ดาริกามองสบตากับศศิมาที่อมยิ้มและสายตาดูวาววับ หลังจากพูด คุยกับพิมพ์พลอยและรายนั้นวางสายไปได้สักพักแล้ว ศศิมาหยิบโทรศัพท์ ซึ่งพอจะเดาได้ว่า น่าจะมีการโทรฯ หาใครสักคน ดาริกาจึงทำท่าจะลุกออกไปจากบริเวณนั้น
“เดี๋ยวสิ จะไปไหนล่ะ ยังอยากกอดอยู่เลยนะคะ” ศศิมายิ้มและคว้าข้อมือคนที่จะเดินลุกหนีไปเอาไว้
“เห็นจะคุยโทรศัพท์ เผื่อมีความลับอย่างไรล่ะคะ” ดาริกายิ้ม กลับ มานั่งลงที่เดิมและเบียดตัวเข้าหาศศิมาให้ใกล้ชิดมากขึ้น
“ไม่มี๊ ใครมีความลับกับดาว พี่ไม่เคยมีเลยนะคะ”
“เสียงสูงแบบนี้ มีใครแอบไว้ที่รีสอร์ทหรือเปล่า สงสัยต้องลองถามพรรคพวกดูแล้วล่ะแบบนี้ พี่ศศิดูมีพิรุธนะคะ” ดาริกายิ้มทะเล้นให้ศศิมาที่รู้ สึกหมั่นไส้ จึงจูบไปที่ริมฝีปากเรียวสวย ซึ่งตอบรับสัมผัสในทันที
“ฮัลโหล ฮัลโหล วางสายก่อนไม๊ พี่ศศิ ได้ยินเสียงจูบจ๊วบๆ ดังมาถึงนี่เลย ยังไงกันคะ ยังไง” เสียงของคนที่ศศิมาโทรฯ ไปหาดังขึ้น ศศิมากดเปิดเสียง เพราะอยากให้ดาริกาได้ยินด้วย ดาริกาอยากแกล้ง จึงยังคงพรมจูบไปที่ริมฝีปากอันนุ่มนวลของศศิมา ซึ่งก็ไม่ยอมลดราวาศอก
“เดี๋ยวโทรฯ กลับก็ได้ น้อยใจแล้ว” เสียงของพระพายดังขึ้น และมีเสียงหัวเราะดังแว่วๆ ตามมา
“หวัดดี ไต้ฝุ่น” ดาริกายิ้มอายๆ รีบทักทายก่อนที่พระพายจะวางสายไปเสียก่อน
“แพ้แล้ว” ศศิมาพูดขึ้น ยักคิ้วหลิ่วตาใส่ดาริกา
“แพ้ก็ได้ สรุปว่าคืนนี้พี่ศศินอนห้องทำงานนะ” ดาริกาอมยิ้ม
“ไม่เอาสิ เรื่องอะไร พักไว้ก่อนเรื่องนี้” ศศิมาได้ทีรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ไหวไหมคะ พี่ศศิ” พระพายพูดแซว
“เรื่องไหนที่ว่าไหวไหม พี่ฟิตมากนะ ขอบอก” ศศิมาอมยิ้ม เมื่อหันไปเป็นดาริกาทำสายตาดุๆ ใส่อยู่
“ทะลึ่งแล้ว พี่ศศิ คุยธุระได้แล้วค่ะ อายไต้ฝุ่นนะ” ดาริกาบอก
“ไม่เห็นต้องอายเลย ว่าแต่ว่า พี่ศศิฟิตจริงหรือเปล่าคะ ดาว”
“บ้า ไต้ฝุ่นถามอะไรแบบนี้” ดาริกายิ้มอายๆ แต่แววตาศศิมาที่มองมาทำให้ดาริกาจูบศศิมาอีกครั้ง
“ตกลงพร้อมจะคุยกับน้องไหมคะ พี่ศศิ หรืออีกสักชั่วโมง ให้ฝุ่นโทรฯกลับมาใหม่ดี ท่าทางกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่นา” พระ
พายหัวเราะอีกครั้ง
“คุยก่อนก็ได้ มื้อกลางวันว่างไหมเรา” ศศิมาถาม แต่ก็กอดกระชับดาริกาให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
“จะมาทานข้าวที่โรงแรมหรือคะ”
“เปล่า จะชวนไปติดดิน กินส้มตำเจ้าอร่อยข้างทาง สนใจไหม” ศศิมาถามหันมาจูบแก้มดาริกาที่ยิ้มอายๆ อยู่ในอ้อมกอด
“ได้ค่ะ แต่ชุดทำงานที่ใส่อยู่ มันไม่ค่อยติดดินนะคะ ไปได้ใช่ไหม”
“ไฮโซ ว่างั้น” ศศิมาอมยิ้ม
“เบื่อคำว่า ไฮโซ มีบางคนจะไม่คบเพราะไฮโซนี่ล่ะ” พระพายบ่นพึมพำ
“เออ โทรฯ มาฟ้องพี่อยู่ เพิ่งวางสายไปเมื่อสักพักนี่เอง”
“คงเกลียดขี้หน้าฝุ่นมากสิ” พระพายพูดเสียงอ่อยๆ
“ไม่หรอก ถ้าเกลียดล่ะก่อ ไอ้พลอยจะไม่พูดด้วยเลยสักคำ ถ้ายังพูดคุยด้วย ถือว่า มีไมตรี” ดาริกาบอก
“ขอบคุณที่ปลอบนะ ดาว”
“เปล่า ไม่ได้ปลอบ พูดเรื่องจริง”
“ส้มตำ ข้างออฟฟิศไอ้พลอย อร่อยมาก ว่างก็ตามมา แล้วแต่ฝุ่นนะ ว่าอยากไปหรือเปล่า” ศศิมาพูดทิ้งไว้แค่นั้น แล้วก็วางสายไป พระพายยิ้มนึกขอบคุณในความมีน้ำใจของศศิมา แต่แอบกังวลว่า การไปของตัวเองนั้น จะเป็นการสร้างความรู้สึกอึดอัดและไม่
สบายใจให้อีกคน
“คิดอะไรอยู่คะ พี่ศศิ” ดาริกาถาม
“คิดอะไรคะ” ศศิมาถามกลับ
“จับสองคนมาเจอกัน”
“พลอยเป็นคนดี ไต้ฝุ่นเป็นคนดี พี่ว่าน่าจะเป็นมิตรกันได้ หรือถ้าเกิดว่า จะเกินมิตรก็จะดีมากที่สุด” ศศิมายักไหล่เล็กน้อย เมื่อเห็นดาริกาขมวดคิ้วเหมือนมีคำถาม
“ท่าจะยากนะ ดาวว่า”
“ตอนพี่จีบดาว ก็ยากอยู่นะ” ศศิมายิ้ม
“เหรอ ดาวจีบพี่มากกว่าหรือเปล่าคะ”
“เฮ้ย จริงดิ จีบตอนไหนกัน” ศศิมาแกล้งทำท่าคิด และนึกไปถึงวันที่ดาริกาช่วยปลอบโยนครั้งที่ร้องไห้ออกมาจากร้านของคน
ที่เคยตกหลุมรัก
“ตั้งแต่ร้านกาแฟวันนั้น วันที่ตามพี่ศศิไปที่รีสอร์ท” ดาริกายิ้มอายๆ
“ขอบคุณนะคะ ที่เป็นห่วง ขอบคุณที่อยู่ข้างๆ กันมาตลอด ขอบคุณที่ทำให้รู้จักความรัก ขอบคุณที่ทำให้สุขใจ ทดสอบความฟิตของพี่หน่อยไหมล่ะ เดี๋ยวไปเจอไต้ฝุ่นจะได้ตอบคำถามเรื่องความฟิตของพี่ได้” ศศิมาหัวเราะเสียงดังลั่น แต่แค่เพียงครู่เดียว เพราะมืออันนุ่มนวลและอบอุ่นของดาริกาซึ่งกำลังโอบเอว และเลื่อนเข้าไปภายใต้อาภรณ์กำลังลูบไล้อยู่บริเวณแผ่นหลังนั่นกำลังทำให้รู้สึกร่างกายมีไฟเริ่มปะทุขึ้น จูบอันอ่อนโยนของศศิมา จึงเริ่มเติมความหวานและทวีความเร่าร้อนให้กับดาริกา หลังจากที่ตะขอเสื้อตัวในมีเสียงดังคลิกและมืออันร้อนผ่าวของดาริกา กำลังเริ่มสำรวจไปยังเนื้อเนินอกอันสวยงามและได้รูป ถึงแม้จะเพียงแค่สัมผัสไม่ได้มองเห็นด้วยตา แต่การลูบไล้คลึงเคล้าก็ทำให้ดาริการับรู้ได้ถึงความสวยงามของคนที่กำลังจูบเธอ จนแทบจะลืมหายใจ
