EP.03 ผู้หญิงอีกคน

2028 Words
03 ผู้หญิงอีกคน วันต่อมา... ก๊อก~ ก๊อก~ "ขออนุญาตค่ะท่านรอง" เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเลขานุการหน้าห้องที่เปิดประตูเข้ามาในระหว่างที่เฟยเทียนกำลังเซ็นเอกสารอนุมัติงบประมาณการก่อสร้างคอนโดมิเนียมแห่งใหม่อยู่ที่โต๊ะทำงาน "มีคนมาขอเข้าพบค่ะ ท่านรองจะรับแขกไหมคะ?" "ใคร?" "อันเองค่ะ" อันนา เอ่ยขึ้นพร้อมมองคนที่นั่งทำหน้านิ่งอยู่ในห้องด้วยรอยยิ้ม "ออกไปก่อน" เมื่อเห็นว่าอีกคนเป็นใครเขาก็เอ่ยบอกกับเลขานุการก่อนที่หญิงสาวจะก้มศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพแล้วเดินออกไปนั่งประจำที่โต๊ะทำงานในขณะที่อันนาเดินนวยนาดเข้าไปหาร่างสูงที่นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน "มาตั้งแต่เมื่อไร" "มาถึงเมื่อวานค่ะ ความจริงอันว่าจะไปหาพี่ที่บ้านแต่คุณพ่อท่านบอกว่ากลัวจะรบกวนอันก็เลยมาวันนี้แทน" อันนาเอ่ยบอก เพราะครอบครัวของเธอกับเฟยเทียนสนิทสนมคุ้นเคยกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าทำให้ในสมัยเด็กเธอมักจะไปเล่นที่บ้านของเขาอยู่บ่อย ๆ จนกลายเป็นความคุ้นเคยกัน และเธอต้องย้ายไปเรียนต่อที่ต่างประเทศนานนับสี่ปีเพิ่งจะได้กลับมาก็หลังจากเรียนจบ "แล้วจะมาอยู่ที่นี่เลยหรือแค่มาเที่ยว" "อันคิดว่าจะมาอยู่ยาวเลยค่ะ คิดถึงบรรยากาศ คิดถึงอาหารไทย แล้วก็คิดถึงคนตรงหน้านี้ด้วยค่ะ" “...” "ฮ่า ๆ อันแค่แหย่เล่นเอง ไม่ทราบว่าวันนี้คุณเฟยเทียนพอจะมีเวลาว่างไปทานข้าวกับอันนาคนนี้ไหมคะ?" อันนาหัวเราะร่าก่อนจะเอ่ยถามออกมาด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มหวานและเสียงหัวเราะของคนตรงหน้าทำให้เขาหวนคิดถึง อันดา ซึ่งเป็นพี่สาวฝาแฝดของอันนาและเป็นคนที่เขานั้น...รักมาตั้งแต่เด็ก "ได้สิ น้องสาวเฮียกลับมาทั้งที ทำไมพี่จะไม่มีเวลาให้ล่ะ" พูดจบมือหนาก็ปิดแฟ้มเอกสารลงก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นพร้อมเดินออกมาจากโต๊ะทำงานทำให้อันนายิ้มหวานก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินมาควงแขนของเฟยเทียนพร้อมกับเดินออกจากห้องพร้อมกัน ภาพของรองประธานหนุ่มที่มีหญิงสาวปริศนาเดินควงแขนออกมาจากห้องทำงานอย่างสนิทสนมทำให้พนักงานหลายคนที่พบเห็นต่างให้ความสนใจแต่กระนั้นก็ยังไม่กล้าจดจ้องมองตามมากเกินไปเพราะพนักงานที่นี่ล้วนรู้ดีถึงนิสัยและความเจ้าระเบียบของว่าที่ประธานคนต่อไป @ภูเก็ต ทางด้านอ้ายผิงต้องเดินทางมาถ่ายละครต่อที่ภูเก็ตหลังจากหยุดพักรักษาตัวไปนานนับหนึ่งสัปดาห์ ด้วยที่เมื่อคืนเธอร้องไห้หนักจนผล็อยหลับไปทำให้ขอบตาบวมช้ำแต่ยังดีที่เธอใช้เครื่องสำอางทาปกปิดมาบ้างเลยไม่เป็นที่น่าผิดสังเกตสำหรับช่างแต่งหน้านัก "ไหวแน่นะผิง" ปริม ซึ่งเป็นสาวรุ่นพี่และยังเป็นผู้จัดการส่วนตัวเอ่ยถามขึ้นเพราะเธอรู้ดีว่าอ้ายผิงนั้นเจออะไรมาเลยทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้ แม้เธอบอกว่าสามารถเลื่อนคิวถ่ายออกไปได้อีกสักสองสามวันแต่ทว่าเจ้าตัวกลับบอกว่าไหวทำให้เธอได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตก "ไหวค่ะ พี่ปริมไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ผิงอยากรีบถ่ายให้เสร็จทันกำหนด" เพราะเรื่องนี้เธอรับบทเป็นนางเอกและเหลืออีกแค่ไม่กี่ฉากก็จะปิดจบทำให้เธออยากถ่ายให้มันเสร็จ ๆ ไป แม้เรื่องส่วนตัวเธอจะไม่สู้ดีแต่หน้าที่การงานเธอต้องมาก่อนเพราะทุกอย่างมันขับเคลื่อนด้วยเงินเท่านั้น "โอเค ถ้างั้นออกไปเตรียมเข้าฉากเถอะทุกคนรอแล้ว" อ้ายผิงพยักหน้าก่อนจะมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกอีกครั้งแล้วเดินออกไปเพื่อเตรียมตัวเข้าฉากต่อไป เธอมีสปิริตมากพอที่จะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานจนเกิดปัญหา กว่าจะถ่ายทำเสร็จก็กินเวลาไปถึงสามทุ่มของวันเนื่องจากเป็นฉากการมาเที่ยวของคู่พระนางจะต้องเก็บบรรยากาศทั้งกลางวันและกลางคืน "พวกนายไปพักผ่อนเถอะ ที่นี่ไม่มีอะไรหรอก" หลังจากเดินมาถึงห้องพักเธอก็เอ่ยบอกกับบอดี้การ์ดร่างใหญ่สองคนที่ตามมาดูแล ส่วนดินแดนก็กลับไปดูแลเฟยเทียนเหมือนอย่างเดิมเพราะตอนนี้เธอนั้นไม่มีลูกในท้องแล้วเพราะฉะนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องส่งบอดี้การ์ดฝีมือดีมาคอยคุ้มครองเธออีกต่อไป "ครับนายหญิง" "เหอะ! นายหญิงเหรอ? ฉันไม่เห็นว่าตัวเองจะอยู่ในฐานะนั้นเลย" ดาราสาวแค่นยิ้มสมเพชให้แก่ตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพร้อมปิดประตูลงด้วยความเหนื่อยล้า แม้ว่าลูกน้องของเขาจะเอ่ยปากเรียกเธอว่านายหญิงแต่ไม่รู้ทำไมเธอกลับไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในฐานะนั้นเลยสักครั้งแม้กระทั่งตอนนี้ ติ้ง! 'ภาพหลุด! มีคนตาดีเห็นทายาทนักธุรกิจดังที่แต่งงานแล้วควงหญิงสาวนิรนามไปทานข้าวในภัตตาคารหรูเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา คนโพสต์ยังบอกอีกว่าไร้เงาภรรยาของฝ่ายชายที่เป็นดาราชื่อดังตามไปด้วย ทั้งนี้แอดเองก็ยังไม่รู้ความจริงว่าเป็นมายังไงทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการไตร่ตรอง' "เหอะ! นี่ฉันไปหลงรู้สึกกับผู้ชายอย่างคุณได้ยังไงกันเฟยเทียน" อ้ายผิงแค่นหัวเราะออกมาหลังจากไล่สายตาอ่านข้อความบนหน้าจอที่เป็นข่าวครึกโครมอยู่ในตอนนี้ ซึ่งไม่ต้องเดาให้เสียเวลาว่าชายหนุ่มในข่าวที่ว่านั่นคือเฟยเทียนสามีเลวทรามของเธอ และไม่ผิดที่เธอบอกว่าเผลอรู้สึกกับเขา แม้คราแรกที่แต่งงานกันจะเต็มไปด้วยความอึดอัดและทำตามหน้าที่แต่หลังจากที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมันกลับทำให้เธอได้มองเห็นมุมอีกมุมของเขาแม้จะน้อยแต่เธอก็สัมผัสได้ว่าลึก ๆ แล้วเขาอาจจะเป็นคนอ่อนโยน แต่เธอก็ไม่เคยได้รับความรู้สึกนั้นจากเขา และไม่รู้ว่าทำไมเธอดันเผลอมีความรู้สึกกับเขาได้ง่าย ๆ นั่นอาจเริ่มตั้งแต่ที่เธอท้องลูกของเขาก็เป็นได้ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้อ่านข่าวคาว ๆ แบบนี้ของสามี เพราะที่ผ่านมาเขามีข่าวกับผู้หญิงไปทั่วอยู่ตลอดแต่เธอไม่ได้รู้สึกหึงหวงเพราะเธอไม่ได้รักใคร่ในตัวของเขาขนาดนั้น อาจจะมีบ้างที่รู้สึกแต่นั่นเธอก็สามารถจัดการกับความรู้สึกตัวเองได้ "ในเมื่อคุณทำอะไรโดยที่ไม่เห็นหัวฉันขนาดนี้ฉันก็จะไม่ยอมคุณอีกเหมือนกัน" ที่ผ่านมาเขาจะทำอะไรเธอไม่เคยขัดแต่สิ่งเดียวที่รับไม่ได้คือการที่เขาหยามเกียรติเหยียบศักดิ์ศรีของเธอด้วยการควงผู้หญิงคนอื่นแม้ที่ผ่านมาข่าวเหล่านั้นจะถูกกลบด้วยคำว่าคู่ค้าทางธุรกิจก็ตาม แม้ที่ผ่านมาจะไม่ได้รักกันแต่ทั้งคู่ก็ใช้สถานะสามีภรรยากันจริง ๆ รวมทั้งเรื่องบนเตียง เธอบอกตลอดว่าถ้าหากจะนอนกับเธอเขาก็ต้องนอนกับเธอเพียงคนเดียวส่วนผู้หญิงคนอื่นเขาจะควงจะทำอะไรก็ได้ยกเว้นการขึ้นเตียง บางคนอาจจะบอกว่าสันดานผู้ชายมันทำไม่ได้อยู่แล้วแต่สำหรับเฟยเทียนเธอเชื่อ เชื่อว่าเขาทำตามข้อตกลงมาโดยตลอดเพราะคนอย่างเขาถึงแม้จะเลวแต่ก็ไม่ผิดคำพูดตัวเอง ร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านในช่วงค่ำหลังจากที่เคลียร์งานต่าง ๆ ที่บริษัทเสร็จ หัวคิ้วมนขมวดมุ่นในยามที่ได้ยินเสียงบทสนทนาดังออกมาจากห้องโถง "อ้าวอาเฟยเข้ามานี่สิ วันนี้หนูอันเขาเอาของฝากมาให้น่ะ" เฟยหลงเอ่ยขึ้นพร้อมใบหน้าเหี่ยวย่นที่ปรากฏรอยยิ้มในขณะที่อันนาเองก็มองเฟยเทียนด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน "เราเจอกันแล้วค่ะคุณปู่ พอดีวันนี้อันลืมเอาของฝากไปให้เฮียเลยถือโอกาสเอามาให้ที่บ้านพร้อมของคุณปู่ด้วยเลยค่ะ" "ขอบใจนะ" เขาเอ่ยออกมาพร้อมรับถุงกระดาษสีดำมาวางไว้ตรงหน้า "ถ้างั้นวันนี้หนูอันอยู่ทานข้าวด้วยกันเลยนะนี่ก็จะได้เวลามื้อค่ำแล้ว" "ได้ค่ะ แล้วนี่คุณอ้ายผิงยังไม่มาเหรอคะตั้งแต่อันมายังไม่เห็นเธอเลย" อันนาไม่ลืมที่จะถามถึงอ้ายผิงซึ่งเป็นภรรยาของเฟยเทียนที่เธอเคยเห็นในรูปแต่งงานเพราะในวันแต่งงานของทั้งคู่เธอไม่ได้มาร่วมเพราะติดเรียน "รายนั้นไม่อยู่หรอก ปู่เห็นออกไปตั้งแต่เช้าคงจะไปถ่ายละคงละครเขานั่นแหละ" คำตอบของชายสูงวัยทำให้เฟยเทียนนิ่งไปเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าอ้ายผิงตอนนี้อยู่ที่ไหน ก็ตั้งแต่ที่ทะเลาะกันเมื่อคืนเขากับเธอก็ไม่ได้เห็นหน้าหรือพูดคุยกันอีกเลย แม้จะมีบางครั้งที่เวลาเธอจะไปไหนหรือไปทำงานที่ไหนก็จะส่งข้อความมาบอกกล่าวแต่ครานี้เธอกลับหายเงียบไป แต่แล้วยังไงเพราะเขาไม่ได้สนใจอยู่แล้ว "น่าเสียดายจังเลยค่ะ อันว่าจะเข้ามาทักทายสักหน่อยแล้วก็มีของฝากมาให้ด้วย ถ้างั้นฝากไว้ที่เฮียเฟยนะคะ" อันนาเอ่ยออกมาด้วยความเสียดายเพราะเธออยากมาทักทายอ้ายผิงพร้อมกับมีของฝากจากต่างประเทศมาให้ด้วยแต่ดันผิดคาด "หนูอันนี่น่ารักตลอดเลยนะ" เฟยหลงเอ่ยชมทำให้หญิงสาวยิ้มรับอย่างเขิน ๆ "ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ยังไงคุณอ้ายผิงก็เป็นภรรยาของเฮียเฟย" "พูดอะไรอย่างนั้น เอาเถอะ ๆ ได้เวลามื้อค่ำแล้วอย่ามัวนั่งรีรอกันอยู่เลย" จบคำพูดของชายสูงวัยทุกคนก็ลุกเดินไปยังห้องรับประทานอาหารโดยที่อันนาเดินประคองเฟยหลงเข้าไปสร้างความเอ็นดูให้แก่ชายสูงวัยไม่น้อย เวลาผ่านไปนานสองชั่วโมงที่อันนาอยู่ที่บ้านของเฟยหลงเพราะหลังจากรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จเธอก็มานั่งพูดคุยกับชายสูงวัยที่ห้องโถงจวบจนได้เวลากลับแต่ทว่าระหว่างนั้นเฟยหลง กลับบอกให้หลานชายเป็นคนขับรถไปส่งอันนาที่บ้านเพราะห่วงหญิงสาวกลัวจะเกิดอันตรายระหว่างทางซึ่งร่างสูงเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ ภาพของชายหญิงที่เดินออกไปสร้างรอยยิ้มแห่งความพอใจให้กับชายสูงวัยไม่น้อย "ท่านจะจับคู่ให้นายน้อยกับคุณอันนาเหรอครับ" อภิชาติ ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทที่พ่วงตำแหน่งเลขาที่คอยประสานงานทุกอย่างให้เปรียบเสมือนมือข้างขวาเลยก็ว่าได้เอ่ยถามขึ้น "แล้วมีตรงไหนที่ทั้งคู่ไม่เหมาะสมกันเหรอ?" เสียงแหบแห้งเอ่ยขึ้น "แล้วคุณอ้ายผิงท่านจะทำยังไงกับเธอครับ" "ก็ปล่อยไว้แบบนั้น เด็กคนนั้นฤทธิ์เยอะก็จริงแต่นั่นก็สามารถควบคุมได้" --------- ทุกคนเป็นคนดีหมดค่ะรวมถึงพระเอกที่ยังไม่ปรากฏตัว 55555 หยอกกก ทุกคนอ่านแล้วช่วยกดใจ + คอมเมนต์ให้ไรท์หน่อยนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD