สายชล Say::
"แย่แล้วค่ะ คุณหนูอัณณ์อาละวาดอีกแล้วค่ะ เขาจะให้คุณชลไปส่งที่โรงเรียนค่ะ" เสียงโวยวายทำให้ผมที่กำลังจะไปทำงาน ต้องหันไปมอง อะไรแค่เด็กคนเดียวดูแลไม่ได้เหรอ
"เธอเป็นพี่เลี้ยงภาษาอะไร!!!! ถ้าไม่มีฉัน ลูกฉันไม่ต้องไปโรงเรียนเหรอ" ผมตอบกลับพี่เลี้ยงที่ตอนนี้ไม่กล้าจะพูดต่อ อัณณ์โตพอที่จะเรียนรู้แล้วว่าอะไรสำคัญ
ผมไปทำงานโดยให้คนขับรถไปส่งอัณณ์ที่โรงเรียน วันนี้ผมมีประชุมเช้า กับมาร์เก็ตติ้งของบริษัท ผมจะช้าไม่ได้ การที่โดนยัยผู้หญิงคนนั้นมากระตุกหนวดสิงห์ มันทำให้ผมอยากจะทำให้เธอรู้ ว่าผมไม่ใช่คนที่จะมาเล่นด้วย
ผมประชุมตลอดทั้งเช้า กินยาวมาช่วงบ่าย เพราะตอนนี้ทาง Love Travel ตีตลาดออกกิจกรรมแคมเปญมากมาย แต่คนของเรากลับนิ่ง เพราะเราเป็นที่หนึ่งมาตลอด ไม่เดือดร้อน แต่ผมหัวร้อนแล้วไง เราจะทวงบัลลังก์ของเราคืน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!! แม่ของผมเปิดประตูเข้ามา ด้วยหน้าตาร้อนรน มีอะไร เกิดอะไรขึ้น แต่อะไรก็ควรจะให้ผมประชุมเสร็จก่อน
"ชล อัณณ์ อัณณ์หายไปลูก"
"ห๊ะ...อะไรนะ"
"ครูโทรมาบอกว่าพอเลิกเรียนก็ขอไปซื้อขนม แล้วหายไปเลย ตอนนี้ยังหาไม่เจอ ชลไปตามหาเจ้าอัณณ์ก่อนเถอะลูก"
ผมรีบวิ่งออกจากห้องประชุม ขับรถไปที่โรงเรียนทันที คุณครูยังวุ่นหาลูกชายของผม แต่หายังไงก็ไม่เจอ ผมเลยขอดูกล้องวงจรปิด ถึงได้รู้ว่าลูกชายของผม เดินออกจากโรงเรียนไปแล้ว แล้วไม่ได้กลับเข้ามา เขาจะไปไหนของเขานะ ผมเดินไปถามหากับร้านค้าหน้าโรงเรียนทุกร้าน มีแต่คนบอกว่าไม่รู้ เด็กตัวตั้งใหญ่หายไปได้ยังไง!!!!
"หายไปไหนนะเจ้าอัณณ์ รู้ไหมทำแบบนี้ผู้ใหญ่เขาเป็นห่วง"
ผมรีบไปที่สถานีตำรวจ แต่เขากลับไม่รับแจ้งความเพราะว่ายังไม่ถึง 24 ชั่วโมง ตอนนี้เริ่มร้อนใจ เพราะที่บ้านยังไม่มีใครโทรมาบอกว่าลูกชายผมกลับมา ผมขอให้คนที่บ้านทั้งหมดออกตามหา ตามที่ที่อัณณ์จะไป โรงพยาบาล หรือทุกที่ที่เกิดอุบัติเหตุจะต้องไป ไปทุก Mc donald แถว ๆ บ้านและโรงเรียน เพราะอัณณ์ชอบไปกิน
อัณณ์ อยู่ที่ไหนนะอัณณ์
มาริสา Say ::
ฉันไปรับยัยหนูของของขวัญกลับมาบ้าน อาม่า อาเหล่าอี้ ก็เข้ามารับ ขนมมากมายถูกวางเอาไว้ บ้านฉันมีแต่ผู้หญิง แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าขาด เพราะบ้านฉันเราใช้ความเข้าใจ
ติ้งต่องงง ติ้งต่องงงง มีแขกเหรอ หรืออะไร ฉันเดินออกไปดูหน้าบ้าน เจอผู้ชายที่กำลังหน้าโกรธ พร้อมกับจูงมือเด็กผู้ชายมาที่บ้านของฉัน
"หัดดูลูกบ้างสิแม่คุณ ค่าแท็กซี่ 102 บาท" ผู้ชายคนนั้นพูดทำให้ฉันหันไปมองด้านหลังของเขา เออ เขียวเหลืองมาเลย
"ฉันไม่ใช่...."
"แม่ครับ แม่ลืมผมไว้โรงเรียน รับแต่น้อง" น้องอัณณ์วิ่งเข้ามากอดฉัน จ้าาาาาาา ตอนนี้อยู่ ๆ ก็มีลูกชายบ้าไปแล้วนั่น ฉันควักเงินจ่ายค่าแท็กซี่ แล้วมองเด็กชายที่ยิ้มแป้นแล้นไม่รู้สึกรู้สาในความผิด
ฉันพาเจ้าหนูอัณณ์เข้ามาในบ้าน บอกเลยม้าฉัน ไม่พอใจอย่างแรง ไม่พอใจจนแทบไม่มองหน้าหนูอัณณ์ แต่ก็ไม่ใจร้ายถึงกับด่าเด็กได้ เลยเดินเข้าไปในบ้าน โดยไม่พูดอะไร แต่แค่นี้ดูก็รู้ม้าไม่อยากเกี่ยวข้องกับคนบ้านนั้นเลย
"ตามน้ามาทำไม ทำไมไม่กลับบ้าน" ฉันถามเจ้าหนูอัณณ์ที่ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม ไม่ต้องมาทำหน้า ฉันไม่อยากจะยุ่งอะไรกับพ่อของเจ้าหนู
"กิงหนมก่อนพี่ เด็กหนีออกจากบ้างไม่ดีนะ อย่าทำไม่ง้านจะโดนก้างมะยม" ก๊อปคำพูดฉันมาเป๊ะ ลูกแม่โดยที่แท้ทรู ดีทุกอย่าง ยกเว้นจะโดนก้านมะยมนี่แหละ
ฉันมองลูกสาวฉันแบ่งปันเค้กให้แขก แต่แขกไม่ได้อยากกินเค้ก แขกแค่อยากอยู่ที่นี่ เพราะน้องอัณณ์ทำหน้าไม่กล้ากินเค้กที่ลูกสาวฉันให้ ก็ที่ลูกสาวฉันกินหน้าเค้กไปหมด แล้วส่งแป้งให้แขก ส่วนตัวเองน่ะเหรอไปกินอันใหม่ไงล่า เยี่ยมมมม ให้ได้แบบนี้สิ
"ทำไมถึงหนีมา รู้ไหมผู้ใหญ่เขาจะเป็นห่วง"
"พ่อไม่รักผมเลย พ่อไม่สนใจผมสักนิด ถ้าผมหายไป พ่ออาจจะดีใจ" อัณณ์พูดไปน้ำตาก็ไหลแหม่ะ แต่จะหายไปแล้วมาโผล่ที่บ้านฉันไม่ได้
"ป๊าของของขวัญก็ไม่รัก ทิ้งเราไป" อ้าววววว ไปเข้าอกเข้าใจกันตอนไหนอ่าลูก หนูอ่ามีม้าคนเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องมีป๊ามีพ่อ หรือมีอะไรทั้งนั้น
"ฟังนะเด็ก ๆ น้าจะสอน ต่อให้เราโกรธ ไม่พอใจ แต่การที่หนูหนีออกจากบ้านมันไม่ถูกต้อง มันจะทำให้คนที่รักหนูเป็นห่วง ปู่ ย่า คนที่รักหนูไม่ได้มีแค่พ่อนะ ถ้าเขาไม่สนใจ คุณย่าของหนูก็สนใจแน่ ๆ ตอนนี้ท่านอาจจะร้องไห้ที่หนูหายไป" ฉันคุยกับหนูอัณณ์ ที่กอดกับลูกสาวฉันอย่างเข้าอกเข้าใจ
"อัณณ์รักคุณย่า ไม่อยากให้ท่านร้องไห้ แต่อัณณ์โกรธพ่อ พ่อไม่เคยทำตามสัญญาได้สักอย่าง" โอ้วววว ฉันเข้าใจเลย เข้าไปกอดกับเด็ก ๆ ได้ไหมนะ
"เพราะฉะนั้นหนูต้องกลับบ้าน น้าจะไปส่ง" ฉันเองจะต้องไปส่งเจ้าหนูนี่ก่อนจะโดนข้อหา ลักพาตัว
"หนูจะไปล่วย"
"ไม่ได้ ของขวัญต้องอยู่บ้านกับอาม่า" ฉันจะเสี่ยงให้ลูกฉันอยากไปบ้านของเจ้าหนูอัณณ์ไม่ได้
หลังจากเจ้าหนูอัณณ์กินเค้กเสร็จ แน่นอนอันใหม่ที่เป็นของฉันที่แบ่งไว้ เพราะของขวัญเล่นกินหน้าเค้กหมดทั้งสองอัน แม้จะดุ ของขวัญก็ยังดันเค้กที่ไม่มีหน้าไปให้น้องอัณณ์ จนน้องอัณณ์ต้องยอมกินขนมปังให้ แสบจริง ๆ เมื่อเด็ก ๆ กินขนมเสร็จฉันก็พาเจ้าหนูอัณณ์กลับบ้าน
"พ่อจะตีผมไหม"
"ถ้าเขาตีเธอ ฉันจะด่าเขาให้" คำพูดของฉันทำให้เด็กน้อยหัวเราะออกมา ยอมยิ้มแล้วสินะ เด็กช่วยสดใสให้เหมือนเด็กหน่อย จะมาทำหน้าอมทุกข์ทำไมกัน
ฉันขับรถไปตามทางที่เด็กน้อยบอก จนไปถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ บ้าาา!!! นี่บ้านเด็กคนนี้เหรออ โหยยยย ใหญ่กว่าบ้านฉันหลายเท่า นี่อยู่ในที่แบบนี้เหรอ บ้านใหญ่แบบนี้กว่าจะเดินมาเจอกัน ไม่เหนื่อยตายเหรอ เมื่อรถมาจอดที่หน้าบ้าน ร.ป.ภ. ก็เดินมาหาเราทันที
"มาหาใครครับ วันนี้ไม่มีทางในบ้านแจ้งว่าจะมีแขกมา ผมเปิดให้ไม่ได้ครับ"
"เปิดประตู!!!" เสียงเด็กตัวเล็กที่นั่งข้างฉันตะโกนขึ้นมา ทำให้ พี่ ร.ป.ภ รีบเปิดประตูให้ฉัน เข้าไปในบ้านทันที เด็กคนนี้อยู่ที่บ้านนี้น่าจะเป็นคนเอาเรื่องเหมือนกันนะ
ฉันขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน ชายและหญิงวัยกลางคนก็รีบวิ่งมารับเลย ดูทั้งคู่เป็นห่วงเจ้าหนูอัณณ์นี่มาก รู้แล้วว่ามีคนที่รักอยู่ ก็อย่าหนีออกจากบ้านอีกล่ะ
"หนูจ๊ะ ไปเจอเจ้าอัณณ์ได้ยังไง"
"น้องอัณณ์นั่งแท็กซี่ตามฉันมาที่บ้านค่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่าพ่อไม่รัก หวังว่าพ่อเด็กจะดูแลเด็กให้ดีกว่านี้ เด็กคนหนึ่งก็มีหัวใจ" ฉันพูดออกไปเลย เรื่องของเด็ก เป็นเรื่องละเอียดอ่อนกว่าฉันจะเลี้ยงลูกให้โตขึ้นมาได้มันยากลำบากแค่ไหน ฉันไม่เคยปล่อยให้เขาคิดว่าฉันไม่รักเลย
"ขอบคุณนะจ๊ะ"
"อัณณ์!!!!" เสียงของคนที่เพิ่งจะเดินเข้ามาในบ้าน ตะโกนเรียกลูกชายเสียงดัง
"พ่อ!!!"
"รู้ไหมทำแบบนี้คนอื่นเดือดร้อน แบบนี้พ่อต้องตีอัณณ์แล้ว ทำแบบนี้ได้ยังไง!!!" ทันทีที่ผู้ชายคนนั้นจะตีลูก ฉันก็ดึงหนูอัณณ์มากอดเอาไว้ ทำให้เขาชะงักมือ แล้วพยายามจะกระชากแขนลูกตัวเองให้ออกห่างจากฉัน
"ตีทำไม!!! อัณณ์ฟังน้า ไปเอาก้านมะยามา น้าจะตีพ่ออัณณ์ เป็นพ่อเลี้ยงลูกแค่ตัว ยังจะตีให้เจ็บที่ใจ อัณณ์ไปเอาก้อนมะยมมา" ฉันจ้องตาพ่อของน้องอัณณ์ เด็กมันเพิ่งจะยิ้มออก
"ลูกผม ทำไมผมจะตีไม่ได้!!!"
"อัณณ์ขอลาออก!!!! น้าเซียงเซียง อัณณ์ขอเป็นลูกน้าเซียงเซียงได้ไหม" อัณณ์กอดฉันแน่นขึ้น เหมือนว่าจะกลัวโดนพ่อตี แต่ที่อัณณ์ควรรู้ เป็นพ่อลูกมันลาออกไม่ได้
"ตอนนี้ลูกคุณเป็นลูกฉันแล้ว!!!! คุณห้ามตี คุณเป็นพ่อภาษาอะไร!!!!" ฉันดึงอัณณ์ให้ห่างจากคนเป็นพ่อ
"พูดแล้วนะ"
"หะ!!!!"
"ลูกผมเป็นลูกคุณ คุณพูดแล้วนะ ไปอัณณ์ลูก ไปอาบน้ำ"
หะ หะ!!!! นี่มันอะไร ไม่เห็นจะเข้าใจเลย!!!!
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้
สายสนทนา
"อัณณ์อยู่ไหน!!!"
[บนแท็กซี่ อัณณ์เบื่อพ่อชอบผิดสัญญา ตอนนี้อัณณ์จะไปหาแม่ใหม่!!!]
"ใคร?? เซียงเซียงเหรอ"
[ใช่ อัณณ์ตามรถแม่คนใหม่อยู่!!! อัณณ์จะไม่กลับบบบ!!! ถ้าไม่ได้เอาแม่กลับไปด้วย]
จบการสนทนา
มาริสา Say ::
"เพราะคุณนั่นแหละทำให้ผมไม่มีเวลาให้ลูก ยังมาว่าผมอีก" ตอนนี้ฉันกำลังเป็นจำเลยอย่างงั้นเหรอ
"ฉันเนี่ยนะ ฉันไม่คุยด้วยแล้ว ฉันจะกลับ"
"จะไม่รับผิดชอบคำพูดตัวเองเหรอ!!!!" ผู้ชายคนนั้น คว้าข้อมือของฉันเอาไว้
อีหยังวะ รับผิดชอบอะไร ปล่อยสิ!!!! ฉันพยายามสะบัดมือออกจากมือของเขาจนหลุด เขาก็ยังวิ่งมาดักหน้าของฉันเอาไว้อีก ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ พาลูกเขามาส่ง ขอบคุณสักคำก็ยังไม่มี นี่ยังมาบังหน้าบังหลัง เดี๋ยวเตะเข้าป่าเลยนะ!!!!
"ฉันจะกลับบ้านไปหาลูกแล้ว!!!!"
