"โอ้..อัญชันแห่งกลุ่มบุปผางั้นเหรอ เคยได้ยินชื่อมาหนาหูเลย"
วิปร่าเอ่ยพร้อมกับชี้ดาบไปหาอัญชัน พร้อมกับจ้องมองเธออย่างตั้งใจตาไม่กระพริบ
ด้านของอัญชันนั้นนิ่งเงียบ เธอเลือกที่จะไม่ตอบอะไรกลับไปแล้วตั้งตาเตรียมพร้อมต่อสู้
ส่วนผมเอาหลังพิงต้นไม้ก่อนจะหันหน้ามองขึ้นไปยังหญิงสาวสองคนที่เตรียมต่อสู้
เสียงทุกอย่างเงียบลง สายลมพัดผ่านตัวของทั้งสองอย่างแผ่วเบา
และในวินาทีที่ใบไม้ตกลงสู่พื้น มันก็เป็นสัญญาณเริ่มต้นของการต่อสู้..
ฉิง!!
คมมีดและคมดาบปะทะกันเป็นอย่างแรก วิปร่าใช้ดาบของเธอฟันตรงเข้ามาอย่างรวดเร็วแต่ก็ถูกกันเอาไว้ด้วยมีดเล่มหนึ่งของอัญชัน
และในวินาทีที่คมของอาวุธทั้งสองปะทะกัน อัญชันก็ใช้มีดอีกเล่มของตนฟันไปยังคอของวิปร่า
ฉับ!
คมมีดสีฟ้าถูกตัดผ่านไป แต่สิ่งมันพรากกลับมีเพียงแค่ปลายเส้นผมสีดำเพียงเท่านั้น
วิปร่าถอยตัวกลับหลบคมมีดของอัญชันไปได้อย่างเฉียดฉิว เธอทรงตัวก่อนจะเริ่มตั้งท่าเตรียมจะใช้ดาบแทง
"ใช้ได้นี่ แบบนี้สิค่อยสนุกหน่อย.."
สิ้นเสียง ร่างของวิปร่าก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จนดาบของเธอจ่อไปที่ใบหน้าของอัญชัน
แต่ในพริบตานั้น วิปร่าก็เปลี่ยนจากท่าแทงเป็นการดึงดาบกลับมาตั้งท่าป้องกันแทน
ฉิง! ฉิง!!
และด้วยการที่เธอเปลี่ยนท่าทางการใช้ดาบ ทำให้สามารถป้องกันการโจมตีจากมีดคู่ของอัญชันได้
วิปร่าถอยไปข้างหลังอีกครั้ง แต่เหมือนว่าในครั้งนี้เธอจะได้รับแผลมาด้วย
แผละ..
หยดเลือดไหลออกมาจากแก้มขวาของวิปร่า ถึงแม้จะเป็นแผลเล็กๆ แต่มันก็ทำให้วิปร่าระวังตัวขึ้นมากทีเดียว
"แสบนักนะ รู้ด้วยเหรอว่าฉันจะพุ่งเข้าไปแทง"
วิปร่ายกดาบขึ้นเพื่อตั้งท่าโจมตี ตอนนี้เธอตั้งใจจะต่อสู้ด้วยท่าฟัน
"หลังจากนี้ฉันจะเอาจริงแล้ว เตรียมตั---"
ฉิง!!
ไม่ทันที่วิปร่าจะพูดจบ ร่างของอัญชันก็พุ่งเข้าไปหาตัวของเธออย่างรวดเร็วจนแทบจะยกดาบมาป้องกันไม่ทัน
"บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่อยากตายก็อย่ามัวแต่ปากมาก.."
อัญชันง้างมีดเล่มหนึ่ง ก่อนจะฟันมันใส่ร่างของวิปร่าอย่างรวดเร็ว
"หึ...แต่ฉันบอกแล้วไงว่าจะเอาจริง"
วิปร่าเผยรอยยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนท่าจับดาบเป็นมือเดียวและยกแขนอีกข้างขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตี
ฉับ!!
แขนซ้ายของวิปร่าขาดออก แต่มันก็ทำให้วิปร่ามีโอกาสส่วนกลับ
ดาบเล็กของวิปร่าแทงตรงไปยังหน้าอกของอัญชันอย่างรวดเร็ว
ฉึก!!!
ดาบนั่นทะลวงอกของอัญชันได้สำเร็จ แต่ไม่นานร่างนั่นก็สลายหายไปกลายเป็นควัน
แต่วิปร่าก็คำนวณเรื่องนี้เอาไว้อยู่แล้ว เธอหันกลับไปมองด้านหลังก่อนจะเห็นอัญชันที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่
"ทีนี้ก็เท่ากันแล้วนะ คุณนักฆ่าบุปผาน้ำเงิน"
"ขอยอมรับความกล้านั้นเลย ยอมเสียแขนเพื่อเปิดโอกาสโจมตีเลยงั้นเหรอ.."
อัญชันลุกขึ้นก่อนจะมองตรงไปยังวิปร่า ที่ตอนนี้เธอถือดาบเล็กด้วยมือขวาเพียงข้างเดียว
"ฉันเป็นถึงรองหัวหน้าของกลุ่มอสรพิษเลยนะ แผนการน่ะมีอยู่เต็มหัวเลย"
แต่แม้แขนจะหายไปหนึ่งข้าง แต่ท่าทีของเธอก็ไม่ได้ดูจะยอมแพ้เลยแม้แต่นิดเดียว
วิปร่ายกดาบขึ้นมาเตรียมต่อสู้อีกครั้ง แต่เพียงเสี้ยววินาทีเดียว
"อึก..."
วิปร่าแสดงอาการวิงเวียนจากการเสียเลือดมาก ก่อนที่เธอจะก้มหัวลง
ในวินาทีนั้นเอง ร่างของอัญชันก็ไปโผล่ที่ด้านหลังของวิปร่าแล้ว
คมมีดคู่ถูกง้างก่อนจะเล็งไปที่ต้นคอของวิปร่า แต่ก่อนที่มันจะได้ตัดคอของเธอจนขาดออก
ฉึก!!
ปลายดาบของวิปร่าก็เสียเข้าไปที่คางของอัญชัน ก่อนที่คมมีดคู่ของเธอจะไปถึงเป้าหมาย
"อั่ก..."
ร่างของอัญชันหยุดนิ่งทันที พร้อมกับวิปร่าที่ค่อยๆ หันหน้ากลับมามองผลงานของตน
"บอกแล้วไงว่าฉันคือรองหัวหน้ากลุ่มอสรพิษ แผนน่ะมีอยู่เต็มหัว"
สิ่งที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตานั้นคือ ในตอนที่อัญชันพุ่งตัวมาด้านหลังของวิปร่า เธอก็ได้เปลี่ยนวิธีการจับดาบจากด้านหน้ามาเป็นด้านหลัง ก่อนจะใช้มันแทงขึ้นไปด้านบน
ทุกเป็นแผนการณ์คาดเดาของวิปร่าทั้งหมด เธอไม่ได้สามารถมองความเร็วของอัญชันได้ทัน แต่เธอเพียงคิดว่าอัญชันจะทำแบบไหนเมื่อเธอมีการป้องกันลดลงเพียงเท่านั้น
และด้วยเหตุนี้ แผนการของเธอจึงสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์
"ต้องขอบคุณนะที่เธอเล่นตามแผน ฉันถึงได้จัดการเธอง่ายแบบนี้"
วิปร่าเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม จ้องมองหญิงสาวที่ถูกดาบแทงทะลุคางไปจนถึงหัว
"ขอยอมรับ...ในแผนการของเธอ...วิปร่า.."
"หึ..ตอนนี้ก็ลาก่อนนะ ถ้าอยากมาล้างแค้นเอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน"
คำพูดของอัญชันทำให้วิปร่าเริ่มยิ้ม ก่อนจะหัวเราะเบาๆ ในลำคอพลางเยาะเย้ย
"แต่ฉันบอก...ไปแล้วนี่.."
"หา...?"
ระหว่างที่กำลังโต้เถียงกัน ตอนนั้นเองที่วิปร่าเริ่มรู้สึกตัว
ทำไมร่างของอัญชันถึงไม่หายไปเสียที ทั้งที่ควรจะตายและหายไปได้แล้ว
"ถ้าอยากรอดชีวิต.."
ตอนนั้นเอง ร่างของอัญชันก็เริ่มเปลี่ยนเป็นกลีบดอกไม้สีฟ้าพร้อมกับส่งกลิ่นหอม กลิ่นของดอกอัญชัน
พริบตานั้น วิปร่าก็รีบหันกลับไปด้านหลัง แต่เมื่อเธอหันกลับไปก็ได้พบแค่เพียง
มุมมองที่เปลี่ยนไป...ศีรษะของเธอได้หลุดออกมาแล้ว ด้วยคมมีดสีฟ้า
"...ก็อย่ามัวแต่ปากมาก"
เมื่อหัวของวิปร่าหลุดไป ร่างกายของเธอก็ค่อยๆ สูญสลาย เหรียญทองมากมายตกลงมา พร้อมกับชุดเกราะขนาดเล็กและดาบที่เธอใช้อยู่
หญิงสาวที่ถือมีดคู่จ้องมองร่างที่สูญสลายไป ก่อนจะถอนหายใจ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอถูกต้อนจนเผยไพ่ตายมากขนาดนี้
ผมจ้องมองการต่อสู้ทั้งหมดอยู่เงียบๆ ก็ถอนหายใจตาม ก่อนจะรู้สึกตัวว่าที่จริงแล้วตัวเองยังไม่ปลอดภัย
ยังไม่รู้เลยว่าเธอมาดีหรือร้าย..
อัญชันเก็บมีดของตัวเองลงก่อนจะเดินเข้ามาหาผม เธอนั่งยองก่อนจะจ้องมาที่ใบหน้าของผมอย่างตั้งใจ
"เอ่อ..ครับ..?"
"นายน่ะ..."
ผมลุ้นกับคำถามที่กำลังจะได้ยิน กลืนน้ำลายหนึ่งอึกก่อนที่อัญชันจะเอ่ยปากพูด
"นายน่ะ...เป็นตัวอะไรกันแน่..?"
หลังจากการต่อสู้ภายในป่าลึกยามค่ำคืนจบลง หญิงสาวคนหนึ่งก็ถูกย้ายมายังสถานที่หนึ่ง
มันเป็นโกดังเก่าๆ ที่เต็มไปสิ่งของอันตราย และเมื่อหญิงสาวปรากฎตัวจากพื้นที่ปลอดภัยของโกดัง
เส้นผมสีเขียวเป็นสิ่งแรกที่เห็น พร้อมกับร่างของเธอที่สวมชุดรัดรูปสีเดียวกับเส้นผม
ดวงตาของเธอคมเหมือนกับงู แถมสีของนัยน์ตายังเป็นสีเขียว
แว่นตากลมของเธอยังอยู่บนใบหน้า ทำให้เธอถอดมันออกก่อนจะลุกขึ้นยืน
"รองหัวหน้า เป็นยังไงบ้างคะ"
หญิงสาวที่กลับมาก่อนเธอเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง และเธอก็ได้ลูบหัวหญิงสาวคนนั้นตอบ
"เห็นฉันกลับมาแบบนี้ คิดว่ายังไงฮะ มิมี่!!"
จากคำพูดแสดงให้ว่าเธอนั้นกำลังอยู่ในอารมณ์โกรธ ก่อนจะเปลี่ยนการลูบหัวเป็นการหยุมหัวแทน
"ข..ขอโทษค่า รองหัวหน้าวิปร่า"
หญิงสาวชื่อมิมี่ขอโทษพร้อมกับความเจ็บปวด ก่อนที่วิปร่าจะปล่อยมือออกจากหัวของเธอ
วิปร่าเดินมายังหน้าแท่นวางอาวุธ ก่อนที่เธอจะหยิบมีดที่ส่วนคมของมันมีของเหลวสีเขียวคลายพิษเคลือบเอาไว้อยู่
"ถ้าเจอกันครั้งหน้า ฉันจะสังหารแกอย่างโหดเหี้ยมที่สุดอย่างแน่นอน อัญชัน"
"นายเป็นตัวอะไรกันแน่?"
ทำไมมันเดจาวูแปลกๆ กันนะ..
คำถามนั่นทำให้ผมสงสัย ผมไม่เข้าใจเลยว่าเธอพูดถึงอะไร
"คุณพูดถึงอะไรกันเหรอครับ..?"
อัญชันที่ได้ยินผมพูดก็ทำท่าแปลกใจ ส่วนผมก็ยังคงสงสัยในท่าทางแบบนั้นของเธอ
"นี่นายไม่รู้ตัวงั้นเหรอ.."
รู้ตัว..? หมายถึงอะไรกัน
ผมที่ได้ยินก็เริ่มสงสัย แต่ตอนนั้นเองที่สายตาของผมเหลือบไปเห็นบางอย่างที่แขนของตัวเอง
กลุ่มควันสีดำทมิฬ ลอยปกคลุมล้อมรอบแขน ไม่สิ ทั้งตัวของผมเลย
"นี่มัน.."
"นายก็ไม่รู้งั้นเหรอ..ว่ามันคืออะไร...?"
"อา..ครับ"
"งั้นเปิดหน้าต่างสถานะของนายขึ้นมา"
อัญชันหันหน้ามามองผมด้วยความตื่นเต้น เธอขยับใบหน้าเข้ามาใกล้จนผมรู้สึกกระอั่กกระอ่วนอยู่นิดหน่อย
"เอ่อ..คือ ไม่ใกล้ไปหน่อยเหรอครับ"
"อ๊ะ..ขอโทษที"
อัญชันดันหัวของเธอกลับก่อนจะทำท่าทางลนลาน เหมือนผมจะเห็นว่าเธอหน้าแดงอยู่นิดหน่อยด้วย
"จะให้ผมเปิดหน้าต่างสถานะให้ดูก็ได้อยู่หรอก แต่ช่วยบอกเหตุผลว่าทำไมถึงอยากดูหน่อยสิครับ"
อัญชันจ้องมาที่ผมด้วยสายตาอาฆาตทันทีที่ได้ยินแบบนั้น แต่สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจออกมา
"เฮ้อ...ฟังนะ..."
8 ชั่วโมงก่อน
"..ทำไมแกถึงได้ทะลุผ่านเขตแดนไร้สุ้มเสียงของฉันได้นะ"
อัญชันจ้องมองร่างของเด็กหนุ่มที่เธอเพิ่งจะสังหารไป แต่สิ่งที่เห็นต่อจากนี้ทำให้เธอตกตะลึง
ร่างของเด็กหนุ่มถูกควันสีดำไหลออกมาจากแผลลึกที่คอ ก่อนที่มันจะปกคลุมร่างกายไปรอบๆ แล้วเริ่มสมานแผลเหล่านั้นจนหายดีราวกับไม่เคยมีแผลที่คอมาก่อน
"นี่มัน..."
"และเพราะความน่าขนลุก ฉันก็เลยรีบหนีออกมาจากตรงนั้นเลย แต่นายจะบอกว่าตัวเองก็ไม่รู้เนี่ยนะ"
"ครับ...ผมไม่รู้เกี่ยวกับความมืดพวกนี้เลย"
อย่างน้อยผมก็ตอบตามความจริงละนะ ก็ผมไม่รู้จักพวกมันจริงๆ นี่นา
"ว่าแต่ จะดูหน้าต่างสถานะของผมไหมล่ะครับ"
เธอเองก็เป็นผู้เล่นที่มีฝีมือ บางทีอาจจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับมันบ้างก็ได้
ผมเปิดหน้าต่างสถานะของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะยื่นมันให้กับอัญชันดู
'ชื่อ อรัญ อาชีพ ผู้ใช้คุณไสย ปาร์ตี้ อัญชัน
เลเวล 42 ความชำนาญสูงสุด ดาบเขี้ยวอสรพิษ (เล็ก)
สกิล มนต์ดำสูบชีพ
ค่าสติสัมปชัญญะ 100%'
พอเห็นปาร์ตี้แบบนี้ก็ทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา มันทำให้นึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ได้เหมือนกัน
อัญชันจ้องมองค่าสถานะของผมด้วยท่าทีปกติ ราวกับมันไม่ได้มีอะไรที่แปลกประหลาด
ท่าทีนั้นทำให้ผมโล่งใจ แสดงว่าเธอรู้สินะว่าอาชีพของผมมันคื--
"อาชีพ นักดาบ แถมยังไร้สกิลอีก"
หา...ว่าไงนะ ทำไมอาชีพของผมมันถึง..
"อาชีพของผม นักดาบ?"
"ใช่ ทำไมเหรอ..?"
"เอ่อ..คือ..."
ผมพยายามจะอธิบาย แต่ข้อความแจ้งเตือนก็โผล่ขึ้นมา
'ผู้เล่น อัญชัน ออกจากปาร์ตี้'
ข้อความนั้นทำให้ผมช็อคนิดหน่อย ก่อนที่อัญชันจะลุกขึ้น
ผมจ้องมองข้อความนั้นจนลืมไปว่าจะพูดอะไร แต่ตอนนั้นเองที่เสียงของอัญชันได้มาปลุกตัวของผม
"ว่าแต่ ทำไมนายถึงไม่บอกว่าฉันเป็นคนจัดการพวกเขาล่ะ"
อัญชันยืนกอดออกมองผมด้วยสายตาสงสัย
เพราะอะไรน่ะเหรอ อืม..จะบอกยังไงดี
"เพราะอย่างน้อย คุณก็ไม่ได้ขโมยอะไรจากผมไป"
"แต่นั่นมันเพราะนายมีควันประหลาดน่าขนลุกนี่"
"แต่ก็ไม่ได้ขโมยใช่ไหมล่ะครับ"
ผมยิ้มพร้อมกับคำตอบนั้น ถึงแม้จะดูกวน แต่ผมก็คิดแบบนั้นอยู่จริงๆ ไม่ได้โกหกเลย
อัญชันที่เห็นก็ถอนหายใจก่อนจะสายหน้า หลังจากนั้นเธอก็หันหลังกลับเตรียมจะเดินออกไป
แปลว่าผมจะต้องถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวอีกแล้วสินะ..
ผมนั่งคอตกอยู่ตรงนั้นพลางถอนหายใจ แต่เมื่ออัญชันหันกลับมาก็ทำหน้าบึง ก่อนจะดึงตัวผมให้ลุกขึ้น
"อะ..เอ๊ะ มีอะไรอีกเหรอครับ?"
"นายยังต้องการคนสอนไม่ใช่รึไง?"
"แต่เมื่อกี้ คุณออกจากปาร์ตี้.."
"ออกก็เพื่อให้นายได้รับเลเวลเพียงคนเดียวไง เดี๋ยวจะพาไปพัฒนาตัวเอง"
หลังจากที่ได้ฟัง ผมก็สัมผัสได้ว่าตัวเองสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
อาจจะฟังดูเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ ถึงแม้ผมจะยังพึ่งพาคนอื่นอยู่ก็เถอะ แต่อย่างน้อย..
...ผมก็จะได้ทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง
"เอาล่ะ ขอแนะนำตัวแล้วกัน ฉันอัญชัน นักฆ่าแห่งกลุ่มบุปผา"
เมื่อฟังจบผมก็ยิ้มออกมา ก่อนจะก้มตัวลงไปหยิบดาบเล็กเล่มนั้นแล้วยกมันขึ้น
"ส่วนผมอรัญ นักดาบควันดำ"