บทนำ
“หนูอุ่นตบแต่งกับฉันแล้ว จะให้ฉันไม่ดูดำ ดูดีได้เยี่ยงไร ในบรรดาเมีย ฉันเอ็นดูหนูที่สุด” ชายหนุ่มวัยกลางคน กำลังกอดรัดและปลอบประโลมหญิงสาว ที่ดูจะเด็กกว่าเค้ามากนักเอาไว้ในอ้อมกอด
“หนูไม่ได้ทำอะไรแม่หยกเลย หนูต่างหากที่โดนแม่หยกทำร้าย”
“พรุ่งนี้ฉันจะจัดการให้ แต่วันนี้ หนูอุ่นให้ฉันชื่นใจหน่อยเถอะ”
แขนใหญ่ค่อยๆดันสาวน้อยวัยใสรุ่นลูกลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากซุกไซ้ไปคอของเด็กสาวเบื้องหน้า จนเหลือเพียงตัวเปล่าเล่าเปลือย แม้มือเล็กๆของสาวน้อยจะปัดป้องปิดของสงวน แต่ก็ต้องโดนมือใหญ่ของคนที่เป็นสามีแกะออก เพราะมันช่างบดบังสายตาเหลือเกิน
คุณพระหนุ่มรูปงามบรรจงฝากริมฝีปากลงบนยอดปทุมถันสวย เสียงหายใจหนักๆของหนูอุ่นทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าตอนนี้เธอคงมีอารมณ์ร่วมไม่ต่างกัน
“ปล่อยเสียงออกมา เรียกชื่อฉัน บอกรักฉัน และเป็นของฉัน”
“หนูเป็นของคุณพระ ทั้งกาย และหัวใจ แต่ถ้าคุณพระรักหนู ต้องรักคุณหญิงกำไลด้วย หนูขอเถอะนะคะ” หนูอุ่นมองชายหนุ่มอย่างคาดคั้นคำตอบ
“ต้องรักสิ คุณหญิงเป็นเมียฉัน ยังไงก็ต้องรัก ว่าแต่หนูอุ่น ต้องเรียกฉันว่าคุณพี่สิ จะเรียกคุณพระให้เป็นอื่นไกลทำไม” เพียงแค่คำตอบเดียวเท่านั้น ที่หญิงสาวอยากได้ยิน เพียงแค่นั้นก็ทำให้หญิงสาวปล่อยตัวของเธอให้ คุณพระครอบครอง
อกสวยถูกชายตรงหน้าบีบเคล้นอย่างเบามือ ทะนุถนอมเธอไม่ต่างจากตุ๊กตากระเบื้องที่จับแรงๆก็กลัวจะแตก ความรักถูกสานถักทอขึ้นในรูปแบบของการสัมผัสทางกาย
“จะใส่แล้วนะจ๊ะ อาจจะยังเจ็บอยู่บ้าง แต่ฉันจะทำเบาๆ” แก่นกายถูกรูดสัมผัสก่อนส่งสู่เนินสวาทสีสวย อย่างเบามืออย่างที่คุณพระได้เอ่ยวาจาเอาไว้
“เจ็บ..เบากว่านี้หน่อยเถอะจะ”
“ไม่เจ็บเท่าครั้งแรกดอก อดทนนิดเดียว”
หญิงสาวพยักหน้าเพื่อรับทราบ ก่อนจะปล่อยให้ท่อนรักของชายผู้เป็นสามี ผ่านเข้ามาทางช่องรักของเธอ แม้จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่ความเจ็บปวดนั้นไม่ต่างกัน เมื่อท่อนรักถูกดันจนสุด เอวสอบก็ทำงานความความใคร่ทันที
“อ่าาาาาส์”
“เสียงหวานแบบนี้ จะพยายามกลั้นเอาไว้ทำไมกัน” คุณพระส่งสายตาสุดแสนปรารถนา เพื่อให้เมียเด็กของตัวเองปลดเปลื้องเสียงหวานๆออกมา
“ซี๊ดดดดด อื้มมมมมมม หนูไม่รู้จะพูดยังไง แต่หนูรู้สึกดี” คำตอบของเมียเด็ก ทำเอาคนฟังรู้สึกดีไม่แพ้กัน
ติ๊ดๆๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกขึ้นมาในตอนเช้า เอาอีกแล้ว ฝันแบบนี้อีกแล้ว สายธารฝันเรื่องนี้ซ้ำแบบเดิมหลายครั้ง ชายหนุ่มคนเดิม คนที่เรียกเธอว่าหนูอุ่น เค้าเป็นใครกันนะ แล้วบ้านหลังนั้นมีจริงไหม คำถามมากมายเกิดขึ้นเมื่อเธอตื่นนอน คุณพระฉันรักคุณขนาดยอมเป็นของคุณเลยหรอ สายธารได้แต่เก็บความสงสัยของตัวเอง เพราะยังไงมันก็เป็นแค่ฝัน
“เฮ้อออ ถ้าเป็นผู้ชาย เค้าคงเรียกว่าฝันเปียกสินะ ไม่ปลื้มเลย”
สาวสวยตัวเล็กจัดการตัวเองเสร็จ ก็ออกมาเข้าครัวตามแบบที่แม่เธอสอน และแน่นอนนี่คือเช้าวันอาทิตย์ วันที่ครอบครัวของเธอจะอยู่พร้อมหน้า มันเป็นกฏของบ้าน ที่ลูกทุกคนต้องกลับมาค้างที่บ้านในคืนวันเสาร์
“แม่คะน้ำช่วยค่ะ”
“เสร็จแล้วลูกยกออกไปได้เลย พี่ๆเค้าคงรอแย่แล้ว” ฟ้าใสบอกลูกสาว ให้ยกกับข้าวที่เสร็จออกไปได้เลย เพราะนี่คงเป็นสิ่งที่เธอจะตอนนี้
“มาแล้ว มาแล้ว หิวจะแย่” อัคคีพี่คนรองพูดขึ้น เมื่อเห็นคนเห็นน้องสาวยกกับข้าวออกมา
ไม่นานคนเป็นน้องสาวก็ยกกับข้าวออกมาวางจนเต็มโต๊ะ กับข้าวที่มากกว่าทุกวัน เพราะอาทิตย์นึงจะมีเพียงแค่วันเดียวที่ทุกคนจะมาพร้อมหน้ากันแบบนี้ เพราะอัคคีโดยปกติจะนอนที่เพ้นท์เฮ้าส์สุดหรูของไนท์คลับ และวายุจะนอนที่รีสอร์ตบ่อน้ำพุร้อน จะได้กลับมาพร้อมหน้ากัน แค่วันอาทิตย์วันเดียวเท่านั้น จะใช้ว่าได้กลับก็ไม่ถูก คงจะใช้คำว่าต้องกลับมากกว่า เพราะมันเป็นกฏของบ้านนิ
“พี่ดิน เอากาแฟไหมคะ”
“ก็ดี ขอบใจนะ”
ปฐพี หรือดินพี่คนโตที่สุดของบ้าน ที่ตอนนี้เค้าดูแลทุกอย่างของบ้านจริงๆ ทั้งงานไร่ งานรีสอร์ตที่มันควรจะเป็นหน้าที่ของสายธาร แต่เพราะหนุ่มๆที่เข้ามาจีบผู้เป็นน้องสาว ปฐพีเลยรับอาสาจากพ่อมาดูแลรีสอร์ตให้ จนกว่าสายธารจะเรียนจบ แต่แม้สายธารจะเรียนจบ อาการหวงน้องสาวก็ทำให้สายธารเลยเป็นได้แค่ผู้ช่วยของดินอยู่ดี
“น้ำขาาา เฮียก็อยากได้กาแฟค่ะ”
“ได้ค่ะ กาแฟหวานของเฮียคี” สายธารพยักหน้ารับ
เฮียคี หรืออัคคี พี่ชายคนรอง สาเหตุที่เป็นคนเดียวที่ต้องเรียกเฮียนั้น อัคคีได้แต่ให้คำตอบเพราะว่าไม่อยากถูกเรียกว่าพี่ เพราะมันไม่เท่ ตั้งแต่เด็กพวกน้องๆเลยต้องเรียกว่าเฮีย อัคคีทำงานดูแลไนท์คลับขนาดใหญ่หลายแห่ง เป็นธุรกิจสีเทาๆที่ไม่ได้ถึงกับผิดกฏหมาย
“พี่วายุไปไหน” สายธารชะเง้อมองหาพี่ชายของตนอีกคน
“รายนั้นคงยังไม่ตื่นหรอก”
“แล้วพ่อละคะ อยากได้กาแฟไหมคะ” สายธารหันไปถามคนเป็นพ่อ
“ไม่ แม่เค้าจัดการให้เรียบร้อยแล้ว”
สายธารเดินเข้าครัวไปอีกครั้งเพื่อชงกาแฟ ตามที่พวกพี่ๆสั่ง สายธารเลยตัดสินใจพูดเรื่องฝันให้คนเป็นแม่ที่อยู่ไม่ไกลฟัง
“แม่คะ ช่วงนี้หนูฝันถี่ขึ้นอีกแล้วค่ะ เกือบทุกวันเลย”
“แม่พาไปวัดดีไหมลูก จะได้ใจเย็นขึ้น”
เมื่อก่อนเธอแค่ฝันเห็นบ้าน แต่ตอนนี้เธอฝันถึงการร่วมรัก มันเริ่มมากขึ้น เหมือนกลับมีใครที่รอเธออยู่ที่บ้านหลังนั้น
“ดีค่ะ ดีเลย ถ้าปล่อยไว้ หนูคงรับมันไม่ไหวแน่ๆ”
“มันมากขึ้นหรอ”
“ค่ะ มันมากขึ้นมากๆเลย เฮ้อออออ” เธอถอนใจก่อนจะยกกาแฟไปให้พี่ชายทั้งสอง
สายธาร Say ::
พอตกช่วงบ่าย แม่พาฉันมากราบพระที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวะเชียงใหม่ บรรยากาศในวัดไม่ต่างอะไรจากวัดป่า แต่มันกลับเงียบสงบ ร่มเย็น ชวนให้สบายใจยิ่งนัก
“ตรงนี้ ยายแจงกับป้าแนนของหนูแนะนำมา บอกว่าศักดิ์สิทธิ์นัก” ฟ้าใสพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“พี่ว่าเธองมงายเกินไปแล้ว” ยอมพามาเพราะแม่อยากให้มา แต่กลับหงุดหงิดในความงมงายของเรา ฉันไม่ได้งมงาย ฉันแค่อยากหาทางหลุดพ้น
“พ่อคะหนูฝัน ฝันว่าหนูมีอะไรกับเค้าทุกคืน ขอเถอะค่ะ หนูทนรับมันไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“มีอะไรกันเลยหรอ!!! ไหนบอกเห็นแค่บ้านไง”
“มันเริ่มมากขึ้น เค้าแทนตัวเองเหมือนเป็นสามีหนู เราร่วมรักกันในเกือบทุกคืน หนูแค่อยากหาย” ฉันพยายามจะอธิบายให้คนเป็นพ่อฟัง แม้ตอนนี้ท่านจะทำหน้าตกใจตาโตเป็นไข่ห่าน
“นี่มานอนกับลูกกูในฝันเลยหรอเนี่ย มากไปแล้ว”
แม่พาฉันเข้ามากราบพระในโบสถ์ พระประธานองค์ใหญ่ตั้งอยู่ในโบสถ์ที่ค่อนข้างจะทรุดโทรม และกราบท่านเจ้าอาวาส เพื่อขอพรให้เป็นสิริมงคล แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร ท่านเจ้าอาวาสก็มองมาที่ฉัน
“มีวิธีไหน ที่จะไล่พวกสัมภเวสีที่มาขอส่วนบุญ ได้ไหมคะหลวงตา”
“ไม่มีสัมภเวสีใด จะทำร้ายลูกโยมได้หรอก นอกเสียแต่ว่า ไม่ใช่”
ฉันต้องตกใจ ที่ท่านเจ้าอาวาสทราบ โดยที่แม่แทบจะไม่ได้พูดอะไรเลย
“นอกจากอะไรคะ หลวงตา” ฉันถามขึ้นด้วยความสงสัย
“เจ้ากรรมนายเวร กงเกวียนมันเริ่มหมุนแล้ว ตั้งสติให้มั่น ทำบุญ สวดมนต์เยอะๆ เรามีสติ ต่อให้ใคร หรืออะไร ก็ทำเราไม่ได้ทั้งนั้น 1 ตนอยู่เพื่อรัก อีกตนอยู่เพื่อทำลาย อาตมาบอกได้แค่นี้ เก็บตะกรุดนี้ไว้ ใส่คอไว้อย่าให้ห่าง ก็จะไม่ฝันได้ในระยะหนึ่ง” หลวงตายิ้มให้ฉันบางๆ ท่านมองฉันเหมือนกับเรารู้จักกัน
“กราบค่ะหลวงตา ขอบคุณมากเลยค่ะ” ฉันก้มกราบหลวงตา ก่อนที่พ่อจะรับตะกรุดจากท่านมาส่งให้ฉัน ท่านมองหน้าพ่อฉันแล้วก็ยิ้มออกมา
“ทำบุญเยอะๆนะโยม”
เรากราบลาท่านเจ้าอาวาสเพื่อกลับไร่ของเรา ในระหว่างตอนที่กลับ มีแมวดำตัวนึงวิ่งตัดหน้ารถ จนเราต้องเบรกเอี๊ยดด!!!! สร้างความตกใจให้เราที่นั่งอยู่ในรถมากๆ
“อะไรวะ จู่ๆก็โผล่มา”
“พี่ไม่ได้ชนมันใช่ไหม” แม่หันไปถามคนเป็นพ่อที่ขับรถอยู่
“ไม่ค่ะ พี่เห็นว่าพี่เบรกทัน ป่านนี้มันคงเข้าข้างทางไปแล้ว เรารีบกลับไร่เถอะ เดี๋ยวจะมืด”