ตอนที่ 1
พราวพลอย กิติวิริยะ ลูกสาวคนสวยของท่านพันตำรวจตรี วิชาญ กิติวิริยะ หญิงสาวอายุยี่สิบเอ็ดปีบริบูรณ์ และเพิ่งจะจบชั้นปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังมาหมาดๆ
พราวพลอยถูกเลี้ยงอย่างตามใจ เพราะท่านวิชาญสงสารบุตรสาวที่ต้องกำพร้าแม่มาตั้งแต่เล็ก และถึงว่าท่านวิชาญจะแต่งงานใหม่อีกครั้งกับต้นห้องคนสนิทของอดีตภรรยาผู้ล่วงลับไปแล้ว แต่ความรักความเมตตาที่ท่านวิชาญมีต่อลูกสาวนั้นก็ไม่เคยลดน้อยถอยลงเลย มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะไม่ว่าลูกสาวคนสวยจะต้องการอะไร เขามอบให้ทุกอย่าง ยกเว้นก็แค่ดาวกับเดือนเท่านั้น ที่เขาไม่สามารถสอยลงมาให้กับพราวพลอยได้
แม้พราวพลอยจะเป็นเด็กเอาแต่ใจ แต่เนื้อแท้แล้วหญิงสาวเป็นคนใจดี มีเมตตา หล่อนมีเพื่อนสนิทมากมาย หนึ่งคนนั้นก็คือ สรินนา ลูกติดของดารา ต้นห้องของมารดาที่ตอนนี้ได้เลื่อนขั้นเป็นเมียตบเมียแต่งของบิดาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง
ความสัมพันธ์ของหล่อนกับสรินนาแนบแน่น หล่อนแบ่งปันทุกอย่างให้กับสรินนา เพราะเห็นว่าสรินนาน่าสงสาร แต่แล้วหล่อนก็พบว่าสรินนาไม่ได้จริงใจกับหล่อนแม้แต่นิดเดียว
ภายใต้ใบหน้าเรียบร้อยอ่อนโยนและดวงตาอันเศร้าหมองของสรินนาได้ซ่อนความอิจฉาริษยาเอาไว้มากมายจนน่าตกใจ
สรินนาใส่ร้ายหล่อน นำหล่อนไปพูดเสียๆ หายๆ ให้กับเพื่อนๆ ฟัง ในขณะที่ต่อหน้าของหล่อน สรินนาทำตัวเป็นคนดี คนน่าสงสาร
หล่อนมารู้เช่นเห็นชาติของสรินนาก็ตอนที่อยู่ปริญญาตรีปีที่หนึ่ง และหลังจากนั้น หล่อนก็ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับสรินนาอีกเลย
สรินนาเรียกร้องความสงสารจากทุกคนได้อย่างแนบเนียน และไม่ว่าหล่อนจะพยายามอธิบายอะไรออกไปมันก็ไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง จนหล่อนเลิกที่จะสนใจไยดีกับการกระทำของสรินนาอีกต่อไป
ชีวิตของหล่อนเหมือนจะสงบสุขขึ้น เมื่อไม่ต้องข้องแวะกับสรินนา แต่แล้วโชคชะตาก็ทำให้หล่อนต้องเข้าไปพัวพันกับผู้หญิงหน้าซื่อใจคดอย่างสรินนาอีกครั้ง เมื่อบิดาได้ว่าจ้างบอดี้การ์ดเข้าให้มาดูแลหล่อน หลังจากที่หล่อนถูกดักทำร้าย ซึ่งบอดี้การ์ดคนนั้นคืออดีตทหารรับจ้างสัญชาติอเมริกัน ชื่อว่า เดวิด บราวน์
เดวิด เป็นผู้ชายที่ตัวโตมากๆ หุ่นล่ำสัน มีกล้ามเนื้อไปทุกสัดส่วน บอกให้รู้ว่าเขาได้รับการฝึกฝนแบบทหารมาอย่างเข้มข้นแค่ไหน
หล่อนจำได้ว่าตนเองจับจ้องมองผู้ชายคนนี้อย่างลืมตัวอยู่นาน จนกระทั่งถูกเสียงบิดากระแอมเตือนนั่นแหละ จึงได้สติ แต่ไม่ใช่แค่หล่อนคนเดียวหรอกที่เห็นเดวิดแล้ว
หัวใจเต้นสะท้าน เพราะสรินนาเองไม่ต่างกัน หล่อนเห็นอดีตเพื่อนสนิทจ้องมองเดวิดไม่วางตาเลยทีเดียว
“ลูกพลอย นี่เดวิดนะ เขาจะมาเป็นบอดี้การ์ดให้กับลูก”
“ความจริงพลอยไม่จำเป็นต้องมีบอดี้การ์ดหรอกค่ะคุณพ่อ พลอยไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครสักหน่อย”
พราวพลอยเอ่ยตอบบิดา และก็ไม่ปรายตามองเดวิดอีกเลย ไม่ใช่ว่ารังเกียจรังงอนอะไรเขาหรอกนะ แต่ว่าหล่อนรู้สึกประหม่ายามสบสายตากับดวงตาสีฟ้าจัดของเขาต่างหาก
หัวใจไม่เคยเต้นแรงแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลย
“ทำไมคุณพลอยถึงปฏิเสธความหวังดีของคุณลุงแบบนี้ล่ะคะ มันไม่เหมาะนะคะ”
สรินนาสอใส่เกือกเอ่ยขึ้นก่อนที่บิดาจะทันได้ตอบออกมาเสียอีก
หล่อนตวัดตามองสรินนาที่ยืนตีหน้าเรียบร้อยด้วยความหมั่นไส้ และด้วยนิสัยที่ปากตรงกับใจเสมอ ทำให้พราวพลอยโต้แย้งออกไปอย่างเจ็บแสบ
“ฉันคิดว่าเธอไม่ควรเสนอหน้าออกความคิดเห็น เพราะฉันไม่ได้ต้องการคำแนะนำจากเธอ”
“เอ่อ... นาขอโทษค่ะคุณพลอย”
สรินนาบีบน้ำตาให้ไหลออกมาได้อย่างที่ใจสั่ง มันน่าทึ่งและน่าสมเพชมากในสายตาของพราวพลอยที่รู้ทันผู้หญิงคนนี้ แต่คนอื่นคงจะกำลังสงสารสรินนากันยกใหญ่เลยทีเดียว โดยเฉพาะพ่อบอดี้การ์ดหุ่นล่ำน่าปล้ำอย่างเดวิด เพราะหล่อนเห็นเขามองสรินนาด้วยแววตาอ่อนโยน ก่อนจะตวัดมองหล่อนด้วยสายตาที่ให้ความรู้สึกตรงกันข้ามกัน
“อย่ามาตอแหล”
“ลูกพลอยพอเถอะ อย่าไปว่าหนูนาเลย หนูนาคงแค่หวังดีน่ะลูก”
“หึ... หวังดีประสงค์ร้ายสิไม่ว่า เมื่อไหร่คุณพ่อจะมองผู้หญิงคนนี้ออกคะ ว่าผู้หญิงคนนี้เลวแค่ไหน”
“หนูนาไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกลูกพลอย”
“ทำไมคุณพ่อจะต้องปกป้องผู้หญิงคนนี้ด้วยคะ ลูกก็ไม่ใช่สักหน่อย”
หล่อนโมโหบิดาจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่
“คุณลุงขา อย่าไปตำหนิคุณพลอยเลยค่ะ นาผิดเองที่พูดขึ้นโดยไม่ทันคิด”
สรินนาแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าพราวพลอย และคุกเข่าลงกับพื้น ท่ามกลางความตกใจกับทุกคน รวมถึงพราวพลอยด้วย เพราะไม่คิดว่าสรินนาจะเล่นใหญ่เบอร์นี้
“คุณพลอยคะ... นาขอโทษค่ะ”
พราวพลอยเมินหน้าหนีอย่างสมเพชดาราเจ้าบทบาทตรงหน้า ในขณะที่เดวิดก้าวมารั้งให้สรินนาลุกขึ้นยืน
“คุณลุกขึ้นเถอะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ นา... นาทำให้คุณพลอยไม่สบายใจ นาสมควรทำแบบนี้แล้วล่ะค่ะ”
“ลูกพลอย พ่อว่า...”
“อยากคุกเข่าก็ทำไป แล้วอย่าลุกล่ะ เพราะฉันไม่มีทางให้อภัยคนปากว่าตาขยิบแบบเธอหรอก”
พราวพลอยยิ้มดูแคลน หล่อนก็อยากจะรู้นักว่าสรินนาจะคุกเข่าต่อไปอีกนานแค่ไหน
“นายินดีค่ะ ถ้าเป็นความต้องการของคุณพลอย...”
พราวพลอยมองสรินนาอย่างรู้เช่นเห็นชาติ “ตอแหลได้โล่เลยนะหล่อนน่ะ”
“ลูกพลอย...” บิดาปรามหล่อน
“คุณพ่อคะ ผู้หญิงคนนี้หน้าไหว้หลังหลอก เมื่อไหร่คุณพ่อจะรู้สักทีคะ”
สรินนาแกล้งทำเป็นสะอื้นดังๆ เรียกร้องความเห็นใจจากทุกคน และมันก็ได้ผล
วิชาญถอนใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ เพราะจะขัดใจลูกสาวมากก็ไม่ได้ ทั้งๆ ที่สงสารสรินนาไม่น้อยเลยทีเดียว