"อย่างแรก จัดการเจ้านี่ซะ"
อัญชันชี้นิ้วไปยังมอนสเตอร์งูยักษ์ที่มีสามหัว แถมที่ผิวของมันยังมีเกล็ดเต็มไปด้วยของเหลวสีเขียวปกคลุมตัวเต็มไปหมด
ท่าทางดูอันตราย แถมมันยังจ้องมองผมไม่ขยับไปไหน ราวกับรอคอยให้ผมพุ่งเข้าไปอยู่เลย
"เอ่อ..แน่ใจนะครับ ผมไม่คิดว่---"
ยังไม่ทันจะพูดจบ อัญชันก็ถีบตัวของผมให้เข้าไปเผชิญหน้ากับมัน
"ซ่าาา!!"
ทันทีที่เข้าไป เจ้างูยักษ์นั่นก็ชูคอขู่ก่อนจะร้องออกมา
ผมเงยหน้ามองเจ้าตัวนั้นพร้อมกับความสิ้นหวัง สภาพตอนนี้ไม่ต่างจากเหยื่อที่กำลังจะถูกกิน
แต่ยังไงก็ต้องลองดู..
ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปฟัน แต่ก็โดนเกล็ดบนลำตัวของมันหยุดไว้
แก็ง!!
"แข็งชะมัด"
ตัวของผมกระเด็นออกมาเพราะเจ้างูกระแทกตัวใส่ ทำให้ผมกลับมาสู่การจ้องตาสู้กับมันอีกครั้ง
"มอนสเตอร์ตัวนี้เป็นระดับพื้นฐานแล้ว ถ้าจัดการมันไม่ได้ก็อย่าหวังจะไปต่อเลย"
ระดับ...พื้นฐาน? เจ้าตัวนี้เนี่ยนะ
ผมหันไปมองเจ้างูนั่นอีกครั้ง ก่อนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
ที่ใต้ลำตัวส่วนหัวของมัน มีชั้นเนื้อที่ดูอ่อนนุ่มต่างกับเกล็ดด้านบน
บางที..
"ซ่าาา!!"
ทันทีที่เจ้างูนั่นขู่อีกครั้ง ผมก็รีบพุ่งตัวเข้าไปพร้อมกับง้างดาบขึ้น
และเมื่อตัวของผมไปใกล้พอ เจ้างูก็ใช้หัวฝั่งหนึ่งของมันพุ่งลงมาเพื่อจู่โจม
แกร็ก!
ผมใช้ดาบเล็กปัดป้องการโจมตีของมันได้ ก่อนจะใช้จังหวะที่มันกระเด็นกลับฟันที่ใต้ชั้นเนื้อส่วนหัว
ซ้วกก!!
เมื่อคมดาบฟาดฟันผ่านชั้นเนื้อเหล่านั้น หัวด้านซ้ายของเจ้างูก็ขาดก่อนจะร่วงลงมา
ตุบ!!
สำเร็จ..ผมจ้องมองหัวของงูยักษ์ที่ตกลงมาด้วยความดีใจ แต่ไม่นานร่างของผมก็ถูกกระแทกจากอะไรบางอย่าง
"อั่ก!!"
ตัวของผมกระเด็นออกมาใกล้ ก่อนจะหันไปเห็นเจ้างูที่กำลังขยับอยู่พร้อมหัวอีกสองข้างที่กำลังขยับอยู่
ผมเข้าใจได้ทันทีว่าต้องจัดการหัวที่เหลือของมัน แต่แค่หัวเดียวก็ทำให้ผมลำบากขนาดนี้ จะเสี่ยงเข้าไปทำแบบเมื่อกี้มันก็
"อย่าเพิ่งดีใจสิ การต่อสู้ยังไม่จบหรอกนะ"
อัญชันเดินเข้ามาหาจากด้านหลังพร้อมกับเทของเหลวสีเหลืองใส่บนร่างกายของผม ตอนนั้นเองที่สัมผัสได้ว่าตัวเองตัวเบาขึ้น
"เร็วหน่อยล่ะ มันมีฤทธิ์แค่สามนาทีเท่านั้น"
ผมพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้น ชี้ดาบไปยังเจ้างูสองหัวที่กำลังจ้องมองผม ก่อนจะพุ่งตัว...
"...!!"
เพียงพริบตาเดียว ร่างของผมก็เข้ามาอยู่ด้านหลังของเจ้างูแล้ว
ร...เร็ว เป็นความเร็วที่ผมไม่คาดคิดด้วยซ้ำว่าตัวเองจะทำให้
เจ้าหูหันมองไปรอบตัวทันทีที่เห็นว่าผมหายไป มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมเข้ามาอยู่ด้านหลังของมันแล้ว
ถ้างั้น...!!
ผมกำดาบเอาไว้แน่น ก่อนจะพุ่งตัวไปยังหัวของมันอีกครั้ง
ฉับ! ฉับ!! ซ้วกก!!!
เพียงพริบตาเดียวด้วยความเร็วของผม หัวที่เหลือของเจ้างูยักษ์ก็หลุดออกมาก่อนที่ตัวของมันจะล้มลง
"สำเร็จแล้ว.."
ผมหันไปมองอัญชันหลังจากที่ตัวเองเพิ่งจะจัดการงูได้ แต่ก็เห็นว่าเธอหายตัวไปแล้ว
หายไปไหนกันนะ..ผมพยายามหันมองไปหาตัวของเธอ แต่สุดท้ายก็ไม่พบตัว
ตอนนั้นเองที่ผมได้เห็นว่างูยักษ์ที่เพิ่งจัดการไปมันเริ่มสูญสลายตามปกติ เพียงมันกลายเป็นเงามืดก่อนจะไหลเข้ามาภายในร่างของผม
เป็นความรู้สึกที่น่าสะอิดสะเอียนไปเปลี่ยน ผมคิดแบบนั้นในตอนที่เหล่าเงามืดไหลเข้ามา
"จัดการมันเสร็จแล้วเหรอ?"
"ครับ..เหนื่อยเอาเรื่องเลย"
ผมหันไปตามเสียงของอัญชันที่ได้ยิน ก่อนจะเห็นว่าเธอไม่ได้มาเพียงคนเดียว
งูยักษ์สามหัว 3 ตัวตามเธอมาจากด้านหลัง อัญชันพุ่งขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ก่อนจะเอ่ย
"งั้นก็ดี นี่เป็นบททดสอบสุดท้าย จัดการพวกมันเสร็จมาเจอฉันที่หน้าเมือง"
ผมจ้องมองเจ้างูที่ตามเธอมาจากด้านหลังก่อนจะอ้าปากค้าง แค่ตัวเดียวก็ทำผมเหงื่อตกแล้ว แต่นี่มาสามตัวพร้อมกัน
อัญชันยิ้มให้กับอาการของผม ก่อนที่ร่างของเธอจะค่อยๆ กลายเปลี่ยนกลายเป็นดอกอัญชัน
และก่อนที่เธอจะหายไป อัญชันได้กล่าวบางอย่างทิ้งท้ายเอาไว้
"..ทางที่ดี ฉันแนะนำว่าให้จัดการพวกมันก่อนที่ฤทธิ์ยาจะหมดนะ"
เธอกล่าวทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะหายตัวไปจากบนต้นไม้
ผมหันมองเธอที่หายไปเสร็จก็หันกลับมามองเจ้างูที่กำลังเดินเข้ามา
พวกมันเริ่มกรีดร้องขู่ออกมาทันที่เห็นตัวของผม ก่อนจะพุ่งเข้ามาหาพร้อมกันทั้งสามตัว
เพราะเห็นว่าจำนวนพวกมันเยอะกว่าสินะ เจ้างูยักษ์ถึงได้พุ่งเข้ามาพร้อมกัน
"ถ้างั้น...ก็เข้ามา!!"
ผมยกดาบขึ้นเพื่อตั้งท่า ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปปะทะกับพวกมัน
"เกล็ดงูสามเศียร นี่มันของหายากเลยนี่ นายไปล่ามันมาได้ยังไง"
พ่อค้าพูดขึ้นหลังจากที่ผมนำเกร็ดงูที่ใช้เวลาทั้งคืนในการล่ามาให้ และใช่ ผมใช้เวลาจัดการสามตัวนั้นยันเช้าเลย
"..งูที่มีเกล็ดหนายากที่อาวุธใดๆ จะเจาะทะลุได้ ทางเดียวที่จะจัดการคือฟันเข้าไปที่เนื้อใต้ลำคอ แต่เพราะมันมีสามหัวทำให้ยากที่จะเข้าไปฟันได้โดยง่าย"
พ่อค้าอวดความเก่งกาจของเจ้างูให้ผมฟัง ตอนนั้นเองที่ผมสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ
"เจ้างูนี่..ไม่ใช่มอนสเตอร์ที่ล่าได้ง่ายงั้นเหรอครับ?"
พ่อค้ามองผมด้วยความตกตะลึง ก่อนจะเริ่มขำออกมา
"อย่ามาพูดเล่น งูสามเศียรเป็นมอนสเตอร์ความยากระดับ 6 จาก 10 ระดับเลยนะ ต่อให้เป็นนักล่าระดับสูงยังต้องระวังเมื่อต้องเจอกับมันตัวเดียวเลย"
เมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้น ผมก็เริ่มเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในทันที
"ว่าแต่ นี้เป็นฝีมือของนายเหรอ เจอกันครั้งแรกยังเอาแค่อัญมณีของหมียักษ์มาให้เท่านั้นเอง เอ๊ะ..หรือแกไปเกาะคนอื่นเอาของมา"
"อา..ประมาณนั้นแหละครับ ว่าแต่เกล็ดพวกนั้นได้ราคาเท่าไหร่เหรอครับ"
ผมเอ่ยขึ้นก่อนจะหยิบเกล็ดอีกสามอันมาให้พ่อค้าคนนั้น ตอนนั้นเองที่เขาจ้องมองผมด้วยสายตาแปลกๆ
"อืม เกล็ดสี่อัน เท่ากับสองเหรียญทองพอดี"
2 เหรียญทอง!! นี่มันจำนวนที่ซื้อขนมปังได้ 200 ชิ้น
ผมยื่นมือไปรับเงินที่ได้จากพ่อค้าคนนั้นด้วยความดีใจ ก่อนจะได้ยินเขาเอ่ย
"แกเนี่ยดีนะมีคนเก่งๆ รับเข้าปาร์ตี้ น่าอิจฉาจริงๆ"
อยู่ๆ คำศัพย์พนามของพ่อค้าก็เปลี่ยนไป แต่ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรอยู่แล้ว
"งั้นก็ ขอบคุณนะครับ"
ผมรีบเดินออกไปหลังจากที่ได้รับเงิน โดยที่ไม่รู้ว่าพ่อค้าคนนั้นกำลังยิ้มอยู่
"หึๆๆ สมกับเป็นพวกนักล่าปลายแถว ไม่รู้ค่าของมอนสเตอร์สินะ"
พ่อค้าคนนั้นเดินเข้าไปในร้านหลังจากที่ผมเดินออกไปแล้ว แต่เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องเพื่อเอาเกล็ดงูไปเก็บ
คมมีดหนึ่งก็จ่อเข้ามาที่คอของเขา พร้อมกับร่างเงาที่ปรากฎตัวขึ้นข้างหน้าพร้อมกับกลีบดอกไม้สีน้ำเงิน
"ช่วยตีราคาของเกล็ดงูสามเศียรสี่ชิ้นให้อีกครั้งจะได้ไหม?"
หญิงสาวคนนั้นเอ่ยขึ้น ด้วยถ้อยคำคล้ายถามไถ่และขู่เข็ญ
"ค...คุณมัน!!"
ผมเดินออกมาถึงหน้าเมืองตามที่ได้นัดไว้กับอัญชัน ก่อนจะเห็นว่าเธอยืนรออยู่
"คุณอัญชัน ผมมาแล้วครับ"
ในตอนที่มาถึง อัญชันก็โยนเหรียญทอง 2 เหรียญให้ผมทันที
ผมรับเหรียญนั่นอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเอ่ยถาม
"นี่มันคือ?"
ผมเงยหน้ามองอัญชันพร้อมความสงสัย และเธอก็เปิดปากตอบ
"รางวัลสำหรับการล่าในวันนี้"
"เอ๊ะ? แต่ผมไปแลกมันมาแล้วนะครับ.."
อัญชันยิ้มขึ้นมา ก่อนจะเดินนำหน้าผมเข้าออกไปข้างนอกเมืองอีกครั้ง
"เอาไปเถอะ มันควรจะเป็นของนาย"
ถึงแม้ผมจะสงสัยว่าทำไมเธอถึงให้เงินจำนวนนี้มา แต่ถ้าเธอให้ผมก็จะรับมันไว้ก็แล้วกัน
ระหว่างที่กำลังเคลิ้มกับจำนวนเงินในมือ ตอนนั้นเองที่ผมจำได้
"ว่าแต่ ไหนบอกว่าเจ้างูนั่นเป็นมอนสเตอร์เริ่มต้นไงล่ะครับ?"
ผมเอ่ยถามเธอพร้อมกับเดินตามไป ตอนนั้นเองที่เห็นรอยยิ้มพร้อมกับเสียงหัวเราะของอัญชันดังออกมาเบาๆ
"ในระดับฉัน มันคือว่าเป็นตัวเริ่มต้นนะ ฮะๆๆ"
หลังจากที่ได้ฟังคำตอบ ผมก็เข้าใจสิ่งที่เธอต้องการจะบอกทันที
"อย่าเอามาตรฐานของคุณมาวัดกับตัวของผมสิครับ.."
ณ เมืองทางตอนใต้สุดของโลก
ชายหญิงภายใต้ผ้าคลุมสีดำและหน้ากากสีขาวที่มีตัวอักษร J สีดำ ทั้งคู่ได้เดินเข้ามาภายในอาคารแห่งหนึ่งที่ดูมืดมนและลึกลับ
ข้างในนั้นเต็มไปห้องมากมาย แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะมีจุดมุ่งหมายเพียงที่เดียว
ไม่นานทั้งคู่ก็เดินมาหยุดที่หน้ากำแพงของมุมหนึ่ง ก่อนที่หญิงสาวในผ้าคลุมจะใช้มือของตัวเองแตะไปบนกำแพงอันวางเปล่า
"พวกเรามีข่าวมาแจ้งค่ะ"
หลังจากที่พูด พวกเขาทั้งคู่ก็หายไปจากตรงนั้น ก่อนจะไปโผล่ยังห้องห้องหนึ่งที่ดูต่างจากอาคารแห่งนี้
สิ่งแรกที่เห็นคือหญิงสาวคนหนึ่งในชุดคลุมสีดำ และหน้ากาก Q โพแดง กำลังยืนรอพวกเขาอยู่ด้านใน
และที่นั่นมีชายในผ้าคลุมสีดำคนหนึ่งนั่งรออยู่ เขาจ้องมองมายังบุคคลทั้งสองด้วยหน้ากาก K โพดำ
"ท่าน 'คิงโพดำ' พวกเราได้ข้อมูลจากเมืองชั้นในมาแล้วค่ะ"
แจ็คโพแดงเป็นคนเอ่ยขึ้นก่อน หลังจากนั้นชายในชื่อคิงโพดำที่นั่งอยู่ด้านบนก็เอ่ยถาม
"เล่ามา.."
เขาพูดเพียงประโยคสั้นๆ แต่กลับทรงพลังมากพอที่จะทำให้ชายหญิงทั้งสองคนรู้สึกขนลุกจนแทบจะยืนไม่อยู่
"จากที่ผู้นำของกลุ่มรุ่งโรจน์กล่าว เหมือนพวกเขาจะรู้ตัวตนของ 'สิ่งนั้น' แล้วครับ"
แจ็คดอกจิกเอ่ยต่อ พร้อมกับก้มหัวโดยที่ไม่รู้ตัวและควบคุมตัวเองไม่ได้
"แล้วได้ข้อมูลอะไรมาอีกไหม.."
คิงโพดำเอ่ยพร้อมกับมองไปยังทั้งสองคนเบื้องล่าง พร้อมทั้งสร้างแรงกดดันอันมหาศาล
ตอนนั้นเองที่ทั้งสองคนคุกเข่าลงโดยอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่ได้จะทำมันด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะแรงกดดันต่างหากที่สั่งพวกเขา
"ม..ไม่มีแล้วค่ะ นี่เป็นเรื่องสำคัญเพียงอย่างเดียว"
แจ็คโพแดงพูดด้วยน้ำเสียงสั่น เธอไม่กล้าจะขยับไปไหนเลยหลังจากที่ได้พูด
"งั้นเหรอ ถ้างั้นข้าขอสั่งพวกเจ้าสองอย่างจะได้ไหม?"
"ได้ทุกอย่างเลยค่ะ/ครับ!!"
ทั้งสองคนเอ่ยแทบจะพร้อมกัน พร้อมกับน้ำเสียงสั่นกลัว
"อย่างแรก นำข้อมูลนี้ไปผู้นำคนอื่นๆ อย่างเร็วที่สุด"
คิงโพดำเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้น ก่อนที่เข้าจะเดินลงไปหาแจ็คทั้งสองคนที่คุกเข่าอยู่ด้านล่าง
"และอย่างที่สอง..."
ทุกฝีก้าวที่ใกล้เข้ามา ทำให้ทั้งสองคนเกิดสั่นไหวภายในใจ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเขากำลังสั่นกลัวถึงขีดสุดแล้วในตอนนี้
และเมื่อเดินมาถึง คิงโพดำก็คุกเข่าลงก่อนจะกระซิบที่ข้างหูของทั้งสองคน
"ข้าจะจัดการพวกแกซะ หากยังทำไร้มารยาทเมื่ออยู่ต่อหน้าข้าอีก.."