EP.6 หนูอุ่น

2800 Words
“พี่กล้า คุณน้าประสงค์จักให้ฉันแต่งงาน แต่ฉันไม่อยากแต่งเลย” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยน้ำตา “กับใคร คุณหนูบอกพี่ได้ไหม” สิ่งที่คุณหนูของเค้าพูดออกมา มันเหมือนมีดแหลมที่กรีดลงกลางใจของไอ้กล้า “คุณพระ คุณพระพิมาน จักให้น้า หลาน มีสามีคนเดียวกันได้เยี่ยงไร รู้ถึงไหน อายถึงนั้น แล้วฉันก็หาได้รักคุณพระท่าน ฉันรักและเคารพคุณน้าเสมือนแม่ กับคุณพระท่านก็ไม่ต่างกัน ฉันรักและเคารพไม่ต่างจากพ่อ ฮื่อออออ~*” หญิงสาวยังคงพร่ำพูดด้วยน้ำตา “อย่าร้องเลยคุณหนูของพี่ เห็นคุณหนูร่ำไห้แบบนี้ ตัวพี่นี้ก็เจ็บไม่แพ้กัน” “คุณพระท่านพึงพอใจในตัวฉัน หาใช่หัวใจของฉัน แต่ถ้าฉันไม่ทำ คุณน้าที่ฉันปานดวงใจก็คงใจสลาย คุณน้าเฝ้าดูแลเลี้ยงดูฉันมาตั้งแต่เกิด แม้แต่ชีวิตฉันก็ยอมแลกได้ แต่ที่เสียใจคือฉันตอบตกลงไปแล้ว เพราะฉันทนเห็นคุณน้าเสียใจไม่ได้” “ตอบตกลงไปแล้วหรือจ๊ะ” ไอ้กล้าตกใจจนหัวใจตกสู่ตาตุ่ม เมื่อหญิงสาวที่เค้ารักปานดวงใจ รักมาทั้งชีวิตกำลังตกลงไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ผู้ชายที่เป็นสามีของหญิงสาวที่มีศักดิ์เป็นน้าสาวของเธอ “ใช่ ฉันถึงได้มาปวดใจเยี่ยงนี้ไง” “พอแล้ว เลิกร้องไห้ได้แล้ว คุณหนูของพี่ มันไม่งามหรอก ผู้หญิงตาบวมหนะ ตอบตกลงแล้วมันคงยากที่จะกลับคำ” ไอ้กล้าดึงหญิงสาวเข้ามากอดปลอบ เหมือนทุกครั้งที่เด็กหญิงร้องไห้ แม้จะโตเป็นสาว เธอก็ยังทำแบบนี้ไม่เปลี่ยน เธอยังคงมาเคาะประตูห้องของเค้าในเวลากลางดึก เพื่อระบายความในใจ ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!! คนที่นอนอยู่ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝัน เพราะเสียงเคาะประตูห้องของใครบางคน ทุกอย่างเหมือนกับเป็นภาพวนเล่นซ้ำภาพเดิม เพราะคนที่มาเคาะห้อง ใบหน้าไม่ต่างจากคนที่มาเคาะห้องของเค้าในฝันเลย “ขอโทษค่ะ คุณนอนแล้วหรอ ฉันไม่ทราบขอโทษทีค่ะ” ศรุตมองหน้าหญิงสาวที่มาเคาะห้อง คราบน้ำตายังคงเกาะอยู่บนดวงตา เธอคงไม่ได้มาบอกว่าจะแต่งงานกลับใครหรอกนะ แต่เพราะดวงตากลมโตที่สั่นไปด้วยน้ำตา ทำให้เค้าต้องเอ่ยชวนเธอเข้าห้อง แม้เมื่อคืนก่อนจะอยากไล่เธอไปแค่ไหนก็ตาม “ร้องไห้หรอ โธ่....เข้ามาก่อนไหม” สิ่งที่เค้าฝันมันเหมือนเคยเกิดขึ้นจริง จนเค้าแทบจะแยกไม่ออก ว่าความรู้สึกต่อหญิงสาวตรงหน้าคืออะไร “ขอบคุณค่ะ” สายธารเดินมานั่งลงที่ซอกข้างเตียงที่เธอนอนในคืนนั้น เค้าไม่ใช่คนงมงาย หรือเชื่อเรื่องกลับชาติมาเกิดหรืออะไรทั้งนั้น และแอนตี้มากอีกด้วย แต่เค้าฝันถึงผู้หญิงที่หน้าเหมือนเธอมาสองคืนแล้ว ตั้งแต่ได้เจอเธอ แล้วยิ่งคนที่เค้าฝันถึง มีตัวตนจริงๆ ในเรื่องเล่าของลุงช่วย มันยิ่งทำให้เค้าหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ เพราะไม่รู้จะเชื่อความรู้สึกหรือเหตุผล “ฉันเป็นห่วงพี่แตงค่ะ เธออยู่กับฉันตลอด ไม่ว่าตอนไหน แต่วันนี้เธอหายไป ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดียังไง” “พี่แตงอะไรนั่นของเธอ อาจจะไปรอเธออยู่ที่โรงแรมแล้วก็ได้ อย่าคิดมากเลย พรุ่งนี้ฉันต้องทำงาน จะรีบไปส่งให้แต่เช้า เพราะฉะนั้นรีบนอน จะนอนที่นี่ก็ได้นะ แต่ที่พื้น” ชายหนุ่มโยนหมอนลงไปให้เธอ “ขอผ้าห่มด้วยได้ไหมคะ” เพียงไม่นานผ้านวมผืนใหญ่ก็ถูกโยนใส่เธออย่างตั้งใจ แต่สิ่งที่เธอกังวลนั้นไม่ได้มีแค่การหายไปของแตง แต่มันคือความฝันของเธอเองด้วย ความฝันที่เธอเลือกไม่ได้ มันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเลย ที่เธอมานอนที่นี่หวังเพียงให้มีคนปลุกเธอเท่านั้น “ถ้าฉันทำเสียงแปลกๆ ปลุกฉันด้วยนะคะ ต้องปลุกทันทีเลยนะ” “ใครจะว่างปลุกเธอ เธอนอนฉันก็นอน” นี่เป็นการนอนที่ไร้ตะกรุดของหลวงตาเป็นครั้งแรกในรอบปี แม้จะกลัวในสิ่งที่รู้ว่าจะต้องเจอ แต่ยังไงสายธารก็ต้องข่มตาให้หลับอยู่ดี แต่หนังตามันกลับทรยศเพราะความเหนื่อยล้ามากมายที่เจอวันนี้ เพียงแค่เธอหลับตา สติของเธอก็หลุดลอย เหมือนกับฝัน “อยู่กินกันมาก็ 5 ปีแล้ว ไม่มีลูกสักที แบบนี้พี่จักเอาทายาทที่ไหนสืบสกุล พี่ไม่เคยรักหล่อนน้อยลงเลยแม่กำไล แต่หล่อนร่างกายไม่แข็งแรง จักมีลูกก็มีไม่ได้ จักให้พี่ทำเยี่ยงไร” “คุณพี่ก็เลยมีแม่หยก แล้วพาเข้ามาในเรือนแบบนี้ จักมาขอน้องทำไม ในเมื่อน้องไม่ได้มีสิทธิ์เลือกอันใดเลย” คุณหญิงกำไลได้แต่นั่งปาดน้ำตา “แม่กำไล อย่าร้องห่มร้องไห้ได้ไหม พี่ยังรักษาสัญญาว่าจักรักหล่อน....” ยังไม่ทันที่คุณพระจะพูดจบประโยค คุณหญิงกำไลก็สวนขึ้นมาทันที “คุณพี่อย่ามาพูดถึงคำสัตย์ หรือสัญญาอันใด เพราะมันมิเคยมีอยู่จริง” พอพูดจบคุณหญิงกำไลก็เดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองทันที หลังจากวันนั้นคุณกำไลก็ล้มป่วย ทำให้หลานของเธอต้องมาเยี่ยม เด็กหญิงที่เธอเฝ้าดูแลตั้งแค่อ้อนแต่ออก เพราะแม่ของเธอเสียตั้งแต่มันที่คลอดเธอออกมา ทำให้คุณกำไลเลี้ยงเด็กน้อยไม่ต่างจากลูก การมาของหลานสาว เธอทำให้คุณหญิงกำไลที่ป่วยไม่ยอมออกจากห้องถึงกลับยอมออกมาจากห้อง เพื่อออกมาต้อนรับ “หนูกราบค่ะคุณน้ากำไล หรือหนูต้องเรียกคุณหญิงน้าแล้วคะ ตอนนี้หนูอุ่นจบคอนแวนต์แล้ว จักมีเวลามาหาคุณน้าบ่อยๆแล้วนะเจ้าคะ” ความเจื้อยแจ้วของเด็กสาวที่เพิ่งมาถึง ทำให้คนฟังมีรอยยิ้มจากเรื่องทุกข์ได้บ้าง “จบแล้วรึ มิน่า โตเป็นสาว สวยขึ้นเป็นกอง แล้วพ่อกล้าล่ะเป็นยังไง ดูแลหนูอุ่นของฉันไม่ง่ายเลยใช่ไหม แลดูจักซุกซนแก่นแก้วเกินเด็กสาว” พ่อกล้าเป็นลูกของข้าราชการชั้นผู้น้อย ที่พ่อของเค้าเอามาฝากไว้กับท่านเจ้าคุณก่อนจะตาย เพราะพ่อกล้ามีนิสัยถ่อมตัว เจียมเนื้อเจียมตัว ใฝ่ศึกษา และปัญญาดี ต่างจากบ่าวในเรือน ท่านเจ้าคุณที่ไม่มีลูกชายเลยเลี้ยงพ่อกล้าไม่ต่างจากลูก ส่งเสียให้เรียนจนจบหวังจะฝากผีฝากไข้ “คุณหนูเธอน่ารักครับ ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุขทั้งนั้นครับ” “คุณพระท่านไม่อยู่หรือคะหลานยังไม่ได้กราบทักทายเลย” พอพูดถึงคนเป็นสามี หญิงสาวผู้ศักดิ์เป็นน้าก็เศร้าโศกาจนคนที่เห็นตกใจ จนอดไม่ได้ที่จะเข้าไปปลอบ เธอได้แต่โอบปลอบคุณหญิงกำไลเอาไว้ “ป่านนี้สามีฉัน คงไปกกแต่อีนังลูกเศรษฐีในตลาด เห็นบอกว่าสวยนัก ทรวดทรงองเอวอ้อนแอ้น ชายใดเห็นก็เป็นอันรัก เป็นอันหลง พอมันเข้ามาเป็นเมีย คุณพระก็ขลุกอยู่กับมันไม่ว่างเว้น” “ไม่ได้นะคะ คุณน้าไปแต่งตัวสวยเดี๋ยวนี้ มาทำเป็นคนอมทุกข์แล้วยอมเค้าแบบนี้ มิสมเป็นคุณน้าเลย” “น้าหมดใจ เหนื่อยใจ” คุณหญิงกำไลยังคงร่ำไห้หนักกว่าเดิม “ไปแต่งตัวค่ะ หนูอุ่นจักพาคุณพระกลับมา คุณน้าก็เหมือนแม่ของหนูอุ่น เลี้ยงหนูอุ่นมาแต่เล็กแต่น้อย คุณน้าเศร้าแบบนี้ หนูอุ่นก็ปวดใจไม่แพ้กัน” “จักเอากลับมาเยี่ยงไร เค้าหลงทางนั้นอย่างกลับอะไรดี” “ไปแต่งตัวสวยให้หนูอุ่นก่อน” เพราะความช่างตื้อของเด็กสาวทำให้คนเป็นน้ายอมเข้าไปแต่งตัวตามที่เธอว่า ทำให้เด็กสาวต้องวุ่นตามหาคุณพระพิมาน ตามคำบอกเล่าของพวกบ่าว จนมาถึงศาลาริมน้ำ ก็เจอคุณพระกำลังอยู่กับผู้หญิงอีกคน แม้จะเห็นไกลๆ แต่ก็รู้ได้ ว่าสองคนนั้นกอดจูบกันอยู่แน่ๆ “คุณพระ คุณพระเจ้าขาาาา” เธอตะโกนเรียกอยู่ห่างๆ เพราะทั้งสองคนอยู่ในชุดที่ไม่สุภาพเอาเสียเลย บัดสีนัก มาทำอะไรกลางแจ้งแบบนี้ หนูอุ่นได้แต่คิดในใจ ดูเหมือนคุณพระจะไม่ได้สนใจเสียงใสๆของเธอ ทำให้เธอต้องเรียกซ้ำแบบนั้นอยู่หลายครั้ง จนทนไม่ไหวต้องบุกไปถึงศาลา “คุณพระเจ้าขา ช่วยมากับฉันหน่อยเถิด” “เอ็งเป็นใคร กล้าดียังไงเข้ามาขัดจังหวะ ฉันกับเมีย” แต่เพียงคุณพระได้เห็นหน้าเด็กสาว ก็ตกอยู่ในภวังค์ทันที “แล้วน้าของฉันมิใช่เมียหรือจ๊ะ” “น้าหรอ หนูอุ่นหลานคุณหญิงกำไลหรือเนี่ย โตแล้วสวยเพียงนี้เลย แล้วหนูอุ่นมีอะไร” “ไปค่ะ คุณหญิงน้าท่านโศกมาพอแล้ว” เด็กสาวลากแขนคุณพระโดยไม่สนใจ หญิงสาวที่นั่งอยู่ที่ศาลาเลย “คุณพี่คะ แล้วจะมาหาน้องอีกไหม” คุณพระยังไม่ทันได้ตอบ ก็โดนหนูอุ่นลากแขนออกไปเลย แต่คุณพระกลับไม่โกรธ ทำเพียงแค่มองใบหน้าของหญิงสาวแค่นั้น ดวงตากลมโตสะกดทุกการมอง ปลายจมูกเล็กๆน่าสัมผัส ริมฝีปากกระจับได้รูปน่าจับจองเป็นเจ้าของ แต่ภาพทุกอย่างก็ดับวูบ เหลือเพียงเธอกับคุณพระ ภาพในฝันเริ่มเปลี่ยนเป็นห้องที่เธอนอน ผิดแค่ที่เธอนอนมันคือบนเตียงไม่ใช่ที่พื้น “เห็นไหมเล่า ฉันรักหล่อนตั้งแต่แรกเห็นเลย” “หยุดค่ะ...ฉันปรับอารมณ์ไม่ทันค่ะ” “อยู่ที่นี่ต่ออีกหลายวันหน่อย เรื่องราวมันมากมายเหลือเกิน อยู่กับฉัน” คุณพระนั่งลงข้างๆเธอบนเตียง ก่อนจะมอบจุมพิตเบาๆลงที่หน้าผาก ทำให้เธอผลักชายตรงหน้าออก แล้วเอี้ยวตัวหลบไปทางอื่น “ไม่ค่ะ ฉันไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ ฉันไม่ชอบที่จะต้องเป็นน้อย ผู้หญิงทุกคนอยากเป็นเมียเดียว” ประโยคของสายธารทำให้คุณพระโกรธไม่น้อย “แต่ยังไงหล่อนก็เป็นเมียฉันอยู่ดี ฉันจะทำอะไรกับหล่อนก็ได้ แม้จะนอนกับหล่อนต่อหน้าไอ้กล้าก็ย่อมได้ ขอเพียงฉันพอใจ แต่ที่ไม่ทำ เพียงเพราะรอหล่อนยินยอม” คุณพระพยายามจะหอมเข้าที่แก้มขาวนวล แต่โดนหญิงสาวผลักออก “อย่าค่ะ” “ทำไมกับไอ้กล้า ทำไมยังยอมให้มันกอด ทำไมถึงกล้าเอ่ยปากว่ายอมเป็นของมันมากกว่าฉัน” เสียงตวาดดังลั่นจนหญิงสาวรู้สึกลัว แววตาโกรธเกรี้ยวมันทำให้สายธารค่อยๆถอยหนี ด้วยความกลัว ร่างใหญ่คร่อมคนตัวเล็กเอาไว้ สัมผัสที่เย็นเฉียบทำให้เธอพยายามจะดิ้น “อย่านะคะ ฉันขอ” “ก็ทำต่อหน้าไอ้กล้า จะเป็นไรไป อย่างน้อยมันจะได้เจียมตัวแล้วเลิกยุ่งกลับหล่อนเสียที” ศรุต Say:: ทำไมลงมานอนพื้นอีกแล้ววะ ผมมองขึ้นไปบนเตียงเห็นคนตัวเล็กที่นอนดิ้นไปดิ้นมา มากไปแล้วบังอาจขึ้นมาแย่งที่นอนฉันแล้วถีบฉันลงมาใช่มะ แบบนี้ต้องเอาเรื่องซะแล้ว ผมลุกขึ้นมาเปิดโคมไฟที่หัวเตียง “คุณพระ หยุด อย่า” อะไรของยัยนี่ ถึงกลับเอาเรื่องที่ลุงช่วยเล่าไปฝันเลยหรอ ละเมออะไรประหลาด เป็นตุเป็นตะไปหมด “อย่าาาาา อย่าทำแบบนี้ ได้โปรด” แล้วจู่ๆคนที่ละเมอน้ำตาก็ไหลออกมา เอ้ยๆ ฝันอะไรเนี่ยร้องไห้เลยหรอ ผมสะกิดปลุกเธอเบา แต่ดูเหมือนเธอจะหลับลึกเกินไป จนผมต้องเขย่าเธอเบาๆ แต่เธอก็ยังไม่ตื่น หลับลึกไปแล้วแบบนี้ “อย่าจูบ” น้ำตาของเธอยังไหลออกมาไม่หยุด อะไรผมเปล่านะ ยังไม่ได้จะจูบสักหน่อย ผมเปล่านะไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง ผมเขย่าตัวเธอแรงขึ้น พร้อมกับตบที่หน้าของเธอเบาๆ จนตาที่ชุ่มไปด้วยน้ำตาเปิดออก เธอโผล่เข้ากอดผมทันที กอดเลยหรอ เรื่องอะไรวะเนี่ย ร้องไห้แบบนี้ ฝันโดนปล้ำหรอ ใช่แน่ๆ แต่จะกอดไปถึงเมื่อไหร่อะ ถ้ากอดนานอาจจะโดนผมปล้ำได้น้า หัวใจของผมกำลังเต้นผิดจังน้อยๆ ผมได้แต่โอบกอดเธอเอาไว้ แล้วตบหลังปลอบเธอเบาๆ โตมาแบบไหนเนี่ยมานั่งบนเตียงให้ผู้ชายกอดเนี่ย “เค้าจะจูบฉันอะ” “ร้องจะเป็นจะตาย แค่จูบหรอ!!! ไอ้ฉันก็นึกว่าโดนปล้ำ” เออวะ แค่กอดเรายังเป็นคนแรก สงสัยจะจูบแรก ผมเพิ่งเคยเจอผู้หญิงแบบเธอ พ่อแม่เธอเลี้ยงมาแบบไหนเนี่ย “ก็ฉันไม่ชอบนิ จะทำมันก็ต้องเป็นเพราะฉันยินยอมสิ” “เหมือนที่เรากอดกันอยู่แบบนี้รึไง เนียนนะเราอะ จะหลอกแต๊ะอั๋งฉันอีกนานแค่ไหน บอกแล้วใช่ไหมว่าฉันคิดตัง นอนได้แล้วไป พรุ่งนี้จะไปส่ง ไม่ต้องสนใจอดีตอีกแล้ว เพราะตอนนี้เธอคือสายธารตัวแสบ ที่หาเรื่องปวดหัวให้ฉันได้ตลอด อดีตเปลี่ยนไม่ได้ แต่เราอยู่กับปัจจุบัน เพื่ออนาคตเข้าใจไหม” “พูดดีจัง” คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองผม มันทำให้หน้าของเราห่างกันไม่ถึงสองคืบ “ไม่กลัวฉันปล้ำรึไง” ผมถามคนตาใส “ไม่รู้สิคะ ฉันคิดว่าคุณจะไม่ทำ แล้วไม่มีวันทำ ไม่รู้ทำไมฉันถึงเชื่ออะไรโง่ๆแบบนั้น แต่ฉันแค่รู้สึก” อยากงับปากที่ขยับอยู่นั่นจัง ทำไมถึงคิดว่าผมจะไม่ทำ ผมเนี่ยไม่เคยปล่อยให้เหยื่อหลุดรอดเลยนะ คิดว่า 2 คืน รู้จักผมดีแค่ไหนเชียว “คุณเคยรู้สึกเหมือนรอใครรึเปล่า รอทั้งตอนหลับ และตอนตื่น แต่ไม่รู้ว่าเค้าเป็นใคร” ละสายตาจากตาเธอไม่ได้เลย ถ้าบอกว่าผมก็รู้สึก มันจะเป็นผมที่ใจง่ายรึเปล่า แรงดึงดูดของเธอมันมากจังเลย จูบสิรุจ แค่จูบ กับผู้หญิงคนอื่นก็ทำได้ แค่เธอจะกลัวอะไร ความมืดของห้องนอนมีเพียงไฟหัวเตียงสลัวๆเท่านั้น บรรยากาศโคตรดี จูบสิคุณศรุตคร๊าบบบบบ จะถอยก็ถอยไม่ได้ จะจูบก็ไม่กล้า ก็เธอจ้องผมตาไม่กะพริบแบบนี้ ผมทำอะไรไม่ถูก ถ้ายอมก็หลับตาลงสิ หรือไม่ก็เผยอปากรอสิ มาจ้องแบบนี้ใครจะทำอะไรต่อได้ ผมโน้มหน้าให้ใกล้เธอ จนรู้สึกได้ถึงกลิ่นลมหายใจ เธอไม่หนี หรือขยับออก แสดงว่ายอมสินะ “ขอจูบนะ” แต่พอสิ้นเสียง ของบนโต๊ะข้างเตียง ก็เทกระจาดตกลงมาจนเต็มพื้นไปหมด มันทำให้เราทั้ง 2 คนผละออกอย่างอัตโนมัติด้วยความตกใจ เราได้แต่มองหน้ากันแล้วยิ้มออกมา คราวนี้กลายเป็นความเงียบที่ทำให้เรา ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปนอน นอนข้างล่างจะปวดหลังรึเปล่า จะให้ขึ้นมานอนเตียง เราก็ใจง่ายไป ================== “ฮ่าาาๆๆๆๆๆ ฮ่าาาาาา ยิ่งทำเค้าสองคนก็ยิ่งรักกัน ฮ่าาาๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะร่วนอย่างสะใจ ของคุณหญิงกำไล ที่กำลังเราะเยาะเย้ย ชายผู้เป็นสามี ที่ไม่ว่าคิดจะทำลายยังไง ก็หญิงทำให้สายธารกับศรุตใกล้ชิดกันมากขึ้น “หุบปาก!!!” “ผู้ชายมากรัก หรือจะมาสู้ผู้ชายรักเดียว น้องแทบไม่ต้องทำอันใดเลย” ด้วยความโกรธ คุณพระคว้าเข้าที่คอของวิญญาณของคุณหญิงกำไล “ฉันจะไม่ทนให้ไอ้กล้า มาช่วงชิงหัวใจของแม่อุ่นดอก หากหล่อนยังพูดจาไม่เข้าหู มีแต่จะทำให้เจ็บตัว” “พี่จะต้องทนดูมันสองคน รักกันทุกภพ ทุกชาติ ไม่เว้นแม้แต่ชาติที่คุณพี่ได้เป็นเจ้าของแม่อุ่น” พอพูดจบ คุณหญิงกำไลหายวาบไป ======================================
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD