(…) ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง (เป็นห่วงฉันเหรอคะ) “!” รามิลแทบจะทำโทรศัพท์ร่วงเมื่ออีกฝ่ายพูดตรงไปตรงมาขนาดนั้น แต่เอลิซเป็นหญิงสาวที่เติบโตอยู่ในต่างประเทศ ทำให้เธอเป็นคนเปิดเผยในเรื่องหัวใจ (ขอโทษค่ะ แต่ปกติฉันก็ไม่ใช่คนพูดเยอะแบบนี้หรอก แค่ถามดูเฉย ๆ ค่ะ เผื่อว่าคุณจะเป็นห่วงฉันขึ้นมาจริง ๆ) “จะ...จะว่าแบบนั้นก็ได้ครับ อย่าลืมทานอาหารอ่อน ๆ แล้วก็ทานยารักษาตามอาการด้วยนะครับ” รามิลเอ่ย ก่อนจะเงยหน้าไปเห็นปุณณ์ที่ยืนกอดอกอยู่หน้าห้องรับรองพลันขนลุกซู่ทันที “แค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนเย็นผมโทร.หาใหม่อีกรอบ” มือหนากดวางสายแล้วรีบเดินหลบสายตานั้นเข้าไปรายงานให้อานยาทราบว่าปุณณ์รอที่จะคุยด้วยจนถึงขั้นออกมายืนแผ่รังสีความกดดันอยู่หน้าห้องแล้ว อานยาพยักหน้ารับคำแล้วเดินออกไป ก่อนเห็นปุณณ์ยืนอยู่ที่หน้าห้องรับรองจริง ๆ แต่กลับไม่มีรังสีความกดดันอะไรแผ่ออกมาแม้แต่น้อย มีเพียงชายหนุ่มที่ท่าทา