"ลูกคุณ ลูกผมใช่ไหม ตรวจ DNA สิ ผมจะรับผิดชอบ"
"ละเมอเหรอ ลูกวินมอเตอร์ไซค์ แล้วไม่ต้องหวังจะมารับผิดชอบอะไร ฉันไม่ต้องการ ฉันเนี่ยยย เลี้ยงลูกได้ดี โดยไม่จำเป็นต้องมีสิ่งที่เรียกว่าพ่อหรอก เพราะพวกผู้ชายมันเลวววววว" ฉันถลึงตามองเจ้าของบ้าน ที่ขวางฉันอยู่ได้ ออกไปสิโว้ยยยยยยยย จะกลับบ้าน
"ตรวจ DNA สิ"
"ไม่เอาาาาาาาาาา" ฉันผลักเขาออก แต่เขาก็ยังดื้อดึง น่ารำคาญจริง ฉันเริ่มผลักเขาแรงขึ้น
"กลัวเหรอ กลัวว่าเป็นลูกผมจริง ๆ ใช่มะ" ฉันไม่ได้กลัว แต่ฉันรู้อยู่แล้วว่าพ่อของลูกฉันเป็นใคร แล้วฉันก็ไม่อยากให้ผู้ชายคนนี้รู้ ฉันพยายามที่ผลักเขาออกด้วยแรงที่มี แต่เท้ามันไปสะดุดพรมที่อยู่บนพื้นจนคุณชลหงายหลังลงไปกับพื้น ฉันที่เป็นคนผลักเลยโดนเขาเกาะลงมาด้วย
"อ๊ายยยยยย" ฉันต้องตกใจกว่า เพราะริมฝีปากของฉันบี้บดอยู่ที่แก้มของเขา อี้!!!!
"เซียงเซียง ฉัน..." เขาพยายามจะเรียกฉันเหมือนตอนนั้น!!!! หยุดนะ!!!
"อุบัติเหตุ ไม่มีฉันอะไรทั้งนั้น ฉันขอตัว" ฉันพยายามดันตัวเองให้ลุก แล้ววิ่งออกจากบ้านไปเลย
ฉันใช้แขนเช็ดริมฝีปากของตัวเอง อย่างแรง เพื่อลบความรู้สึกขยะแขยงนี่ออก เพียงแค่คิดภาพความทรงจำในอดีตก็กลับมา
5 ปี ที่แล้ว
"เซียงเซียงหน้าเด็กจังเลย ตอนนี้เหมือนพี่หลอกเด็กเลย เจอกันครั้งแรกเป็นไงอะ เหมือนที่คิดไว้ไหม" ผู้ชายร่างสูงโปร่ง หน้าตาชวนฝัน มันทำเอาฉันรู้สึกเหมือนตัวเองได้เจอกับเจ้าชาย ฉันหลงรักเขาทันทีที่ได้เห็นเลย
"พี่น่ารักค่ะ" อาการเขินอายทำให้ฉันไม่กล้าที่จะมองเขาตรง ๆ เลย ฉันเดินไปที่หน้าจอโปรแกรมหนังที่กำลังเข้าโรงเร็ว ๆ นี้
"ดูเรื่องอะไรกันดี"
"มันก็ต้อง แอดเวนเจอร์สิคะ ถ้าชวนดูหนังรัก ฉันตีตายเลยนะ" ฉันเดินไปซื้อตั๋วพี่ชลก็ควักเงินจ่ายทั้งหมด เป็นสุภาพบุรุษที่ฉันไม่เคยเจอในชีวิตจริง
"ตีตายเลยเหรอ ดุจัง แฟนดุแบบนี้ไปไหนไม่ได้แล้ว" ประโยคของพี่ชลทำให้ฉันเขิน เขินแบบตายไปเลย
"เราเป็นแฟนกันแล้วหรือคะ"
"คุยกันมา 2 เดือนแล้วยังไม่ใช่แฟนอีกเหรอ เซียงเซียงจะหลอกหักอกพี่ใช่ไหม"
"ไม่ใช่นะคะ!!! ฉันชอบพี่ ชอบมาก ดูนี่สิคะ ฉันเขินจนมือสั่นหมดเลย" ฉันแบมือให้พี่ชลดู มือที่ทั้งเย็นและสั่น
"เซียงเซียง คบกับพี่ไหมคะ"
ปัจจุบัน
"ไอ้ผู้ชายเฮงซวย จะมาฉัน จะมาพี่ จะมาเซียงเซียงอะไร" ตุบ ตุบ ฉันยกตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ขึ้นมาแล้วคล้ำมันติดกำแพง แล้วววว ตุบ ตุบ ไอ้สาระเลวว จะตรวจ DNA หาอะไร ฉันนอนกับแกแค่คนเดียว ฉันซ้อมตุ๊กตาหมี ที่เป็นเหมือนกระสอบทราย เพราะอะไรนะเหรอ เพราะฉันเกลียดคนให้ไง!!!!
"ไอ้ชั่วเอ้ยยยยย!!!!!"
"อาม่า หม่าม้าน่ากลัววววว สงสารน้องหมีนะคะ" เด็กน้อยพูดกับคนเป็นยาย กับอาการของมารดาที่ระบายอารมณ์ใส่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่
"สงสัยป๊าหนูจะทำให้อารมณ์เสียมาหน่ะลูก ไปเถอะ ไปนอน พรุ่งนี้ไปโรงเรียนกัน"
"ค่ะ อาม่า"
หลายวันต่อมา
สายชล Say ::
ผมที่มารับรับเจ้าอัณณ์ตามสัญญา แต่ก็ไม่วายต้องทำงานในรถ ลูกจะรู้ไหม ผมก็มีงานต้องทำนะ แต่สายตาเจ้ากรรม มันดันเห็นไอ้อชิ ที่มายืนรอเกาะรั้วโรงเรียน งานที่ทำอยู่เลยเป็นเรื่องเล็กไปเลย ผมลงจากรถ เพื่อไปทักทายไอ้......
"มารอทำไม แกไม่มีลูกสักหน่อย เป็นคนว่างที่ใช้คนอื่นทำงานเหมือนเดิม" ผมทักทายเจ้าของบริษัทคู่แข่ง ที่ดูจะสนิทสนมกับเซียงเซียงจนยอมมารับลูกให้
"ฉันมารอรับหนูของขวัญก่อน แม่เขายังรถติด"
"มารับลูกฉันทำไม" ขิงไว้ก่อน
"อะไรคือลูกมึง!!!! ไอ้เวร นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นมาพูดให้ผู้หญิงเสียหาย" ไอ้อชิเดินเข้ามาหาผม มึงอย่ามาทำให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นเพื่อนกันได้ไหม เราเหมือนจะเป็นคู่แค้น คู่แข่ง แต่ที่จริงผมกับมัน เราช่วยกันตลอด ไม่ว่าจะเรื่องธุรกิจหรือส่วนตัว ให้พวกบริษัทเล็ก ๆ ไม่กังขา
"ไปถามเธอเอาดิ ฉันคิดว่าใช่ เพราะอายุของขวัญ กับเวลาที่เลิกกันไปมันเท่ากัน"
"อ่อ งั้นกูไม่สนหรอก ลูกมึงแล้วไง กูชอบแม่เขาจริง ๆ มาริสาเป็นคนที่น่ารักมาก วางตัวดี แถมยังเป็นคนที่เก่งมาก นี่แม่ของลูกกูเลย อะ ประตูเปิดแล้ว กูรีบไปทำคะแนนก่อน" ไอ้เวรอชิมันทิ้งผมไปเลย!!!!! มึงมันหน้ามึนเกินไปแล้ววววว เขาหอมกูแล้วนะ มึงควรจะถอดใจ
ผมรีบวิ่งตามมันเข้าไปในโรงเรียน แต่ไปวันนี้กลับเจอของขวัญนั่งร้องไห้ ทั้งที่ปกติเธอยิ้มตลอด เป็นอะไรอะ ผมจะเดินเข้าไป แต่ภาพที่เธอเอาไม้ตีผมยังชัดเจนอยู่เลย ผมเลยไปรับอัณณ์มาก่อน เพื่อให้ลูกชายไปสืบมา ว่าน้องร้องไห้ทำไม ขนาดไปรับอัณณ์กลับมา น้องก็ยังร้องไห้ไม่หยุดเลย
"อัณณ์ของขวัญร้องไห้ ไปถามให้หน่อยสิเรื่องอะไร" แต่นอกจากลูกชายผมจะไม่ถามให้ ยังลากผมเข้าไปถามเองอีก แล้วไอ้อชิทำไมไม่โอ๋!!!!
"พี่อัง เสื้อ เสื้อเจ้าหญิงของหนูหายไป ม้า ม้าจะโกรธ" เธอร้องไห้เพราะกลัวแม่โกรธ ที่ทำเสื้อหาย
"เดี๋ยวอาซื้อให้ใหม่นะหนูของขวัญ" ไอ้อชิพยายามปลอบ แต่ของขวัญก็ยังไม่หยุดร้อง
"แล้วของขวัญจำได้ไหม ที่สุดท้าย วางไว้ที่ไหน" ผมถามขึ้นมา แต่เธอไม่ยอมคุยกับผม ผมเลยต้องให้อัณณ์เป็นคนไปถาม เธอเลยยอมบอกว่าสนามเด็กเล่น เป็นเสื้อกันหนาวสีชมพู ลายราพันเซล ไอ้ราพันเซลมันคือตัวไหน
ผมกับไอ้อชิได้แต่เปิดกูเกิลดู พอรู้พิกัดและหน้าตาแล้ว ไอ้อชิก็พาของขวัญไปหา แต่ไปไหนเกินหน้าห้องเรียนของน้องไม่ได้ เพราะครูไม่อนุญาต ผมกับเจ้าอัณณ์เลยไปตามหาเสื้อกันหนาวของของขวัญ ที่สนามเด็กเล่น ถามหาจากภารโรง
"พ่อ ว่า เราซื้ออันใหม่ให้น้องดีไหม"
"ไม่รู้สิ พ่อแค่อยากให้น้องหยุดร้อง เวลาอัณณ์ทำของหายอัณณ์จะทิ้งเลย พ่อจะรับรู้ได้ ว่ามันไม่ได้สำคัญสำหรับอัณณ์ขนาดนั้น แต่พอมันเป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจ มันจะรู้สึกดีใจมาก ๆ นะลูก ถ้าเราได้คืน" ผมพาลูกเดินตามหาเสื้อกันหนาว ที่จริงมันอาจจะเป็นข้ออ้าง ที่ผมจะได้มีกิจกรรมกับลูกบ้าง
"เฮ้ออออ ไม่เห็นจะเข้าใจ"
"คุณพ่อคะ คุณพ่อ คุณพ่อ หาเสื้ออันนี้อยู่ใช่ไหม ป้าเก็บได้ค่ะ ไม่ทราบว่าของใคร เห็นคุณพ่อตามหาแถว ๆ นี้พอดี นี่ค่ะเสื้อ" หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งส่งเสื้อกันหนาวสีชมพูหวานมีลายเจ้าหญิงมาให้ผม
"ขอบคุณนะครับ อันนี้เป็นน้ำใจ" ผมส่งแบงค์ 500 บาท ให้คุณป้า คุณป้ากลับไม่ยอมรับ ผมเลยต้องยัดใส่มือของเธอ คนทำดี ต้องได้รับการตอบแทน ไม่งั้นจะไม่มีใครอยากทำดีอีก
ผมกับอัณณ์เดินถือเสื้อกันหนาวไปคืน แต่ทั้งของขวัญ อชิ และเซียงเซียงกำลังจะกลับกันแล้ว ของขวัญก็ยังร้องไห้ไม่หยุด พวกเขาที่กำลังเดินผ่านเราไป ทำให้ผมไม่อยากจะเข้าไปทัก อชิ ที่จริงก็เป็นคนดีนะ ถ้ามันจะจีบเซรยงเซียงผมก็ไม่ควรไปขวางหรือเปล่า ในฐานะเพื่อนที่ดี
"ไปเถอะอัณณ์ พรุ่งนี้ค่อยเอามาคืนน้องก็ได้ น้องกำลังจะกลับบ้านแล้ว"
"ไม่เห็นจะเข้าใจ!!! ของขวัญ!!!!" อัณณ์ตะโกนเรียกน้องของขวัญเสียงดัง พร้อมกับชูเสื้อหนาวในมือของผม ของขวัญก็สลัดมือของอชิแล้ววิ่งมาหาผมทันที
แม่ของเธอเดินตามมาจับลูกเอาไว้ทันที เหมือนไม่ได้อยากให้ลูกมาใกล้ผม แต่ของขวัญกลับไม่ยอม พอเป็นการยื้อยุดก็ทำให้ของขวัญร้องไห้อีก
"ไม่เอาลูก ม้าซื้อให้ใหม่"
"ไม่เอา นั่นมันของขวัญที่ของขวัญเก่ง ม้าาาาา ของขวัญจะอาววว ม้าาาาาาา" ประโยคของหญิงสาวตัวเล็ก บอกว่าเจ้าเสื้อตัวนี้มันสำคัญแค่ไหน ผมเลยตัดสินใจเดินเอาเข้าไปให้เธอ เพื่อไม่ให้แม่ลูกต้องทะเลาะกัน
"อะ อาคืนค่ะ" ผมส่งเสื้อคืนให้เด็กหญิงตัวเล็ก
"ป๊าหาเสื้อให้เหรอ ขอบคุณค่ะ หึบ ดีใจจังเลย" ของขวัญเดินเข้ามากอดผม มันทำให้ผมต้องมองหน้าแม่ของเด็กน้อย ที่ตอนนี้หลบสายตา แล้วอุ้มลูกของตัวเองกลับเลย ไม่พูดอะไรสักคำ
เธอสอนลูกว่าผมเป็นพ่อ แต่ไม่ยอมให้ลูกมาใกล้ผม มันคืออะไร ผมมองตามของขวัญที่หันมาโบกมือลาผม ทำให้ผมกับอัณณ์ต้องโบกมือลาเธอคืน
"พ่อครับ ป๊า คืออะไร" อัณณ์ถามผมขึ้นมา ผมจะตอบยังไงดีนะ อัณณ์จะเข้าใจไหม ถ้าบอกว่าผมมีลูกอีกคน ผมมองลูกชายของตัวเอง ที่ตอนนี้ยังไม่ค่อยจะคุยกับผมเลย ถ้ารู้ว่าผมมี ลูกอีกคน จะรับได้หรือเปล่า
แต่!!!! ถ้าเซียงเซียงจะคบกับอชิ อัณณ์ก็ไม่ควรรู้ว่าตัวเองมีน้อง มันจะทำให้เด็กสับสนเปล่า ๆ
"เรากลับกันเถอะ" ผมเดินนำเจ้าลูกชาย
"ป๊า แปลว่าพ่อ ในภาษาจีน กูเกิ้ลบอกแบบนี้อ่าพ่อ ทำไมของขวัญเรียกพ่อว่าพ่อล่ะ" โอ้ยยยยย ยึดโทรศัพท์เลยดีไหม ฉลาดเกินไปแล้ว ระบบค้นหาด้วยเสียง มันเป็นอะไรที่พ่อแม่ไม่ปลื้ม เพราะปิดบังอะไรลูกไม่ได้เลย
"ทีอัณณ์ยังเรียกผู้หญิงคนอื่นว่าแม่ไปทั่วได้เลย" ผมได้กุมขมับ แล้วตอบลูกส่ง ๆ ออกไป ตัวเองไปเจอคนไหนถูกใจก็เรียกว่าแม่หมด ช่างเถอะ กลับได้แล้ว ผมจะต้องไปทำงานต่อ ลืมไปเลย!!!!!!
"คุณคะ เจ้าชลมันเป็นอะไร เหม่ออะไร"
"น่าจะเรื่องหนูของขวัญนะ เห็นเจ้าพลมันบอกว่า หนูของขวัญเรียกมันว่าป๊าด้วย แต่ไม่ให้มันแตะลูกเลย" ศรุตผู้เป็นสามี บอกภรรยาถึงต้นเหตุที่ทำให้ลูกชายของตัวเองในวัน 33 ปี ทำตัวเหมือนผู้ใหญ่มีปัญหา
"มันไปทำอะไรเขาไว้น้า เขาถึงเกลียดมันเข้ากระดูกแบบนี้" คุณนายสายธารพยายามนึกความผิดของลูกชายตัวเอง
"แค่ไข่ทิ้งไว้ไม่รับผิดชอบ นี่ก็ผิดมากแล้วนะ ที่น่าเครียดกว่า คือยอดของ Love Travel มากกว่าเรา"
"ช่างหัวยอดมัน เงินเยอะแยะใช้ไม่หมด ฉันสนใจแค่ลูกกับหลานค่ะ ไปซื้อตัวครูประจำชั้นของของขวัญไว้ดีกว่า เฮ้อออ เบื่อคุยกับพวกบ้างาน" สายธารเดินเข้าไปหาคนเป็นลูก ทิ้งสามีให้กุมขมับในความคิดป่วน ๆ ของภรรยา