เด็กในปกครอง

1474 Words
"ขอบคุณมากเลยนะพ่อหนุ่มที่ช่วยแต่ยังไงน้าก็ต้องขอเวลาใช้คืนหน่อยนะ" แม่ของฉันแทบจะก้มลงกราบเมื่อพวกนั้นยอมที่จะเลือกเอาเงินไปแทนแล้วไม่มารบกวนฉันกับแม่อีก "จะทำไงดีในเมื่อผมก็ไม่ใช่คนใจบุญขนาดนั้นด้วยสิ" พี่เสือยกยิ้มขึ้นอย่างนึกสนุกเล่นเอาแม่ฉันหน้าเสียขึ้นทันที "แล้วพี่จะช่วยทำไมล่ะ ถ้าไม่เต็มใจอย่าช่วยดีกว่าไหม" "แล้วจะให้ไอ้พวกนั้นลากเธอไปหรือไง อยากไปกับพวกมันเหรอ" คิ้วหนาขดเข้าหากันเป็นปมราวกับเขาไม่ชอบใจในคำพูดของฉัน "แล้วพี่ต้องการอะไรถึงได้ช่วย ในเมื่อพี่ไม่ได้หวังดีจริงๆ" "มาเป็นเด็กในปกครองของฉัน จนกว่าแม่เธอจะหาเงินมาใช้หนี้ได้" "....." "ฉันก็ต้องการหลักประกันไหม ฉันยอมเสียเงินไปตั้งเยอะคิดว่าฉันจะยอมให้ง่ายๆรึไง" แันหันไปมองหน้าแม่ที่ทำหน้าคิดไม่ตก ก็จริงที่พี่เสือบอกเขาเสียเงินไปเยอะเพื่อล้างหนี้ให้กับเรา มันไม่แปลกหรอกที่เขาจะคิดว่าพวกเราไม่ยอมจ่ายคืน "แล้วหนูต้องไปอยู่กับพี่เหรอ" ฉันเงยหน้าขึ้นถาม เพราะยังไม่เข้าใจในความคิดของเขานัก "อืม ใช้หนี้ฉันครบเมื่อไหร่เธอก็ไปได้เลย" "....." "ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะเอาเธอไปทำมิดีมิร้าย แค่อยู่ในความควบคุมของฉันเธอจะไม่ต้องเดือดร้อนอะไร" "เต้าหู้แม่ว่า..." แม่กระตุกแขนฉันเบาๆแล้วส่ายหน้าเป็นเชิงปฎิเสธ แต่จะให้ทำยังไงเงินตั้งเยอะฉันกับแม่หามาคืนเขาในเร็วๆนี้คงไม่ได้ "แม่..ไม่เป็นไรหรอกหนูจะไปกับเขา หนูรู้ว่าแม่เป็นห่วงแต่แม่ดูสิดูโตแล้วนะหนูดูแลตัวเองได้" ฉันยิ้มให้แม่ถึงมันจะเป็นยิ้มที่ดูไม่มีความสุขเลยก็ตาม "ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกครับ ผมจะดูแลให้อย่างดี เธอจะกลับมาเยี่ยมแม่บ่อยๆฉันก็ไม่ห้าม" "....." "พรุ่งนี้ฉันจะมารับ หวังว่าฉันจะไม่ผิดหวัง" วันต่อมา... ฉันลงจากรถคันหรูที่ขับมาจอดอยู่ในรัวบ้านหลังใหญ่ยิ่งกว่าสนามฟุตบอลที่โรงเรียนเสียอีก "โห้ บ้านหลังใหญ่จัง" ฉันเอ่ยออกมาด้วยความตะลึงอย่างอดไม่ได้กับภาพตรงหน้า "งั้นเหรอ" น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นแล้วมองหน้าฉันด้วยสายตานิ่งๆ "จะให้หนูอยู่ที่นี่จริงๆเหรอคะ คงไม่ใช่ห้องเก็บของใช่ไหมคะ" "ฉันจะให้เธองดดูละครแล้วถ้ามันทำให้เธอมีความคิดที่ปัญญาอ่อนขนาดนี้" พี่เสือตอบอย่างเหนื่อยหน่ายใจ จากนั้นเขาจึงเดินนำฉันไปยังในบ้านที่ดูหรูหราหมาเห่ามากแม่ "เอ้า เหตุการณ์​แบบนี้มันคือฉากที่นางเอกถูกพระเอกพามาขัดดอกใช้หนี้ตามพล็อตนิยายเลยนะคะ แต่ต่างกันตรงที่พี่เสือเป็นเหมือนตัวร้ายมากกว่า" "คิดอะไรเลอะเทอะ​ ทำไมชอบมโนเรื่องไม่เป็นเรื่อง" "เขาเรียกว่าจินตนาการ​สูงค่ะ" คนตัวโตส่ายหน้าเอือมๆ ไม่โต้เถียงกลับแล้วเดินก้าวฉับๆไปทันที "นี่ห้องเธอ" เขาเดินมาถึงห้องๆหนึ่งก็เปิดประตูให้อ้ากว้างออก ภายในตกแต่งด้วยสิ่งของสีชมพูไปหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งพรมเช็ดเท้าก็ยังมิวายเป็นสีชมพู "แน่ใจเหรอคะ" ฉันเงยหน้าขึ้นถาม ไม่ใช่ว่ามันไม่สวยหรอกนะแต่มันจะหวานแหววไปไหม "ไม่ชอบเหรอ?" "....." "ถ้าไม่ชอบก็ไปนอนหน้าบ้าน" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้อ้าปากตอบเขาก็รีบสวนขึ้นมาทันที "เล่นพูดแบบนี้ไม่ชอบก็ต้องชอบแล้วละค่ะ" ฉันกรอกตาใส่คนตัวโตอย่างเอือมๆ คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบแบบนี้ทีหลังไม่ต้องถามแล้วนะ "ก็ดี ห้องฉันอยู่ตรงนี้มีอะไรไม่ต้องมาเรียก" "เอ้า! แล้วจะบอกเพื่อ?" ฉันกระแทกเสียงใส่กับความกวนประสาทของเขา อยากให้ฉันมาอยู่นักเดี๋ยวแม่จะเอาให้ไล่กลับบ้านไม่ทันเลย ฉันจัดของที่ไม่ได้เยอะมากที่เอามาจากบ้านของแม่ พูดแล้วก็อยากจะร้องไห้ฉันไม่เคยห่างจากแม่เลยตั้งแต่เล็กยันโต ฮรึก~ คิดถึงแม่จัง ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูทำให้ฉันหลุดจากห้วงความคิดแล้วหันไปมองยังบานประตูที่ไม่รู้ว่าหลังบานประตูนั้นจะเป็นใคร เชอะ~ ไม่เปิดหรอกฉันโกรธอยู่ "เต้าอวบเปิดประตู" เสียงเรียกห้วนๆทำให้ฉันต้องกระทืบเท้าไปเปิดประตูด้วยความโมโห "ทะลึ่งเหรอคะ" "..ก็ไม่ได้ใหญ่จะโกรธทำไม" ดวงตาคมเฉี่ยวปรายตามองหน้าอกอวบอิ่มของฉันเพียงนิดก่อนที่เขาจะพูดออกมาหน้านิ่ง มันน่าโกรธมากกว่าว่านมฉันใหญ่อีกนะ หนูไม่ยอมหนูไม่ยอม "มันใหญ่กว่าที่พี่คิดแล้วกัน ต้องเสียใจด้วยที่ชาตินี้พี่จะไม่ได้เห็นของดีแบบนี้" ฉันบอกเขาอย่างเย้ยหยันพร้อมเด้งหน้าอกโตๆของตัวเองสู้ ใหญ่นะขอบอกจับหัวกดนมขาดอากาศหายใจตายไม่รู้ด้วย "ถึงให้ดูฉันก็ไม่อยากดูหรอก โคตรเสียสายตาเลย" ร่างสูงกระตุกยิ้มขึ้นอย่างกวนๆ อย่ามาง้อแล้วกันวันหลังจะสะบัดบ๊อบใส่ซะเลย "มาเรียกมีอะไรคะ" ฉันสูดลมหายใจเข้าออกสงบสติอารมณ์ตัวเองแล้วเอ่ยถามเขาไป "มาอยู่บ้านคนอื่นอย่าคิดนิ่งดูดายไม่เคยได้ยินรึไง" "แล้วยังไงคะ หนูต้องปั้นวัวปั้นควายให้พี่เล่นเหรอ" "....." "หนูว่าพี่ก็แก่เกินกว่าจะเล่นแล้วนะคะ" ฉันฉีกยิ้มอย่างมีจริต อยากให้ฉันปั้นวัวปั้นควายเล่นก็บอก อย่ามาแอ๊บ "ฉันว่าคงต้องสอนเธอเรื่องมารยาทสักหน่อยแล้ว" ร่างสูงแทรกตัวเข้ามาในห้องทำให้ฉันต้องถอยหนีเขาด้วยความหวาดหวั่น "จะ จะทำอะไรคะ" ฉันเอ่ยถามเสียงสั่นคนตรงหน้าก้ยังไม่หยุดเดินเข้ามาหา ดวงตาคมเฉี่ยวดุดันน่ากลัวเรียบนิ่งยามเขาจ้องมองฉัน ราวเสือร้ายกำลังรอตะครุบเหยื่ออันโอชะ และแน่นอนว่าฉันคือเหยื่อของเสือตัวนี้ไงล่ะ กรี๊ดดดดด "ว้ายยยย" พรึ่บ! ฉันร้องออกมาเสียงดังเมื่อเท้าเจ้ากรรมดันขัดกันจนเสียหลักหงายหลัง แต่มันจะไม่น่ากลัวขนาดนั้นเลยถ้าสองมือของฉันไม่คว้าเอาคอเสื้อของร่างสูงตรงหน้าเอาไว้จนเขาเซถลามาล้มทับตัวฉันไปอีกคน "อ่า..ยัยโง่จะล้มก็ล้มไปคนเดียวสิ จะคว้าฉันไปด้วยทำไม" "โอ๊ยๆ เลิกบ่นแล้วลุกออกไปสักทีหนูหนัก" ฉันบอกพร้อมกับใช้มือบางทุบลงบนแผ่นหลังของเขาให้ลุกขึ้น ฉันจะตายแล้วโว้ยกินควายเข้าไปหรือไง "วุ่นวายฉิบ" เขายอมลุกออกไปแต่โดยดี แถมยังลุกออกไปแล้วเดินหายไปจากห้องเลยด้วยซ้ำโดยทิ้งให้ฉันนอนแผ่หนาอยู่ที่พื้นไม่คิดแม้แต่จะช่วยพยุงฉันขึ้นเลยสักนิด "ไอ้คนใจดำอย่าให้ถึงทีฉันละกัน" หนึ่งสัปดาห์​ต่อมา.. "ทำไมตื่นสาย" ฉันเดินลงมายังชั้นล่างที่มีร่างสูงกำลังใช้เท้าพาดลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้าแทนแก้วกาแฟในมือของเขา "ก็วันหยุด หนูอยากตื่นสายบ้างไม่ได้เหรอคะ" ฉันตอบเสียงใสแล้วเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนาข้างๆเขา "เป็นเด็กหัดตื่นให้เช้าๆหน่อย" "ไม่เห็นจำเป็นเลย การตื่นสายไม่ใช่เรื่องใหญ่สักหน่อย" "ช่างมันเถอะ ฉันไม่อยากจะมาอารมณ์เสียกับเธอวันนี้" เขายกขาลงมาวางที่พื้นตามเดิมแล้ววางแก้วกาแฟลงแทนที่บนโต๊ะเมื่อครู่ "หนูอยากไปหาแม่" ฉันเอ่ยขอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ตั้งแต่มาอยู่กับเขาฉันได้กลับไปหาแม่แค่ครั้งเดียวเอง "วันนี้ฉันไม่ว่าง" "หนูไปเองก็ได้นะคะ" ฉันยิ้มบอกแล้วส่งสายตาปริบๆเป็นการอ้อนเขา "เธอเป็นเด็กในปกครองของฉัน คิดเหรอว่าฉันจะให้เธอไปคนเดียว" **** เด็กในปกครองอะนะพี่ก็เลยเป็นห่วง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD