“แล้ววันนี้ลูกพลอยจะออกไปไหนหรือเปล่าล่ะ ถ้าจะไปไหนให้เดวิดขับรถไปให้นะลูก”
หล่อนเบือนหน้าไปมองบอดี้การ์ดสุดหล่อ ก่อนจะปฏิเสธเสียงแข็ง
“ก็บอกแล้วไงคะว่าพลอยเอาตัวรอดได้ พลอยไม่จำเป็นต้องมีใครมาคุ้มครองหรอกค่ะ”
“แต่ลูกพลอยอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนครั้งก่อนหน้านี้ก็ได้นะลูก”
วิชาญดึงมือเล็กนุ่มนิ่มของลูกสาวขึ้นมากุมเอาไว้
“เชื่อพ่อสักครั้งเถอะลูก
แววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของบิดาทำให้พราวพลอยจำต้องรับปาก เพราะไม่อยากทำให้บิดาไม่สบายใจเพิ่มมากขึ้นไปกว่านี้
“ค่ะ ถ้ามันจะทำให้คุณพ่อสบายใจ”
วิชาญระบายยิ้มออกมา แววตาคลายวิตกกังวลลงไปมาก
“ขอบใจมากลูกพลอย”
“งั้นพลอยขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
“ตามสบายเถอะลูกพลอย”
พราวพลอยฝืนยิ้มให้กับบิดา ก่อนจะปรายตามองสรินนาซ้ำอีกครั้ง
“ส่วนเธอนั่งคุกเข่าต่อไปเรื่อยๆ นะ จนกว่าจะเที่ยงวัน”
“ลูกพลอยพ่อว่า...”
“คุณพ่อคะ ถ้าอยากให้พลอยมีบอดี้การ์ด คุณพ่อก็ต้องตามใจพลอยเรื่องนี้ค่ะ”
“แต่หนูนาจะเป็นลมเอานะลูกพลอย”
“คุณพ่ออย่าเป็นห่วงอะไรแม่นี่นักเลยค่ะ ตอแหลเก่งแบบนี้ ไม่ตายง่ายๆ หรอกค่ะ” หล่อนสาดคำพูดชิงชังใส่สรินนาก่อนจะย่ำเท้าเดินจากไป
วิชาญทำได้แค่ถอนใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะหันไปพูดกับเดวิดที่ยืนนิ่งเงียบ
“คุณไปเตรียมตัวให้พร้อมนะเดวิด ไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วโมง ลูกพลอยก็น่าจะออกไปข้างนอก”
“ครับท่าน”
เดวิดตอบรับ ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป ท่ามกลางสายตาลุ่มหลงของสรินนาที่มองตามเรือนร่างกำยำไปไม่วางตา
“ส่วนหนูนาจะไปทำอะไรก็ไปเถอะ ไม่ต้องคุกเข่าแล้วล่ะ”
“นายังไปไหนไม่ได้หรอกค่ะท่าน จนกว่าคุณพลอยจะพอใจ...”
“เธอก็รู้นี่ว่าลูกพลอยปากร้ายไปอย่างนั้นแหละ จริงๆ แล้วไม่ได้คิดจะทำอะไรเธอหรอก ลุกขึ้นได้แล้ว”
สรินนาส่ายหน้าไปมา
“นาไม่อยากทำให้คุณลุงเดือดร้อนค่ะ ให้นาอยู่ตรงนี้ต่อไปเถอะค่ะ”
“เธอนี่ดื้อขึ้นเยอะนะ หนูนา”
“เอ่อ... นาขอโทษที่ทำให้คุณลุงไม่พอใจค่ะ”
สรินนารีบเสแสร้งขอโทษขอโพย
“ไม่ต้องขอโทษฉันหรอก เพราะฉันก็แค่ไม่เคยเห็นเธอดื้อแบบนี้มาก่อนเท่านั้นเอง”
เพราะปกติวิชาญจะเห็นสรินนาว่านอนสอนง่ายเสมอมา แต่วันนี้กลับดื้อดึงจึงแปลกใจ
“นาแค่... ไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อนค่ะ ถ้าจะมีใครสักคนเดือดร้อน ให้นาเป็นคนนั้นเถอะค่ะ”
วิชาญกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างเหนื่อยหน่าย
“งั้นก็ตามใจเถอะ ถ้าไม่ไหวก็กลับเข้าบ้านก็แล้วกันนะหนูนา”
สรินนาตอบรับด้วยการผงกศีรษะ และทำหน้าเศร้าสร้อยเรียกความเมตตา
“ค่ะ คุณลุง”
วิชาญหมุนตัวเดินกลับเข้ามาภายในบ้านและก็เจอกับดาราเข้าพอดี
“ท่านไปไหนมาเหรอคะ”
“ฉันพาลูกพลอยไปเจอเดวิดน่ะ”
“เดวิด?”
ดาราทำท่าครุ่นคิดก่อนจะพูดขึ้นเมื่อนึกออก
“อ๋อ... บอดี้การ์ดของคุณพลอยใช่ไหมคะ”
“ใช่”
วิชาญตอบรับ ก่อนจะเดินไปทรุดนั่งบนโซฟา โดยมีดาราเดินตามไปด้วย
“แล้วคุณพลอยเธออาละวาดไหมคะ”
“ทำไมลูกพลอยจะต้องอาละวาดด้วยล่ะ”
วิชาญตวัดตามองหน้าดาราอย่างไม่พอใจกับสิ่งที่ได้ยิน
ดารารีบตีหน้าซื่อ และรีบอธิบาย
“คือดา... ดาเห็นคุณพลอยเธอไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ดาก็เลยคิดว่าเธออาจจะไม่ชอบที่มีบอดี้การ์ด...”
“ถึงลูกพลอยจะไม่ชอบ แต่มันจำเป็น”
วิชาญปรายตามองหน้าเมียใหม่
“เธอก็รู้นี่ว่าพักนี้ลูกพลอยถูกปองร้าย ซึ่งฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าคนพวกนั้นเป็นใคร”
“อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้นะคะท่าน”
ดาราเดินอ้อมมาหยุดด้านหลังของวิชาญ และเอามือนวดต้นคอให้อย่างเอาใจ
“สามครั้งติด ฉันว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้วล่ะ ฉันไม่ต้องการให้วัวหายแล้วค่อยล้อมคอก เธอเข้าใจไหม ดารา”
“ดาเข้าใจท่านเสมอค่ะ”
หากตอนนี้วิชาญมองเห็นใบหน้าของดารา เขาคงจะสยดสยองไม่น้อย
“ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ไง ฉันถึงเลือกเธอขึ้นมาเป็นเมีย”
“ดาขอบพระคุณท่านมากค่ะที่เมตตาดากับยายนา”
“ไม่ต้องขอบอกขอบใจฉันหรอก มันเป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำ เพราะสิ่งที่ฉันให้เธอ มันยังเทียบไม่ได้กับการที่เธอช่วยเลี้ยงดูลูกพลอยเลย”
ดารายิ้มเย็นชาอยู่เหนือศีรษะของคนที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่เบื้องหน้า
“ดายินดีทำเพื่อท่านทุกอย่างค่ะ”
วิชาญไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก นอกจากดื่มด่ำกับการนวดต้นคอที่ดารากำลังมอบให้
‘แต่ถึงท่านจะใจดีกับดากับลูกแค่ไหน แต่ดาก็ไม่เคยแทนที่คุณพริ้มในใจของท่านได้เลย’
ดาราคิดอย่างเจ็บแค้น เมื่อตัวเองเป็นได้แค่เมียบ่าว ที่ถึงแม้จะได้รับการตกแต่งตามประเพณี แต่กลับไม่ได้จดทะเบียนสมรสอย่างที่ควรจะเป็น
สมบัติทุกชิ้นของกิติวิริยะ ก็ยังคงเป็นของพราวพลอยเหมือนเดิม
แต่หล่อนไม่มีทางยอมง่ายๆ หรอก ไม่มีทางยอมให้มันเป็นแบบนี้เด็ดขาด