ตอนที่2
เวลาสามทุ่มกว่าภูวดลที่พึ่งเลิกงานเปิดประตูเข้ามาในคอนโดที่พึ่งย้ายมานอนได้เพียงแค่วันดียว ไม่ทันจะเดินไปไหนไกลสายตาคมก็ไปสะดุดกับคนที่นอนราบอยู่บนโซฟา ภูวดลไม่สนใจร่างบางที่นอนหลับสนิทอยู่ที่โซฟาเลยสักนิด แต่พอเดินเข้าไปใกล้ก็รู้สึกเห็นใจขึ้นมาทันทีเพราะด้วยอากาศที่เย็นยะเยือกทำให้รสรินนอนขดตัวอยู่กับพื้น
“นี่ เป็นบ้าหรือยังไงถึงมานอนเกะกะตรงนี้” ร่างสูงใช้มือเขี่ยที่หน้าผากของคนที่นอนหลับอยู่
ส่วนรสรินที่กำลังสลบสไหลอยู่ต้องตื่นขึ้นเพราะมีคนมากวนใจ
“อื้ออ คุณภู กลับมาแล้วเหรอคะ” ร่างบางถามคนตัวสูงกว่าพร้อมส่งมือเล็กไปขยี้ตาตัวเอง
“ไม่เห็นหรือไงว่ากลับมาแล้ว ถามเพื่อ? แล้วแต่งตัวอะไรของเธออีก คิดจะมายั่วฉันหรือไง” ภูวดลใช้สายตามองรสรินตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่างบางที่เห็นอีกคนมองแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นมาจัดเสื้อตัวเองที่มันตัวใหญ่จนตกไปอยู่ที่ไหล่ให้เรียบร้อยเหมือนเดิม
“ขอโทษทีคะ” รสรินกล่าวขอโทษทั้งที่ตัวเองยังไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด
“ช่างมัน แล้วมานอนตรงนี้ทำไม” รวีนั่งลงที่โซฟาที่ร่างบางนอนหลับเมื่อกี้ แล้วออกปากถาม
“โรสเห็นว่าคุณภูกลับบ้านดึกทุกวัน โรสเป็นห่วงเลยมารอตรงนี้ค่ะ” รสรินตอบตามที่เธอคิด
“แล้วทำไมไม่โทรถาม” ดวงตาคมของภูวดลมองขึ้นมาสบกับดวงตาสวยของรสริน ทำเอาร่างบางหลบสายตาของสามีแทบไม่ทัน
“โรสไม่มีเบอร์คุณ” รสริสตอบอ่อมแอ้ม เธอทำหน้าชื่อแล้วตอบสามี ส่วนภูวดลเองก็นิ่งไป เขาลืมไปว่าอีกคนเคยขอเบอร์แล้วเขาเป็นคนปฏิเสธที่จะให้เองแต่แรกเพราะคิดว่าไม่จำเป็น
“ไปเอาโทรศัพท์มาสิ” ร่างสูงบอกคนตัวเล็กกว่า รสรินรีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในห้องของตนเองมาทันทีก้วยความดีใจ ในที่สุดเธอก็จะมีช่องทางติดต่อสามีของเธอแล้ว
“นี่ค่ะ” มือเล็กยื่นโทรศัพท์ให้ภูวดลทันทีที่เอาออกมาจากห้อง คนที่นั่งอยู่โซฟารับไปแล้วกดเบอร์ของตนให้และเมมชื่อไว้เรียบร้อย
“เอาไป แล้วก็อย่าโทรหาฉันถ้าไม่จำเป็น” ภูวดลพูดจบก็ถือเสื้อสูทเข้าห้องไป ทว่า ร่างบางยังไม่ทันได้เข้าห้องของตัวเองแต่ยังคงนั่งอยู่โซฟาตัวที่เคยนอนหลับเมื่อกี้เหมือนกับว่าเธอกำลังรออะไรสักอย่าง
“ทำไมยังนั่งอยู่อีก เธอไม่หลับไม่นอนหรือยังไงรสริน” ภูวดลเปิดประตูห้องนอนออกมาเจอรสรินนั่งอยู่ก็มีน้ำโหนิดหน่อยที่อีกคนยังไม่เข้านอน
“เอ่อ..โรสแค่จะรอถามคุณว่ากินอะไรมาหรือยัง ถ้ายังไม่ได้กินก็อุ่นอาหารที่โรสทำไว้ในตู้เย็นนะคะ” ว่าจบแล้วรีบวิ่งเข้าห้องตัวเองเพราะกลัวจะโดนสามีดุเสียวดังอีก
ภูวดลเดินไปยังตู้เย็นอย่างหิวโหย เขาไม่อยากจะกินอาหารฝีมือของภรรยาเลยสักนิดเพียงแต่ว่าเขาลืมซื้อข้าวมาจากข้างนอกแค่นั้น ฝีมือเด็กนี้ไม่อร่อยเลยสักนิด
“บอกว่าต่างคนต่างอยู่ พูดไม่รู้เรื่องยัยเด็กบ้า” ร่างสูงบ่นให้ภรรยาตัวน้อยขณะตักข้าวเข้าปาก
“เฮ้ย โรสทางนี้” รสรินหันไปตามเสียงเรียกของเพื่อน พอเห็นแล้วเจ้าตัวก็รีบดิ่งไปหาเพื่อนทันที
“สวัสดีจ๊ะ พลอย” ร่างบางทักท้ายเพื่อนด้วยคำพูดสุภาพ การแต่งตัวก็ไม่ต่างจากคำพูดเท่าไหร่นัก กระโปรงพลีทอัดกลีบยาวคลุมถึงหน้าแข้ง เสื้อแขนยาวสีสุภาพปิดมิดชิด
“หวัดดีจ๊ะแม่พระ” หญิงสาวมีนามว่า พลอย เอ่ยออกมาอย่างตั้งใจจะแกล้งเย้ารสริน
“แม่พระบ้าอะไรของพลอยอ่ะ” ร่างบางแหวลั่นเมื่อเพื่อนสาวแซวแบบนั้น
“ก็จริงนี่ ดูการแต่งตัวดิ จะปกปิดไปไหน อีกนิดพร้อมออกบวช” พลอยยังไม่หยุดที่จะว่าให้เพื่อนสาวซ้ำยังหัวเราะคิกคัก
“พอเลย ถ้าไม่หยุดขำจะไม่คุยด้วยละนะ” รสรินทำท่าขู่เพื่อนสาวอย่างหนัก
“โอเค ๆ ไม่ขำแล้ว” พลอยที่เจอร่างบางขู่ถึงกับหยุดขำไปเลยทีเดียว
“แล้วเราจะไปไหนกันเหรอ” รสรินหันหน้าไปถามหญิงสาวข้าง ๆ
“ก็ไปดูหนังไงโรส ลืมแล้วหรือไง” พวกเขาหยุดยืนเพื่อเสวนากันที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“แหะ ๆ ก็คนมันลืมนี่” รสรินขำแห้งเมื่อเผลอลืมเรื่องที่จะมาทำในวันนี้
“โรส นั่นสามีแกหรือเปล่าน่ะ” พลอยชี้นิ้วเข้าไปในร้านอาหารที่พวกเขายืนอยู่ด้านหน้า ร่างบางเองเมื่อได้ยินว่าสามีก็รีบมองตามที่เพื่อนสาวบอก
“ใช่ไหมโรส” พลอยถามอีกครั้งทำให้รสรินที่เหม่อลอยอยู่สะดุ้ง
“ใช่ ๆ” ถึงปากจะตอบคำถามเพื่อนแต่ตายังคงจ้องมองสามีกับหญิงกำลังทานข้าวด้วยกันพร้อมพูดคุยอย่างสนิทสนมเกินกว่าที่จะเป็นคู่ค้าทางธุรกิจ
“แล้วผู้หญิงคนนั้นใครอ่ะ” เพื่อนสาวยังคงถามต่ออย่างสงสัย
“น่าจะเป็นลูกค้าคุณภูวดลเขาแหละ” สายตาของรสรินยังจดจ่อกับทั้งสองคนที่อยู่ในร้านอาหารไม่วางตา
“เป็นผัวเมียทำไมแกยังเรียกเขาว่าคุณอยู่อีกล่ะ” พลอยเองยังไม่หายจากอาการสงสัยจึงถามต่อเรื่อย ๆ ไม่มีหยุดหย่อน
“โรสชอบเรียกแบบนี้เองอ่ะ ไม่มีอะไรหรอก” คราวนี้ร่างบางหันกลับมามองหน้าเพื่อนสาวแล้วตอบด้วยรอยยิ้ม
“อ๋อ แล้วเราจะไปกันยัง”
“ไปสิ” คนตัวเล็กปล่อยให้เพื่อนเดินนำไปหลายก้าวแล้ว แต่ตนเองยังคงยืนที่เดิมเพื่อมองสามีกินข้าวกับหญิงอื่นอยู่ จนกระทั่งมีเสียงของพลอยดังมาจากข้างหน้าเพื่อเรียกชื่อเขาอีกครั้ง
“มาสิโรส” ร่างบางกำลังจะเดินออกไปจากหน้าร้าน ทว่า สามีที่นั่งกินข้าวอยู่ ๆ ก็หันมาสบตาเข้ากับเธอในจังหวะที่กำลังจะก้าวเดินออกไปจากบริเวณนี้