“ร้ายนักนะ เผลอนิดเดียว รุกขนาดนี้เลย” ศศิมาหอบหายใจเล็กน้อย มองดาริกาด้วยสายตาวาววับ ก่อนที่จะช่วยปลดเปลื้อง
อาภรณ์ตัวนอกของดาริกาออก
“สายตาพี่ศศิ ท้าทายดาวทำไมล่ะ”
“ดีเลย ถ้าอย่างนั้น ท้าสักสองสามชั่วโมง” ศศิมายิ้มทะเล้นให้และเริ่มรุกเร้าคนที่ยิ้มอายๆ ไม่ยอมมองสบตาด้วย แต่กำลังปลดเปลื้องอาภรณ์ของศศิมาออก จนไม่เหลือเลยสักชิ้น
ความคิดถึงจากการที่นานๆ ครั้งจะได้พบกัน ทำให้ทั้งสองสาวอยากบอกความรู้สึกที่มีอยู่ให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ศศิมาตะกองกอด
และสัมผัสดาริกาอย่างทะนุถนอม อยากให้คนที่กำลังเบียดตัวเข้าหานั้น รู้สึกได้ถึงความรักที่มีอยู่มากมาย อยากให้รู้สึกสุขใจ อบอุ่น
และปลอดภัย ยามเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกันแบบนี้ แต่ความเย้ายวนของเนินอกอันอบอุ่นที่กำลังเบียดเข้าทักทายเนินอกของศศิมากำลังทำ
ให้ไฟที่ค่อยๆ ทวีขึ้นนั้น โหมความเร่าร้อน และเหมือนฝ่ายที่กำลังยั่วเย้าดูออกจะรู้สึกดีกับความร้อนแรงดั่งไฟของศศิมา ซึ่งกำลังพรมจูบสำรวจเรือนร่างของดาริกาอย่างเร่าร้อน เรือนร่างของทั้งสองมีหยดน้ำผุดออกมาให้เห็น เสียงลมหายใจถี่กระชั้นเมื่อร่างกายเบียด
ชิดเข้าหากัน ดาริการู้สึกได้ว่า ร่างกายของเธอลอยละล่อง เมื่อถูกรุกเร้าจนแทบจะขาดใจเสียให้ได้ ความรักที่มี ทำให้ดาริกามอบความหอมหวานจนร่างกายของศศิมาเกร็งและกอดรัดดาริกาเอาไว้แนบแน่น เสียงหายใจของทั้งสองแผ่วเบาลง ศศิมากอดกระชับดาริกาเอาไว้ด้วยความรัก อมยิ้มกับความน่ารักและเร่าร้อนของคนที่กอดกระชับเธอเอาไว้เช่นกัน จูบเล็กๆ สัมผัสไปที่ปลายจมูกของดาริกาที่หลับ ตาพริ้มด้วยอยากซึมซับช่วงเวลาแห่งความสุขนี้เอาไว้ในหัวใจ
“อีกหน่อย คงได้ตายคาอกเนอะ” ศศิมาพูดจบก็หัวเราะคิกคัก
“ไม่ได้แก่ขนาดนั้นนะคะ อยู่กับดาวอีกสักร้อยปีก่อน” ดาริกาอมยิ้มแอบชำเลืองไปที่หน้าอกอันสวยงามของศศิมาที่ทับอยู่บน
เรือนร่างของเธอ
“วันหนึ่งมันจะหย่อนยาน ไม่ได้สวยอย่างที่เห็น ยังจะรักพี่เหมือนวัน นี้หรือเปล่า” ศศิมาถาม
“พี่ศศิสวยสำหรับดาวเสมอ ถึงแม้ตรงนี้จะเป็นถุงกาแฟก็เถอะ”
“เดี๋ยวเถอะนะ”
“จะทำอะไรดาว ยังมีแรงอยู่อีกหรือ” ดาริกายิ้มทะเล้นให้
“มีสิ อย่ามาท้านะ คนดี” ศศิมาพรมจูบไปที่ริมฝีปากของดาริกา
“ขอบคุณนะคะ ที่เอ็นดูดาวมากมายขนาดนี้” ดาริกายิ้มมองสบตากับคนที่กำลังจ้องมองอยู่ด้วยแววตาที่แสนจะอบอุ่นและอ่อนโยน
“พี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณ ดาว ที่ทนคนอายุเยอะๆ ขี้บ่นได้”
“บ้า ไม่เห็นจะขี้บ่นเลย ที่บ่นบ้างก็เพราะห่วง ดาวรู้ ดาวรักพี่ศศินะ รักมาก จนไม่รู้จะบอกว่า มากมายขนาดไหน การดูแลเอาใจใส่ที่ดาวมีให้จะเป็นการบอกเองว่า ดาวรักพี่ศศิ รักมากๆ” ดาริกายิ้ม เอามือแนบไปที่ใบหน้าของศศิมาที่เอียงแก้ม เพื่อรับสัมผัสอันอ่อนโยนนั้น
“พี่อยากขอดาวแต่งงานนะ อยากบอกทุกคนว่า พี่รักดาว อยากให้เกียรติดาว อยากให้พ่อกับแม่ดาวสบายใจที่ยอมให้ลูกสาว
มาอยู่กับพี่”
“บ้าจะแต่งทำไมกัน พี่ศศิเป็นแบบนี้ก็ดีที่สุดแล้วค่ะ เรื่องพ่อกับแม่สักวันท่านคงเข้าใจ ความรักของพี่ศศิจะทำให้ท่านรู้ว่า ดาว
รักคนไม่ผิด”
“ตอนไปกราบ ไม่โดนไล่ออกจากบ้านมาก็บุญแล้ว ตาเขียวปั๊ดเชียว”
“นินทาพ่อแม่ดาว เดี๋ยวไม่รักเลยนะ” ดาริกายิ้มจางลง
“เราจะผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร อย่างนั้นใช่ไหมคะ แม่สาวน้อย” ศศิมาแกล้งกัดเบาๆ ไปที่จมูกโด่งๆ
ของดาริกา
“แน่สิ บอบช้ำขนาดนี้ล่ะก็ ทิ้งกันล่ะมีหวังได้ตายกันไปข้างหนึ่ง” พูดจบดาริกาอดขำไม่ได้กับคำพูดของตัวเอง
“กลัวจะถูกทิ้งมากกว่า”
“ทิ้งปุ๊บคนอื่นก็มาคว้าไป เรื่องอะไรจะทิ้ง รอสักอายุหกสิบก่อนค่อยทิ้งเนอะ ตอนนั้นคงขายไม่ออกแล้ว” ดาริกาอมยิ้ม
“ไม่สงสาร คนแก่หรือคะ” ศศิมาแนบใบหน้าไปที่เนินอกอันอบอุ่นของดาริกา ซึ่งกำลังโอบกอดศศิมาเอาไว้
“ไม่สงสาร แต่จะรักให้มากขึ้นเรื่อยๆ จะดูแลจนแก่จนเฒ่า จะไม่ทิ้งไปไหน จะรักและดูแลพี่ศศิอยู่แบบนี้ จนกว่าพี่ศศิจะเบื่อแล้ว
ไล่ดาว”
“พี่ดูเป็นคนใจร้าย ใจดำขนาดนั้นเลย หรือ”
“ใจดี น่ารักที่สุดเลยค่ะ”
“ปากหวาน” ศศิมายิ้ม เบียดตัวแนบใบหน้าให้เบียดชิดกับเนินอกอันนุ่มนวลของดาริกาให้มากขึ้นอีก
“มากไหมล่ะ เห็นจูบแทบจะหยุดหายใจ” ดาริกาอมยิ้ม
“อยากอยู่แบบนี้นานๆ ไปอยู่กับพี่ที่รีสอร์ทเถอะนะ รับงานน้อยๆ ไม่ต้องทำเลยก็ได้ ไปเป็นเลขาก็ได้ เอ๊ะไปเป็นคนรู้ใจดีกว่า พี่จ่ายค่าจ้างตามที่ดาวเรียกร้องเลย ให้สองเท่าเลยก็ได้ นะ นะ ไปอยู่รีสอร์ทนะ รู้ไหมเวลาคุยกันก่อนเข้านอน คิดถึงแทบขาดใจ” ศศิมาอ้อน แต่คนได้ฟังแอบอมยิ้มและจูบเบาๆ ที่ศีรษะของคนที่อยู่ในอ้อมกอด
“มีเงินจ้างดาวหรือคะ ค่าจ้างแพงนะ”
“ทั้งตัวและหัวใจพอไหม พูดแบบนี้แสดงว่า ใจอ่อนล่ะสิ” ศศิมาเงยหน้ามามองสบตากับดาริกาที่กำลังทำท่าขบคิด
“บางทีเวลาคิดถึงมากๆ แทบอยากจะขับรถฝ่าความมืดไปหา แต่ถ้าทำอย่างนั้นมีหวังโดนพี่ศศิบ่นจนฟ้าสางแน่ๆ ไปๆ มานะ
เพราะบางงานดาวก็ต้องเข้ากรุงเทพฯ” ดาริการู้สึกสุขใจที่ได้เห็นรอยยิ้มกว้างๆ และดวงตาที่แสนสดใสของศศิมา
“เย้ ดีใจจัง รักดาว รักดาว รักดาว เย้”
“เบาๆ หน่อย ชาวบ้านแตกตื่นกันพอดีคะ” ดาริกายิ้มกับความน่ารักของศศิมาที่แสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้า
“เดี๋ยวทานกลางวันแล้ว แวะไปเยี่ยมพ่อกับแม่กันนะ อยากบอกข่าวดีให้ท่านทราบ ว่าลูกสาวไม่ต้องทนเหงาแล้ว” ศศิมายังคง
ยิ้มอย่างมีความสุข
“ชอบแววตาแบบนี้จังเลย ชอบรอยยิ้ม ชอบแววตาสดใสของพี่ศศิ”
“ชอบก็ต้องอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ อยู่ห่างปุ๊บนะ แววตาเศร้า รอยยิ้มหายเลยนะ จะบอกให้” ศศิมายิ้มทะเล้น มองแววตาอันอุ่นของดา
ริกา ไม่รู้จะบอกว่ารักมากมายขนาดไหน ไม่รู้จะบอกออกไปอย่างไร ว่าความสุขมันเต็มล้นอยู่ในหัวใจ เพราะดาริกา ผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงที่มีแววตาอบอุ่น
“เชื่อได้ไหม ได้ข่าวว่ารับพนักงานสาวสวยมาใหม่”
“เชื่อสิ พี่รักเดียวใจเดียวนะ จะบอกให้”
“พิสูจน์สิคะ”
“ยังไงล่ะคะ” ศศิมามองสบตากับดาริกาที่กำลังเอานิ้วแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง
“จูบหรือ ชอบเวลาพี่จูบใช่ไหมล่ะ” ศศิมาถาม แล้วจูบเล็กๆ ไปที่ริมฝีปากที่กำลังเผยอยิ้มน้อยๆ ออกมาก
“ชอบทั้งตัวแหละ แต่เราไปอาบน้ำดีกว่าไหม ไปช้า ไอ้พลอยหนีไปกินข้าวกับคนอื่น จะเสียแผนพี่ศศินะคะ” ดาริกาจูบเล็กๆ ไป
ที่หน้าผากของคนที่ยิ้มๆ แบบมีเลศนัย
“ถ้าเป็นอย่างที่คิด ก็คงจะดี”
“จอมวางแผน แต่ดาวว่า เสียแผนแน่ๆ ไอ้พลอยไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน แล้วไต้ฝุ่นเอง อาจจะแค่อยากเป็นเพื่อนก็ได้นะคะ”
“รอดูกันต่อไป ไปค่ะ อาบน้ำ เดี๋ยวพี่ฟอกสบู่ถูกตัวให้สะอาดเอี่ยมเลยนะ นะ”
“นี่ อย่าไปทำสายตากรุ่มกริ่มแบบนี้ใส่ผู้หญิงคนอื่นเชียวนะ ดาวน่ะ เวลาหึง ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมนะจะบอกให้”
“หูยดุเสียด้วยนะ แววตาแบบนี้จะเก็บไว้แทะโลมดาวคนเดียว สัญญา” ศศิมาหัวเราะ ก่อนที่จะรีบวิ่งแจ้น โดยไม่มีอาภรณ์ใดๆ
เข้าห้องน้ำไปก่อน