Sign on love ❤️ เดิมพันรัก มาเฟียร้าย ตอนที่ 5 อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน UPDATE 100 %

2825 Words
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะหลานรักของทวด” กิ่งไผ่ไหวเอนลู่ไปตามแรงลมน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนคล้ายมีคล้ายไม่มีดังขึ้นอย่างเลือนรางขอบตาของกรรฐ์พลันร้อนผ่าวเขาเหลียวมองไปรอบๆบริเวณก่อนที่จะพบเพียงความว่างเปล่ากรรฐ์จึงดึงสายตากลับมาคืนพร้อมก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยฝีเท้าที่สั่นเล็กน้อยจนกระทั่งเขาหยุดยืนอยู่หน้าเจดีย์ที่ตั้งอยู่เคียงข้างกันดวงตาดอกท้อคู่งามจ้องมองไปยังภาพถ่ายสีขาวซีดที่สีสันค่อยๆจางหายไปตามกาลเวลายกเว้นรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนที่ไม่เคยจางหายไปจากใจ จู่ ๆ บรรยากาศรอบด้านก็พลันเงียบสงัดความเงียบที่เกิดขึ้นแฝงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความโศกเศร้าและอาลัยอาวรณ์มือที่สั่นระริกของกรรฐ์ค่อยๆยื่นไปด้านหน้าก่อนจะแตะลงบนรูปถ่ายของคุณทวดกฤษฎิ์ทันใดนั้นความทรงจำมากมายในวัยเยาว์ก็พลันหลั่งไหลเข้ามาในหัวคำพูดมากมายดังวนเวียนไม่หยุดราวกับว่าเขาได้ย้อนเวลากลับไปยังช่วงเวลานั้นที่คุณทวดกฤษฎิ์และคุณทวดที่รักยังคงอยู่เคียงข้างเขา “เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งต่อให้เจ็บแค่ไหนก็ห้ามมีน้ำตารู้ไหมครับน้องกรรฐ์ ?” “น้องกรรฐ์รู้แล้วครับคุณทวด โตขึ้นน้องกรรฐ์จะเข้มแข็งเหมือนคุณทวดกฤษฎิ์อ่อนโยนเหมือนคุณทวดที่รักและรักเดียวใจเดียวเหมือนคุณปู่ครับ” เด็กชายกวีวัธน์ตอบรับคำสอนของคุณทวดด้วยรอยยิ้มในขณะที่กฤษฎิ์มองเหลนชายคนเล็กด้วยความเอ็นดูมือที่เหี่ยวย่นไปตามวัยและกาลเวลายกขึ้นลูบศีรษะของเหลนน้อยเบาๆด้วยความรักใคร่สุดหัวใจ “ดีมากครับเหลนน้อยของปู่ กับคนรักน้องกรรฐ์ต้องอ่อนโยนและรักเขาให้มากๆนะครับ ทะนุถนอมเขาและดูแลปกป้องเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้” เขาในวันนั้นพยักหน้ารับคำพูดของคุณทวดด้วยรอยยิ้มโดยที่ไม่รู้เลยว่าหลังจากวันนั้นเพียงไม่กี่วันคุณทวดที่แสนใจดีของเขาจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับและเขายังจำได้ดีว่าวันนั้นเขากับพี่เกรย์ร้องไห้จนตาบวมช้ำร้องเรียกให้คุณทวดฟื้นคืนกลับมาแต่เสียงเรียกของเขากับพี่ชายคงดังไม่พอคุณทวดถึงได้จากไปด้วยรอยยิ้มและสีหน้าที่สุขสงบ “น้องกรรฐ์กลับมาเมืองไทยแล้วนะครับคุณทวด น้องกรรฐ์กลับมาเพื่อสร้างรากฐานของพิสิฐกุลวัตรดิลกของเราให้แข็งแกร่งขึ้น คุณปู่อยู่บนนั้นไม่ต้องเป็นห่วงนะครับน้องกรรฐ์สัญญาว่าจะดูแลทุกคนทางนี้ให้ดีที่สุด” จบประโยคหยาดน้ำตาของกรรฐ์พลันรินไหลอย่างไร้สุ้มเสียงเขายืนหลั่งน้ำตาจ้องมองรูปถ่ายของคุณทวดทั้งสองเงียบๆเมื่อร้องจนพอใจแล้วเขาจึงบอกตัวเองว่าจะต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้เพื่อที่จะได้ปกป้องทุกคนที่เขารักเหมือนที่คุณทวดกฤษฎิ์คอยปกป้องทุกคนในครอบครัว “น้องกรรฐ์ไปก่อนนะครับ แล้วน้องกรรฐ์จะกลับมาเยี่ยมคุณทวดใหม่” เมื่อจมอยู่กับความเศร้ามานานพอสมควรแล้วกรรฐ์จึงตัดใจเอ่ยคำลาในช่วงที่เขากำลังจะหันหลังเดินจากมาพลันสายลมพัดมาวูบหนึ่งดอกไม้แต่ละดอกที่ปลูกอยู่บริเวณรอบๆพริ้วไหวไปตามสายลมคล้ายกำลังโบกมือส่งยิ้มน้อยๆให้กรรฐ์รอยยิ้มบางๆพลันปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาเขาเดินล้วงกระเป๋าจากไปด้วยฝีเท้าที่เอื่อยเฉื่อยทิ้งภาพเงาเลือนรางของคนสองคนที่กำลังยืนโอบกอดกันเอาไว้ด้านหลังก่อนที่ภาพนั้นจะค่อยๆจางหายสลายไปกับสายลมเมื่อรถของกรรฐ์แล่นจากไป เมื่อกลับมาจากวัดกรรฐ์ก็โผล่หน้าไปทักทายพี่ชายฝาแฝดพร้อมออดอ้อนให้เขาทำมื้อเย็นให้ทานก่อนที่เขาจะเดินทางกลับมายังคอนโดใจกลางเมืองที่เขาตัดสินใจซื้อเอาไว้ก่อนที่จะเดินทางกลับมายังเมืองไทย หลังจากที่เหนื่อยกับงานอาสามาตลอดทั้งปีกรรฐ์ในตอนนี้เพียงอยากจะหลีกหนีความวุ่นวายและพักผ่อนร่างกายอย่างสบายใจเท่านั้นจนกระทั่งวันเวลาเหล่านั้นของเขากำลังจะหายไปเมื่ออยู่ ๆ วันหนึ่งอุบัติเหตุที่เขาไม่ได้ตั้งใจก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้รถที่วิ่งตามหลังรถของเขามาติดๆต้องเบรกจนตัวโก่งส่งผลให้ล้อรถของอีกฝ่ายสะบัดเจ้าของรถที่เป็นเด็กน้อยวัยมหาวิทยาลัยจึงกระเด็นลงไปนอนจูบพื้นตามระเบียบ “ขอโทษนะครับเป็นอะไรมากไหมครับ ?” กรรฐ์เอ่ยถามเด็กน้อยที่นอนราบอยู่บนพื้นด้วยน้ำเสียงร้อนรนสายตาก็มองประเมินร่างกายของอีกฝ่ายว่าได้รับบาดเจ็บมากแค่ไหนเมื่อเห็นว่าคู่กรณีไม่ได้เจ็บหนักถึงขั้นกระดูกหักกรรฐ์จึงยื่นมือไปช่วยประคองเด็กหนุ่มรูปหล่อที่ปากเต็มไปด้วยขี้ดินให้ลุกขึ้นนั่ง “อูย เบาๆหน่อยครับเบาๆเจ็บตรงนี้ เจ็บ” ไวน์ยื่นมืออีกข้างที่ไม่เป็นอะไรมากไปประคองมือข้างที่เคล็ดจนแทบขยับไม่ได้เอาไว้ด้วยความเจ็บจนน้ำตาคลอเบ้า กรรฐ์ “_” เจ้าเด็กนี่จะสำออยเกินไปแล้วเห็น ๆ กันอยู่ว่าร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บมากแล้วน้ำตาที่คลอเบ้าใกล้จะไหลออกมาอยู่รอมร่อนั่นมันอะไรกัน “เจ็บมากไหม?” กรรฐ์ยื่นมือไปจับมือข้างที่เด็กหนุ่มบอกว่าเจ็บและออกแรงบีบเบาๆใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มพลันเหยเกทันทีด้วยความเจ็บ “ถ้าสบายดีผมคงไม่ร้องบอกว่าเจ็บหรอกครับ” กรรฐ์ “_” อืมนอกจากเจ้าน้ำตาแล้วเจ้าเด็กนี่ยังปากดีอีกด้วยแฮะ เด็กเวร! “ขอโทษนะครับที่กลับรถกะทันหันผมไม่ทันมองด้านหลังจริงๆเดี๋ยวผมจะพาคุณไปส่งที่โรงพยาบาลค่ารักษาผมจะเป็นคนออกให้ทั้งหมดแล้วก็ยังมีอะไรนะ อ๋อ ค่าทำขวัญผมยินดีชดเชยให้เต็มที่ครับส่วนเรื่องแจ้งความถ้าคุณต้องการผมก็ยินดีเพราะผมเป็นคนผิดจริงๆ” ต่อให้กรรฐ์จะร่ำรวยล้นฟ้าทั้งยังมีอำนาจและเป็นมาเฟียนักฆ่าที่ยิ่งใหญ่มากแค่ไหนแต่นิสัยลูกผู้ชายที่ทำผิดแล้วยอมรับผิดอย่างที่สุภาพบุรุษพึงกระทำสิ่งเหล่านี้เขาถูกอบรมสั่งสอนและปลูกฝังจากคุณทวดมาตั้งแต่ยังเด็กเพราะฉะนั้นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเพราะความประมาทของเขาๆจึงยอมรับผิดอย่างไม่ลังเลหากเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่กรรฐ์ก็ไม่แน่ว่าเขาคนนั้นจะยอมรับผิดเพราะสังคมสมัยนี้ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัวและมักจะมองว่าการกระทำของตนเองนั้นถูกเสมอน้อยครั้งที่จะมีคนยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชายคำพูดที่กรรฐ์เอ่ยออกไปจึงทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกนับถือความเป็นสุภาพบุรุษของเขาจากใจ “ตอนนี้ช่วยพาผมไปส่งโรงพยาบาลก่อนได้ไหมครับ ? ส่วนเรื่องแจ้งความค่อยคุยรายละเอียดกันทีหลังผมเจ็บมือจะตายอยู่แล้ว” ไวน์เอ่ยบอกชายหนุ่มรูปหล่อที่ตัวเขาเองยังมองจนตาค้างด้วยสีหน้าซีดเผือดเหงื่อเม็ดเล็กๆพลันผุดขึ้นบนหน้าผากความเจ็บปวดจากอาการเคล็ดขัดยอกค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่เชื่อคำพูดของผู้ชายคนนี้ทั้งหมดแต่เป็นเพราะตอนนี้เขาเจ็บข้อมือมากต่างหากในเมื่อคู่กรณีเป็นฝ่ายเสนอว่าจะพาเขาไปส่งโรงพยาบาลเขาจึงตอบรับน้ำใจของอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล แต่ถ้าหากว่าอีกฝ่ายหน้าตาโหดเหี้ยมหรือไว้หนวดเครายาวเฟื้อยจนทำให้เขารู้สึกกลัวต่อให้อีกฝ่ายพูดจนน้ำลายบูดเป็นตายอย่างไรไวน์ก็ไม่ยอมขึ้นรถไปกับเขาแน่นอนแต่ผู้ชายคนนี้กลับแต่งตัวดีสะอาดสะอ้านทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยแบรนด์เนมส่วนรถที่ขับไม่ต้องพูดถึงราคาเกิดใหม่อีกสิบชาติก็ไม่รู้ว่าไวน์จะมีปัญญาซื้อรถคันนี้ได้ไหม ทั้งการพูดจาที่อ่อนโยนเป็นสุภาพบุรุษทั้งยอมรับผิดทั้ง ๆที่เขายังไม่ทันได้พ่นวาจากล่าวหาคนแบบนี้ชวนให้นึกเชื่อถือน้ำใจที่อีกฝ่ายแสดงออกมาไม่น้อยและที่สำคัญดวงตาดอกท้องดงามที่อ่อนโยนของเขานั้นต่างหากที่ดึงดูดไวน์ให้ตอบตกลงผู้ชายที่อ่อนโยนขนาดนี้คงได้รับการสั่งสอนมาจากที่บ้านเป็นอย่างดีแน่นอนอย่ามองว่าเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีที่ยังไม่รู้จักโลกกว้างหรือรู้จักมองคนให้ออกมากพอตั้งแต่เขาเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายเขาก็เริ่มช่วยครอบครัวทำงานโดยรับจ้างเป็นเด็กเสิร์ฟที่ผับบาร์แล้วจนกระทั่งตอนนี้เขาเลื่อนขั้นมาเป็นบาร์เทนเดอร์ในคลับหรูหราที่พวกนักร้องดาราชอบมาเที่ยวเขาจึงมั่นใจว่าประสบการณ์ที่แม้จะน้อยนิดแต่เขามองคนไม่ผิดอย่างแน่นอนหรือต่อให้ผิดและถูกหลอกถนนเส้นนี้มีกล้องวงจรปิดหากเกิดว่าต้องสู้คดีเขาก็มั่นใจว่าตนเองจะต้องชนะคดีเช่นกัน “เดินไหวไหมครับถ้าไม่ไหวเดี๋ยวผมช่วยอุ้มไปขึ้นรถ ?” ไวน์ “_” คำถามนี่มันอะไรกันมีผู้ชายที่ไหนเสนอตัวอุ้มผู้ชายด้วยกันพี่รูปหล่อคนนี้คงไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบผู้ชายหรอกใช่ไหม ? “เอ่อ มะ ไม่เป็นไรครับแค่ช่วยพยุงก็พอผมเดินเองได้ครับ” ไวน์เอ่ยปฏิเสธด้วยความกระอักกระอ่วนใจก่อนที่กรรฐ์จะพยุงเขาเดินไปขึ้นรถแต่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวไวน์ก็เหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ารถของเขายังคงล้มอยู่บนถนนฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินจึงชะงักลงกรรฐ์ที่เดาความคิดของอีกฝ่ายออกจึงพูดขึ้นเพื่อให้เขาสบายใจ “เรื่องรถไม่ต้องเป็นห่วงนะครับถ้ามันพังจนซ่อมไม่ได้เดี๋ยวผมซื้อคันใหม่ให้เองครับ” กรรฐ์เอ่ยบอกเด็กหนุ่มอย่างใจป้ำความจริงแล้วสภาพรถก็ไม่ได้เสียหายมากเท่าไหร่เพราะเด็กหนุ่มไม่ได้ขับมาด้วยความเร็วรถจึงไม่ได้รับความเสียหายมากนักแต่สีของรถที่ดูซีดกับสภาพความเก่าที่เหมาะจะเอาไปทำเป็นเศษเหล็กทำให้กรรฐ์คิดว่าควรจะซื้อรถคันใหม่ให้อีกฝ่ายดีกว่าเขาจึงได้เอ่ยออกไปแบบนั้นส่วนไวน์เมื่อได้ฟังคำพูดที่ใจกว้างของคู่กรณีเด็กหนุ่มก็ได้แต่ลอบยินดีอยู่ในใจแต่ดูจากสภาพรถที่น่าจะขับต่อไปได้หัวใจที่เต้นกระหน่ำด้วยความยินดีก็พลันห่อเหี่ยวลง ความใจดีของคนเรามีขีดจำกัดเสมอในเมื่อไอ้ดำลูกรักของเขายังใช้งานได้รถคันใหม่ที่พี่รูปหล่อบอกจะซื้อให้เขาคงไม่มีวาสนาจะได้เชยชมอดทนนะไอ้ดำลูกรักหรือถ้าแกไม่ไหวแล้วจะแกล้งพังแล้วสตาร์ทไม่ติดไปเลยยิ่งดีฉันจะสัญญาว่าจะทำสุสานรถให้แกพร้อมจุดธูปไหว้วันละสามดอกเพราะฉะนั้นพังไปเถอะนะลูกรักถือซะว่าวาสนาระหว่างเราจบลงแค่นี้ ถุย ถุย ถุย เขาคิดอะไรบ้าบออยู่ในหัวเนี่ยไอ้ดำอยู่กับเขามาตั้งหลายปีอยู่ดีๆจะมาแช่งให้มันพังเพราะอยากได้รถคันใหม่เขานี่มันช่าง...ก็อยากได้คันใหม่จริงๆนั้นแหละไปเถอะลูกพังไปเถอะนะถือซะว่าพี่ไวน์ขอร้อง โรงพยาบาล N หลังจากที่กรรฐ์ส่งคนเจ็บเข้าห้องฉุกเฉินเรียบร้อยแล้วเขาจึงหาที่นั่งรออยู่ไม่ไกลพร้อมตอบข้อความของพี่ชายที่ทักมาบอกให้เขาไปรับพี่ของขวัญพี่สาวคนโตของครอบครัวที่พาสามีและลูกๆเดินทางกลับมาถึงเมืองไทยในวันพรุ่งนี้ความจริงในใจของกรรฐ์นั้นอยากจะบอกปฏิเสธแต่พี่ชายของเขากลับเอ่ยดักคออย่างรู้ทันทำให้กรรฐ์ที่ต่อให้อยากปฏิเสธมากแค่ไหนก็ได้แต่จำใจตอบรับอย่างเลี่ยงไม่ได้เขาคงต้องรีบเคลียร์เรื่องทางนี้ให้เสร็จเร็วไวจะได้ไปรับพี่ของขวัญได้ทันเวลา เวลาต่อมาไวน์ที่ถูกพาไปทำแผลและทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดก็นั่งรถเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉินด้วยสีหน้าที่ดูดีขึ้นกว่าตอนที่เดินทางมาถึงเล็กน้อยมือของเด็กหนุ่มถูกพันด้วยผ้ายืดพันเคล็ดมองดูคล้ายขนมบ๊ะจ่างทำให้กรรฐ์รีบหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อซ่อนรอยยิ้มและแววตาขบขันของตัวเองไม่ให้เด็กหนุ่มเห็น “ผลตรวจเป็นยังไงบ้างครับ ?” กรรฐ์เอ่ยถามเด็กหนุ่มด้วยความอยากรู้ถึงแม้ว่าเขาจะประเมินอาการเบื้องต้นแล้วพบว่าเด็กหนุ่มได้รับบาดเจ็บเป็นแผลถลอกตามร่างกายและข้อมือเคล็ดเท่านั้นไม่มีอาการร้ายแรงให้น่าเป็นห่วงแต่นั่นคือการประเมินภายนอกโดยใช้เพียงสายตาของเขาเท่านั้นส่วนบาดแผลภายในจะต้องตรวจให้ละเอียดเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บร้ายแรงที่จะตามมาถ้าหากไม่ได้ตรวจดูร่างกายให้ละเอียด “ผมคงต้องขอบคุณตัวเองที่ไม่ได้ขับรถเร็วจนเกินไปก็เลยได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะถ้าขับมาเร็วกว่านี้คุณคงต้องไปนั่งร้องไห้บีบน้ำตาสำนึกผิดอยู่หน้าโลงศพของผมแล้วล่ะครับ” ไอ้เด็กเวร!! กรรฐ์พ่นคำด่าหยาบคายอยู่ในใจทันทีที่เด็กหนุ่มตรงหน้าพูดจบดวงตาดอกท้อที่เคยเจือด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนพลันปรากฏแววขุ่นเคืองอยู่จางๆแต่ไวน์กลับยักไหล่น้อยๆอย่างไม่แยแสใครใช้ให้เขาไม่ดูตาม้าตาเรือกลับรถกะทันหันจนเขาต้องตกอยู่ในสภาพนี้กันล่ะเขายังต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวแต่มือกลับใช้งานไม่ได้เพราะถูกคุณหมอสั่งห้ามไม่ให้ใช้งานหนักเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ทำให้เขาต้องขอลาหยุดงานรายได้หลักอย่างทิปที่เคยได้คืนละห้าพันถึงหนึ่งหมื่นก็พลันหายวับไปในพริบตาคำพูดที่เขาเหน็บอีกฝ่ายไปก็ถือว่าหายกันแล้วหรือว่าแค่นั้นยังไม่พอนะสงสัยคงต้องหาคำพูดมาเหน็บอีกสักประโยคสองประโยคความอึดอัดและความโกรธที่อยู่ในใจถึงจะได้คลายลงบ้าง “อืม ไม่ตายก็ดีแล้วขี้เกียจไปนั่งเสแสร้งร้องไห้อยู่หน้าโลงศพของนาย เพราะฉันไม่ค่อยถนัดแนวนั้นสักเท่าไหร่” ความคิดที่ว่าคำพูดของตัวเองกับความประมาทของเขานั้นถือว่าหายกันแล้วพลันหายไปไหนพริบตาไวน์เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าบูดบึ้งนี่เขาอุตส่าห์เหน็บพี่รูปหล่อด้วยคำพูดเจ็บๆแล้วคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเหน็บเขาเจ็บยิ่งกว่าฝีปากแบบนี้มันช่างแซบยิ่งกว่าพวกแม่ค้าปากตลาดที่ตะโกนด่าทอกันด้วยคำหยาบเสียอีก “เฮอะ ฝันไปเถอะผมไม่ตายง่ายๆหรอกครับ” กรรฐ์เผยรอยยิ้มยียวนพร้อมจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก “หืม? ฉันก็นึกว่านายอยากตายเร็วๆซะอีกเห็นออกจากห้องฉุกเฉินมาก็พูดแช่งตัวเองแล้ว” กรรฐ์เอ่ยแซวเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงขบขัน “นี่คุณพูดให้มันดีๆนะไม่ใช่เพราะคุณหรอกเหรอที่ทำให้ผมตกอยู่ในสภาพแบบนี้” ไวน์โต้กลับคืนอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ “ก็ขอโทษแล้วไงที่ประมาทหรือต้องก้มลงกราบนายถึงจะพอใจ” น้ำเสียงผ่อนคลายตอบกลับเด็กหนุ่มด้วยท่าทีสบายๆทำเอาไวน์โมโหจนสีหน้าพลิกกลับเปลี่ยนสีไปมาหลังจากนั้นสงครามน้ำลายก็พลันเริ่มขึ้นพยาบาลสาวที่ทำหน้าที่เข็นรถเข็นได้แต่เหลือบมองคนเจ็บทีญาติคนเจ็บทีเมื่ออีกฝ่ายสนทนากันราวกับว่ากำลังโต้วาทีอย่างไม่มีใครยอมใครทำให้เธอได้เปิดโลกทัศน์เรียนรู้สิ่งใหม่ๆว่าที่จริงแล้วผู้ชายหน้าตาดีนั้นปากแซบไม่แพ้ผู้หญิงเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD