"เต้าหู้เอาของไปส่งให้ลูกค้าด้วย" เสียงเรียกจากแม่บังเกิดเกล้าตะโกนดังข้ามหัวลูกค้านับสิบที่พากันนั่งดื่มน้ำเต้าหู้กับปาท๋องโก๋อยู่ภายในร้าน
"รู้แล้วแม่ เดี๋ยวหนูขออ่านตอนนี้ให้จบก่อน"
"ลูกค้าเขาไม่รอให้จบตอนนี้หรอกนะ รีบไปเลย" ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายที่ต้องขาดตอนกลางคัน
แต่คงทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินกระทืบเท้าไปรับถุงน้ำเต้าหู้ไปส่งให้ลูกค้า
"น้องเต้าหู้ไปส่งของเหรอจ้ะ" พี่ผู้ชายที่นั่งอยู่ในร้านเอ่ยถามขึ้นในตอนที่ฉันกำลังจะเดินผ่าน
ใช่แล้วชื่อของฉันคือ เต้าหู้ เพราะแม่ของฉันเปิดร้านขายน้ำเต้าหู้ฉันเลยได้ชื่อนี้มาใช้ โชคดีแต่ไหนที่แม่ฉันไม่เปิดร้านขายขนมถังแตกมีหวังฉันคงได้ชื่อถังแตกมาใช้แน่ๆ
"ใช่ค่ะ พี่อยากสั่งอะไรเพิ่มอีกไหมหนูจะบอกแม่ให้"
"ไม่แล้ว พี่แค่ถามเฉยๆ"
"ค่ะ งั้นทานให้อร่อยนะคะ" ฉันยิ้มบอกพร้อมกับเดินไปหยิบถุงน้ำเต้าหู้เกือบสิบถุงมาใส่หน้าตระกร้ารถจักรยานสีชมพูคู่ใจ
ฉันปั่นจักรยานไปตามทางที่อยู่ของลูกค้าอย่างอารมณ์ดี ชมนกชมไม้แวะดูมดต่อแถวขนเศษอาหารด้วยความเอ็นดู พอใจแล้วก็ควบจักรยานคู่ใจขี่ต่อไปอีกนิดก็ถึงที่หมาย
ฉันมองซ้ายมองขวาหาลูกค้าที่บอกให้มาส่งของที่ลานกว้างหลังหมู่บ้านที่มักจะมีคนมาออกกำลังกายวิ่งเล่นกัน
พลั๊ก! ตุ้บ!
เสียงที่ดังมาจากหลังกำแพงทำให้ฉันต้องปั่นจักรยานเข้าไปใกล้ๆก็เห็นกลุ่มคนที่กำลังยกพวกตีกันราวกับหมาบ้าออกรบ
กริ๊งงง กริ๊งงง~
เสียงกริ๊งของรถจักรยานที่ฉันตั้งใจเรียกสติของเหล่าผู้ชายที่ตะลุมบอลเข้าหากันจนพวกเขาหยุดชะงักแล้วพากันหันมามองที่ฉันเป็นตาเดียว
"น้ำเต้าหู้มาส่งแล้วค่าาาา"
"ใครสั่งว่ะ มึงเหรอ" เสียงของหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นเอ่ยถามเพื่อนในกลุ่มแล้วมองมาที่ฉันอย่างงงๆ
"ธรรมดาสามทรงเครื่องสี่ชาเขียวหนึ่ง ทั้งหมดร้อยสิบบาทค่ะ" ฉันตะโกนบอกทั้งที่ยังคร่อมรถจักรยานเอาไว้อยู่
"ใครสั่งก็ไปจ่ายสิวะ"
"กูไม่ได้สั่ง"
"พวกมึงเหรอวะที่สั่ง"
"มึงอย่ามากวนตีนกูจะสั่งทำเหี้ยไร" พวกผู้ชายทั้งสองกลุ่มต่างเกี่ยงกัน นั่นเลยยิ่งทำให้ฉันรำคาญเสียเวลาที่จะอ่านนิยายตอนที่พระเอกกำลังบาละฮ่ำกุ๊ยๆ ดึ๊กๆกันอยู่เลย
"แค่ร้อยสิบบาทก็ไม่จ่ายกัน แล้วจะสั่งมาทำไมโอ๊ยอารมณ์เสียตีกันให้ตายไปเลยนะ เดี๋ยวหนูจะไปเรียกตำรวจมาจับข้อหาไม่จ่ายค่าน้ำเต้าหู้" ว่าจบฉันก็หันหัวรถกลับแล้วปั่นออกมาโดยมีเสียงอวยพรดังตามหลังมาเป็นระยะ
"ไอ้เด็กนี่กลับมาจะทุบให้นะเว้ย"
"จะอยู่ให้ทุบเหรอ แบร่~" ฉันแลบลิ้นใส่แล้วปั่นสุดชีวิตจนพ้นจากซอยท้ายหมู่บ้านมาได้
เอี๊ยดดดดด!
โครมมม!
"โอ๊ยยยย!" ร่างบางกลิ้งลงไปนอนวัดพื้นถนนอย่างจังเมื่อออกจากซอยได้ไม่มากนักก็มีรถพุ่งเข้ามาหาฉันอย่างจัง
ถึงแม้ว่าเขาจะเบรคมาตั้งแต่ไกลแต่ด้วยความเร็วมันก็ทำให้ฉันกระเด็นไปพอสมควร
"แม่งเอ๊ย! ไม่ดูทางเลยหรือไงวะ" ร่างสูงที่เปิดประตูรถออกมาพร้อมแว่นตาสีชากำลังยืนมองรถราคาแพงของเขาที่มีรอยขีดข่วนจากรถจักรยานของฉัน
"ขับรถประสาอะไรไม่ดูคนกัน" ฉันแหวกลับแล้วค่อยพยุงร่างตัวเองให้ลุกขึ้น โอ๊ยสะโพกแทบเคลื่อน
"เธอรู้ไหมว่ารถฉันราคาเท่าไหร่ เอาไอ้เศษเหล็กนั่นมาชนได้ไงวะ" ผู้ชายตรงหน้าฉันชี้ไปยังรถจักรยานที่นอนแอ้งเม้งล้อชี้ฟ้าของฉันอยู่ คำพูดของเขามันทำให้ฉันปรี๊ดแตก
"อย่ามาน้องตุ๊ดตู่ฉันว่าเศษเหล็กนะไอ้รถหรูแต่สมองทึบ"
"ตุ๊ดตู่ไอ้เศษเหล็กขายไม่ออกเนี่ยนะ หึ"
"แล้วทำไมนายมีสิทธิอะไรมาว่ารถของฉัน ถือว่าขับรถหรูกว่าแล้วใหญ่เหรอ" ฉันเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้เมื่อเขาแค่นหัวเราะเป็นเชิงเยาะเย้ยน้องตุ๊ดตู่ของฉัน
"เป็นเด็กเป็นเล็กหัดมีสำมาคาระวะบ้างสิวะ"
"อย่ามาพูดวะกับฉันนะโว้ย แก่แล้วก็หัดทำตัวให้น่าเคารพหน่อยดิ"