​Chapter 1 บทนำ

1423 Words
​Chapter 1 บทนำ   "ปัง!" "คุณแม่!" นคินทร์ตะโกนเรียกออกมาสุดเสียงพร้อมผวาเฮือกลุกขึ้นนั่ง ใจเต้นแรงจนแทบกระเด็นกระดอนออกมาข้างนอก สัมผัสได้ถึงแผ่นหลังที่ชื้นเหงื่อจากการฝันร้ายจนมือไม้สั่น...เสียงปืนลั่นดังก้องที่ทำให้เขาฝันร้ายเกือบทุกค่ำคืน กับความจริงที่ทำให้รอบขอบตาปวดหนึบร้อนผ่าว...ความสูญเสียที่ยากเกินจะทำใจ  ไม่มีอีกแล้วกับภาพในวันวาน รอยยิ้มและเสียงหัวเราะแห่งความสุขในวันสุดท้ายของปี ปาร์ตี้ครอบครัวในคืนเค้าท์ดาวน์ เมื่อยามลืมตาตื่นเขาได้ยินเพียงแค่เสียงร่ำไห้ของหัวใจ ภาพควันไฟที่พวยพุ่งออกจากปล่องเมรุ ร่างมารดาที่นอนจมกองเลือดอยู่บนเตียง ภาพเหล่านั้นยังคงฝังลึกอยู่ในหัวใจแกร่ง ตามหลอกหลอนทั้งในยามหลับและยามตื่น คือความทรมานที่ไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่เขาจะหลุดพ้นจากบ่วงตรงนี้เสียที  เมื่อไหร่เขาจะแต่งงานแล้วมีหลานให้คุณย่า...นั่นคือสิ่งที่มารดามักถามไถ่อยู่เสมอเพราะกลัวลูกชายจะกลายเป็นเกย์ และเขามักบ่ายเบี่ยงเลี่ยงหลบพูดไม่เต็มปาก เมื่อว่าที่เจ้าสาวของเขานั้นยังเรียนไม่จบปริญญาตรีเลยด้วยซ้ำ หล่อนคือคนที่ใจร้องบอกว่าใช่ และเขาเฝ้ารอวันนั้น วันที่หล่อนเรียนจบแล้วจะคุยกันถึงเรื่องแต่งงาน ทว่า...มารดาก็มาด่วนจากไปในวันที่เขายังไม่พร้อมทำใจรับมือกับความสูญเสีย...และมีคนเดียวที่เป็นกำลังใจสำหรับการมีชีวิตต่อไป ในยามต้องการใครสักคน เขามักจะไปหาเธอ...มาลีรินทร์ +++++ ท่ามกลางความเงียบงันยามดึกสงัด บนพื้นเรียบลื่นสะอาดตา ทางเดินที่ทอดยาวไปสู่ห้องพักในชั้นสามสิบเก้า นคินทร์เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องเป้าหมาย คีย์การ์ดแตะบนตัวล็อกแล้วกดรหัส เพียงเท่านั้นเขาก็สามารถเปิดประตูเข้าไปข้างในได้...ห้องที่เป็นชื่อของเขา ซื้อด้วยเงินของเขา ทว่า...เขาซื้อเอาไว้เพื่อให้ใครบางคนได้อยู่อย่างสุขสบาย ส่งเสียเลี้ยงดูกันมานับตั้งแต่รู้จักกันมาเกือบสามปี ไอเย็นห่มคลุมผิวกายเมื่อเข้ามาข้างใน แม้จะสวมเสื้อแขนยาวอยู่ก็ตาม...ภายในห้องเงียบงันเพราะล่วงเข้าสู่ช่วงดึกสงัด ชายหนุ่มเดินตรงไปยังเตียงกว้างที่ไม่ได้ว่างเปล่า มองไปยังร่างที่กำลังหลับสนิทไม่รับรู้ถึงการมาของเขาแม้สักนิดเดียว เขาพาร่างขึ้นไปบนเตียงอย่างเงียบเชียบ ผ้าห่มถูกมือแกร่งค่อยๆ เลื่อนออกจากร่างนั้นอย่างระมัดระวัง...แววตากรุ่นปรารถนาร้อนรุ่มจ้องมองไปยังแพนตี้ลูกไม้สีขาว มันน่าตีนักที่หล่อนมักแต่งตัวแบบนี้เวลานอน แพนตี้บางๆ แทบไม่ปกปิดอะไรเลยด้วยซ้ำ อวดแก้มก้นขาวเนียนเต่งตึงที่หันหลังให้กันอย่างท้าทายให้ต้องยื่นมือไปสัมผัสเคล้นคลึง ชายหนุ่มขยับกายแนบชิด ขณะที่ฝ่ามือร้อนยังคงลากไล้เคล้นคลึงอยู่กับบั้นท้ายขาวเนียน จังหวะนั้น...เจ้าหล่อนก็เริ่มสัมผัสได้ถึงการรุกราน ".....!" "ชู่วส์..." มาลีรินทร์ปรือตามอง ในความงุนงงผสานตกใจ เรียวปากอิ่มก็ไม่ว่างอีกต่อไป ความร้อนรุ่มบดเคล้าสร้างสัมผัสแสนอ่อนละมุน สัมผัสนี้ กลิ่นกายแบบนี้ หล่อนจำได้ดีเพราะความคุ้นเคย...นคินทร์ มาลีรินทร์ขัดขืนเล็กน้อยเพราะยังงุนงงกับการที่เขามาหากลางดึกสงัด ซ้ำมาถึงก็ปลุกกันด้วยมือปลาหมึกที่ใต่ยั้วเยี้ยไปตามเนื้อตัวนุ่ม เขาดูมุละทุกระหายหิวราวห่างร้างลาไปนานวัน...สองมือเล็กพยายามดันแผงอกกว้างให้ถอยห่างเพราะอยากนอนหลับมากกว่านอนให้เขาขึ้นคร่อมเพื่อหาความสุขจากกายสาว หากแต่ว่าข้อมือเล็กก็ถูกจับกดไว้กับที่นอน แรงอันน้อยนิดมีหรือจะไปสู้แรงชายที่กำลังกระหายอยากในการล่วงล้ำสร้างสัมพันธ์รักลึกซึ้งทางกาย "แอบเข้าห้องมิ้นต์ตอนดึกๆ อีกแล้วนะ ตลอดเลยนะคะชอบมาโดยไม่บอกล่วงหน้า" "ไม่รู้เป็นอะไร...ตื่นมากลางดึกทีไรแล้ว...อยาก...ทุกที..." คนฟังใจวาบหวิว เมื่อเสียงกระเส่าเล็ดลอดยามลิ้นร้อนลากไล้ลงต่ำไปตามซอกคอขาวเนียน "อาภู พะ พอแล้ว..." ห้ามเสียงสั่นพร่า ใจวาบหวิวเมื่อปลายลิ้นสากร้อนตวัดลากไล้กดลงบนยอดอกอิ่ม มาพร้อมปลายนิ้วแกร่งที่ลากผ่านตรงกลางกาย เรียกขนอ่อนให้ชูชันจากสัมผัสหวามไหว และในวินาทีนั้นเอง "แคว่ก!" ".....!" เสียงคล้ายอะไรบางอย่างฉีกขาด อุ้งมือแกร่งตะปบลงบนเนินเนื้อนุ่มอย่างมันเขี้ยว ชายหนุ่มขบริมฝีปาก ยามฝ่ามือร้อนเคล้นคลึงหยอกเย้าสลับสอดแท่งนิ้วแทรกลึก...แววตากลมโตถลึงมองเจ้าของรอยยิ้มยั่วท่ามกลางแสงไฟสลัว...เป็นอีกครั้ง...อีกครั้งที่เขาทำแพนตี้ตัวโปรดของเธอขาดกระจุย  "อาภู! อีกแล้วนะ นี่มันตัวโปรดของมิ้นต์" "ขาดก็ช่างปะไร เดี๋ยวให้เงินไปซื้อใหม่สักสองโหล" น้ำเสียงอู้อี้ฟังแทบไม่รู้เรื่องว่าเขาพร่ำอะไร คนหน้ามึนซุกหน้าลงบนแผ่นท้องขาวเนียนแล้วดุนลิ้นกับเนื้อนุ่มๆ...แผ่นท้องแบนราบขยับขึ้นลงตามแรงลมหายใจถี่กระชั้น ยามที่เขาเคลื่อนหน้าลงต่ำ...ต่ำลงไปจนหล่อนต้องยอมให้กับสัมผัสชวนให้ใจโลดแล่น และท้ายที่สุดคืนนี้ต้องตื่นมาเล่นสนุกกับเขาตามเสียงร้องสั่ง สัมพันธ์รักลึกซึ้งทางกายที่เป็นสิ่งบ่งบอกว่าเขาเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว  +++++ ที่หน้ารั้วบ้านหลังใหญ่ ประตูอัลลอยด์กำลังค่อยๆ เลื่อนเปิดจากระบบอัตโนมัติ...ภายในรถที่จอดรอ สองคนยังคงนัวเนียกอดรัดฟัดเหวี่ยงราวต้องการใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า ฟิล์มกรองแสงมืดดำยากที่ใครจะมองเห็น ประตูรั้วที่เปิดกว้างยามเหลือบมองด้วยหางตา มาลีรินทร์รีบกระซิบให้คนที่ยังคงเฝ้าลองลิ้มจูบแสนร้อนเร่าให้รู้ตัว "พอก่อนค่ะ ประตูเปิดแล้วนะคะ" นคินทร์เหลือบมอง จูบสั่งลาดูดแรงๆ ลงบนกลีบปากนุ่มแดงเห่อก่อนจะขยับหันกลับเข้าหาพวงมาลัยรถ...สัมผัสได้ถึงเสียงในใจ เขาทั้งรักและหลงมาลีรินทร์จนหัวปักหัวปำ รักจนแทบจะทนรอต่อไปไม่ไหว รอให้หล่อนเรียนจบแล้วใช้ชีวิตร่วมกันในแบบผัวเมียที่สังคมรับรู้ว่าหล่อนคือผู้หญิงที่เขาเลือกแล้ว คนที่จะมาเป็นแม่ของลูกมีได้เพียงคนเดียว และคนนั้นก็คือเธอ 'แก้ว!' ชายหนุ่มกัดฟันกรอดเมื่อขับรถเข้าบ้านแล้วเห็นคนที่แสนเกลียดกำลังเดินอยู่ข้างหน้า ดูเหมือนว่าหล่อนเพิ่งจะเลิกเรียนเช่นกันคิดพลางลงน้ำหนักเท้าบนคันเร่ง ความชิงชังเรียกซาตานร้ายมาสิงใจโดยพลัน เสียงบีบแตรดังถี่ติดกันจนแก้วกัลยาตกใจเอี้ยวหน้ามอง จังหวะนั้น ออดี้คันหรูก็แฉลบเข้าหาด้วยความเร็วจนแววตากลมโตเบิกกว้าง มันเฉี่ยวร่างของตนไปนิดเดียว เสียงร้องมาพร้อมร่างที่เซถลาล้มลงบนพื้นคอนกรีต รู้สึกเสียวแปลบที่ข้อเท้าขึ้นมาทันที "อาภู! อาภูทำอะไรคะ" ใช่ว่าจะมีแต่แก้วกัลยาที่ตกใจ มาลีรินทร์เองก็หน้าซีดเป็นไก่ต้ม เมื่อเห็นกับตาว่าเขาจงใจขับรถเฉี่ยวน้องสาวต่างมารดาที่บิดาของเขาเพิ่งพาเข้าบ้าน...คนที่เขาชิงชังยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ "จอด! จอดเดี๋ยวนี้ อาภูทำอะไรลงไป" มาลีรินทร์ออกคำสั่ง เหลียวมองผ่านกระจกด้านหลัง อีกฝ่ายกำลังค่อยๆ ประคองร่างลุกขึ้นยืน "จอดค่ะ หยุด! มิ้นต์จะลงไปดูเธอ" "หุบปาก! ปล่อยให้ตายอยู่ตรงนั้นนั่นแหละ สำออยแล้วก็มารยาเหมือน...แม่...เหมือนแม่ไม่มีผิด!" มาลีรินทร์ผงะตกใจ แววตาคู่สวยสั่นระริกเมื่อถูกตวาดลั่นท่าทีของเขาแปรเปลี่ยนจนดูเหมือนคนละคน นคินทร์คนเดิมหายไป แววตาของเขาแดงก่ำจนน่ากลัว…     ​                 ​
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD