันก็เรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับเรา และทำไมแกต้องมาตามสืบเรื่องของเขาด้วย
01.00 AM
ตอนนี้ฉันเลิกงานเป็นที่เรียบร้อย บอกตามตรงวันนี้เป็นวันที่ฉันไม่มีสมาธิในการทำงานเลย มัวแต่คิดเรื่องของไอ้บ้านั้น ฉันว่าฉันจะไม่สนใจแล้วแต่เมื่อเดินไปทางไหน หรือแม้แต่ยืนทำงานอยู่ในที่ของฉัน ก็รับรู้เรื่องราวของหมอนั้นตลอด เพราะเด็กๆ ในร้านต่างเมาท์มอยเรื่องความแซ่บของเขา อย่างที่บอกใครที่มาใหม่เสร็จหมอนั้นไปแทบทุกราย ถ้าฉันสนใจฟังเรื่องชาวบ้านสักนิด ฉันก็ไม่ต้องมาเป็นหนึ่งในผู้หญิงใจง่ายให้กับเขา
"ต้นหวาน" ฉันเดินออกมานอกผับได้ไม่ไกลก็มีเสียงทุ้มของใครบางคนเรียกจากทางด้านหลัง จนฉันต้องหันกลับไปมองตามเสียงเรียกนั้น
"อ้าว โรม มาเที่ยวเหรอ" คนที่เอ่ยเรียกฉันก็คือโรม เขาเป็นเพื่อนต่างคณะสมัยเรียน ที่รู้จักกันได้เพราะตอนนั้นโรมเข้ามาจีบฉัน แต่ก็ถูกฉันปฏิเสธขอเป็นแค่เพื่อน โรมเป็นคนพูดง่าย ไม่ตื้อเก่งเหมือนพวกผู้ชายคนอื่นๆ เราเลยได้เป็นเพื่อนกันมาจนถึงทุกวันนี้
"ใช่ เราว่าจะเข้าไปทักอยู่พอดี นี้เลิกงานแล้วเหรอ"
"อืม ใช่ เรากำลังจะกลับ"
"มีอะไรหรือเปล่า" ฉันที่เห็นโรมยืนอ้ำอึ้งอยู่ก็เอ่ยถามออกไป
"คือเรา...ขอไลน์ต้นหวานได้ไหม"
.
.
"ไปเตรียมรถมากูจะกลับแล้ว" เสียงทุ้มเข้มหน้าเคร่งขึมเอ่ยสั่งลูกน้องคนสนิท ก่อนที่ตัวเขาจะยืนรออยู่บริเวณลานจอดรถไม่ไกลนักจากหน้าประตูทางออกของผับ มือหนาจัดการล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบซองบุหรี่ราคาแพงออกมา
"เอาที่ต้นหวานไหวนะ" การกระทำของติณย์หยุดชะงัก เพราะมีเสียงคนเรียกชื่อที่คุ้นหูดังอยู่ใกล้ๆ
"ไหวสิ ว่าแต่โรมเถอะจะจ่ายให้เราไหวหรือเปล่า" สายตาคมตวัดไปยังต้นทางของเสียง แต่ที่ๆ ติณย์ยืนอยู่มีต้นไม้ขนาดพอตัวบดบังเอาไว้ แต่ก็พอจะรู้ว่าหญิงสาวเจ้าของเสียงหวานสดใสนั้นเป็นใคร เขาจำเสียงเธอได้ดี...
"สำหรับต้นหวานแพงแค่ไหนโรมก็พร้อมจ่าย" ฝ่ามือหนากำซองบุหรี่แน่นจนยับยู่ยี่แหลกคามือแกร่ง ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นของชายหนุ่มที่ยืนคุยอยู่กับเธอ
"ฮ่าๆ เราล้อเล่น เดี๋ยวลดให้เป็นราคาพิเศษเลย นี้ก็ครั้งแรกนะที่ถูกเหมา คงจะช้าหน่อย"
"ไม่เป็นไร เรียนรู้ไปด้วยกันอีกอย่างเราก็คนกันเอง ต้นหวานจะได้มีประสบการณ์ไปด้วยไง"
"ขอบใจนะ...งั้นเราขอตัวกลับก่อน เรื่องรายละเอียดคุยในไลน์เพิ่มเติมนะ" สิ้นเสียงหวาน ทั้งสองก็เดินแยกจากกัน
"เรียนรู้ไปด้วยกันงั้นหรอ?" ริมฝีปากหนาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบเย็นชา ไม่ต่างไปจากใบหน้าหล่อเหลา ที่ตอนนี้กำลังจ้องมองตามแผ่นหลังบางไปด้วยสายตาที่เรียบนิ่งยากจะคาดเดา
ตึก ตึก ตึก!
เสียงฝีเท้าหนาก้าวเดินตามแผ่นหลังบางไปอย่างหนักแน่นด้วยความโมโห ไปกับบทสนทนาที่ได้ยินมาทั้งหมดเมื่อสักครู่ เพียงไม่กี่ก้าวติณย์ก็สามารถเข้าถึงตัวอีกคนได้อย่างรวดเร็ว
"อ๊ะ! อะไรของนาย ปล่อย" ต้นหวานร้องออกมาด้วยความตกใจปนเจ็บบริเวณแขนเล็กที่ถูกกระชากอย่างแรงตามแรงอารมณ์ของเจ้าของการกระทำอันอุกอาจ
"ติดใจรสชาติเซ็กส์จนต้องขายตัวเลยหรอ" ติณย์ที่มีความโกรธอยู่เต็มอก ก็เอ่ยพูดออกมาในทันทีอย่างไม่ลังเล ทั้งที่เขาเป็นคนแรกของเธอ แต่ไปพูดคุยแบบนั้นกับชายอื่น
"นายพูดเรื่องอะไรของนาย"
"ถ้าอยากขายก็มาขายให้ฉัน"
"ปล่อย!" ต้นหวานไม่สนใจในสิ่งที่ติณย์พูดออกมา เธอได้แต่พยายามสะบัดแขนออกจากมือแกร่งของเขา
"ถ้าจะขายก็มาขายให้ฉัน!" เสียงเข้มตะโกนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ดีหน่อยที่ตอนนี้ไม่มีใครนอกจากเธอและเขา
"นี้! นายบ้าไปแล้วหรือไง" คนตัวเล็กกว่าเปร่งเสียงสู้ไม่แพ้กัน เธอก็หมดความอดทนกับคนตรงหน้าแล้วเหมือนกัน
"เออ ใช่! ฉันบ้า!"
"ปล่อย!" ยิ่งเธอสู้เขาเท่าไหร่ ก็เหมือนยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของติณย์ให้สูงขึ้นเท่านั้น
"ฉันมีสิทธิ์ในร่างกายเธอแค่คนเดียว แค่ฉันคนเดียว!"
"ใครอนุญาตไม่ทราบ" ทันทีที่ได้ยินดังนั้น ต้นหวานก็เอ่ยถามกลับไป
"นะ นายติณย์ฉันเจ็บนะ" แทนที่เธอจะได้คำตอบแต่กลับถูกมือหนากระชากเธอให้เดินเขาไป
ปัก! เสียงแผ่นหลังบางกระทบกับกำแพงอย่างแรง
"อ๊ะ อุ๊บ!" ยังไม่ทันให้เสียงของความเจ็บได้ถูกเปร่งออกมาสุดเสียง ริมฝีปากหนาก็ประกบเข้ากับริมฝีปากบางในทันที
"อือ!" คนตัวเล็กในวงแขนแกร่งได้แต่ทำตาโต ตกใจให้กับการกระทำของติณย์
"โอ้ย!" ในตอนที่ลิ้นหนาแทรกผ่านโพรงปาก คนตัวเล็กสบโอกาสกัดเข้าที่เรียวลิ้นหนาอย่างแรง
"นายนี้มัน...."
"อยากซื้อนักใช่ไหม? ได้ ฉันจะขายให้"
____________✂️__________
Example of the next episode
"คุณลูกค้าจะจ่ายเป็นเช็ค หรือเงินสดดีค่ะ อ้อเป็นเงินโอนก็ง่ายดีนะ"